NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 448

ตอนที่ 448

บทที่488 หลี่ต๋าคางถูกตบ

หลี่ฝางได้ยินเสียงเรียกเข้า ก็หันหน้าทันที มองไปที่ตู้เฟย ตู้เฟยหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋า

หลี่ฝางรีบวิ่งเข้าไป ยื่นมือแย่งโทรศัพท์กลับมา

ยังไงนี่ก็เป็นโทรศัพท์ของตัวเอง

หลี่ฝางมองแวบหนึ่ง ก็เป็นพ่อของตัวเองโทรมา

หลี่ฝางรีบกดรับ แต่ได้ยินเสียงผู้หญิงที่คุ้นเคย

“หลี่ฝาง ฉันไม่เป็นไรแล้ว”

ที่ปลายสายมีเสียงของลู่หลุ่ยเข้ามา

ได้ยินประโยคนี้ หลี่ฝางก็ตื่นเต้นสุดๆ ความกังวลในใจ ว่างเปล่าทันที

เมื่อกี๊ตอนที่รับสาย หลี่ฝางยังคิดจะรีบปล่อยจูเก่อชิง ทำการประนีประนอมกับจูเก่อชิง

ตอนนี้ดูเหมือน……

หลี่ฝางหัวเราะออกมา พูดกับลู่หลุ่ย:“คุณไม่เป็นไรก็ดี”

“ใช่สิ ใครช่วยคุณไว้เหรอ?”หลี่ฝางถามอย่างแปลกใจ

“คุณลุงน่ะ พ่อคุณนั่นแหละ”ลู่หลุ่ยพูด:“เมื่อกี๊ฉันเกือบจะขาดอากาศหายใจตาย เป็นคุณลุงที่มาเจอฉัน อุ้มฉันออกมา”

“พ่อผม?”

หลี่ฝางตะลึงจนอ้าปากค้าง พูดแบบนี้ งั้นหน้ากากผีที่ตัวเองเห็นเมื่อกี๊ ก็คือพ่อตัวเองจริงๆเหรอ?

“คุณเอาโทรศัพท์ให้พ่อผมหน่อย”หลี่ฝางพูดกับลู่หลุ่ย

หลี่ต๋าคางรับโทรศัพท์ในมือของลู่หลุ่ย พูดว่า:“ลูกชาย มีอะไรจะพูดกับพ่อเหรอ?”

“พ่อ พ่อมาทำไมไม่บอกผม?”หลี่ฝางพูดตำหนิหน่อยๆ

“ไอ้หมอนี่ ลูกไม่คิดหน่อยเหรอ ลูกสะใภ้ถูกจับตัวไป ในฐานะพ่อตา จะมองดูอยู่เฉยๆได้เหรอ?”

หลี่ต๋าคางพูดอย่างเซ็งๆ:“เอาน่า เอาจูเก่อชิงผู้ชายคนนั้นจับมาให้พ่อด้วย”

“ในเมื่อตระกูลจูเก่อกล้าแตะต้องลูกสะใภ้ของพ่อ งั้นพ่อก็จะให้เขารู้ว่า แตะต้องลูกสะใภ้ของพ่อจะต้องชดใช้ด้วยอะไร”หลี่ต๋าคางพูดอย่างเผด็จการมาก

ลู่หลุ่ยฟังคำพวกนี้อยู่ข้างๆ แล้วหน้าก็แดงทันที

“คุณลุงคะ ฉันกับหลี่ฝางเลิกกันแล้วค่ะ ไม่ใช่แฟนกันแล้ว คุณอย่าเข้าใจผิด”

ลู่หลุ่ยพูดไป ก็ถอดจี้ที่คอออกมา:“คุณลุงคะ นี่คือจี้หยกที่ตอนนั้นคุณให้ฉันมา ฉันเอามันคือคุณลุงดีกว่า”

“นี่หมายความว่าไงกัน รังเกียจที่สร้อยคอที่ลุงให้คุณเป็นของแผงลอยใช่ไหม?ลุงจะบอกให้นะ หลุ่ยหลุ่ยนี่คือน้ำใจของลุง คุณอย่าปฏิเสธเลย”

หลี่ต๋าคางบ่ายมือพูดปฏิเสธ:“ถ้าคุณไม่ชอบจริงๆ งั้นครั้งหน้าลุงก็จะหาอันที่ดีให้ จากนั้นค่อยเอามาเปลี่ยนกับคุณ อันนี้คุณใส่ไปก่อนเถอะ”

“ลุงคะ อย่าหลอกฉันเลยค่ะ ฉันไปพิสูจน์มากับผู้เชี่ยวชาญแล้ว จี้ของลุงนี้ เป็นหยกจักรพรรดิราคาตลาดก็อย่างน้อยห้าสิบล้านขึ้นไป และยังเป็นของสะสมอีก ราคาที่แท้จริงของมัน อยู่ไกลจากราคาตลาดเลยค่ะ”

ลู่หลุ่ยเม้มปากพูด:“ของขวัญชิ้นนี้ มีค่ามากไป”

“ผู้เชี่ยวชาญอะไรกัน พูดเหลวไหลทั้งนั้น คำพูดของผู้เชี่ยวชาญนี้ไม่น่าเชื่อถือ พวกเขาหลอกคุณน่ะสิ”หลี่ต๋าคางส่ายหน้า ยังคงไม่ยอมรับดีๆ

และตอนนี้เอง ลู่หลุ่ยก็หยิบการ์ดมาใบหนึ่ง จากกระเป๋าของตัวเอง

“นี่คือใบพิสูจน์ ตอนนั้นฉันก็ไม่เชื่อ แต่ฉันไปหามาหลายที่แล้ว นี่มันเป็นจี้หยกจักรพรรดิจริงๆ และลักษณะสินค้าก็เป็นสินค้าชิ้นดีมาก หยกจักรพรรดิชิ้นดีแบบนี้ โดยทั่วไปจะอยู่ในมือของนักสะสมค่ะ”

“ผู้เชี่ยวชาญคนนั้นยังอยากให้ฉันเอาเก็บไว้ที่พิพิธภัณฑ์ด้วย อยากจะรักษาแทนฉัน บอกว่าจะให้ฉันเดือนละสามแสน แต่ถูกฉันปฏิเสธไป ฉันกลัวว่าพวกเขาจะเอาไปสับเปลี่ยน”

ลู่หลุ่ยมองหลี่ต๋าคาง แล้วพูด:“คุณลุง คุณเอากลับไปเถอะ”

สีหน้าหลี่ต๋าคางกังวลจนจุดบุหรี่ให้ตัวเอง เขารู้ว่า ตอนนี้ปิดไม่ได้แล้ว

ไอ้ผู้เชี่ยวชาญหน้าหมานี่ ในใจของหลี่ต๋าคางด่าคนพวกนี้ไปแรงๆ

สูบบุหรี่มวนนี้เสร็จ หลี่ต๋าคางก็หันไปมองลู่หลุ่ย แล้วถาม:“หลุ่ยหลุ่ย เมื่อกี๊คุณพูดอะไร บอกว่าจี้นี้คือหยกจักรพรรดิ?”

หลี่ต๋าคางหยิบใบพิสูจน์ไปดู มองซ้ายมองขวา จากนั้นก็ทำเป็นท่าทางตื่นเต้น

“ห่า นี่ไม่ใช่ของจริงหรอกมั้ง?หลุ่ยหลุ่ย พวกเรารวยแล้ว จี้นี้ ผมซื้อมาจากแผงลอยจ่ายไปแค่สิบกว่าหยวน คิดไม่ถึงว่าจะเป็นหยกจักรพรรดิ ฮี่ฮี่ โชคดีจริงๆ”

“แต่คนอย่างลุงนี้ มีหลักการของตัวเอง ของที่ให้ไปแล้ว ไม่ว่าจะแพงแค่ไหน ก็ไม่รับคืน”

หลี่ต๋าคางพูดไป จากนั้นก็ชักสีหน้า มองไปที่ลู่หลุ่ย:“ถ้าคุณจะคืนลุงให้ได้ ก็ตบหน้าลุงเถอะ”

“แต่……มันมีค่ามากเกินไป ฉันรับไม่ได้”ลู่หลุ่ยเอาจี้ดันไปทางหลี่ต๋าคางอีกครั้ง

เสียงดังเพียะ หลี่ต๋าคางตบไปที่หน้าของตัวเอง

“ตบหน้าผมใช่ไหม?”

หลี่ต๋าคางพูดไป ก็ตบไปที่หน้าของตัวเอง ไปอีกฉาด:“หลุ่ยหลุ่ย คุณจะตบผมใช่ไหม?”

หลังจากหลี่ต๋าคางตบใส่ตัวเองไม่หยุด ลู่หลุ่ยก็รีบเอามือกับจี้กลับเข้าไปพร้อมกัน

“ลุงคะ ไม่ต้องตบแล้ว ฉันไม่คืนลุงแล้ว”ลู่หลุ่ยมองไปที่หลี่ต๋าคางรอยฝ่ามือที่ใบหน้า ทำเอาตกใจมาก และก็ปวดใจมากด้วย

เสียเพียะเพียะเพียะ เจ็บไหมล่ะ

ลู่หลุ่ยคิดไม่ถึง นิสัยของหลี่ต๋าคางรั้นมาก รั้นยิ่งกว่าหลี่ฝางเยอะเลย

หลี่ต๋าคางตบใส่ตัวเองอีกครั้ง แล้วพูดกับลู่หลุ่ย:“งั้นคุณก็รีบสวมไว้ที่คอ พอสวมแล้ว ผมก็จะไม่ตบตัวเอง”

“อ้ออ้อ”ลู่หลุ่ยรีบเอาจี้หยกจักรพรรดิสวมไปที่คอของตัวเอง ไม่กล้าถอดออกมามั่วๆ

หลี่ต๋าคางจึงหยุดตบหน้าตัวเอง จากนั้นมุมปากก็ปรากฏรอยยิ้มที่พึงพอใจ

“เห้อ เจ็บมากๆ”

ผ่านไปไม่กี่วินาที หลี่ต๋าคางก็พึมพำกับตัวเอง

ส่วนอีกด้าน

หลังจากหลี่ฝางวางสาย ที่มุมปากก็ปรากฏรอยยิ้มร้ายกาจ

“ใครโทรหาคุณ?”หลังจากเห็นสีหน้าของหลี่ฝางที่ดูผิดปกติไป จูเก่อชิงก็ขมวดคิ้ว กังวลขึ้นมา

เมื่อกี๊ก่อนที่หลี่ฝางจะรับสาย ใบหน้าเต็มไปด้วยความกังวล

แต่เมื่อกี๊ ที่ใบหน้าของหลี่ฝางผ่อนคลายและมีความสุขมากๆ มุมปากยังมีรอยยิ้มอยู่ด้วย

รอยยิ้มหลี่ฝางนี้ จูเก่อชิงกังวลขึ้นมาทันที

“หรือว่า……”

จูเก่อชิงจ้องตาโต มองหลี่ฝางอย่างเหลือเชื่อแล้วถาม:“สายเมื่อกี๊ เป็นลู่หลุ่ยโทรหาคุณเหรอ?”

“ไม่ใช่”

หลี่ฝางส่ายหน้า แล้วพูด:“พ่อผมเอง”

“งั้นคุณขำอะไร?ผมบอกคุณให้นะ อย่างมากลู่หลุ่ยก็อยู่ในอีกยี่สิบกว่านาที ทางที่ดีคุณรีบปล่อยผมเถอะ ให้ผมรีบไปหาที่ที่ปลอดภัย ไม่อย่างนั้น ลู่หลุ่ยตายแน่”จูเก่อชิงขู่อย่างเย็นชา

“ใช่ไหม?”

หลี่ฝางหัวเราะออกมา:“จูเก่อชิง สองขาของคุณพิการแล้ว ถึงปล่อยคุณไป คุณจะไปได้เหรอ?”

“ช่างเถอะ พวกเราพาคุณออกไปน่ะดีแล้ว”หลี่ฝางพูด

“เอาไม้มาให้ผมสองอัน ผมออกไปเองได้”จูเก่อชิงพูด

“ช่างเถอะ”หลี่ฝางส่ายหน้า

“คุณไม่อยากช่วยแฟนคุณแล้ว?”จูเก่อชิงมีใบหน้าเย็นชา

“เมื่อกี๊ลืมบอกคุณไป ถึงแม้โทรศัพท์จะเป็นพ่อผมโทรมา แต่ลู่หลุ่ย ถูกพ่อผมช่วยออกมาได้แล้ว”หลี่ฝางหัวเราะหึหึ พูด:“แล้วไงล่ะ จูเก่อชิง ตอนนี้ในมือของคุณไม่มีหมากที่จะมาขู่ผมแล้ว”

“อะไรนะ?จะเป็นไปได้ไว ผมซ่อนเธอไว้อย่างดี นอกจากพวกเราคนของตระกูลจูเก่อ ไม่มีทางที่จะมีคนหาเธอเจอ”จูเก่อชิงไม่อยากจะเชื่อ

“คุณหลอกผม คุณหลอกผมแน่”จูเก่อชิงพูดเหมือนคนบ้า

“โอเค”

ในเมื่อจูเก่อชิงไม่เชื่อ งั้นหลี่ฝางก็ได้แต่พิสูจน์ให้เขาดู หลี่ฝางโทรหาหลี่ต๋าคาง แล้วพูด:“พ่อ ให้ลู่หลุ่ยพูดสักคำ”

“ฮัลโหล หลี่ฝาง คุณจะให้ฉันพูดอะไร?”ลู่หลุ่ยถาม

ประโยคของลู่หลุ่ย ทำเอาสีหน้าของจูเก่อชิง บูดเบี้ยวทันที

“จะเป็นไปได้ไง?จะเป็นไปได้ไงล่ะ หลอซ่าจะรู้ความลับของพวกเราตระกูลจูเก่อได้ไง”จูเก่อชิงพูดด้วยสีหน้าบูดบึ้ง

หลี่ฝางวางสาย ก็มองจูเก่อชิงแล้วพูด:“คำถามนี้ผมตอบคุณไม่ได้ อีกเดี๋ยวคุณเจอพ่อผม ถามเขาเองเถอะ”

“ส้าวส้วย จับเขาออกไป”

หลี่ฝางมองส้าวส้วยแวบหนึ่ง แล้วพูด

ส้าวส้วยพยักหน้า คว้าคอเสื้อของจูเก่อชิง แล้วลากออกไปด้านนอก

“ซุนจิ้น คุณออกไปก่อนเถอะ”

หลังจากส้าวส้วยเดินออกไป หลี่ฝางพยักหน้าให้ซุนจิ้น

ซุนจิ้นลังเลหน่อยๆ:“คุณชาย คุณ……”

“วางใจเถอะ ตัวผมไม่เป็นไรหรอก”

หลี่ฝางมองตู้เฟยที่พื้นแวบหนึ่ง แล้วพูดว่า:“เขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของผม”

“โอเค งั้นผมออกไปก่อนล่ะ ตัวคุณชายก็ระวังด้วย ผมอยู่หน้าประตู มีอะไรเรียกผมเลย”ซุนจิ้นพูดอย่างไม่วางใจ

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท