NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่511 ศัตรูที่คุ้นเคย

บทที่511 ศัตรูที่คุ้นเคย

บทที่511 ศัตรูที่คุ้นเคย

หยิ่นเหล่ยลังเลไม่กี่วินาที แล้วหยิบเบียร์ขึ้นมา แล้วจึงพูด:“โอเค”

รายการนี้ถ้าเอามาได้ งั้นปีหนึ่งตัวเองก็ทำได้ถึงห้าล้าน

ห้าล้านเมื่อเทียบกับเบียร์ขวดหนึ่งแล้ว คุ้มค่าห่าอะไรล่ะ

หยิ่นเหล่ยเงยหน้าขึ้น เริ่มทำการแสดงยกกระดกขวด

ยกกระดกขวดเบียร์นี้ ต้องการเทคนิค โดยเฉพาะอย่างยิ่งยิ่งไปถึงด้านหลัง แรงดันในขวดก็จะยิ่งมาก และก็ยากที่จะดื่มลงไป

ไม่ง่ายเลยที่หยิ่นเหล่ยยกกระดกขวดเสร็จ เพิ่งเอาขวดเหล้าวางลง หลี่ฝางก็ยื่นขวดที่สองให้ทันที ไม่ได้โอกาสหยิ่นเหล่ยได้พักหายใจเลย

“การแสดงเมื่อกี๊ของคุณชายเหล่ยเจ๋งจริงๆ ทำให้เผมดูอีกทีสิ”หลี่ฝางเลิกคิ้วขึ้นหัวเราะ

หยิ่นเหล่ยมองหลี่ฝางด้วยสีหน้าหมองหม่น กัดฟันพูด:“โอเค ในเมื่อคุณชายหลี่อยากดู งั้นผมก็จะสละชีวิตเพื่อแสดง”

หยิ่นเหล่ยรู้อยู่แล้วว่า ทำงานเซลล์ มักจะเจอความยากลำบากหลากหลายรูปแบบ

เช่นถูกมอมเหล้า เช่นถูกเหยียดหยาม……

เซลล์ผู้หญิงก็ยังถูกเอาเปรียบ แม้กระทั่งว่าถูกลากเข้าห้อง ……

ก็แค่ หยิ่นเหล่ยในฐานะคุณชายแห่งต้าหัว กรุ๊ป ไม่เคยคิดว่าวันหนึ่งตัวเองจะได้รับการทรมานแบบนี้

เบียร์ขวดที่สอง หยิ่นเหล่ยเกือบจะอ้วก

ดีที่คอเขาแข็งมาก จึงฝืนดื่มต่อไปอย่างไม่เต็มใจ

“คุณชายเหล่ยคอแข็งมาก มาอีกขวดละกัน”หลี่ฝางพูดนิ่งๆ

หยิ่นเหล่ยไปต่อไม่ได้แล้ว ในกล่องนี้ยังมีอีกแปดขวดเต็มๆ มาทีละขวดทีละขวด เห็นได้ชัดว่าหลี่ฝางจะเอาเขาให้ตาย

“คุณชายหลี่ ผมดื่มต่อไม่ไหวแล้ว ให้ผมพักก่อนแล้วค่อยดื่มได้ไหม?”หยิ่นเหล่ยมองหลี่ฝางด้วยตาแดงๆ พูดขอร้อง

“ได้สิ คุณชายเหล่ยไม่อยากดื่มก็ไม่ต้องดื่ม ใครจะกล้าบังคับคุณล่ะ?”

หลี่ฝางพูดไป ก็เอาสัญญาทิ้งกลับไปที่ไห่เย่น:“บริษัทรักษาความปลอดภัยในเมืองเอก ไม่ต่ำกว่าสิบแห่ง พวกเขาให้เงื่อนไขผมมาแล้ว ไม่ได้แย่ไปกว่าพวกคุณเลย ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับธุรกิจอยู่คนละส่วนกัน จะยอมทิ้งหลักการเพราะเรื่องส่วนตัวไม่ได้ ผมว่าความร่วมมือของพวกเรา ช่างมันเถอะ”

“อย่า คุณชายหลี่ ผมดื่มอีกขวดก็ได้”

หยิ่นเหล่ยฝืนตัวเอง ถือขวดเบียร์ขึ้นมา แล้วดื่มไปทีเดียวรวดอีกครั้ง แต่ดื่มหมดครั้งนี้ หยิ่นเหล่ยรับไม่ไหวแล้วจริงๆ วิ่งออกไปแล้วอ้วกออกมา

“จะอ้วกจริงๆ อาหารยังไม่มาก็ไปอ้วกแล้ว”เลี่ยวข่ายขมวดคิ้วพูด

“ใช่ ความอยากที่จะกินอาหารไม่มีแล้ว”หลี่ฝางก็พูดตาม

ไห่เย่นมองหลี่ฝางอย่างกลัวๆเล็กน้อย

ชีวิตของหยิ่นเหล่ยนี้ ไม่เคยต้องเลียแข้งเลียขาใคร แต่กลับต้องมาเลียแข้งเลียขาหลี่ฝางถึงสองครั้ง ครั้งหนึ่งถึงกับต้องคุกเข่าให้ ส่วนครั้งนี้ต้องดื่มจนอ้วก

ผ่านไปไม่นาน หยิ่นเหล่ยก็กลับมา

สีหน้าของหยิ่นเหล่ย แย่กว่าเมื่อกี๊เยอะเลย

“ขอโทษนะ คุณชายหลี่ คอไม่แข็งเท่าไหร่ ทำให้คุณชายหลี่ต้องเห็นเป็นเรื่องน่าขันเลย”หยิ่นเหล่ยขอโทษหลี่ฝาง

หลี่ฝางหัวเราะ มองหยิ่นเหล่ยอย่างชื่นชม

ต้องบอกว่า หยิ่นเหล่ยนี้อดทนได้เยี่ยมมาก แม้แต่คนโง่ยังมองออกว่า หลี่ฝางจงใจเล่นงานหยิ่นเหล่ย ส่วนหยิ่นเหล่ยก็หันไปมองหลี่ฝางแล้วขอโทษ นี่มันเหมือนกับชาวนากับงูเห่าเลยชัดๆ

“งั้นก็ต่อเถอะ”

แต่หลี่ฝางไม่สามารถปล่อยหยิ่นเหล่ยได้ เบียร์ขวดหนึ่ง ไปวางตรงหน้าของหยิ่นเหล่ย

“คุณชายหลี่ ผมดื่มต่อไปไม่ได้แล้วจริงๆ”หยิ่นเหล่ยขมวดคิ้ว ด้วยใบหน้าลำบากใจ

“คุณชายหลี่ ผมดื่มแทนเขาโอเคไหม?ผมดื่มไปแล้วพอดี”ไห่เย่นจึงพูดขึ้นมาในตอนนี้

หลี่ฝางมองไห่เย่น แล้วใบหน้าก็เย็นชา:“คุณกลัวอะไรถึงต้องดื่มแทนเขา?”

“เขาคือเจ้านายผม”ไห่เย่นพูดด้วยใบหน้าราบเรียบ

“ผมจัดการเหล้าพวกนี้แทนเจ้านายผม นี่ไม่แปลกใช่ไหม?”ไห่เย่นพูด

ได้ยินคำนี้ หยิ่นเหล่ยก็มองไห่เย่นอย่างขอบใจ

หลี่ฝางพยักหน้า:“ในเมื่อคุณยอม งั้นก็ดื่มเถอะ”

ไห่เย่นดื่มรวดเดียวหมดอย่างสบายๆ สีหน้าก็ไม่เปลี่ยนใดๆ แค่ดื่มเสร็จแล้วเรอออกมาเท่านั้น

ตอนนี้พอ ร้านก็เอาอาหารมาเสิร์ฟ หลี่ซ่วยซ่วยคีบเนื้อสองสามชิ้นให้ไห่เย่นอย่างสงสาร:“รีบกินสิ”

หลี่ซ่วยซ่วยไอ้โง่นี่ ไม่รู้ว่ามองไม่ออกจริงๆหรือว่าแกล้งทำเป็นมองไม่ออก ไห่เย่นไอ้ระยำนี่ ปกป้องหยิ่นเหล่ยอย่างเห็นได้ชัด

“หลี่ฝาง ถ้าสัญญาไม่มีปัญหาอะไร พวกเราก็คุยกันดีๆเถอะ ให้พวกเขาเอากำไรให้คุณหน่อยๆ แล้วคุณก็เซ็น”

หลี่ซ่วยซ่วยมองหลี่ฝาง แล้วพูด

“ช่างเถอะ ไม่ต้องแบ่งกำไรมาหรอก”หลี่ฝางมองหลี่ซ่วยซ่วย แล้วพูด:“ให้คุณหมดเลย”

“ขอบคุณนะ หลี่ฝาง”

หลี่ซ่วยซ่วยรู้สึกขอบคุณ จึงดื่มเบียร์ตามไปขวดหนึ่ง

หลี่ฝางไม่ได้ห้าม แค่ตำหนิไปอย่างโกรธๆ:“คุณแพ้แอลกอฮอล์ ต่อไปก็ไม่ต้องดื่มแล้ว”

“ขอบคุณครับ คุณชายหลี่”

ไห่เย่นกับหยิ่นเหล่ย มองมาด้วยสายตาคู่นั้นที่ขอบคุณและตื่นเต้น

หลี่ฝางเงียบไม่พูดอะไร เริ่มกินข้าว

หยิ่นเหล่ยกับไห่เย่นต่างคิดไม่ถึง ว่าจะเซ็นสัญญาได้ไวขนาดนี้ พวกเขายังคิดว่า ได้โครงการนี้ไป อย่างน้อยก็ต้องใช้เวลาหลายวัน

แต่ใครจะไปคิดว่าหลี่ฝางทำได้เร็วขนาดนี้ แค่ประโยคเดียวของหลี่ซ่วยซ่วย หลี่ฝางก็ลงชื่อเลย

ที่จริงหลี่ฝางแค่ทำให้ไห่เย่นดู พิสูจน์ว่าหลี่ซ่วยซ่วยอยู่ข้างกายของตัวเอง ไม่ใช่เพื่อนธรรมดาๆทั่วไป

แค่เพื่อนทั่วไป หลี่ฝางจะเซ็นสัญญาลงไปแค่เพราะคำพูดเดียวของเขาได้อย่างไรกัน?

กินข้าวแล้ว เดิมทีหยิ่นเหล่ยอยากเชิญหลี่ฝางร้องเพลง แต่ถูกหลี่ฝางปฏิเสธ

สิบนาทีถัดมา หลี่ฝางก็ปรากฏตัวที่ก็ปรากฏตัวที่ย่านไนต์คลับ

ตอนนี้ย่านไนต์คลับมีหวางเห้าดูแล

ตอนที่หลี่ฝางเจอหวางเห้า ซินปาก็อยู่ หลี่ฝางทักทาย ซินปากับหวางเห้าก็ยืนขึ้นมาพร้อมกัน

“เจ้านาย คุณมาแล้ว”ทั้งสองพูดพร้อมกัน

หลี่ฝางพยักหน้า ถาม:“ช่วงนี้ย่านไนต์คลับสงบดีใช่ไหม?”

“ใช่ สงบมาก ดูเหมือนจะไม่มีใครก่อเรื่อง แต่มีคนกลุ่มหนึ่ง แอบขายพวกยาในถิ่นของเรา ไม่ได้บอกผมเลย และก็ไม่ได้เข้าหาผมด้วย”

“ผมยังไม่จัดการพวกเขา”หวางเห้าพูด

“ทำไมไม่จัดการพวกเขา?”หลี่ฝางขมวดคิ้ว

“ผมกลัวจะแหวกหญ้าให้งูตื่น……ผมส่งคนแอบติดตามคนพวกนี้ สืบเจ้านายที่อยู่เบื้องหลังได้แล้ว เจ้านายนั้น คุณลองเดาสิคนร้ายที่อยู่เบื้องหลังยานี้คือใคร”หวางเห้ามองหลี่ฝาง แล้วหยุดตอนสำคัญไว้

“ผมไม่มีอารมณ์มาเดา พูดมาเถอะว่าใคร”หลี่ฝางเทเหล้าให้ตัวเอง

“ที่เสนอยานั้น คือหมาจื่อ หมาจื่อคือคนของลูกพี่หลิน หมายความว่า คนร้ายที่อยู่เบื้องหลัง น่าจะเป็นลูกพี่หลิน และคนที่ขายยาพวกนี้ ต่างเป็นคนงานชั่วคราว เป็นจางกงหมิงที่ช่วยผม”

หวางเห้าถอนหายใจ:“นี่ก็คือสาเหตุที่ผมไม่ได้จัดการพวกเขา”

“เจ้านาย คุณว่า……”

หลี่ฝางขมวดคิ้ว ไม่ว่าจะเป็นจางกงหมิงหรือว่าลูกพี่หลิน ก็ล้วนแต่มีความสัมพันธ์ที่เชื่อมโยงกับพวกตัวเอง

หลี่ฝางก็ลำบากใจ

ครั้งที่แล้วหลังจากชุนเซิงทำร้ายพวกลูกคนรวยไปกลุ่มหนึ่งแล้ว ลูกพี่หลินก็หนีหายไปอย่างไร้การติดต่อ เดิมทีคิดว่าเพราะเหตุนี้เขาจะเจียมตัวขึ้นมา คิดไม่ถึงว่า เขากลับยิ่งแย่ลงไปอีก

จู่ๆลูกพี่หลินก็เอาธุรกิจจากตงไห่ มาทำที่เมืองเอก

“ห้ามได้ก็ห้ามเถอะ อย่าออมมือ ไม่งั้นจะถูกตำรวจสืบเจอได้ ถิ่นของพวกเราก็จะเป็นไปได้ที่จะถูกปิด”หลี่ฝางพูดเสียงทุ้ม

ถึงจะบอกว่าหูเฟยคือคนของตัวเอง แต่ที่สถานีตำรวจนั้น ก็ไม่ใช่ว่าหูเฟยพูดอะไรก็ว่าตามนั้น

มู่เสี่ยวไป๋ สี่ตระกูลใหญ่ แต่ละคนต่างมีคนของตัวเองที่มีความสัมพันธ์อยู่ในนั้น

ถ้าพวกเขาส่งคนมาตรวจสอบ หลี่ฝางจะเกิดเรื่องใหญ่ได้

“โอเค รหัสลับที่เชื่อมต่อของคนพวกนี้ผมรู้มาเรียบร้อยหมดแล้ว อยากจะจับพวกเขา ก็แค่พูดไป”หวางเห้าพยักหน้า แล้วพูด

“แต่ ถ้าแบบนั้น จางกงหมิงก็จะเสียหายไม่น้อย”

“เสียหายโดยตรงก็ว่าไปอย่าง ถ้าพวกเราลงมือขึ้นมา แล้วเขายังจะมาค้ายาที่ถิ่นของพวกเราอีก ก็ยากแล้ว……ผมได้ยินว่า จางกงหมิงกับลูกพี่หลิน ในมือนั้นถือสินค้าไว้ตั้งมาก ถ้าขายไม่ออก เขาสองคนก็อาจจะมาเล่นงานได้”

หวางเห้าพูดอย่างลำบากใจหน่อยๆ

หลังจากที่หุ้นส่วนจัดการเสือ หวางเห้าก็เกิดความรู้สึกดีขึ้นมาต่อจางกงหมิง

หวางเห้าในตอนนี้ ถ้าหลี่ฝางไม่เตือน หวางเห้าก็ไม่อยากเป็นศัตรูด้วย

หวางเห้ามองหลี่ฝาง ถามลองเชิง:“เจ้านาย ที่จริงกำไรของสิ่งนี้นั้นเยอะมาก ถ้าจางกงหมิงแบ่งให้พวกเรา ผมว่า พวกเราทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นได้”

ได้ยินคำนี้ คิ้วของหลี่ฝาง ก็ขมวดทันที

“ทำไม คุณไม่มีเงินเลยหรือไง?”หลี่ฝางมองหวางเห้าอย่างเย็นชา แล้วถาม

หวางเห้าส่ายหน้า:“ผมมีเงิน แค่อยากหาเงินให้ได้มากกว่านี้”

“เงินบางอย่างหาได้ เงินบางอย่างก็หาไม่ได้ ในใจของคุณต้องมีเส้นตายของตัวเอง”หลี่ฝางมองหวางเห้า พูดสั่งสอน:“ถ้าคุณแตะต้องเส้นตายนี้ ผมไม่ใช่แค่ไม่ปล่อยคุณแน่ แต่ยัง……”

“ช่างเถอะ อย่าแตะต้องละกัน

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท