NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 461

ตอนที่ 461

บทที่ 461 การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของตู้เฟย

“เจ้าหนุ่มแกนี่มันเดาเก่งจริงๆ น่าเสียดายที่ไม่ไปเป็นหมอดู”ลุงเฉียนมองหลี่ฝางด้วยสีหน้าตกใจ

หลี่ฝางช็อกไปสักพัก “ข่าวนั้นเมื่อมีที่แล้ว เป็นบทความของโก่เอ๋อเหรอ”

เมื่อปีที่แล้ว หลี่ฝางได้ยินว่าในเน็ตมีกระทู้หนึ่ง บาร์แห่งหนึ่งที่ชื่อว่าเฮปเบิร์น ไปล่วงเกินคนอื่น จึงถูกถล่มพังยับเยิน

“ใช่แล้ว ถูกพังยับเยินไปเป็นปี บาร์นั่นถึงตอนนี้ยังปรับปรุงอยู่เลยนะ”

ลุงเฉียนพูด

“พังไปเป็นปี ”หลี่ฝางขมวดคิ้ว ถามขึ้นอย่างไม่เข้าใจ “หมายความว่าไง”

“ตอนนั้นโก่เอ๋อไปเที่ยวกับเพื่อนอีกสี่คน จากนั้นเพื่อนของเธอทั้งสี่คน ถูกตบกันคนละฉาด รวมแล้วก็สี่ฉาด ก็เลยต้องถล่มบาร์นั้นสี่ครั้ง”

“ส่วนคุณชายคนนั้น ฟันที่เต็มปากของเขา ก็ถูกถอนออกจนหมด ด้วยฝีมือของตัวเอง”

“โหดขนาดนั้นเลยเหรอ”

“ใช่แล้ว ไม่อย่างนั้นแม้แต่ชีวิตของคุณชายคนนั้นก็รักษาไว้ไม่อยู่แล้ว แต่ว่าตอนนี้เขาก็มีชีวิตที่ลำบากน่าดู ธุรกิจของตระกูลเขา หลังจากเกิดเหตุการณ์นั้น ก็ล้มลงไม่เป็นท่า ไม่มีใครกล้าทำธุรกิจกับเขา ธนาคารก็ไม่กล้าให้เขากู้เงิน ”

หลังจากหลี่ฝางได้ยิน ก็สูดลมหายใจเฮือกหนึ่ง

โก่เอ๋อคนนี้ ก็น่ากลัวไม่เบาเลย

บาร์แห่งหนึ่ง ใช้เวลาในการตกแต่งปกติก็ครึ่งปี ถ้าเร็วก็อย่างน้อยสามเดือน

“เจ้าของบาร์นั้น เงินที่หาได้ทั้งชีวิต เกรงว่าจะใช้ในการชดใช้ไปหมดละมั้ง”

หลี่ฝางถาม

“นั่นซิ บาร์นั้นปรับปรุงขึ้นมา ต้องใช้กว่าร้อยล้าน ปรับปรุงไปสี่ครั้ง ใช้เวลาหนึ่งปี อย่างน้อยต้องสูญเสียไปห้าหกร้อยล้าน นอกจากนี้ บาร์นี้นะ ถึงแม้จะเปิดขึ้นอีกครั้ง ก็คงไม่มีใครกล้าไปเที่ยวอีก”

หลี่ฝางนึกถึงครั้งก่อนที่อยู่Recalling the past ตอนที่โก่เอ๋อถูกส้งเสียงรังแก

ก็ไม่รู้ว่าตอนนี้ชีวิตของส้งเสียงจะเป็นอย่างไรบ้าง

นึกถึงส้งเสียง หลี่ฝางก็นึกถึงถังหยู่ซวนขึ้นมา

ไม่ว่ายังไง ถังหยู่ซวนก็เป็นเพื่อนของตน แม้ว่าตอนแรกจะถูกเงินทองทำเอาเกือบตกต่ำล่มจม แต่ก็ไม่ใช่ความผิดร้ายแรงอะไร

หลี่ฝางมองลุงเฉียนและถามขึ้น “ลุงเฉียน แล้วเพื่อนผมคนนั้น”

“ถังหยู่ซวนใช่ไหม”

หลี่ฝางเพิ่งจะพูดขึ้น ลุงเฉียนก็รู้แล้วว่าหลี่ฝางต้องการถามเรื่องอะไร

“ตั้งแต่ถูกคุณสั่งสอนครั้งที่แล้ว เขาก็เหมือนเปลี่ยนไปเป็นคนละคน ไม่เพียงแต่จะอ่อนน้อมลง ยังดูนิ่งขึ้น บริษัทของคุณกำลังต้องการคน ที่จริงย้ายเขาไปก็ได้ ”

ลุงเฉียนพูด

หลี่ฝางพยักหน้า“ลุงไปจัดการที”

“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมก็ขอตัวก่อนนะ”หลี่ฝางโบกมือให้กับลุงเฉียน พูดว่า

“เดี๋ยวก่อน”

หลี่ฝางกำลังจะไปแล้ว ลุงเฉียนก็เรียกขึ้นกะทันหัน “คุณระวังตู้เฟยไว้หน่อยนะ”

“ตู้เฟย ไอ้ขยะ จะระวังเขาทำไม ตู้ต้าไห่ล้มละลายแล้ว ตระกูลหยูก็ไม่สนใจเขา ตอนนี้เขาไม่มีค่าอะไรแล้ว”หลี่ฝางพูดพลางหัวเราะ

เห็นจุดจบของตู้เฟย มุมปากของหลี่ฝางก็หยักขึ้น ในใจก็รู้สึกมีความสุขบนความทุกข์ของผู้อื่น

“ตู้ต้าไห่ตายแล้ว”ลุงเฉียนพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

“ตู้ต้าไห่ตายแล้ว ”สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกคาดไม่ถึงเล็กน้อย แต่ไม่กี่วิเท่านั้น ก็ยิ้มอย่างไม่แคร์ “ตายก็ตายไปแล้ว ยังจะมีอะไรอีก”

“คุณรู้ไหมว่าใครฆ่าเขา”ลุงเฉียนถามขึ้นอีกครั้ง

“ใคร”หลี่ฝางถามขึ้น

“เป็นคนที่คุณคิดไม่ถึงคนหนึ่งเลยล่ะ”ลุงเฉียนพูดพร้อมมองไปที่หลี่ฝาง

“คนที่ผมคิดไม่ถึง หรือว่าจะเป็นตู้เฟย”หลี่ฝางหัวเราะหึหึ เดาไปอย่างนั้นเอง

“เสี่ยวฝาง คุณไปเป็นหมอดูได้จริงๆนะ เดาถูกตลอด”ลุงเฉียนพยักหน้า หยอกเขาไปคำหนึ่ง

หลี่ฝางอึ้ง กลืนน้ำลายแล้วพูดว่า “ไม่ใช่มั้ง ลุงเฉียน ลุงเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า ตู้เฟยฆ่าตู้ต้าไห่ นั่นมันพ่อแท้ๆของเขาเลยนะ เขาจะทำได้ยังไง”

บนหน้าหลี่ฝาง เต็มไปด้วยความตกตะลึง

“ก็ใช่น่ะสิ ลุงก็คิดไม่ถึงเหมือนกัน ”

ลุงเฉียนส่ายหน้า “ลุงก็เลยให้คุณระวังเขาเอาไว้ ”

“ตู้เฟยฆ่าตู้ต้าไห่ แล้วตำรวจไม่จับเขาเหรอ”หลี่ฝางถามขึ้น

“ไม่มีหลักฐาน อีกอย่างศพของตู้ต้าไห่ ก็ถูกกำจัดแล้ว”

ลุงเฉียนพูดว่า “ใช่แล้ว มีอีกเรื่องอยากจะบอกคุณไว้ ตู้เฟย ถูกคนของสี่ตระกูลใหญ่รับตัวไปแล้ว ”

“หากผมเดาไม่ผิดละก็ การฆ่าตู้ต้าไห่ เป็นเงื่อนไขการพิจารณาตู้เฟยของสี่ตระกูลใหญ่ เห็นได้ชัดว่า ตู้เฟยได้ผ่านบททดสอบของสี่ตระกูลใหญ่แล้ว”

“ตอนนี้ ตู้เฟยเริ่มทำงานให้กับตระกูลทั้งสี่แล้ว ”

“ลุงก็เลยขอให้คุณระวังเขาเอาไว้ด้วย”

บนหน้าของหลี่ฝาง มีความช็อกอีกครั้ง

“ได้ ผมรู้แล้ว ลุงเฉียน”หลี่ฝางพยักหน้ารับ

ถ้าหากตู้เฟยเริ่มทำงานให้กับสี่ตระกูลใหญ่แล้วละก็ ถ้าอย่างนั้นเขาก็เป็นภัยต่อตนอย่างมาก

“ให้”

ลุงเฉียนล้วงเข้าไปในกระเป๋า หยิบเอาลิปสติกแท่งหนึ่งออกมา

“ให้ลิปสติกผมทำไม”หลี่ฝางส่ายหน้าขำ “ผมเป็นผู้ชายทั้งแท่ง ตอนนี้ก็มีแฟนแล้วด้วย ลุงให้ลิปสติกผม ลุงเฉียน ลุงล้วงของออกมาผิดหรือเปล่า”

ลุงเฉียนส่ายหน้า หมุนที่ด้านล่างของลิปสติก

มีเสียงปังดังขึ้น กระสุนนัดหนึ่ง ถูกยิงออกมา ทำให้แจกันดอกไม้ที่อยู่ไกลออกไป แตกทันที

“นี่เป็นปืนเหรอ”หลี่ฝางอึ้ง

“นับว่าใช่ นี่พี่ใหญ่หาคนทำให้คุณโดยเฉพาะ พกติดตัวไว้ เอาไว้ป้องกันตัว”พลางพูด ลุงเฉียนก็ยื่นกระสุนให้หลี่ฝางหนึ่งถุง

“กระสุนเป็นอโลหะ สามารถพกเข้าไปในทุกที่โดยไม่ถูกตรวจพบได้ แม้แต่ขึ้นเครื่องบินก็ไม่มีปัญหา ”ลุงเฉียนพูดพลางพยักหน้า

หลี่ฝางรับมาอย่างดีใจ ราวกับได้ของล้ำค่ามาก ไม่คิดเลยว่าในมือลุงเฉียน จะมีเทคโนโลยีแบบนี้อยู่ด้วย

“ใช่แล้ว นอกจากตู้เฟย คุณยังต้องระวังอีกคน นั่นก็คือจางกงหมิง เขาออกจากโรงพยาบาลแล้ว มู่เสี่ยวไป๋ก็ออกมาแล้วเหมือนกัน ”

“ตอนนี้ตระกูลมู่สนับสนุนจางกงหมิงเต็มที่ เพื่อให้เขาขึ้นรับตำแหน่ง”

ลุงเฉียนหยุดไปชั่วครู่ แล้วพูดว่า “แต่ว่าคุณก็ไม่ต้องกังวลมากไป พวกเราเองก็คอยสนับสนุนหวางเห้าอยู่”

“สนับสนุนหวางเห้า”หลี่ฝางรู้สึกคาดไม่ถึงเล็กน้อย

“ใช่แล้ว ก็คุณชุบเลี้ยงหวางเห้าอยู่ไม่ใช่หรือ ในเมื่อหวางเห้าเป็นคนของพวกเรา จะให้เขาเป็นเถ้าแก่เล็กๆในศูนย์อาบน้ำไม่ได้เชียวเหรอ”

“พื้นที่ของเหยสง พวกเราคุมได้หมดแล้ว ถ้ามีเวลาว่าง ลุงไปหาหวางเห้า มอบพื้นที่เหยสงให้เขา”

“พื้นที่ของเสือ มันเล็กไป”

ลุงเฉียนยิ้ม และพูดขึ้น

หลี่ฝางได้ยินข่าวนี้ ทำให้อารมณ์ดีมาก

เพราะถ้าหากหวางเห้าใหญ่โตขึ้นมา ตัวเองก็มีเกราะป้องกันเพิ่มขึ้นอีกส่วน

อีกอย่างเกราะป้องกันนี้ ก็เป็นของตัวเอง

ไม่ใช่ที่หลี่ต๋าคางให้มา

หากว่าหวางเห้าได้กลายเป็นเจ้าพ่อใต้ดินของเมืองเอก ในใจของหลี่ฝาง ก็คงจะมีความภาคภูมิใจไม่น้อย

หลี่ฝางจะไปแล้ว ลุงเฉียนรั้งเขาไว้อีกครั้ง “เดี๋ยวก่อน คุณจะรีบร้อนไปไหน ”

“ยังพูดไม่ทันจบเลย”

ลุงเฉียนพูดด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยดีนัก “หวางเห้ามีเพื่อนแค่ไม่กี่คน ชางสู่คงมาไม่ได้เร็วๆนี้ และก็ไม่มีทางช่วยเขาได้”

“เขาตัวคนเดียว คุมพื้นที่ใหญ่ขนาดนั้นไม่ได้”ลุงเฉียนพูด

“เหรอ แล้วลุงยังจะให้ผมยกพื้นที่ทั้งหมดให้เขาทำไม”หลี่ฝางขมวดคิ้ว ในใจก็คิดว่าใช่

หวางเห้านั้นมาจากตงไห่ เพิ่งมาตั้งรกรากที่เมืองเอกได้ไม่นาน แน่นอนว่าต้องมีเพื่อนฝูงไม่มาก

หลี่ฝางยิ้มหันไปมองลุงเฉียน ถามขึ้นว่า “ใช่แล้ว ลุงเฉียน ผมเห็นฝั่งนี้มีไอ้หน้าหนวดอยู่คนหนึ่ง ฝีมือไม่เลว ไม่สู้…….”

“ไม่ได้ เขายังเปิดเผยตัวตอนนี้ไม่ได้ สถานะของเขาค่อนข้างจะพิเศษ”

ลุงเฉียนชี้ทางให้หลี่ฝาง พูดขึ้นว่า “คุณลองไปหาหวงว่างโก๋สิ”

“หวงว่างโก๋ ”หลี่ฝางประหลาดใจเล็กน้อย “ไปหาเขาทำไม ผมรู้ว่าเมื่อก่อนเขาก็เคยคลุกคลีในวงการ แต่ว่าตอนนี้เขาก็วางมือแล้วไม่ใช่เหรอ”

ลุงเฉียนไม่ปฏิเสธอืมไปเสียงหนึ่ง “ตอนนี้ก็เป็นแค่วิญญาณเร่ร่อน ไม่มีทางกลายเป็นคนได้ ถ้าหวงว่างโก๋วางมือแล้วจริง ก็คงไม่มาหาคุณอยู่เนืองๆ”

“ข้างกายของหวงว่างโก๋มีคนที่ชื่อเฉินเจียโล่ แล้วยังมีอีกหลายคน พวกเขาล้วนเป็นแก๊งเก่าแก่ที่อยู่ในวงการตั้งแต่รุ่นแรก ”

“ที่พวกเขาต้องวางมือ ก็เพราะถูกบีบจากสี่ตระกูลใหญ่สินะ ตอนนี้ เป็นโอกาสที่พวกเขาจะได้เอาคืนแล้ว พวกเขาคงไม่ปล่อยให้หลุดมือไป”

ลุงเฉียนพูด “พี่ใหญ่ของหวงว่างโก๋ เป็นคนกล้าและเจ้าวางแผน ถ้าพูดถึงเรื่องความสามารถ เขาก็ไม่แพ้เหยสง”

“ตอนแรกที่พวกเรากลับมา เขาก็รับรู้แล้ว แล้วยังรู้จักสถานะของคุณด้วย ”

ลุงเฉียนพูดอย่างชื่นชมอยู่บ้าง “คนคนนี้เป็นคนแข็งนอกอ่อนใน คุณลองไปคุยกับเขาดู”

หลี่ฝางพยักหน้า พูดว่า “ได้ ขอบคุณมาก ลุงเฉียน”

ในใจของหลี่ฝาง ยังมีความซาบซึ้งอยู่ด้วย

นี่เท่ากับลุงเฉียน ได้ปูทางให้เขาหมดแล้ว รอให้เขาเดินเท่านั้น

“เจ้าเด็กนี่ จะมาเกรงใจอะไร”ลุงเฉียนโบกไม้โบกมือ “ไปเถอะ”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท