บทที่ 507 การอำลาของฉินวี่เฟย
หน้าของหวางเสี่ยวโก๋ชะงักอยู่ครู่ ต่อมาก็มีรอยยิ้ม: “หลี่ฝาง มีพี่น้องที่ดีแบบนาย เป็นโชคดีของพวกเราจริงๆ”
หวางเสี่ยวโก๋รู้ว่าหลี่ฝางไม่ใช่คนลำเอียง
หลี่ฝางไม่เพียงดีต่อเพื่อนของหวางเสี่ยวโก๋เท่านั้น ยังดีกับเพื่อน ดีกับตน และยังทำดีกับ เลี่ยวข่ายอีกด้วย
ลูกน้องในบ้านหวางเสี่ยวโก๋ ที่จริงอยู่ในสภาวะที่ไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ แต่หลี่ฝางพูดคำเดียว ก็สามารถช่วยไว้ได้ไม่ใช่ไง?
ถึงแม้สำหรับหลี่ฝางแล้ว ก็แค่คำพูดปลุกใจ เพียงแค่หนึ่งประโยค แต่ว่าสำหรับครอบครัวหวางเสี่ยวโก๋แล้ว กระทบราวกับพลิกแผ่นดิน
รวมไปถึงลูกพี่ลูกน้องของหวางเสี่ยวโก๋เหยนเสี่ยวน่า ธุรกิจโรงบ่มเหล้าของที่บ้านเธอ ทำให้มีชื่อเสียงขึ้นมา
ถึงแม้ว่ารายได้ที่โรงบ่มเหล้าของเหยนเสี่ยวน่า จะต้องแบ่งครึ่งนึงให้กับหลี่ฝาง แต่ว่าอีกครึ่งที่เหลือ มันก็มากกว่ารายได้ที่หาได้เมื่อก่อนเยอะมาก
ในวันนี้ มีใครไม่อยากทำธุรกิจกับตระกูลหลี่บ้าง?
ในชั้นเรียนของหลี่ฝาง สามารถเทียบได้กับพายุ ตั้งแต่เปิดเรียนมาไม่กี่วัน ก็มีคนตายไปสองคน ถังจิ้นก็ตาบอดไปแล้ว ไม่สามารถมาเรียนต่อได้
คิดๆ ดู หลี่ฝางยังเสียดายแทนถังจิ้นอยู่บ้าง
หลี่ฝางยิ้มให้หวางเสี่ยวโก๋อย่างไม่คิดอะไร: “ที่จริงฉันก็พอจะเข้าใจว่ามันเรื่องอะไร ไห่เย่นคนนี้ ไม่ได้คิดอะไรไม่มากกว่าอยากร่วมงานกับฉัน และกอบโกยเงินจากฉัน”
“หลังจากที่เหยสงหนีไป ที่ดินของเขา ก็มาอยู่ในมือของฉัน เมื่อก่อนเหยสงมีถนนเส้นนึงที่มีแต่ร้านบาร์ ตรงนั้นถือว่าเป็นที่ที่ศรีวิไลที่สุดในเมือกเอกได้เลย พวกคนวัยหนุ่มสาว แต่ละคนก็ไปเที่ยวเมาหัวราน้ำกันที่นั่นทุกวันทุกคืน ที่นั่นต้องการหน่วยรักษาความปลอดภัยที่ดีอย่างมาก และสิ่งที่ต้าหัวกรุ๊ป ทำได้ดีที่สุดส่วนนึง ก็คือระบบรักษาความปลอดภัยนี่แหละ”
“ช่วงนี้ต้าหัวกรุ๊ปอยากจะติดต่อฉันมาตลอดเลย แต่ว่าโดนฉันปฏิเสธไป ฉันคิดว่า ครั้งนี้ไห่เย่น คงจะมุ่งประเด็นโครงการรักษาความปลอดภัยในถนนร้านบาร์แน่ๆ” หลี่ฝางพูดด้วยสีหน้านิ่ง
“ต้าหัวกรุ๊ป? เชี่ยแม่ง นั่นไม่ใช่ธุรกิจของไอ้สวะหยิ่นเหล่ย แฟนเก่าไห่เย่นเหรอ? พูดไปพูดมา ไห่เย่นยังคงทำเพื่อประโยชน์ของหยิ่นเหล่ยสินะ” จู่ๆ หวางเสี่ยวโก๋ก็ไม่สบอารมณ์
“อาจจะไม่ใช่ จริงอยู่ที่ไห่เย่นเป็นฝ่ายการตลาดของต้าหัวกรุ๊ป แล้วก็ทำงานมาได้ปีกว่าแล้ว ไม่แน่เธออาจจะทำเพื่อความก้าวหน้าในหน้าที่การงานของตัวเอง ถึงยังไงโครงการนี้ อย่างน้อยเธอสามารถเรียกได้ถึงหนึ่งแสน” หลี่ฝางพูด
“หนึ่งแสน?” ตัวเลขนี้สำหรับคนธรรมดา ก็ถือว่าไม่น้อยเลย พนักงานขายธรรมดา ทำงานแทบตายปีนึงกว่าจะได้หนึ่งแสน แต่โครงการนี้โครงการเดียวไห่เย่นสามารถหาเงินได้หนึ่งแสนแล้ว สามารถพูดได้เลยว่าโครงการนี้มันใหญ่แค่ไหน
หวางเสี่ยวโก๋พูดถอนหายใจ: “เงินหนึ่งแสน ไม่ต้องพูดถึงว่าจะต้องนอนกับหลี่ซ่วยซ่วย ถึงแม้จะต้องนอนกับขอทานข้างทาง ผู้หญิงคนนั้นก็คงไม่ลังเล”
“เรื่องนี้พูดกับฉันก็พอ อย่าให้หลี่ซ่วยซ่วยมาได้ยิน ไม่งั้นเขาคงนายแน่ๆ” หลี่ฝางพูดเตือน
“ไอ้หมอนั่นความคิดไม่ปกติ ฉันยังปกติดีอยู่” หวางเสี่ยวโก๋พูดยู่ปาก
เมื่อเรียนจบคาบแรก ฉินวี่เฟยก็มาถึง
ครั้งนี้ เสียงถอนหายใจของคนในชั้นเรียนเบาลงมาก เพราะว่าพวกเขารู้ถึงฐานะของหลี่ฝาง
รูปหล่อแถมยังรวยอีก
คนแบบนี้ จะมีแฟนเป็นคนสวยอย่างฉินวี่เฟย ในสังคมทุกวันนี้ ก็ไม่แปลกเลยสักนิด
แต่ว่าสายตาที่ทุกคนมองหลี่ฝาง ยังเต็มไปด้วยความอิจฉา
หลี่ฝางเดินไปข้างหน้าฉินวี่เฟย และยังคงรักษาระยะห่างระหว่างเธอ ถึงยังไงเขาเพิ่งจะคืนดีกับลู่หลุ่ย ถ้าหากมีการแตะเนื้อต้องตัวอะไร แล้วถูกลู่หลุ่ยเห็น คงจะแย่แน่เลย
“เธอมาเรียนแล้วเหรอ?” หลี่ฝางมองฉินวี่เฟยอย่างแปลกใจ ถึงยังไงนายท่านฉินก็เพิ่งตายไป ยังไม่ถึงเจ็ดวันเลย ทำไมถึงมาเรียนได้ล่ะ
ฉินวี่เฟยส่ายหน้า: “เมื่อฉันมาหาผู้อำนวยการ ยื่นเรื่องขอพักการเรียนน่ะ ฉันในตอนนี้ถือได้ว่าอยู่ในช่วงพักการเรียน ความจริงแล้วฉันก็ไม่รู้ว่าจะได้กลับมาเรียนมั้ย”
“คุณปู่ท่านให้ฉันรับช่วงดูแลตระกูลฉินต่อ ฉันต้องทำตามความปรารถนาของท่าน ลองรับช่วงต่อดู ถ้าหากทำได้ ก็ทำต่อไป ถ้าหากทำไม่ได้ ก็ให้พ่อฉันขึ้นมาทำ จากนั้นฉันก็ไปเป็นเลขาของเขา เรียนรู้ประสบการณ์การบริหารจากเขา ถ้าหากฉันไม่มีความสามารถจริงๆ คงทำได้แต่ต้องกลับมาเรียน” ฉินวี่เฟยฝืนยิ้มพลางพูด
“พูดแบบนี้ เธอจะมาบอกลาฉัน?” หลี่ฝางยิ้มเบาๆ
“ไม่ถือว่าบอกลา ถือว่าฉันมาบอกให้นายรู้ไว้ เกรงว่าหลังจากนี้โอกาสที่จะได้เจอ จะน้อยลงไปมาก แต่ว่าฉันจะคิดถึงนายนะ หากมีเวลา ฉันจะกลับมาหานาย” ฉินวี่เฟยมองหลี่ฝางอย่างทำใจไม่ค่อยได้
หลี่ฝางพยักหน้า แล้วพูด: “ฉันก็เหมือนกัน”
ฉินวี่เฟยจริงใจ แต่หลี่ฝางแค่พูดไปงั้น
ในใจของหลี่ฝางมีฉินวี่เฟย แต่ไม่สามารถจับปลาสองมือได้
ฉินวี่เฟยคือคนที่ลู่หลุ่ยระแวงมากที่สุดคนนึง ดังนั้นหลี่ฝางจึงต้องรักษาระยะห่างกับฉินวี่เฟย
“นายคืนดีกับลู่หลุ่ยแล้วเหรอ?” ฉินวี่เฟยเงยหน้า สายตาเต็มไปด้วยความซับซ้อน
หลี่ฝางพยักหน้า และมองฉินวี่เฟยอย่างประหลาดใจเล็กน้อย: “เธอรู้ได้ยังไง?”
“ฉันเห็นแล้ว”
ฉินวี่เฟยยิ้ม: “วันนี้ที่หน้าประตูมหาลัยก่อเรื่องซะขนาดนั้น ใครจะไม่ไปดูเรื่องครึกครื้นล่ะ”
หลี่ฝางยิ้มแห้งๆ ถึงยังไงฉินวี่เฟย ก็เป็นเหมือนนางฟ้าที่ไม่ยุ่งเรื่องของคนอื่น คิดไม่ถึงว่าจะสนใจเรื่องวุ่นวายด้วย
“คนๆ นั้น คือซือถูเฟยเหรอ?” ฉินวี่เฟยถามขึ้นเสียงเบา
“อืม” หลี่ฝางพยักหน้า: “ใช่ เธอรู้จักเหรอ?”
“เมื่อก่อนพวกเราเคยเจอกันครั้งนึง คุณปู่อยากจะให้ฉันแต่งเข้าตระกูลซือถู แต่ว่าไม่สำเร็จ” ฉินวี่เฟยหัวเราะเหอะๆ
“เธอไม่ชอบเขา?” หลี่ฝางถามต่อ
“เป็นคุณชายของสี่ตระกูลใหญ่ ฉันไม่มีสิทธิ์ไปปฏิเสธเขาหรอก เป็นเขาที่ปฏิเสธฉัน” ฉินวี่เฟยยิ้มแห้งๆ : “ดูเหมือนเขามีความคิดอยู่”
“ใช่แล้ว เมื่อพ่อโทรมาหาฉัน บอกว่าตระกูลจูเก่อเกิดเรื่องแล้ว เป็นตระกูลนายทำใช่มั้ย?”
“อำนาจในเมืองเอกของตระกูลจูเก่อ ถือว่าลึกล้ำมากๆ นายต้องระวังหน่อยนะ” ฉินวี่เฟยพูดเตือนหลี่ฝาง
หลังจากพูดจบ ฉินวี่เฟยก็โบกมือบ๊ายบายให้หลี่ฝาง
“เดี๋ยวก่อน”
หลี่ฝางเรียกฉินวี่เฟยไว้ แล้วล้วงนามบัตรใบนึงออกมาจากกระเป๋า: “นี่คือเบอร์ของลุงเฉียน มีอะไรก็โทรหาเขา ฉันรู้ว่านายท่านฉินเสียแล้ว หุ้นส่วนหลายคนถอนหุ้น คนจะจากไปก็จากไป สัญญาที่ทำไว้เมื่อก่อน ก็ถูกเอาไปเกินครึ่ง”
“ลุงเฉียนจะช่วยเธอเคลียร์ปัญหาพวกนี้นะ” หลี่ฝางพูด
ฉินวี่เฟยส่ายหน้า: “ไม่ต้องหรอก หลี่ฝาง ขอบคุณนะ ฉันจัดการเองได้ ถึงแม้ฉันจะจัดการไม่ได้ ก็ยังมีคุณพ่ออยู่นะ”
“เรื่องที่เธอจัดการไม่ได้ ใช่ว่าพ่อเธอจะจัดการได้ มีหลายอย่าง ไม่ได้ดูที่ทักษะของคน เขาดูที่ความสามารถ ตอนนี้หลายคนรอดูท่าทีของตระกูลฉิน ดังนั้น ตระกูลฉินของพวกเธอต้องมีพันธมิตรที่แข็งแกร่งไว้ แม้แต่ตระกูลมู่หรง ก็ยังเพิ่งไม่ได้”
หลี่ฝางยัดนามบัตรใส่มือฉินวี่เฟย แล้วพูด: “ทำไม หรือว่าให้ฉันช่วยเล็กน้อย เธอยังจะปฏิเสธ?”
ฉินวี่เฟยมองหลี่ฝาง นัยน์ตาเต็มไปด้วยความขอบคุณ
“เอาไปเถอะ ฉันติดค้างเธออยู่” หลี่ฝางพูดเสียงเบา
“นายติดค้างอะไรฉัน? ชีวิตของปู่ฉันเหรอ? นั่นเป็นหลิงหลงที่ติดค้าง และอีกอย่างคุณปู่ตัดก็เป็นคนติดค้างหลิงหลง พวกเราสองคนถือว่าหายกันแล้ว” ฉินวี่เฟยพูด
“ไม่ใช่……” หลี่ฝางส่ายหน้า ที่หลี่ฝางติดค้าง ก็คือความรู้สึกของฉินวี่เฟย
ฉินวี่เฟยเข้าใจความหมายของหลี่ฝาง และยิ้มออกมา: “ที่จริงแล้วระหว่างเรา มันก็แค่การแลกเปลี่ยน นายไม่ต้องรับผิดชอบฉันหรอก ฉันก็ไม่ได้ต้องการ”
“นายไม่ได้ทำผิดอะไรต่อฉัน เป็นฉันที่ผิด ฉันเข้าไปแทรกกลางระหว่างนายกับลู่หลุ่ย ไปเป็นมือที่สาม วันนี้ที่ลู่หลุ่ยกลับมาคืนดีกับนายได้ ฉันดีใจด้วยจริงๆ”
ฉินวี่เฟยยิ้ม แล้วพูด: “ฉันยินดีกับพวกนายด้วย จริงๆ นะ”
“ไม่ต้องฝืนแล้ว ถ้าหากผู้หญิงที่ฉันชอบไปคบกับผู้ชายคนอื่น ฉันก็คงร้องไห้ตาย” หลี่ฝางพูด
“ร้องไห้มีประโยชน์เหรอ? ถ้ามีประโยชน์ ฉันก็จะร้อง” ฉินวี่เฟยตาแดงอยู่ครู่
“ช่างเถอะ เรื่องความรู้สึก ต้องดูโชคชะตา จะไปบังคับมันไม่ได้” ฉินวี่เฟยถอนหายใจ จากนั้นก็เงยหน้ามองหลี่ฝาง แล้วพูด: “หลี่ฝาง ฉันอยากถามนายหนึ่งคำถาม”
“เธอถามมาเถอะ” หลี่ฝางพยักหน้า
“ถ้าหากฉันรู้จักนายก่อนที่นายจะรู้จักกับลู่หลุ่ย นายจะชอบฉันมากว่าเธอมั้ย?” ฉินวี่เฟยคิดว่าตนไม่ได้ด้อยไปกว่าลู่หลุ่ย แต่แค่แพ้ให้กับโชคชะตาเท่านั้น
หลี่ฝางยิ้ม: “ขอแค่ในใจไม่มีใครอยู่ หากพบเธอ คงจะชอบเธอ”
“ฉินวี่เฟย พูดตามตรง ออร่าที่เปล่งประกายบนตัวเธอ มีผู้ชายไม่กี่คนที่จะอดใจไหว”