NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่529 ชางสู่ใกล้กลับมาแล้ว

บทที่529 ชางสู่ใกล้กลับมาแล้ว

บทที่529 ชางสู่ใกล้กลับมาแล้ว

“หมาจื่อไม่มีอะไรน่ากลัว แต่คนที่อยู่เบื้องหลังเขานั้น คุณว่าคุณแตะต้องเขาได้เหรอ?”ลูกพี่หลินเลิกคิ้วขึ้น มองชายผมยาว

ชายผมยาวพ่นลมออกมา สักพักจึงพูดว่า:“ลูกพี่ ผมจะไปจัดการให้คุณ”

หลังจากชายผมยาวเข้าไปในห้องเล็กๆ หลี่ฝางก็มองลูกพี่หลินแล้วพูด:“ลูกพี่หลิน คุณจะไปจริงๆเหรอ”

“ใช่ ถ้าผมไม่ไป ก็ไม่มีทางรอดแน่”

“ผมไม่ตาย หมาจื่อก็ไม่สามารถขึ้นตำแหน่งได้จริงๆ รับถิ่นของผมไปดูแล ผมไม่ตาย ผู้ชายคนนั้นที่อยู่เบื้องหลังหมาจื่อ ก็ไม่ปล่อยผม ถึงแม้ผมจะขุดหลุมลึกลงไปสามนิ้ว พวกเขาก็จะจับผมออกมาให้ได้”

“สถานที่นี้ ซ่อนได้ไม่นาน อย่างมากก็สองวัน พวกเขาจะต้องมาหาถึงที่ ถึงตอนนั้น ไม่ใช่แค่ไม่มีชีวิต แม้แต่ฉางเหมาก็จะต้องเสียชีวิตไปกับผมด้วย”

ลูกพี่หลินพูดอย่างทำอะไรไม่ได้:“ผมก็ไม่อยากไปจากบ้านเกิด พลัดจากที่อยู่ไปอย่างคนสิ้นเนื้อประดาตัว ผมเองก็อยากอยู่ที่นี่ ……เห้อ ชีวิตผมไม่อาจควบคุมได้”

“หมาจื่อคือคนที่คุณเชื่อใจที่สุด เขาจะทรยศคุณได้ไง?”หลี่ฝางไม่อยากจะเชื่อหน่อยๆ

หลี่ฝางเคยได้ยินเรื่องหมาจื่อ มาจากหลินชิงชิงกับจางกงหมิง ไม่ใช่แค่ลูกพี่หลินเชื่อใจเขา แม้แต่คนที่จางกงหมิงกับหลินชิงชิงเชื่อใจที่สุด ก็คือเขา

พูดได้ว่าหลังจากที่จางกงหมิงจากไป ตำแหน่งของลูกพี่หลิน ไม่ช้าก็เร็วก็จะตกไปอยู่ที่หมาจื่อ

แต่จู่ๆหมาจื่อก็พลิกกลับ นี่มันไม่สมเหตุสมผลเลย

“หลี่ฝางใช่ไหม?ผมเรียกคุณว่าเสี่ยวฝางได้ไหม”ลูกพี่หลินถาม

“ได้สิ”หลี่ฝางพยักหน้า เห็นด้วย

“เสี่ยวฝาง ผมบอกคุณให้นะ สังคมนี้ โดยเฉพาะเรื่องที่ยุทธภพ ไม่เคยมีความภักดี หมาจื่อติดตามผม ก็เพื่อว่าวันหนึ่งจะได้ใช้ชีวิตอย่างมั่งคั่ง และตอนนี้ ตอนนี้มีคนให้ความมั่งคั่งแก่เขาได้ คุณว่าหมาจื่อจะปฏิเสธไหม?”ลูกพี่หลินมองหลี่ฝางแล้วถาม

หลี่ฝางส่ายหน้า:“แต่คุณดีกับเขาขนาดนั้น ตำแหน่งของเขาในตอนนี้ ก็แค่เป็นรองคุณ หรือว่าเขาไม่พอใจอีก?”

“หอใจ?เหอะเหอะ จิตใจคนมีคำว่าพอใจด้วยเหรอ ตอนคุณมีแค่นิดเดียว จะไม่คิดถึงชีวิตที่มีมากกว่านั้นเหรอ ตอนเด็กๆหมาจื่อก็แค่นักเลงตัวเล็กๆ แม้แต่กินข้าวมื้อหนึ่ง ก็จะกลัดกลุ้ม หลังจากติดตามผมมา แต่ละมื้อจะต้องอุดมสมบูรณ์ด้วยอาหาร พอกินข้าวเสร็จ ก็ต้องหาผู้หญิงมาช่วยระบาย คุณภาพของผู้หญิงก็สูงขึ้นเรื่อยๆ ถ้าไม่ใช่ว่าผมที่รีบเอาชิงชิงไปหมั้นกับมู่เสี่ยวไป๋ กลัวว่าหมาจื่อ ก็จะคิดไม่ดีต่อชิงชิง”

“แต่นี่ก็ไม่อะไร ผู้ชายไหมล่ะ ลามกกันทั้งนั้น นี่มันปกติมาก ที่ทำให้หมาจื่อทรยศจริงๆ ก็เพราะว่าเขาไปยุ่งกับยา คนเราถ้าหากไปยุ่งกับสิ่งนี้แล้ว ก็จะค่อยๆเสียความเป็นตัวเองไป”

“อีกอย่าง หมาจื่อก็ยังเล่นการพนันด้วย เขาเป็นหนี้พนันไปหลายล้าน ล้วนแต่เป็นเงินกู้นอกระบบของบ่อนพนัน คุณว่า ในเมื่อคนพวกนี้กล้าปล่อยเงินให้เขาแล้ว จะไม่ใช้วิธีการสักหน่อยเพื่อเอาคืนมาเหรอ?”

“คนพวกนี้ที่ปล่อยเงินกู้นอกระบบ ล้วนแต่ไม่ใช่คนที่ขี้ขลาด ผมเองก็ไม่ไหวแล้ว ผมช่วยเขาไปตั้งหลายครั้ง แต่ยังไงเขาก็ไม่ใช่ลูกชายแท้ๆของผม ผมจะตามใจเขาทุกๆครั้งแบบนี้ไม่ได้หรอกใช่ไหมล่ะ?”

“สิ่งเล็กๆน้อยๆพวกนี้ ล้วนแต่เป็นส่วนสำคัญที่เอาชนะความทรยศของเขา มีคนมาหาเขา คืนเงินแทนเขา เอายาให้เขากิน และยังสนับสนุนเขาให้เขามาแทนที่ผมอีก ถึงตอนนั้น เขาก็ไม่ต้องเป็นคนที่ถูกคนอื่นคอยสั่งอีกต่อไป”

“มาเป็นนักเลงแบบนี้ ใครบ้างไม่อยากเป็นลูกพี่ล่ะ เป็นลูกน้อง ถ้าลูกพี่พูดอะไร ก็ต้องทำอย่างนั้น ดังนั้นคนที่อยู่ต่ำกว่า ต่างมีความคิดที่จะขึ้นมาทั้งนั้น แต่คนพวกนี้ไม่คิดว่า เป็นลูกพี่ยากแค่ไหน เป็นลูกพี่นี้ ทำอะไรเลอะเลือนไม่ได้ ไม่ว่าสถานการณ์ไหนๆ ก็ต้องมีสติตลอดเวลา เพราะถ้าคุณเกิดมั่วขึ้นมา พวกลูกน้องนั้น ก็จะมั่วตาม ศัตรูก็จะมีโอกาสฉวยโอกาส”

“บวกกับทางผมนั้นค่อนข้างซับซ้อน เพื่อเงิน ก็ทำการซื้อขายที่ผิดกฎหมายมานานตั้งหลายปีแล้ว ตอนนี้ทำเงินได้เยอะแล้ว ก็ติดเข้าไปด้วย ออกมาไม่ได้ อยากออกมาน่ะได้ เอาชีวิตทิ้งไว้ เห้อ เสียใจก็ช้าไปแล้ว”

“หมาจื่อดีกว่าผม เขาไม่มีอะไรผูกมัดไว้ ไม่มีครอบครัว อยู่ตัวคนเดียว จึงกล้าสู้กล้าบุก เขาคือคนที่ถูกเลือดคนต้นๆของคนพวกนั้น ที่จริงผมก็ฝึกฝนเขามาตลอด ให้เขาค่อยๆสัมผัสกับคนพวกนั้น แผนเดิมของผม ให้เขาค่อยๆมาแทนที่ผม แล้วตัวเองก็จะเดินจากไป แต่ใครจะไปรู้ คนพวกนั้นอ่านความคิดของผมออก หมาจื่อก็รีบร้อนไป ไปฟังคำพูดคนพวกนั้น จะฆ่าผมจริงๆ”

“เห้อ ที่จริงวันนี้ผม ถือว่าเอาชีวิตกลับคืนมาได้”

ตอนที่ลูกพี่หลินพูดคำนี้ ทั้งใบหน้าก็เต็มไปด้วยความที่ผ่านโลกมาอย่างโชกโชน

หลี่ฝางมองลูกพี่หลิน สีหน้าซับซ้อน:“ลูกพี่หลิน ทำไมคุณพูดกับผมตั้งมากมาย?”

“พอเถอะ ไอ้น้อง ยังจะมาเสแสร้งกับผมอีก ถิ่นของเหยสง ถูกคุณแย่งไปหมดแล้ว ตอนนี้คุณก็คือลูกพี่แล้ว เลยถ่ายทอดประสบการณ์กับคุณหน่อย ไม่ดีหรือไง?คำพูดพวกนั้นเมื่อกี๊ คุณฟังได้แค่ไหน ก็รับไปแค่นั้นเถอะ”

“การเรียนรู้ผิดถูกจากคนอื่น เหตุผลนี้คุณน่าจะเข้าใจดีนะ หรือพูดอีกอย่างว่า ถึงผมพูดมาก ก็มักจะมีอยู่ประโยคหนึ่ง ที่จะช่วยให้วันข้างหน้าคุณล้มลุกคลุกคลานน้อยลง”

ลูกพี่หลินมองหลี่ฝาง สายตานั้นเร่าร้อน:“เป็นลูกพี่นี้ ต้องมีทางถอยให้ตัวเองด้วย ผมมี ตอนนั้นพ่อคุณก็มี แค่เสียดายที่ทางถอยของพ่อคุณ ถอยออกมาไม่ได้”

“ทางถอยของผม เกือบจะทำไปฟรีๆ ต้องขอบคุณคุณ”

ลูกพี่หลินนิ่งไป แล้วพูดไปว่า:“เทน้ำให้ผมหน่อย แล้วก็เอาบุหรี่มาให้ผมอีก ผมจะคุยจ้อกับคุณสักหน่อย”

หลี่ฝางมองไปรอบๆ เทน้ำให้ลูกพี่หลิน หยิบบุหรี่ออกมาจากกระเป๋าของตัวเอง จุดให้ลูกพี่หลิน:“ก็หวังว่าลูกพี่หลินจะชี้แนะ”

“ยังเรียกลูกพี่หลินอีก?”ลูกพี่หลินมองหลี่ฝาง ก็โมโหหน่อยๆ

“คุณลุงหลิน”หลี่ฝางเปลี่ยนทันที

“ช่างเถอะ ผมเหนื่อยแล้ว ไม่พูดแล้ว”ลูกพี่หลินหลับตาลง เตรียมนอน

“พ่อตาครับ พ่อตา อีกเดี๋ยวคุณค่อยไปนอนเถอะ”หลี่ฝางไม่ได้โง่ ลูกพี่หลินจะต้องไม่ได้เหนื่อยจริงๆจนอยากพักผ่อนแน่ แต่ต้องการให้หลี่ฝางเปลี่ยนคำพูด

หลี่ฝางคิดในใจ ยังไงซะลูกพี่หลินนี้ก็ใกล้จะหนีแล้ว เปลี่ยนคำพูดแล้วจะเป็นไร?

“เด็กอย่างคุณนี่ฉลาดมาก มีความเป็นลูกพี่อยู่”

ลูกพี่หลินหัวเราะ สูบบุหรี่ไปพูดไป:“วัยรุ่นอย่างคุณนี้ ปากต้องหวานอยู่แล้ว เข้าใจไหม?โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้อาวุโส ถ้าคุณปากหวาน ความสัมพันธ์ของพ่อคุณ คุณก็ยังมีเหลืออยู่บ้าง ถ้าคุณปากเสีย ไม่มีความปากหวาน ความสัมพันธ์พวกนี้ก็จะจบเห่”

หลี่ฝางได้ยินคำนี้ ก็ขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ

ลูกพี่หลินมองออกว่าหลี่ฝางโกรธ รีบหัวเราะแล้วพูด:“ผมเป็นคนแข็งกระด้าง มีอะไรก็พูดอย่างนั้น ปากของผมนี้ ถ้าพูดอะไรผิดไปคุณอย่าถือสาเลย ฉันไม่ได้ตั้งใจจะด่าพ่อคุณ ก็แค่เดินบนเส้นทางนี้ ก็เท่ากับว่าอันตรายมากๆ ความอันตรายสูง”

“ตอนนี้ในมือของคุณมีสามคนใช่ไหม?คนหนึ่งคือหวางเสี่ยวหยวน อีกคนหนึ่งคือเฉินฝูเซิง และอีกคนคือหวางเห้า”ลูกพี่หลินมองหลี่ฝาง แล้วพูดต่อ

สีหน้าของหลี่ฝาง ตะลึงไป:“ลุง ลุงรู้ได้ไง?”

หลี่ฝางแปลกใจหน่อยๆ ยังไงลูกพี่หลินก็เป็นนักเลงที่ตงไห่ แต่ทำไมถึงเข้าใจดี กับการกระจายอำนาจของเมืองเอก

“คุณเรียกผมว่าไงนะ?”ลูกพี่หลินจ้องหลี่ฝาง

“พ่อตา พ่อตา เพิ่งเปลี่ยนคำพูด จึงไม่ค่อยชินน่ะ”หลี่ฝางหัวเราะหึหึ

“ก็เรียกเยอะๆ เรียกต่อไปอีกสามนาที ผมรับประกันเลยเดี๋ยวคุณก็ชิน มา เรียกสิ”ลูกพี่หลินหยิบแก้วน้ำขึ้นมา โดยที่ไม่เงยหน้า

หลี่ฝางหมดหนทาง เพิ่งเป็นลูกพี่ เขาเลยไม่มีประสบการณ์นัก ส่วนลูกพี่หลิน เป็นลูกพี่มาทั้งชีวิต ไม่รับประสบการณ์จากเขา งั้นชีวิตในวันนี้ ก็คงช่วยไปฟรีๆสิ

“พ่อตา พ่อตา……พ่อตา”

หลี่ฝางเรียกติดกันประมาณสามนาที เรียกจนปากแห้งไปหมด ที่หน้าของลูกพี่หลิน ก็เบิกบานสุดๆ:“โอเค ผมได้ยินเยอะแล้ว”

“พ่อตา คุณรู้จักสามคนนี้ได้ไง?”หลี่ฝางมองลูกพี่หลินแล้วถาม

“ได้ยินมาจากมู่เสี่ยวไป๋ พูดอีกอย่างคือ นี่ไม่ใช่ความลับอะไร เรื่องที่แค่สอบถามแล้วก็รู้มาเลย ต้องทำเป็นกระต่ายตื่นตูมด้วยเหรอ?”ลูกพี่หลินกลอกตาใส่หลี่ฝาง:“แต่สามคนนี้ คุณควบคุมไม่ได้เลย เข้าใจไหม?”

“หวางเห้านี้ ถึงแม้เขาจะไม่มีความทะเยอทะยาน แต่เขามีเพื่อนที่ชื่อว่าชางสู่ ผู้ชายคนนั้นมีความทะเยอทะยานมาก ตามที่ผมรู้มา เขาใกล้กลับมาแล้ว คุณระวังตัวหน่อย เขากลับมาที่ข้างกายของหวางเห้า สำหรับคุณแล้ว เป็นดาบสองคม ถ้าใช้ได้ดี เขาสามารถช่วยคุณจัดการมู่เสี่ยวไป๋ ถ้าใช้ไม่ดี มีดของเขาก็จะแทงเข้าไปในท้องของคุณเอง”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท