NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 471

ตอนที่ 471

บทที่471 ผมคือลูกชายของกษัตริย์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

คำขออันนี้ของหวางเสี่ยวหยวนเรียกได้ว่าสมเหตุสมผล

ก็แค่ สีหน้าของหลี่ฝางอึ้งไป

เขาไม่รู้ว่าจะตอบคำถามนี้อย่างไร

ถึงแม้เรื่องที่หลี่ต๋าคางคือหลอซ่า สี่ตระกูลใหญ่จะรู้แล้ว

แต่นอกจากสี่ตระกูลใหญ่แล้ว ก็มีไม่กี่คนที่รู้

ถ้าหลี่ฝางตอบว่าใช่ งั้น ไม่ใช่ว่าเปิดเผยตัวตนของพ่อตัวเองเหรอ?

แบบนี้ ก็จะมีคนรู้มากขึ้น

“คุณชายหลี่ ผมจะบอกคุณตรงๆนะ สถานที่อย่างเมืองเอก มีอำนาจที่ลึกลับ ถ้าไม่มีที่พึ่งที่ใหญ่มากพอ ผมก็ไม่อยากมารับภาระนี้แน่ เพราะว่าไม่กี่ปีก่อน พวกพี่ชายของพวกเรา เคยถูกคนพวกนั้นบีบจนถึงทางตัน ถ้าไม่ใช่ว่าผมทำการอ่อนข้อให้อย่างทันเวลา เอาถิ่นส่วนมากของตัวเองให้พวกเขา ก็กลัวว่า ผมกับพวกพี่ชายของผม คงจะมีจุดจบที่น่าเวทนาแล้ว”

หวางเสี่ยวหยวนพูด:“ถ้าพ่อของคุณคือหลอซ่าที่พูดต่อกันมานั้น ผมก็รับปาก”

ตอนที่หลี่ฝางลังเลตัดสินใจไม่ได้นั้น ส้าวส้วยก็พูด

“ผมบอกคุณได้ว่า หลอซ่ากลับมาแล้ว”

ส้าวส้วยมองไปที่หวางเสี่ยวหยวน แล้วพูดว่า:“ทางสี่ตระกูลใหญ่คุณไม่ต้องห่วง”

ในใจของหวางเสี่ยวหยวน เกิดความหวาดกลัวต่อสี่ตระกูลใหญ่แล้ว

บวกกับที่สี่ตระกูลใหญ่เคยปล่อยพวกเขาไปครั้งหนึ่ง พวกเขาก็ไม่โอกาสที่จะยอมแพ้สี่ตระกูลใหญ่เป็นครั้งที่สองแล้ว

ดังนั้น นอกจากทางนี้จะเป็นหลอซ่า พวกเขาถึงกล้าที่จะเดิมพัน

“งั้นผมไม่มีปัญหาอะไรแล้ว”

หวางเสี่ยวหยวนพยักหน้า พูดว่า:“ผมรับปาก”

“โอเค งั้นผมเรียกพนักงานเสิร์ฟมาเสิร์ฟอาหาร”

เห็นหวางเสี่ยวหยวนรับปาก หวงว่างโก๋ก็ลุกขึ้นพูดอย่างดีใจมาก

ที่ใบหน้าของเฉินเจียโล่ก็ดีใจสุดๆ:“คืนนี้ผมต้องดื่มหลายแก้วหน่อยละ”

“แม่เอ๊ย หลายปีมานี้พี่ใหญ่ก็ไม่ให้ผมก่อเรื่อง ถือได้ว่าอัดอั้นผมมาก”เฉินเจียโล่พูด

และตอนนี้เอง คนหนึ่งที่โต๊ะอาหาร ก็ดูไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด

นั่นก็คือหวางเห้า

เดิมที หลี่ฝางคิดจะหาผู้ช่วยให้หวางเห้า

แต่ตอนนี้ พวกหวางเสี่ยวหยวน ดันกลายเป็นพันธมิตรของตัวเอง รวมทั้งคู่แข่ง?

แป๊บเดียว ความดิ่งลงในใจของหวางเห้าก็ออกมา

หวางเห้าดื่มไปหนึ่งคำอย่างหดหู่ จากนั้นก็หันไปมองหลี่ฝาง:“คุณชายหลี่ ยังมีถิ่นหนึ่งในสามอีกนะ?”

“ถิ่นตรงนั้นเป็นของใคร?”

หวางเห้าใช้น้ำเสียงสอบถามในการถาม

ถูกพวกหวางเสี่ยวหยวนแบ่งถิ่นออกไปหนึ่งในสาม ถึงแม้หวางเห้าจะไม่ค่อยพอใจ แต่ถ้าถิ่นที่เหลือเอาให้เขา หวางเห้าก็สามารถทนได้

แต่คิดไม่ถึงว่า หลี่ฝางกลับหัวเราะ พูดว่า:“เดี๋ยวแนะนำวัยรุ่นคนหนึ่งให้พวกคุณ”

พูดจบ หลี่ฝางก็หันหน้าพยักหน้าให้ส้าวส้วย:“เรียกเขาเข้ามา”

ส้าวส้วยหยิบโทรศัพท์ออกมา โทรหาเบอร์หนึ่ง

ผ่านไปไม่นานนัก ประตูห้องส่วนตัวก็เปิดออก

วัยรุ่นคนหนึ่ง เข้ามาในม่านตาของทุกคน

“เขาคือใคร?”

มองเฉินฝูเซิงที่ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม หวางเห้าก็ขมวดคิ้ว

หวางเห้าไม่ได้โง่ ความหมายของหลี่ฝาง เขาเข้าใจได้

ถิ่นที่เหลือหนึ่งในสามนั้น เป็นไปได้มากที่จะเป็นของเด็กตรงหน้าคนนี้

จุดนี้ หวางเห้าจะทนได้ไง?

หวางเห้าขมวดคิ้ว มองหลี่ฝางแล้วถาม:“คุณชายหลี่ คุณคงไม่ได้หมายความว่าจะเอาถิ่นที่เหลือนั่น ให้เขาหรอกนะ?”

“ก็ใช่ไง”หลี่ฝางพยักหน้า นิ่งมาก

หวางเห้าพูดอย่างเซ็งๆ:“เหอะเหอะ ก็แค่เด็กเมื่อวานซืน ก็เอาถิ่นขนาดใหญ่ส่วนนั้นไปได้ด้วยเหรอ?”

หวางเห้าแสดงออกอย่างสงสัย

เฉินฝูเซิงหัวเราะ:“พี่เห้า ผมไม่ใช่เด็กเมื่อวานซืน”

“ส่วนผมจะรักษาถิ่นของเหยสงไหวไหม พี่เห้าอย่าห่วงเลย ทางผม กำลังคนพอ”

เฉินฝูเซิงมองหวางเห้า พูดอย่างดูถูก:“ผมกลับกังวลน่ะสิ หวางเห้า คุณก็แค่ไม่กี่สิบคน ดูแลถิ่นตั้งเยอะ ดูแลไหวเหรอ?”

“ถ้าดูแลไม่ไหวล่ะก็ ผมช่วยคุณได้นะ แบ่งมาสิ!”เฉินฝูเซิงหัวเราะไปพูดไปอย่างเย็นชา

เฉินฝูเซิงอายุยังน้อยแต่ชอบแข่งขัน หลี่ฝางเพิ่งประกาศจะเอาถิ่นให้เขาไป หวางเห้าก็ถามขึ้นมา เฉินฝูเซิงจึงไม่ยอมหวางเห้า

“ไอ้เด็กนี่อยากตายใช่ไหม?”

หวางเห้ายืนขึ้นมา ใช้มือชี้มองไปเฉินฝูเซิง:“อยากได้ถิ่นของผม มีความสามารถก็มาเอาไป”

“นั่งลง!”

เวลานี้ หลี่ฝางพูดออกมา

“ผมยังอยู่นี่นะ”

“ทำไม พวกคุณจะทะเลาะกันเองต่อหน้าผมเหรอ?”หลี่ฝางจ้องหวางเห้าอย่างเย็นชา แล้วก็มองเฉินฝูเซิงแวบหนึ่ง

เฉินฝูเซิงนั่งลงทันที หัวเราะไปพูดไปว่า:“ผมก็แค่ล้อเล่น ทำไมพี่เห้าต้องจริงจังขนาดนั้นล่ะ”

ส่วนหวางเห้ากลับทำเสียงฮึดฮัด ยืนขึ้นมองหลี่ฝาง:“หลี่ฝาง คุณจะเอาถิ่นนี้ให้ไอ้หมอนี่จริงๆเหรอ?”

คิ้วของหลี่ฝาง ขมวดหน่อยๆ

หวางเห้านี่ แม้แต่คุณชายหลี่ก็ไม่เรียก

แต่หลี่ฝางตระหนักได้นานแล้วว่าหวางเห้าจะต้องโมโห จึงพูด:“พี่เห้า ไม่ว่าผมจะแบ่งยังไง คุณเป็นคนแรกที่ติดตามผม ดังนั้นถิ่น ของคุณก็เยอะมากสุด”

“คุณยังมีอะไรไม่พอใจอีกเหรอ?”หลี่ฝางถาม

หวางเห้าโลภหน่อยจริงๆ ถ้าไม่ใช่หลี่ฝาง ที่จริงแม้แต่ถิ่นของเสือเขาก็เอามาไม่ได้ อย่าว่าแต่ถิ่นของเหยสงเลย

ตอนนั้นที่หลี่ฝางไปหาถึงที่ หวางเห้าก็แค่ช่างตกแต่งโรงอาบน้ำ ที่ค้างชำระ

แต่ตอนนี้ หวางเห้ากลายเป็นคนมีชื่อเสียงของเมืองเอก และก็ค่อยๆเติบโตขึ้น

หวางเห้าเม้มปาก ชี้ที่เฉินฝูเซิงแล้วพูด:“คุณชายหลี่ เรื่องบนยุทธภพนี้ ไม่ใช่เรื่องของเด็ก ไอ้เด็กนี่เป็นเพื่อนที่โรงเรียนของคุณ หรือว่าเพื่อนคุณ?ให้เขาดูแลถิ่นใหญ่โตขนาดนั้น เขาจะดูแลได้ดีเหรอ?”

“จะมีคนยอมเขาไหม?”

“เขามีสิทธิ์อะไร?”

หวางเห้ามองเฉินฝูเซิง ถามเป็นชุด

หลี่ฝางพยักหน้าให้เฉินฝูเซิง เฉินฝูเซิงก็ยืนขึ้นทันที เลิกคิ้วขึ้นแล้วพูด:“ก็สิทธิ์ที่พ่อผมคือกษัตริย์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พอไหม?”

หลี่ฝางรู้ว่า เอาถิ่นหนึ่งในสามให้เฉินฝูเซิง หวางเห้าจะต้องไม่พอใจ

ไม่ใช่แค่หวางเห้าไม่ยอม แม้แต่พวกหวางเสี่ยวหยวน ก็จะสงสัยความสามารถในคนของตัวเอง

ดังนั้น หลี่ฝางจึงต้องเปิดเผยตัวตนของเฉินฝูเซิง

“กษัตริย์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ?”

หวางเสี่ยวหยวนกับเฉินเจียโล่ อ้าปากตกใจพร้อมกัน

กษัตริย์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือคือใคร นั่นเป็นถึงคนที่ไม่เป็นสองรองใคร ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือเลยนะ

ถิ่นที่กษัตริย์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีนั้น ใหญ่กว่าทั้งเมืองเอกเป็นหลายเท่า

ตอนนี้ ลูกชายของกษัตริย์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ยินยอมที่จะทำงานให้หลี่ฝางเนี่ยนะ?

ทำให้หวางเสี่ยวหยวนกับเฉินเจียโล่ดูยากที่จะเชื่อหน่อยๆ

“คุณคือลูกชายของกษัตริย์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ?”มองไปที่เฉินฝูเซิง หวางเห้าก็กลืนน้ำลายอย่างทนไม่ไหว

ไม่ว่าจะเป็นเหยสงหรือว่าเสือ ชื่อเสียงของพวกเขา ก็อยู่แค่เมืองเอกเท่านั้น

แต่กษัตริย์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือนั้นต่างกัน

กษัตริย์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือนั้นมีชื่อเสียงไปทั้งประเทศ หลายๆคนต่างเคยได้ยินชื่อเขา

โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นั่น เป็นคนที่มีชื่อเสียงมากๆ ทุกคนรู้จักกันดี

ทันใดนั้น หวางเห้าไร้ความรู้สึกใดๆอยู่นาน

เฉินฝูเซิงเป็นถึงลูกชายของกษัตริย์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จากสถานะนี้ เขาหวางเห้าจะมีคุณสมบัติอะไรไปสงสัยอีก?

“เป็นไงบ้าง พี่เห้า ตอนนี้คุณสมบัติของผม สามารถมีถิ่นหนึ่งในสามของเหยสงได้แล้วสินะ?”เฉินฝูเซิงมองหวางเห้ายิ้มๆ แล้วถาม

ใบหน้าหวางเห้าเหยเก ไม่พูดอยู่นาน

ฉาดนี้ ตบหน้าเขาแรงมาก

ทันใดนั้น หวางเห้าก็รู้สึกว่าตัวเองเสียหน้าสุดๆ

เดิมที หวางเห้าไม่คิดว่าข้าวมื้อนี้ ตัวเองจะต้องมาแสดงความขายหน้า

แต่ใครจะไปรู้ ว่าข้าวมื้อนี้ อะไรหลี่ฝางก็ไม่ยอมตัวเองเลยทั้งนั้น หวางเห้าไม่ใช่แค่รู้สึกท้อแท้หน่อยๆ

ในใจของหลี่ฝาง รู้สึกผิดหน่อยๆ ยังไงหวางเห้าก็เป็นคนที่ติดตามตัวเองมาก่อนที่สุด

แต่ ถิ่นขนาดใหญ่ของเหยสงนี้ หลี่ฝางเอาให้หวางเห้าหมด หวางเห้าดูแลไม่ไหวแน่นอน

แต่ไม่ว่าจะเป็นหวางเสี่ยวหยวนหรือว่าเฉินฝูเซิง ให้พวกเขาเป็นลูกมือหวางเห้า พวกเขาไม่เห็นด้วยแน่นอน

อย่างเช่นหวางเสี่ยวหยวน แม้แต่น้องชายของเขา ก็ยังมีโรงแรมระดับห้าดาว

ส่วนเฉินฝูเซิง เขาคือลูกชายของกษัตริย์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ไม่ว่าเขาสองคนใครก็ตาม ต่างไม่ยอมอ่อนกว่ากันเลย

“คุณชายหลี่ ทางด้านพ่อผมส่งพรรคพวกมาส่วนหนึ่ง ด้านกำลังคนคุณไม่ต้องเพิ่มให้ผมแล้ว”

พอนั่งลง เฉินฝูเซิงก็พูด

เฉินฝูเซิงมีเบื้องหลังคือกษัตริย์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ใหญ่ขนาดนี้ แน่นอนว่าไม่กลัวหวางเห้า

“พอกินข้าวเสร็จ ผมจะติดต่อพวกพ้องเก่าๆ พวกเขาต่างมีอำนาจหน่อยๆที่เมืองเอก”

เวลานี้หวางเสี่ยวหยวนก็พูด:“ส่วนผม ไม่ต้องการกำลังเพิ่ม”

ทันใดนั้น ใบหน้าของหวางเห้า ก็ดูอึดอัดอย่างชัดเจน

หลี่ฝางเดินเข้าไป ตบไหล่ของหวางเห้า พูดว่า:“พี่เห้า ตอนนี้คุณเข้าใจไหมว่าทำไมผมจะเอาถิ่นของเหยสงแบ่งสามส่วนให้เขา?

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน