NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 486

ตอนที่ 486

บทที่486 ส้าวส้วยถูกล้อมรอบ

หลับตาลง นี่มันดูหมิ่นมากพอแล้ว คุณยังจะใช้มือข้างเดียวอีก??

คนรับใช้ทั้งสี่คนของจูเก่อชิง โกรธส้าวส้วยจนสีหน้าเริ่มแดง!

ยังจะดูถูกได้อีกไหมเนี่ย?

แน่นอนว่า ไม่ว่าจะเป็นคนรับใช้ทั้งสี่คนนี้ หรือว่าเป็นจูเก่อชิง ต่างไม่จริงจังกับคำพูดของส้าวส้วย

นี่จะต้องเป็นเรื่องโม้แน่

สุดท้ายใครจะไปรู้ว่า ส้าวส้วยหลับตาจริงๆ จากนั้นก็ใช้มือข้างหนึ่ง ไว้ที่ด้านหลังของตัวเอง

แม่เอ๊ย เอาจริงเหรอ?

ทุกคนต่างตะลึง จูเก่อชิงเม้มปาก มองส้าวส้วย:“ส้าวส้วยคุณจะมาเล่นแง่อะไรกันแน่?คุณเอาคนมาใช่ไหม?”

จูเก่อชิงไม่เชื่อว่าส้าวส้วยจะหลับตาลงแล้วให้มือข้างเดียวจัดการกำลังของคนรับใช้ทั้งสี่คนของตัวเอง

จูเก่อชิงคิดมาตลอดว่า ด้านหลังส้าวส้วยมีคนหนุนหลังอยู่

“ด้านหลังของผม มีแค่คุณชายของพวกเรา แล้วก็ซุนจิ้น”

ส้าวส้วยพูดเบาๆ:“ไม่สิ ยังมีอีกคน”

“ใคร?”จูเก่อชิงถามต่อ

“ช่างเถอะ ไม่บอกคุณหรอก สรุปคือคนนั้นไม่มีทางเข้ามาแทรกแทง”

ส้าวส้วยพูดเบาๆ:“ตรงนี้คุณวางใจได้”

“จงใจมาเล่นแง่ให้เขวเหรอ!”

จูเก่อชิงเลิกคิ้วขึ้น มองส้าวส้วยแล้วพูด:“ฆ่าเขา”

หลังคำสั่งของจูเก่อชิง คนรับใช้ทั้งสี่คนนั้นก็เคลื่อนไหว

ไม่ว่าส้าวส้วยจะตั้งใจเล่นแง่ให้เขว ทำดัดจริต แค่ไหน หรือว่ามีความสามารถจริงๆ แต่ตอนนี้สำหรับพวกเขาแล้ว ถือเป็นโอกาสที่จะโจมตีได้ดี

พวกเขาไม่กล้าดูถูกส้าวส้วย ยังไงติงอีก็ถูกส้าวส้วยตบฉาดเดียวจนตาย

แต่ ขณะเดียวกันพวกเขาก็ไม่เชื่อว่า ภายใต้สภาพที่ส้าวส้วยหลับตาลงนั้น จะสู้ชนะพวกเขาได้

“ไปตายซะ”

คนหนึ่งที่ความเร็วนั้นไวที่สุด แทบจะมาตรงหน้าส้าวส้วยในทันที

ซุนจิ้นกลับสูดลมหายใจอันเย็นชา:“ส้าวส้วยบ้าแล้วเหรอ!”

ซุนจิ้นก็คิดว่า ส้าวส้วยหยิ่งยโสหน่อยๆ และก็มีความเป็นคู่แข่งหน่อยๆ

ซุนจิ้นกำหมัดขึ้นมา ฝ่ามือนั้นเหงื่อออกอย่างกังวล

กลับเป็นหลี่ฝางที่ไม่แคร์นัก

หลี่ฝางเคยเห็นส้าวส้วยลงมือแล้ว ที่ป่าเล็กๆด้านหน้าคฤหาสน์ตระกูลฉิน ส้าวส้วยเพียงคนเดียวเอาชนะปีศาจทั้งสี่แห่งเจียงหนานได้ ……

ในดวงตาของหลี่ฝาง คนรับใช้พวกนี้เทียบกับปีศาจทั้งสี่พวกนั้นแล้ว ถือว่าอ่อนแอกว่า

อย่าว่าแต่ปีศาจสี่คนอะไรนั่นเลย แม้แต่หมาทิเบตัน ก็ยังเทียบไม่ได้

ดังนั้นหลี่ฝางจึงไม่ห่วง

ในตอนนี้เอง ส้าวส้วยก็ลงมือแล้ว

เขาตบไปหนึ่งฉาด ที่ตัวของคนรับใช้โดยตรง

แรงทั้งหมดของคนรับใช้ไปป้องกันแล้ว ก็ยังคงต้านส้าวส้วยไม่ได้

เสียงตบดังเพียะ ส้าวส้วยตบจนลอยออกไป

ตอนนี้เอง ไม่ใช่แค่หลี่ฝาง ทุกคนต่างตะลึง

หลี่ฝางรู้ว่าส้าวส้วยสุดยอด แต่ไม่คิดว่าเขาจะสุดยอดได้ถึงระดับนี้

แค่ตบฉาดนี้ ก็ทำเอาคนที่ฝึกศิลปะการต่อสู้ปลิวออกไป?

จูเก่อชิงและคนอื่นๆต่างตะลึงจนอ้าปาก

ส่วนอีกสามคน ต่างกลืนน้ำลายลง รู้สึกอยากจะถอย

แต่ ก็ยังไม่ทัน

ฝีเท้าของส้าวส้วย ขยับไปด้านหน้าเล็กน้อย ทันใดนั้นก็มาตรงหน้าของคนรับใช้ทั้งสามคนนี้

ส้าวส้วยแค่คนเดียว ล้อมรอบโดยคนรับใช้ทั้งสามคนนี้

มีเสียงดังขึ้นมาสองที ส้าวส้วยใช้ไหล่ หลังจากกระแทกไปที่ทั้งสองแล้ว คนสุดท้าย ก็ใช้ฝ่ามือตบปลิว

คนรับใช้ทั้งสี่คนนี้ เมื่ออยู่ภายใต้เงื้อมมือของส้าวส้วย ก็เหมือนกับมดตัวหนึ่ง ไม่มีโอกาสสู้กลับ

“ขยะ!”

ส้าวส้วยลืมตาขึ้นมา พูดอย่างดูถูก

จูเก่อชิงตะลึง เขามองไปที่พื้น คนรับใช้ทั้งสี่คนของตัวเอง ต่างล้มลงพื้น ยืนขึ้นไม่ได้

“คุณทำได้ยังไง?”

จูเก่อชิงกลืนน้ำลาย ในสายตาเต้มไปด้วยความหวาดกลัว

เดิมที เขาคิดจะแอบโจมตีส้าวส้วย แต่ตอนนี้ดูแล้ว อย่าว่าแต่โจมตีเลย ตอนนี้แค่หนี ก็เป็นปัญหาแล้ว?

จูเก่อชิงพูดอย่างไม่อยากจะเชื่อ:“นี่จะเป็นไปได้ไง?สามปีก่อน คุณไม่แข็งแกร่งขนาดนี้ คุณใช่ส้าวส้วยหรือไม่กันแน่?”

เวลานี้ จูเก่อชิงก็สงสัยว่าส้าวส้วยตรงหน้านี้ ไม่ใช่ส้าวส้วยเมื่อสามปีก่อนแล้ว

ส้าวส้วยยิ้ม:“สามปีก่อน ผมไม่แข็งแกร่งขนาดนี้จริงๆ”

“แต่ในสามปีนี้ ผมผ่านการการฝึกระบบฝึกปีศาจมาสามปี ทุกๆครั้งจะทำลายขีดจำกัดของตัวเอง”

“ผมประสบความสำเร็จในวันนี้ได้ ทั้งหมดมาจากความพยายามของผม”

“สามปีนี้ผมลำบากมาก ไม่สิ ควรจะพูดว่าทรมานอย่างไร้มนุษยธรรม ผมไม่ใช่คุณนะ คุณชายแห่งตระกูลจูเก่อ คุณน่าจะใช้ชีวิตอย่างอยู่ดีกินดีสินะ?”

“ในเมื่อฝึกศิลปะการต่อสู้ คุณก็คงไปหาอาจารย์ที่มีชื่อเสียงสินะ?ผมไม่เหมือนกัน ผมต้องไปหาคู่ต่อสู้ที่เท่าเทียมกับผม ไม่ฆ่าเขา ก็ต้องถูกเขาฆ่าตาย ผมฝึกตัวเองบนเส้นขอบของความเป็นความตาย”

“สามปีก่อน ถึงแม้ผมจะจงใจแพ้คุณ ยังดีที่คุณปล่อยผมไป แต่ตอนนั้นความห่างของพวกเราก็ไม่มาก แต่ตอนนี้ คุณไม่ใช่คู่ต่อสู้ผมอีกแล้ว”

“จูเก่อชิง ที่จริงผมไม่อยากสู้กับคุณ เพราะว่าคุณไม่คู่ควร ไม่มีคุณสมบัตินี้”

“ผมนัดคุณออกมา ก็เพื่อให้คุณได้รู้ว่า ผมแข็งแกร่งแค่ไหน”

ส้าวส้วยพูดเบาๆ

ครั้งนี้ส้าวส้วย ไม่ออมมือ ใช้กำลังทั้งหมดของตัวเอง

หากเป็นเมื่อก่อน ส้าวส้วยก็ไปสู้อย่างเอ้อระเหยลอยชาย

แต่ครั้งนี้ ส้าวส้วยใช้การปลิดชีพอย่างรวดเร็ว ไปปราบฝ่ายจูเก่อชิง

พูดได้ว่า ส้าวส้วยลงมือ ทางด้านจูเก่อชิง ต่างจบเห่หมดแล้ว

ผ่านการปะทะเมื่อคู่ จูเก่อชิงรู้ว่า ส้าวส้วยไม่ได้โม้ ตัวเขานั้นมีพละกำลังนี้จริงๆ

“จูเก่อชิง ทำไมคุณไม่พูดล่ะ?”

มองจูเก่อชิง ส้าวส้วยก็เลิกคิ้วแล้วหัวเราะ:“ตกใจกลัวผมแล้วเหรอ?”

จูเก่อชิงนั้นตกใจกลัวจริงๆ แต่เขาจะยอมรับได้อย่างไร

จูเก่อชิงขมวดคิ้ว จากนั้นที่มุมปากก็ผิวปากออกมา

ทันใดนั้น รอบๆตัวทั้งสี่ด้าน ก็ปรากฏคนกลุ่มหนึ่งอีกครั้ง

กลุ่มฝูงคนจำนวนมาก ก็ล้อมรอบส้าวส้วยไว้ทันที

เยอะขนาดว่าประมาณสี่ถึงห้าสิบคนได้

“ส้าวส้วย ถึงคุณจะสุดยอดแค่ไหน ผมก็เชื่อว่าคุณจะล้มคนของพวกเราจำนวนมากขนาดนี้ได้ในทันที”

แป๊บเดียว ความมั่นใจของจูเก่อชิงก็มา

“ครั้งนี้ ผมจะไม่ปล่อยคุณอีกแล้ว”จูเก่อชิงพูดอย่างเย็นชา

ส้าวส้วยพยักหน้า พูดว่า:“ผมก็ด้วย”

“ที่จริงสามปีก่อน ผมมีโอกาสจะฆ่าคุณ จากนั้นก็หนีไป ก็แค่ผมคิดว่าถ้าฆ่าคุณ พวกคุณ ตระกูลจูเก่อจะต้องบ้าคลั่งแน่ แล้วจะต้องเอาคืนพวกเราโดยไม่คำนึงถึงสิ่งใดแน่ ดังนั้น ผมจึงปล่อยคุณไป”

“แต่ตอนนี้……ไม่จำเป็นแล้ว”

ส้าวส้วยหัวเราะ ตาจ้องไปที่จูเก่อชิง

“ที่จริง คุณมาอีกเยอะแค่ไหน ผลลัพธ์ ก็เหมือนกันหมด”ส้าวส้วยพูด

“หมายความว่าไง?”

ได้ยินคำนี้ ในใจของจูเก่อชิง ก็รู้สึกผิดปกติทันที

“กลยุทธ์จับโจรเอาหัวโจก เหตุผลนี้ คุณไม่เข้าใจเหรอไง?”

“ไม่ว่าข้างกายคุณจะมีห้าสิบคน หรือว่าร้อยคน ถ้าข้างในไม่มีคนที่จะมาหยุดผมได้ คุณก็เป็นของเล่นในมือผม”

ส้าวส้วยพูดคำนี้จบ จูเก่อชิงก็เข้าใจความตั้งใจของส้าวส้วย

ทันใดนั้น จูเก่อชิงก็ถอยหลังไป ขณะเดียวกันก็เร่มให้ทุกคนไปขวางตรงหน้าเขา คุ้มกันตัวเองไว้

แต่ ความเร็วของจูเก่อชิงกับคนรับใช้พวกนี้ ช้าเกินไป

แค่ก็ไม่ได้ช้านัก ก็แค่ในสายตาของส้าวส้วยนั้น ช้าสุดๆ

ร่างของส้าวส้วย เหมือนกับปีศาจ พุ่งเข้าไปในฝูงชน

เป้าหมายชองส้าวส้วย แค่จูเก่อชิงคนเดียว และพวกที่ขวางทางนั้น ก็หยุดส้าวส้วยไม่ได้เลยสักนิด

เพียงชั่วครู่ ส้าวส้วยก็มาตรงหน้าจูเก่อชิง

จูเก่อชิงจับพัดพับ แทงใส่ตัวของส้าวส้วยโดยตรง

ส่วนส้าวส้วยก็ได้แต่หัวเราะ หรี่ตามองจูเก่อชิง

สายตาของจูเก่อชิงตะลึงไป พัดพับของเขานี้ ด้านในมีเข็มเงิน แต่เข็มเงินนั้นไม่ได้แทงไปที่เสื้อผ้าของส้าวส้วยขาด

ส้าวส้วยหัวเราะ แล้วพูด:“ถ้าแทงทะลุได้ คุณว่า คุณจะประสบความสำเร็จไหม?”

ที่ตัวของส้าวส้วย สวมเสื้อผ้าที่พิเศษไว้ ด้านบนคือปรอท

และเสื้อผ้าของเขา ก็สร้างมาจากวัสดุพิเศษ เข็มเงินทั่วๆไป แทงไม่เข้าอยู่แล้ว

ส้าวส้วยสวมเสื้อผ้าชุดนี้ ไม่ใช่เพื่อออกกำลังกาย รับน้ำหนักอย่างเดียว แต่ยังมีอีกเหตุผล นั่นก็คือเป็นเกราะป้องกันตัว

ถึงแม้ กันกระสุนไม่ได้จริงๆ แต่มีดทั่วๆไปนั้น ก็ยังแทงไม่เข้า อย่างมากก็แทงเข้าที่ด้านนอกชุดได้ แต่แทงตัวของส้าวส้วยไม่เข้า

มองเห็นส้าวส้วยมาตรงหน้าของจูเก่อชิง ทุกคนต่างพุ่งไปที่ส้าวส้วย

และในมือของคนมากมายนั้น ก็ปรากฏกริชอันวิบวับ

คนตั้งเยอะ ซุนจิ้นกับหลี่ฝาง เหงื่อแตกเพราะส้าวส้วยอีกครั้ง

ยังไงส้าวส้วยก็ฝึกศิลปะการต่อสู้อย่างลำบากมาหน่อยเท่านั้น เขาคือคน ไม่ใช่เทพ คนตั้งเยอะ สองมือของเขา จะไปสู้คนมากมายขนาดนี้ได้ยังไง?

สู้ไม่ได้แน่นอน

ถ้าถูกล็อกไว้ งั้นส้าวส้วย ก็เป็นไปได้ที่จะเจอกันอันตรายแน่นอ

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท