บทที่488 หลี่ต๋าคางถูกตบ
หลี่ฝางได้ยินเสียงเรียกเข้า ก็หันหน้าทันที มองไปที่ตู้เฟย ตู้เฟยหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋า
หลี่ฝางรีบวิ่งเข้าไป ยื่นมือแย่งโทรศัพท์กลับมา
ยังไงนี่ก็เป็นโทรศัพท์ของตัวเอง
หลี่ฝางมองแวบหนึ่ง ก็เป็นพ่อของตัวเองโทรมา
หลี่ฝางรีบกดรับ แต่ได้ยินเสียงผู้หญิงที่คุ้นเคย
“หลี่ฝาง ฉันไม่เป็นไรแล้ว”
ที่ปลายสายมีเสียงของลู่หลุ่ยเข้ามา
ได้ยินประโยคนี้ หลี่ฝางก็ตื่นเต้นสุดๆ ความกังวลในใจ ว่างเปล่าทันที
เมื่อกี๊ตอนที่รับสาย หลี่ฝางยังคิดจะรีบปล่อยจูเก่อชิง ทำการประนีประนอมกับจูเก่อชิง
ตอนนี้ดูเหมือน……
หลี่ฝางหัวเราะออกมา พูดกับลู่หลุ่ย:“คุณไม่เป็นไรก็ดี”
“ใช่สิ ใครช่วยคุณไว้เหรอ?”หลี่ฝางถามอย่างแปลกใจ
“คุณลุงน่ะ พ่อคุณนั่นแหละ”ลู่หลุ่ยพูด:“เมื่อกี๊ฉันเกือบจะขาดอากาศหายใจตาย เป็นคุณลุงที่มาเจอฉัน อุ้มฉันออกมา”
“พ่อผม?”
หลี่ฝางตะลึงจนอ้าปากค้าง พูดแบบนี้ งั้นหน้ากากผีที่ตัวเองเห็นเมื่อกี๊ ก็คือพ่อตัวเองจริงๆเหรอ?
“คุณเอาโทรศัพท์ให้พ่อผมหน่อย”หลี่ฝางพูดกับลู่หลุ่ย
หลี่ต๋าคางรับโทรศัพท์ในมือของลู่หลุ่ย พูดว่า:“ลูกชาย มีอะไรจะพูดกับพ่อเหรอ?”
“พ่อ พ่อมาทำไมไม่บอกผม?”หลี่ฝางพูดตำหนิหน่อยๆ
“ไอ้หมอนี่ ลูกไม่คิดหน่อยเหรอ ลูกสะใภ้ถูกจับตัวไป ในฐานะพ่อตา จะมองดูอยู่เฉยๆได้เหรอ?”
หลี่ต๋าคางพูดอย่างเซ็งๆ:“เอาน่า เอาจูเก่อชิงผู้ชายคนนั้นจับมาให้พ่อด้วย”
“ในเมื่อตระกูลจูเก่อกล้าแตะต้องลูกสะใภ้ของพ่อ งั้นพ่อก็จะให้เขารู้ว่า แตะต้องลูกสะใภ้ของพ่อจะต้องชดใช้ด้วยอะไร”หลี่ต๋าคางพูดอย่างเผด็จการมาก
ลู่หลุ่ยฟังคำพวกนี้อยู่ข้างๆ แล้วหน้าก็แดงทันที
“คุณลุงคะ ฉันกับหลี่ฝางเลิกกันแล้วค่ะ ไม่ใช่แฟนกันแล้ว คุณอย่าเข้าใจผิด”
ลู่หลุ่ยพูดไป ก็ถอดจี้ที่คอออกมา:“คุณลุงคะ นี่คือจี้หยกที่ตอนนั้นคุณให้ฉันมา ฉันเอามันคือคุณลุงดีกว่า”
“นี่หมายความว่าไงกัน รังเกียจที่สร้อยคอที่ลุงให้คุณเป็นของแผงลอยใช่ไหม?ลุงจะบอกให้นะ หลุ่ยหลุ่ยนี่คือน้ำใจของลุง คุณอย่าปฏิเสธเลย”
หลี่ต๋าคางบ่ายมือพูดปฏิเสธ:“ถ้าคุณไม่ชอบจริงๆ งั้นครั้งหน้าลุงก็จะหาอันที่ดีให้ จากนั้นค่อยเอามาเปลี่ยนกับคุณ อันนี้คุณใส่ไปก่อนเถอะ”
“ลุงคะ อย่าหลอกฉันเลยค่ะ ฉันไปพิสูจน์มากับผู้เชี่ยวชาญแล้ว จี้ของลุงนี้ เป็นหยกจักรพรรดิราคาตลาดก็อย่างน้อยห้าสิบล้านขึ้นไป และยังเป็นของสะสมอีก ราคาที่แท้จริงของมัน อยู่ไกลจากราคาตลาดเลยค่ะ”
ลู่หลุ่ยเม้มปากพูด:“ของขวัญชิ้นนี้ มีค่ามากไป”
“ผู้เชี่ยวชาญอะไรกัน พูดเหลวไหลทั้งนั้น คำพูดของผู้เชี่ยวชาญนี้ไม่น่าเชื่อถือ พวกเขาหลอกคุณน่ะสิ”หลี่ต๋าคางส่ายหน้า ยังคงไม่ยอมรับดีๆ
และตอนนี้เอง ลู่หลุ่ยก็หยิบการ์ดมาใบหนึ่ง จากกระเป๋าของตัวเอง
“นี่คือใบพิสูจน์ ตอนนั้นฉันก็ไม่เชื่อ แต่ฉันไปหามาหลายที่แล้ว นี่มันเป็นจี้หยกจักรพรรดิจริงๆ และลักษณะสินค้าก็เป็นสินค้าชิ้นดีมาก หยกจักรพรรดิชิ้นดีแบบนี้ โดยทั่วไปจะอยู่ในมือของนักสะสมค่ะ”
“ผู้เชี่ยวชาญคนนั้นยังอยากให้ฉันเอาเก็บไว้ที่พิพิธภัณฑ์ด้วย อยากจะรักษาแทนฉัน บอกว่าจะให้ฉันเดือนละสามแสน แต่ถูกฉันปฏิเสธไป ฉันกลัวว่าพวกเขาจะเอาไปสับเปลี่ยน”
ลู่หลุ่ยมองหลี่ต๋าคาง แล้วพูด:“คุณลุง คุณเอากลับไปเถอะ”
สีหน้าหลี่ต๋าคางกังวลจนจุดบุหรี่ให้ตัวเอง เขารู้ว่า ตอนนี้ปิดไม่ได้แล้ว
ไอ้ผู้เชี่ยวชาญหน้าหมานี่ ในใจของหลี่ต๋าคางด่าคนพวกนี้ไปแรงๆ
สูบบุหรี่มวนนี้เสร็จ หลี่ต๋าคางก็หันไปมองลู่หลุ่ย แล้วถาม:“หลุ่ยหลุ่ย เมื่อกี๊คุณพูดอะไร บอกว่าจี้นี้คือหยกจักรพรรดิ?”
หลี่ต๋าคางหยิบใบพิสูจน์ไปดู มองซ้ายมองขวา จากนั้นก็ทำเป็นท่าทางตื่นเต้น
“ห่า นี่ไม่ใช่ของจริงหรอกมั้ง?หลุ่ยหลุ่ย พวกเรารวยแล้ว จี้นี้ ผมซื้อมาจากแผงลอยจ่ายไปแค่สิบกว่าหยวน คิดไม่ถึงว่าจะเป็นหยกจักรพรรดิ ฮี่ฮี่ โชคดีจริงๆ”
“แต่คนอย่างลุงนี้ มีหลักการของตัวเอง ของที่ให้ไปแล้ว ไม่ว่าจะแพงแค่ไหน ก็ไม่รับคืน”
หลี่ต๋าคางพูดไป จากนั้นก็ชักสีหน้า มองไปที่ลู่หลุ่ย:“ถ้าคุณจะคืนลุงให้ได้ ก็ตบหน้าลุงเถอะ”
“แต่……มันมีค่ามากเกินไป ฉันรับไม่ได้”ลู่หลุ่ยเอาจี้ดันไปทางหลี่ต๋าคางอีกครั้ง
เสียงดังเพียะ หลี่ต๋าคางตบไปที่หน้าของตัวเอง
“ตบหน้าผมใช่ไหม?”
หลี่ต๋าคางพูดไป ก็ตบไปที่หน้าของตัวเอง ไปอีกฉาด:“หลุ่ยหลุ่ย คุณจะตบผมใช่ไหม?”
หลังจากหลี่ต๋าคางตบใส่ตัวเองไม่หยุด ลู่หลุ่ยก็รีบเอามือกับจี้กลับเข้าไปพร้อมกัน
“ลุงคะ ไม่ต้องตบแล้ว ฉันไม่คืนลุงแล้ว”ลู่หลุ่ยมองไปที่หลี่ต๋าคางรอยฝ่ามือที่ใบหน้า ทำเอาตกใจมาก และก็ปวดใจมากด้วย
เสียเพียะเพียะเพียะ เจ็บไหมล่ะ
ลู่หลุ่ยคิดไม่ถึง นิสัยของหลี่ต๋าคางรั้นมาก รั้นยิ่งกว่าหลี่ฝางเยอะเลย
หลี่ต๋าคางตบใส่ตัวเองอีกครั้ง แล้วพูดกับลู่หลุ่ย:“งั้นคุณก็รีบสวมไว้ที่คอ พอสวมแล้ว ผมก็จะไม่ตบตัวเอง”
“อ้ออ้อ”ลู่หลุ่ยรีบเอาจี้หยกจักรพรรดิสวมไปที่คอของตัวเอง ไม่กล้าถอดออกมามั่วๆ
หลี่ต๋าคางจึงหยุดตบหน้าตัวเอง จากนั้นมุมปากก็ปรากฏรอยยิ้มที่พึงพอใจ
“เห้อ เจ็บมากๆ”
ผ่านไปไม่กี่วินาที หลี่ต๋าคางก็พึมพำกับตัวเอง
ส่วนอีกด้าน
หลังจากหลี่ฝางวางสาย ที่มุมปากก็ปรากฏรอยยิ้มร้ายกาจ
“ใครโทรหาคุณ?”หลังจากเห็นสีหน้าของหลี่ฝางที่ดูผิดปกติไป จูเก่อชิงก็ขมวดคิ้ว กังวลขึ้นมา
เมื่อกี๊ก่อนที่หลี่ฝางจะรับสาย ใบหน้าเต็มไปด้วยความกังวล
แต่เมื่อกี๊ ที่ใบหน้าของหลี่ฝางผ่อนคลายและมีความสุขมากๆ มุมปากยังมีรอยยิ้มอยู่ด้วย
รอยยิ้มหลี่ฝางนี้ จูเก่อชิงกังวลขึ้นมาทันที
“หรือว่า……”
จูเก่อชิงจ้องตาโต มองหลี่ฝางอย่างเหลือเชื่อแล้วถาม:“สายเมื่อกี๊ เป็นลู่หลุ่ยโทรหาคุณเหรอ?”
“ไม่ใช่”
หลี่ฝางส่ายหน้า แล้วพูด:“พ่อผมเอง”
“งั้นคุณขำอะไร?ผมบอกคุณให้นะ อย่างมากลู่หลุ่ยก็อยู่ในอีกยี่สิบกว่านาที ทางที่ดีคุณรีบปล่อยผมเถอะ ให้ผมรีบไปหาที่ที่ปลอดภัย ไม่อย่างนั้น ลู่หลุ่ยตายแน่”จูเก่อชิงขู่อย่างเย็นชา
“ใช่ไหม?”
หลี่ฝางหัวเราะออกมา:“จูเก่อชิง สองขาของคุณพิการแล้ว ถึงปล่อยคุณไป คุณจะไปได้เหรอ?”
“ช่างเถอะ พวกเราพาคุณออกไปน่ะดีแล้ว”หลี่ฝางพูด
“เอาไม้มาให้ผมสองอัน ผมออกไปเองได้”จูเก่อชิงพูด
“ช่างเถอะ”หลี่ฝางส่ายหน้า
“คุณไม่อยากช่วยแฟนคุณแล้ว?”จูเก่อชิงมีใบหน้าเย็นชา
“เมื่อกี๊ลืมบอกคุณไป ถึงแม้โทรศัพท์จะเป็นพ่อผมโทรมา แต่ลู่หลุ่ย ถูกพ่อผมช่วยออกมาได้แล้ว”หลี่ฝางหัวเราะหึหึ พูด:“แล้วไงล่ะ จูเก่อชิง ตอนนี้ในมือของคุณไม่มีหมากที่จะมาขู่ผมแล้ว”
“อะไรนะ?จะเป็นไปได้ไว ผมซ่อนเธอไว้อย่างดี นอกจากพวกเราคนของตระกูลจูเก่อ ไม่มีทางที่จะมีคนหาเธอเจอ”จูเก่อชิงไม่อยากจะเชื่อ
“คุณหลอกผม คุณหลอกผมแน่”จูเก่อชิงพูดเหมือนคนบ้า
“โอเค”
ในเมื่อจูเก่อชิงไม่เชื่อ งั้นหลี่ฝางก็ได้แต่พิสูจน์ให้เขาดู หลี่ฝางโทรหาหลี่ต๋าคาง แล้วพูด:“พ่อ ให้ลู่หลุ่ยพูดสักคำ”
“ฮัลโหล หลี่ฝาง คุณจะให้ฉันพูดอะไร?”ลู่หลุ่ยถาม
ประโยคของลู่หลุ่ย ทำเอาสีหน้าของจูเก่อชิง บูดเบี้ยวทันที
“จะเป็นไปได้ไง?จะเป็นไปได้ไงล่ะ หลอซ่าจะรู้ความลับของพวกเราตระกูลจูเก่อได้ไง”จูเก่อชิงพูดด้วยสีหน้าบูดบึ้ง
หลี่ฝางวางสาย ก็มองจูเก่อชิงแล้วพูด:“คำถามนี้ผมตอบคุณไม่ได้ อีกเดี๋ยวคุณเจอพ่อผม ถามเขาเองเถอะ”
“ส้าวส้วย จับเขาออกไป”
หลี่ฝางมองส้าวส้วยแวบหนึ่ง แล้วพูด
ส้าวส้วยพยักหน้า คว้าคอเสื้อของจูเก่อชิง แล้วลากออกไปด้านนอก
“ซุนจิ้น คุณออกไปก่อนเถอะ”
หลังจากส้าวส้วยเดินออกไป หลี่ฝางพยักหน้าให้ซุนจิ้น
ซุนจิ้นลังเลหน่อยๆ:“คุณชาย คุณ……”
“วางใจเถอะ ตัวผมไม่เป็นไรหรอก”
หลี่ฝางมองตู้เฟยที่พื้นแวบหนึ่ง แล้วพูดว่า:“เขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของผม”
“โอเค งั้นผมออกไปก่อนล่ะ ตัวคุณชายก็ระวังด้วย ผมอยู่หน้าประตู มีอะไรเรียกผมเลย”ซุนจิ้นพูดอย่างไม่วางใจ