NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 503

ตอนที่ 503

บทที่ 503 รถของนายมูลค่าถึงพันล้านมั้ย?

ครั้งนี้ ซือถูเฟยแพ้อย่างราบคาบ

แพ้ให้ตู้เฟย ซือถูเฟยยังพอรับได้ แต่นี่แพ้ให้โหจื่อ มันอะไรกัน?

เขาเป็นถึงคุณชายของสี่ตระกูลใหญ่ กลับโดนบริกรตัวเล็กๆ ในบาร์คนนึงกดหัว?

ซือถูเฟยอดทนมายี่สิบกว่าปี ไม่ง่ายเลยที่จะได้โอ้อวด แต่สุดท้ายกลับโดนบริกรในบาร์ตัวเล็กๆ คนนึงตีแสกหน้า

บอกสิว่ามันน่าโมโหมั้ย?

ขณะที่ซือถูเฟยหันหลังกลับ โหจื่อก็รีบตามขึ้นมา: “คุณชายซือถู ทำไมต้องรีบไปด้วยล่ะ?”

“คุณชายซือถู ขอปรึกษากับคุณชายสักเรื่องสิ?” โหจื่อขวางทางซือถูเฟยไว้ แล้วพูดเลียๆ

หลี่ฝางไม่ต้องมองก็รู้ โหจื่อคนนี้ ไม่ได้ทำเรื่องดีแน่นอน

“เรื่องอะไร?” ซือถูเฟยมองโหจื่ออย่างรำคาญ แต่จะไม่สนใจไอ้เด็กนี่ก็ไม่ได้

คนที่มีรถอยู่ในครอบครองเป็นพันล้าน ฐานะจะธรรมดาได้ยังไง?

ถึงแม้จะบอกว่าตัวเองเป็นบริกรอยู่ในบาร์ แต่ซือถูเฟยก็ไม่เชื่อ

“ขายรถของคุณชายให้ผมนะ”

โหจื่อหัวเราะฮี่ๆ แล้วชี้ไปที่รถBugatti Veyron พลางพูด: “ผมอยากได้มานานแล้ว”

“ตอนแรกที่รถคันนี้ออก ผมมีธุระพอดี เลยพลาดโอกาส”

โหจื่อส่ายหน้า แล้วถอนหายใจพลางพูด: “เพราะว่าเรื่องนี้ ทำเอาผมนอนไม่หลับไปหลายวัน”

“ไม่ขาย”

ซือถูเฟยขมวดคิ้ว พลางมองโหจื่อ: “นายจะเสียใจหรือไม่เสียใจ มันเกี่ยวอะไรกับฉัน?”

“รถคันนี้ ตระกูลซือถูเฟยของเราใช้เส้นสายตั้งเยอะกว่าจะซื้อได้ นายคิดว่าแค่มีเงินก็ซื้อได้เหรอ?” ซือถูเฟยมองบนใส่โหจื่อ

“ถึงขนาดนี้แล้ว งั้นมาแลกกับผมมั้ย?” โหจื่อยังคงไม่ยอมแพ้

“แลก? ถึงแม้รถของนายจะไม่เลว แต่รุ่นลิมิเต็ดทั้งนั้น แต่ว่า ไม่มีคันไหนที่เทียบBugatti Veyronของฉันได้ นายจะเอาอะไรมาแลกกับฉัน?” ซือถูเฟยหัวเราะอย่างดูแคลน

“งั้นเพิ่มเงินให้ก็ได้นี่” โหจื่อทำหน้าอ้อน

“ฉันบอกแล้วว่า ไม่ขาย นายฟังภาษาคนไม่เข้าใจหรือไง?” ซือถูเฟยจ้องโหจื่ออย่างดุดัน

“ผมบอกแล้ว ว่าผมจะซื้อ คุณชายฟังภาษาคนไม่เข้าใจหรือไง?” หน้าของโหจื่อ ก็ดูเข้มขึ้นมาเหมือนกัน

ซือถูเฟยไม่ได้สนใจเขา แล้วเดินตรงไปที่Bugatti Veyronของเขาคันนั้น

โหจื่อควักโทรศัพท์ออกมา แล้วกดอยู่ครู่

“ซือถูเฟย รถBugatti Veyronของนายคันนี้ อย่างมากก็หนึ่งร้อยล้าน รวมกับความมีค่าของมัน ที่ทั้งโลกนี้มีอยู่สองคัน รวมค่าที่เป็นของสะสมด้วยแล้ว ฉันคิดรวมแล้วสองร้อยล้านก็อยู่แล้ว” โหจื่อพูดอย่างจริงจัง

“ขอโทษนะ ถึงแม้นายจะให้ฉันสามร้อยล้าน ฉันก็ไม่ขาย” ซือถูเฟยส่ายหน้า ขณะที่กำลังจะขึ้นรถ

“สามร้อยล้าน ไม่ขาย งั้นหนึ่งพันล้านล่ะ!”

โหจื่อหรี่ตาพูดพลางยิ้ม

หนึ่งพันล้าน!

ขณะที่ซือถูเฟยสตาร์ทรถ เตรียมตัวออกรถ ทันใดนั้นก็ชะงักลง

ซือถูเฟยคิดไม่ถึง ว่าโหจื่อจะเพิ่มมูลค่าให้จนถึงพันล้าน!

หนึ่งพันล้านเป็นตัวแทนอะไร!

รถร้อยกว่าคันรวมกัน ที่จริงแล้วยังไม่เกินพันล้านเลย

แต่รถBugatti Veyronของเขา กลับขายได้ในราคาของรถร้อยคันที่จอดอยู่ตรงหน้าเขา

ถ้าบอกว่าซือถูเฟยไม่ใจสั่น ก็คงจะโกหก

ซือถูเฟยเคยเห็นหลี่ฝางใช้เงินฟุ่มเฟือย ในบาร์ของตน คืนนึงผลาญเงินไปสิบสามล้าน ที่จริงนั้นก็ถือว่าเปย์มากๆ แล้ว

แต่คิดไม่ถึง ว่าลูกน้องของหลี่ฝางจะเปย์ยิ่งกว่าเขาอีก

แค่ซื้อรถ ก็เปย์ได้เป็นพันล้าน!

หนึ่งพันล้าน เกรงว่าบนโลกนี้ ไม่มีรถคันไหนสามารถขายได้ในราคานี้มั้ง?

หลี่ฝางกับโก่เอ๋อ ก็ตกใจเหมือนกัน

หลี่ฝางถึงจะมีเงิน แต่ก็ไม่กล้าเล่นแบบนี้

จะให้พูด โหจื่อก็เกินไป ทำไมถึงต้องใช้เงินตั้งพันล้านซื้อรถคันนึงด้วยนะ?

หรือว่าเพื่อที่จะขับรถคันนี้ พาองค์หญิงYavinไปขับรถเล่นกันนะ?

เหยดเขร้ คิดไม่ถึงว่าโหจื่อ ไอ้เด็กนี่จีบหญิงถึงกับกล้าขูดเลือดขูดเนื้อตัวเอง

จุดนี้ แม้แต่หลี่ฝางยังรู้สึกละอายใจเล็กน้อยเลย

ส่วนโก่เอ๋อก็ช็อกจนสีหน้าเปลี่ยน เธอไม่ใช่แค่ช็อก เธอมองหลี่ฝางพลางพูด: “หลี่ฝาง เพื่อนของนายคนนี้รวยจริงๆ ”

“เพื่อนอะไรกัน ก็แค่บริกรในบาร์ของพวกเราเฉยๆ” หลี่ฝางถือโอกาสพูดอวด

ซือถูเฟยมองโหจื่อ แล้วพูดอย่างไม่ค่อยจะเชื่อ: “นายกล้าเอาเงินพันล้านมาซื้อรถของฉัน?”

“ฮี่ฮี่”

โหจื่อยิ้ม แล้วเดินไปด้านหน้าซือถูเฟย: “คุณชายซือถู คุณชายคิดว่าผมจะใช้เงินพันล้านซื้อรถของคุณคันนึงมั้ย?”

“นั้นไม่ใช่เรื่องไร้สาระหรือไง?” โหจื่อหัวเราะออกมา

“นายหลอกฉัน?” หน้าของซือถูเฟย แสดงให้เห็นถึงความโกรธ

โหจื่อส่ายหน้า: “คุณชายซือถู ผมจะไปกล้าหลอกคุณได้ยังไง”

“ในมือผม ไม่มีเงินพันล้านจริงๆ เมื่อกี้คุณก็เห็นแล้ว ผมจนมากจนแม้แต่เงินเติมน้ำมันยังไม่มีเลย”

โหจื่อพูด พลางวางโทรศัพท์ของตนไว้ด้านหน้าซือถูเฟย จากนั้นก็กดอยู่ครู่: “ใช่แล้ว คุณชายซือถู สโมสรเจียงหนาน เป็นสโมสรของคุณชายใช่มั้ย?”

“ใช่แล้วทำไม?” ซือถูเฟยถามอย่างไม่สบอารมณ์

“คุณโทรหาสโมสรเจียงหนานหน่อยสิ……” โหจื่อยิ้ม

“หมายความว่าไง?” ซือถูเฟยไม่ค่อยเข้าใจ

ซือถูเฟยไม่ได้ฟังคำของโหจื่อ โทรหาสโมสรเจียงหนาน เพราะว่าผู้จัดการของสโมสรเจียงหนาน เป็นฝ่ายโทรมาหาเขาเองแล้ว

ซือถูเฟยขมวดคิ้ว รู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่ปกติ จึงรีบรับสาย

“คุณชายซือถู แย่แล้ว สโมสรเจียงหนานของพวกเราอยู่ๆ ก็ระเบิดไปสองห้อง” ฝั่งปลายสาย ผู้จัดการคนนึงพูดอย่างร้อนรน

“เกิดอะไรขึ้น ทำไมห้องส่วนตัวถึงระเบิด?” หน้าของซือถูเฟย เปลี่ยนเป็นซีดทันที

ในขณะนั้น ใจของซือถูเฟย ก็สั่นระรัวทันที จากนั้นก็จ้องโหจื่อตาเขม็ง

“ไม่ผิด คุณชายซือถู ผมเป็นคนวางระเบิดที่สโมสรเจียงหนานเอง” โหจื่อมองซือถูเฟย พลางยิ้มตาตี่

ซือถูเฟยกัดฟัน พลางมองโหจื่อ: “นายระเบิดตั้งแต่เมื่อไหร่?”

“เมื่อกี้นี้”

โหจื่อเลิกคิ้ว: “รถBugatti Veyronคันนี้ ผมหามันมานานแล้ว ผมยังคงพูดคำเดิม คุณชายอยากขาย ผมก็ซื้อ ถ้าไม่อยากขาย ผมก็จะซื้อ”

“ถ้าหากคุณชายไม่อยากขายละก็ ฮี่ๆ ขอโทษด้วย สโมสรเจียงหนานผมจะระเบิดมันให้ราบ ส่วนจะมีคนตายกี่คน มันไม่เกี่ยวกับผม กลับกันคุณชายต้องเจอกับการชดเชยค่าเสียหายและความรับผิดชอบทางอาญา”

“ใช่แล้ว สโมสรเจียงหนานของคุณชาย น่าจะมีมูลค่าประมาณพันล้านนะ?” โหจื่อมองซือถูเฟยพลางถาม

ซือถูเฟยกัดฟัน พูดอะไรไม่ออก

“อืม ตอนนี้น่าจะไม่ถึงแล้ว” โหจื่อพูด: “เมื่อกี้ไม่ระวัง ไปกดโดนอีกปุ่ม ห้องส่วนตัวของคุณชาย ถูกระเบิดไปอีกหลายห้องแล้ว”

“ผมเตือนคุณชายด้วยความปรารถนาดี ระเบิดที่อยู่ในห้องส่วนตัว เป็นแค่ระเบิดลูกเล็กๆ สร้างความเสียหายให้คุณชายได้ไม่เท่าไหร่หรอก แต่ว่าหลังจากนี้ ผมแค่กดเล่นๆ อีกสักครั้ง ห้องโถง หรือว่าลานจอดรถ เกรงว่าจะกลายเป็นจุณ”

โหจื่อยิ้ม ยิ้มอย่างน่าขนลุกสุดๆ

“เป็นยังไง คุณชายจะคิดทบทวนใหม่หน่อยมั้ย ว่าจะขายรถให้ผมมั้ย?” โหจื่อมองซือถูเฟยพลางถาม

ตาของซือถูเฟย แดงก่ำ

สีหน้าของเขา เปลี่ยนเป็นโหดเหี้ยมขึ้นมาทันที

“นายมันเลวจริงๆ” ซือถูเฟยกัดฟันพลางพูด

“ความอดทนผมมีจำกัด อย่าให้ผมรอนาน ให้เวลาคุณชายสามสิบวินาที คิดทบทวน” โหจื่อหัวเราะหึพลางพูด

“ไม่ต้องคิดแล้ว ฉันไม่มีทางเลือกอื่นอยู่แล้วนี่”

ซือถูเฟยพูด: “เมื่อเทียบกับสโมสรเจียงหนาน รถBugatti Veyronคันนึง ก็ไม่เท่าไหร่”

“แค่อยากจะถามดู น้องชายอยากจะซื้อในราคาเท่าไหร่ดี?”

“ตอนนั้นที่ฉันซื้อรถคันนี้ ไม่นับเรื่องเส้นสาย ก็ยังต้องใช้เงินร้อยล้าน” ซือถูเฟยพูด: “อีกอย่างฉันก็ไม่ค่อยได้ขับ”

“ถึงจะไม่ค่อยได้ขับแต่ยังไงก็เป็นรถมือสอง รถมือสองแบบนี้ แน่นอนว่าไม่มีมูลค่ามากนัก”

โหจื่อมองซือถูเฟย แล้วพูด: “อีกอย่างดูท่าแล้ว คุณชายเป็นเสือผู้หญิง ใครจะรู้คุณชายจัดการผู้หญิงบนรถไปกี่คนแล้ว จนมีลูกหลานไปกี่คนแล้ว”

“คิดๆ ดูผมว่าไม่เอาดีกว่า”

“ช่างเถอะ ผมซื้อดีกว่า”

โหจื่อล้วงกระเป๋าไป พูดไป: “แป๊บนะ คุณชายซือถู ผมขอดูก่อนว่ามีเงินอยู่เท่าไหร่”

“……” ซือถูเฟยขมวดคิ้ว ไอ้หมอนี่เอาเงินในกระเป๋ากางเกงมาซื้อรถBugatti Veyronของเขา? ล้อเล่นอะไรกัน

“ในที่สุดก็ล้วงเจอ”

หลังจากล้วงอยู่นาน ไม่ง่ายเลยที่โหจื่อจะล้วงเงินออกมาห้าเหรียญ แล้วยื่นให้ซือถูเฟย: “คุณชายซือถู ลองดูว่าพอมั้ย?”

“ถ้าไม่พอ ผมก็ยกจักรยานไฟฟ้าคันนั้นให้อีกคัน”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท