NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 539 เหตุผลที่ส้าวส้วยไม่ลงมือ

บทที่ 539 เหตุผลที่ส้าวส้วยไม่ลงมือ

บทที่ 539 เหตุผลที่ส้าวส้วยไม่ลงมือ

โก่เอ๋อขึ้นไปบนรถของส้าวส้วย สีหน้าราวกับว่าไม่ค่อยเต็มใจ

จะว่าไป เธอกับส้าวส้วยก็ไม่ได้สนิทสนมกัน พอขึ้นรถก็กล่าวอย่างเย็นชา: “หลี่ฝางบอกให้ฉันมาขึ้นรถนาย”

ส้าวส้วยพยักหน้า แล้วกล่าวถามอย่างไม่ค่อยมั่นใจ: “เจ้านายยกบาร์ให้ป๋ายหม่าแล้ว?”

โก่เอ๋อได้ยินดังนั้น ก็จ้องมองส้าวส้วยอย่างตลึง: “เชรดแม่ง นายมีตาทิพย์หรือไง?”

“นายรู้ได้ยังไงน่ะ?” โก่เอ๋อมองส้าวส้วยอย่างไม่อยากจะเชื่อ พลางกล่าวถาม

ยังไงซะเรื่องนี้พึ่งได้เกิดขึ้นเมื่อสักครู่นี่เอง โก่เอ๋อไม่ค่อยจะเข้าใจ ส้าวส้วยคนนี้รู้ได้ยังไงกัน?

ส้าวส้วยชี้ไปที่กล้องส่องทางไกลที่ว่าอยู่ที่นั่งข้างคนขับ: “ผมมองเห็นแล้ว”

“มอง?” โก่เอ๋อมองส้าวส้วยอย่างงงงวยมากขึ้นกว่าเดิม ชักจะไม่เข้าใจไปใหญ่แล้ว

ส้าวส้วยหัวเราะเหอะ ๆ แน่นอนว่าเขาไม่ได้บอกเรื่องที่เขาอ่านภาษาปากได้กับโก่เอ๋อ

ส้าวส้วยสตาร์ทรถ และขับตามป๋ายหม่าออกไป

“ฉันว่านะเจ้านายของพวกนายนี่หลายใจจริง ๆ เลย เขามีลู่หลุ่ยเป็นแฟนอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงได้มีหลินชิงชิงเพิ่มขึ้นมาอีกล่ะ ทั้งยังเอ่ยปากเรียกพ่อตาแล้วด้วย”

น้ำเสียงของโก่เอ๋อ ค่อนข้างจะไม่ปกติอย่างเลี่ยงไม่ได้ ส้าวส้วยยิ้มเล็กน้อย: “ทำไม ในหมู่พวกคุณชายที่เธอรู้จัก ไม่มีใครหลายใจเลยหรือยังไง?”

“มันก็มี แต่ไม่มีถึงขั้นอย่างเขา ได้ยินว่าหลี่ฝางคนนี้เพื่อลู่หลุ่ยแฟนสาวฆ่าคนตายไปแล้ว…… ดูไม่ออกเลย คนคนนี้ปกติแล้วปอดแหกจะตาย ราวกับผู้หญิงแน่ะ ตอนที่เดือดดาลขึ้นมา ก็ดูเป็นผู้ชายดีนี่”

โก่เอ๋อยิ้มอย่างเย็นชาจนพูดจบ ทันใดนั้นเองสีหน้าของส้าวส้วยก็เคร่งเครียดขึ้นมา: “คนสวย ข้าวสามารถกินได้ตามอำเภอใจ แต่จะพูดตามอำเภอใจไม่ได้ เธอไม่มีหลักฐาน ก็อย่าได้พูดจาเหลวไหล ระวังจะเป็นปลาหมอตายเพราะปากนะ”

“ต่อให้เธอไม่กลัวความหายนะ แต่เจ้านายของพวกเรากลัว ถ้าพูดเหลวไหลต่อไป ไม่แน่ว่าอาจจะมีสักวันที่หายน่าจะตกลงบนหัวเจ้านายของเรา”

“ขอร้องเธอให้ปล่อยเจ้านายของพวกเราไปเถอะนะ” ส้าวส้วยกล่าว

โก่เอ๋อหัวเราะเหอะ ๆ :” นายจะกลัวอะไร? ฉันไม่ใช่เด็กสักหน่อย แล้วก็ไม่ใช่คนปัญญาอ่อน เรื่องแบบนี้ ฉันไม่ไปเที่ยวพูดกับทุกคนหรอก”

“แต่ว่าเจ้านายของพวกนายก็คลั่งใคร่ในความรักเหมือนกันเนอะ

“นี่ยังไม่ทันได้แต่งงานเลย เพื่อช่วยพ่อตาของตัวเอง ยอมทิ้งไปตั้งสามพันล้านแน่ะ ถ้าหากสุดท้ายแล้วหลินชิงชิงอะไรนั่นไม่ยอมแต่งกับเขา นานว่าเจ้านายของนายจะร้อยใจจนตายหรือเปล่า?”

โก่เอ๋อมองดูส้าวส้วยพลางถาม: “ในหมู่คุณชายที่ฉันรู้จัก ลงทุนจีบผู้หญิงมากที่สุด ก็คือซื้อบ้าน ถึงบ้านที่เมืองหลวงของเราจะแพงมาก แต่สำหรับเงินดาวน์แล้ว ก็ไม่ได้มากมายอะไร เมื่อจ่ายเงินดาวน์ไปแล้ว ผู้หญิงคนนี้ก็จะไปจากคุณชายนั้นไม่ได้ ยังไงซะต่อให้แยกจากกัน เกรงว่าค่างวดในแต่ละเดือนหล่อนก็คงไม่มีปัญญาจ่าย”

“แน่นอนว่า ก็มีบ้างที่โชคดี ทันเวลาที่ราคาอสังหาฯ สูงขึ้น ต่อให้ถูกทั้งไป ก็ถือว่าไม่ขาดทุน”

“ไปกันใหญ่แล้ว คุณคนสวย พวกคุณชายเจ้าสำราญนั่น ไม่เหมือนกันกับเจ้านายของพวกเรา” ส้าวส้วยขัดจังหวะโก่เอ๋อ กล่าว

“ไม่เหมือนกันตรงไหน?” โก่เอ๋อซักถาม

“ขอบเขตไม่เหมือนกัน พวกคุณชายเจ้าสำราญที่เธอรู้จัก ก็แค่เพียงเพราะเรื่องแบบนั้น แต่เจ้านายของพวกเรา ระหว่างเขาและหลินชิงชิงเป็นความรักที่แท้จริง”

“อย่าว่าแต่แค่บาร์เล็ก ๆ แห่งหนึ่งเลย ในเวลาที่จำเป็น เจ้านายของพวกเราสามารถใช้แม้กระทั่งชีวิตเพื่อปกป้องหลินชิงชิง และเพื่อปกป้องพ่อของหลินชิงชิง”

ส้าวส้วยกล่าว: “เจ้านายใช้หัวใจเพื่อไปรักผู้หญิงคนหนึ่ง”

หลังจากที่โก่เอ๋อได้ยินดังนั้น เธอก็เบ้ปาก ผ่านไปนานก็ไม่ได้พูดอะไรอีก

ในเวลานี้ ท้องฟ้าได้ค่อย ๆ สว่างแล้ว ส้าวส้วยขับตามรถของป๋ายหม่า จนมาถึงหน้าประตูของ Recalling the past

“นานแล้วที่ไม่ได้กลับมา” ส้าวส้วยลงจากรถ และยืนอยู่ที่หน้าประตู Recalling the past แล้วยิ้มอย่างสลับซับซ้อน

“เลิกคิดคะนึงฝันได้แล้ว บาร์แห่งนี้ อีกไม่นานก็จะกลายเป็นของคนอื่นแล้ว” โก่เอ๋อกล่าว พลางหดตัวลง

“แม่ง หนาวจนจะตายอยู่แล้ว เมื่อกี้ตอนที่เผชิญหน้ากับห่ากระสุนปืน ฉันไม่เห็นจะรู้สึกว่าหนาวเลย ตอนนี้พอลงจากรถปั๊บ หนาวจนฉันสั่นไปหมดทั้งตัว หลี่ฝางไอ้คนโง่เง่าเต่าตุ่น หลอกฉันออกไปทานอาหารรอบดึก สุดท้ายเกือบทำให้ฉันต้องกินลูกปืนแทน……” โก่เอ๋อโมโหกัดฟันกรอด พลางกระทืบเท้า เธอเปิดประตูรถ แล้วกลับเข้าไปข้างใน

และส้าวส้วยก็ได้เดินมาถึงข้างหน้าหลี่ฝาง แล้วกระซิบถาม: “เจ้านาย คุณเตรียมที่จะยกบาร์ให้กับคนอื่นจริง ๆ เหรอครับ”

หลี่ฝางอืมรับคำ กล่าว: “สุภาพบุรุษพูดแล้วไม่คืนคำ ฉันได้พูดออกไปแล้ว”

จากนั้น หลี่ฝางมองส้าวส้วยอย่างตำหนิเล็กน้อย กล่าว: “นายมาถึงนานแล้ว ใช่ไหม?”

ส้าวส้วยพยักหน้า ไม่ได้ปิดบังอะไร: “บนรถของคุณมีเครื่องติดตามอยู่ เพียงแค่คุณขับรถ ผมก็จะรับรู้ได้ในทันที ตั้งแต่ตอนที่คุณช่วยลูกพี่หลินเอาไว้ ผมก็ได้ตามมาแล้ว”

“แล้วทำไมถึงไม่ลงมือ?” หลี่ฝางจ้องมองส้าวส้วย แล้วถามอย่างเรียบ ๆ

หลี่ฝางทราบ ด้วยฝีมือของส้าวส้วย ถ้าหากเขาลงมือล่ะก็ ไม่ว่าจะเป็นตัวเองหรือลูกพี่หลิน จะไม่สะบักสะบอมแบบนี้แน่นอน

“เพราะลูกพี่หลิน ผมไม่อยากจะช่วยเขา”

ส้าวส้วยกล่าว: “เขาทำอะไร คิดว่าคุณน่าจะรู้ดีกว่าผม เรื่องนี้ ผมไม่อยากจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วย ขอเพียงแค่ไม่มีใครทำร้ายคุณ ผมก็จะไม่ลงมือ”

“เจ้านาย ถ้าคุณจะกล่าวโทษผม ก็ไม่เป็นไร” ส้าวส้วยก้มหน้า ราวกลับได้กระทำผิดไป

หลี่ฝางถอนหายใจ และตบที่ไหล่ของส้าวส้วยเบา ๆ : “ช่างเถอะ ฉันไม่มีสิทธิ์ไปต่อว่านาย”

“เจ้านาย ถ้าคุณไม่ยินดีที่จะยกบาร์แห่งนี้ให้เขา เขาก็ไม่มีปัญญาที่จะเอามันไปได้” ส้าวส้วยกล่าวอย่างมั่นอกมั่นใจสุดขีด

ถึงแม้ในมือของป๋ายหม่า จะมีปืนอยู่

อีกทั้ง ด้านหลังของป๋ายหม่า จะมีหมาจื่อและพวกลูกน้องอยู่

แต่ว่า คนพวกนี้ ส้าวส้วยไม่ได้เห็นอยู่ในสายตาแม้แต่น้อย

ป๋ายหม่าเงี่ยหูฟัง แล้วก็ได้ยินคำพูดของส้าวส้วย ทันใดนั้นประสาทของเขา ก็เคร่งเครียดขึ้นมาทันที

เมื่อสักครู่วินาทีแรกที่เขาพบกับส้าวส้วย ส้าวส้วยได้เดินเข้ามาหาเขา พร้อมกับได้ต่อสู้กับเขา เพียงแค่กระบวนท่าเดียว ก็ทำให้ป๋ายหม่ารับรู้ถึงความสิ้นหวัง

ในตอนนั้นป๋ายหม่าก็เข้าใจในทันที คนคนนี้เป็นยอดฝีมือ

ป๋ายหม่าที่อยู่ในยุทธภพมานาน ไม่ใช่ว่าจะไม่เคยเห็นการมีตัวตนอยู่ของยอดฝีมือ

แต่ยอดฝีมือระดับส้าวส้วย นี่กลับเป็นครั้งแรกที่ป๋ายหม่าได้เห็น

ชัดเจนว่าศัตรูที่อยู่ตรงหน้านี้ ไม่ใช่คนที่ตัวเองจะต่อกรด้วยได้ ส้าวส้วยลงมือกับเขาเพียงกระบวนท่าเดียว ก็เกือบจะเอาชีวิตเขาได้ แต่ว่า ไม่นานส้าวส้วยก็ปล่อยเขาไป และได้กล่าวเตือนเขา ว่าอย่าแตะต้องหลี่ฝางและโก่เอ๋อ ไม่อย่างนั้นล่ะก็ จะต้องรับผิดชอบกับผลที่ตามมา

วินาทีนี้เอง ในขณะที่ป๋ายหม่าได้ยินว่าส้าวส้วยคิดจะเปลี่ยนใจ เส้นประสาทของเขา ก็เคร่งเครียดขึ้นมาในทันที

หรือว่า ผลประโยชน์ที่ตกอยู่ในมือ กำลังจะบินหนีไปแล้ว?

“ช่างเถอะ ในเมื่อรับปากเขาแล้ว ก็ให้เขาเถอะ ขอเพียงปกป้องลูกพี่หลินเอาไว้ได้ก็พอแล้ว” หลี่ฝางครุ่นคิดอยู่สักพัก จากนั้นก็ทอดถอนใจ กล่าว

ถึงแม้บาร์แห่งนี้จะมีมูลค่ามหาศาล ซึ่งมีมูลค่าถึงสามพันกว่าล้าน หากให้ป๋ายหม่าไปจริง ๆ ก็จะน่าเสียดายมาก

พูดความจริง ภายในใจของหลี่ฝางเอง ก็เสียดายอยู่ไม่น้อย

แต่ว่า ถ้าหากไม่ให้ นั่นก็หมายความว่าจะต้องฉีกหน้ากับป๋ายหม่าอย่างไม่ต้องสงสัย ป๋ายหม่าเพียงคนเดียวบางทีอาจจะพอจัดการได้ แล้วคนที่อยู่ข้างหลังป๋ายหม่าล่ะ?

ข้างหลังของป๋ายหม่า จะต้องมีกองกำลังมหาอำนาจอยู่อย่างแน่นอน ถ้าเกิดเพราะบาร์แห่งนี้ ทำให้เกิดการปะทะกับพวกเขา ทำให้พ่อของตัวเอง ต้องเผชิญหน้ากับศัตรูที่แข็งแกร่ง แบบนั้นคงแย่แน่เลย

หลี่ฝางเอ่ยกับส้าวส้วย: “นายรอฉันอยู่ข้างนอกสักพัก เมื่อเซ็นสัญญาเสร็จ พวกเราก็จะกลับออกมา”

ส้าวส้วยหยิบบุหรี่ออกมามวลหนึ่ง จากนั้นก็จุดมันให้ตัวเอง

ส้าวส้วยรู้ฐานะของตัวเองดี การตัดสินใจของหลี่ฝาง เขาไม่เคยที่จะคัดค้านเลยสักครั้ง

เขาเพียงแค่มองป๋ายหม่าแวบหนึ่ง แล้วยิ้มอย่างมีเลศนัย: “หวังว่านายจะดูแลบาร์แห่งนี้ได้เป็นอย่างดี”

“ได้อย่างแน่นอน”

ถึงแม้เวลาที่ป๋ายหม่าอยู่ต่อหน้าส้าวส้วยค่อนข้างที่จะขี้ขลาดอ่อนแอ แต่ถึงยังไงข้างหลังก็มีคนคอยหนุน เขาไม่จำเป็นต้องกลัวจนไม่กล้ารับเอาบาร์แห่งนี้ไว้

ในเวลาไม่นาน ชายหนุ่มคนหนึ่ง เดินมาหยุดลงที่ตรงหน้าป๋ายหม่า เขาหยิบเอาเอกสารหนึ่งปึก ออกมาจากกระเป๋าถือของเขา: “เจ้านาย เอกสารของคุณผมได้ถ่ายเอกสารไว้ให้หมดแล้ว เพียงแค่ทั้งสองฝ่ายเซ็นชื่อ บาร์แห่งนี้ก็จะเป็นของคุณทันที”

“พวกเราไปเซ็นสัญญากันที่ข้างใน พอดีฉันก็จะดูบาร์แห่งนี้ให้ดี ๆ หน่อย เมื่อก่อนเคยมาอยู่ครั้งหนึ่ง แต่ก็เพียงดูแค่คร่าว ๆ เท่านั้นเอง ครั้งนี้ ฉันจะใช้ฐานะเจ้าของ ตรวจชมให้ละเอียด” ป๋าหม่ากล่าวอย่างยิ้มแย้ม

หลี่ฝ่านพยักหน้าเล็กน้อย แล้วก้าวเท้าเดิน และในขณะที่พวกหมาจื่อ กำลังจะหามลูกพี่หลินขึ้นมานั่นเอง หลี่ฝางก็ได้เอ่ยขึ้น: “พ่อตาของฉันขยับตัวไม่สะดวก ให้เขารออยู่ในรถเถอะ”

“ได้ ยังไงก็แค่เซ็นสัญญาเอง เข้าไปแค่พวกเราสองคนก็พอแล้ว”

“หาจื่อ นายรออยู่ข้างนอกก่อนสักพัก ฉางชิง หมอที่ฉันเตรียมไว้ อีกไม่นานก็มาถึงแล้ว พวกนายช่วยเรียกคนมาให้ฉันหน่อยแล้วกัน รอฉันเซ็นสัญญาเสร็จแล้ว จะต้องจัดการอย่างละเอียดอีกสักหน่อย” ป๋ายหม่ากล่าว พลางยิ้มมุมปากอย่างเปี่ยมล้นไปด้วยความสุข

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท