NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 543 โทรศัพท์จากหลอซ่า

บทที่ 543 โทรศัพท์จากหลอซ่า

บทที่ 543 โทรศัพท์จากหลอซ่า

“ตอนเด็กฉันดูหนัง จำได้ว่ามีคำพูดประโยคนึง เขาพูดว่า บอกว่าจะฆ่าล้างโคตร ก็ต้องฆ่าทิ้งให้หมด แน่นอน คนอย่างฉันไม่ได้ร้ายขนาดนั้น แต่ว่าฉันก็พูดจริงทำจริงเหมือนกัน ถึงยังพวกเราล้วนแต่เป็นคนออกมาใช้ชีวิต จะปราศจากความน่าเชื่อถือไม่ได้จริงมั้ย มา อ้าปาก ให้ฉันดูหน่อย ถ้าไม่เหลือแล้วบัญชีของพวกเราก็ถือว่าสะสางแล้ว ถ้าหากยังเหลือ เห้อ ฉันก็ต้องตบนายอีก ความจริงฉันก็ไม่อยากตบนายแล้ว ตบนายที่นึง มือฉันเจ็บนะ”

โหจื่อพูด พลางสะบัดมือตนเอง แล้วพูด: “เห้อ เจ็บแบบแสบๆ เจ็บจะตายอยู่แล้วเหนี่ย”

“ถังหยู่ซวน เมื่อไม่กี่วันก่อนนายซื้อแผ่นแปะแก้ปวดนั้นมาใช่มั้ย เอามาติดให้ฉันสักสองที ฉันรู้สึกว่ามือฉัน จะเดี้ยงแล้ว” โหจื่อมองถังหยู่ซวนอย่างจริงจังมาก แล้วพูด

พูดจบ โหจื่อก็เหลือบมองป๋ายหม่า แล้วพูด: “นายดูนายสิ ทำไมถึงได้ดื้อด้านแบบนี้นะ ฉันยังตบนายไม่ถึงใจใช่มั้ย? ฉันบอกให้นายอ้าปาก นายไม่ได้ยิน หรือว่าทำเป็นไม่สนใจกันแน่?”

“ช่างเถอะ นายไม่ฟังก็ช่าง”

โหจื่อพูดจบ จู่ๆ ก็เหนี่ยวไกปืน ยิงไปที่ขาอีกข้างของป๋ายหม่า: “แบบนี้ดีมั้ย?”

“มา อ้าปาก ถ้าไม่อ้าปาก พ่อจะยิงใส่ปากแกสักนัด!”

โหจื่อพูดอย่างเย็นชา

ป๋ายหม่าเจ็บปวด รีบอ้าปากขึ้นทันที

โหจื่อผิดหวังเล็กน้อย: “ที่จริงแล้ว ฉันชอบที่นายดื้อด้านมากกว่านะ เป็นเอกลักษณ์ดี ดูนายตอนนี้ บอกให้อ้าปาก นายก็อ้าปาก เห้อ ไม่มีความใจแข็งเลยสักนิด”

“แบบนายนี่ ยังจะออกมาเที่ยวเตร่อีกนะ”

โหจื่อส่ายหน้า แล้วหันไปพูดกับหมาจื่อ: “นี่คือลูกพี่คนใหม่ของนาย? นายนี่ใช่ไม่ได้เลยนะ สายตาแย่มาก เทียบลูกพี่หลินไปได้เลยสักนิด อย่างน้อยๆ ลูกพี่หลินก็ไม่ยอมคุกเข่าให้ฉัน เหมือนกับหมาแบบนี้ ให้มันอ้าปากมันก็อ้า นายคิดว่าติดตามลูกพี่แบบนี้ จะมีอนาคตเหรอ”

“ให้ฉันชี้ทางสว่างให้มั้ย”

ขณะที่โหจื่อพูดอยู่ ถังหยู่ซวนก็เดินเข้ามาในมือถือแผ่นแปะแก้ปวดมาสองอัน โหจื่อชี้ไปที่ถังหยู่ซวน แล้วพูด: “ให้เขาเป็นลูกพี่นายเป็นไง?”

โหจื่อพูดจบ สีหน้าของหมาจื่อกับฉางชิง ก็เข้มขึ้นอยู่ครู่

ถังหยู่ซวนคนนี้ เป็นแค่บริกรตัวเล็กๆ ในบาร์คนนึง แถมยังเป็นลูกพี่ลูกน้องของโหจื่อด้วย

ให้ถังหยู่ซวนมาเป็นลูกพี่ของพวกเขา?

งั้นพวกเขากลายเป็นอะไร

น้องชายของน้องชายเหรอ!

“โหจื่อ ทางที่ดีนายเลิกเล่นเถอะ นายรู้มั้ยว่าเขาเป็นใคร?” หมาจื่อมองโหจื่อ แล้วทำสีหน้าซีเรียส

“ฉันรู้ว่าพื้นเพพวกนายก็ไม่ได้เล็ก แต่นายรู้มั้ย? ถ้าหากนายทำแบบนี้ต่อไป จะหาเรื่องคนกลุ่ม……”

หมาจื่อยังไม่ทันพูดจบ โหจื่อก็พูดแทรก: “นายหุบปากไป ฉันไม่รู้อะไรทั้งนั้น เรื่องนี้ ไม่เกี่ยวอะไรกับลูกพี่ของพวกเรา ฉันก็แค่เห็นมันแล้วขัดลูกตา ลีลาอยู่นั่น แถมยังกล้าข่มขู่ฉัน มีความสามารถแค่ไหน ถึงกล้ามาข่มขู่ฉัน?”

“ฉันไม่สนว่ามันเป็นใครมาจากไหน และก็ไม่อยากฟังด้วย ทางที่ดีนายไม่ต้องพูด รู้มั้ย?”

หลังจากโหจื่อเตือนไปหนึ่งประโยค ก็ยกแขนขึ้น แล้วตบไปที่หน้าป๋ายหม่าอีกหนึ่งที ปากของป๋ายหม่า ก็มีเลือดกระเด็นออกมาพร้อมฟันสองซี่อีกครั้ง

“อืม น่าจะไม่มีแล้ว นายอ้าปากอีกที ให้ฉันตรวจดูหน่อย” หลังจากโหจื่อตบเสร็จ ก็พูดกับป๋ายหม่าอีกครั้ง

ในตอนนั้นปากของป๋ายหม่า บวมช้ำแล้ว แถมมีแต่เลือดเต็มไปหมด

ป๋ายหม่าเงยหน้าขึ้น มองโหจื่อ: “ถึงขนาดนี้ ก็ฆ่าฉันเถอะ”

สายตาของป๋ายหม่า เต็มไปด้วยความยั่วยุ: “นายไม่ให้ฉันบอกว่าฉันเป็นใคร มาจากที่ไหน นั่นก็หมายความว่ากลัวว่าหลังจากนี้ฉันจะตามมาคิดบัญชีใช่มั้ย?”

“เหอะๆ ถึงตอนนั้น แม้ว่าฉันจะตามหาเจอแล้ว นายก็สามารถบอกปัดได้ บอกว่านายไม่รู้จักฉันและไม่ได้เป็นคนทำ”

“นี่เพื่อน กลัวว่าเรื่องจะไปหล่นใส่หัวลูกพี่นาย ใช่มั้ย?”

“เหอะๆ ฉันจะบอกนายให้ ไม่ว่าจะเป็นนาย หรือว่าลูกพี่ใหญ่ของนาย ก็หนีไม่พ้นหรอก”

ในตอนนั้น โทรศัพท์ของหลี่ฝาง ก็มีสายเรียกเข้า

หลี่ฝางก้มหน้าดู เป็นพ่อของตนที่โทรมา หลี่ฝางขมวดคิ้ว ใจเต้นตุ้มๆ ต่อมๆ

เช้าตรู่แบบนี้ พ่อของตนโทรมา นั่นก็หมายความว่ามีเรื่องไง

หลี่ฝางลังเลอยู่นาน ถึงกดรับสาย หลี่ฝางพูดกับปลายสาย: “พ่อ พ่อรู้เรื่องแล้วใช่มั้ย?”

“อืม นายยกบาร์ให้คนอื่นแล้ว ใช่มั้ย?” หลอซ่าถามจากปลายสาย

หลี่ฝางพูดอืม: “ขอโทษครับ พ่อ ผมไม่มีทางเลือก ฝั่งลูกพี่หลิน ผมไม่สามารถเห็นคนจะตายแล้วไม่ช่วยได้ ถึงยังไงผมกับหลินชิงชิงก็……”

“ไม่ต้องขอโทษหรอก ระหว่างพวกเราพ่อลูก ไม่จำเป็นต้องขอโทษ อีกอย่าง บาร์นั่นเป็นของลูก ลูกอยากจะให้ใครก็แล้วแต่ลูก ลูกมีสิทธิ์ตัดสินใจเอง”

“ลูกส่งโทรศัพท์ให้โหจื่อเถอะ เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ พ่อเห็นหมดแล้ว” หลอซ่าพูดจากทางปลายสาย

หลี่ฝางชะงักอยู่ครู่ แต่ต่อมาก็เข้าใจ

ก็จริง บาร์แห่งนี้มีกล้องวงจรปิด พ่อของตน สามารถเห็นภาพทั้งหมดที่เกิดขึ้น จากระยะไกลได้

หลี่ฝางเดินขึ้นหน้าไป ยังด้านหน้าของโหจื่อ แล้วยื่นโทรศัพท์ให้กับเขา

“โหจื่อ สายจากพ่อฉัน” หลี่ฝางยื่นโทรศัพท์ให้ พลางพูด

สีหน้าของโหจื่อเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่ก็ยังคงรับโทรศัพท์มาจากมือของหลี่ฝาง

“เหอะๆ เห็นที่คงมีคนจะถูกด่าแล้ว” ป๋ายหม่าที่คุกเข่าอยู่ที่พื้น พูดอย่างรื่นเริง

รับจากโหจื่อรับโทรศัพท์มา ก็พูดขึ้น: “ลูกพี่ใหญ่ เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับคนอื่น เป็นเรื่องส่วนตัวของผมเอง”

“ถ้าหากมันนำเรื่องมาให้ลูกพี่ ผมสามารถตัดความสัมพันธ์กับลูกพี่ให้หมดจดได้ครับ”

โหจื่อเพิ่งพูดจบ หลอซ่าก็ด่าออกมาจากทางปลายสาย: “ไอ้เลว พูดบ้าอะไรไร้สาระของแก อยากจะแปรพักตร์หรือไง? ยังจะมาอยากตัดความสัมพันธ์กับฉัน นายลืมไปแล้วเหรอว่านายเป็นใคร? นี่แกดื่มไปเท่าไหร่เหนี่ยห้ะ พูดไร้สาระตั้งแต่หัววันเลย เอาโทรศัพท์ให้เสี่ยวฝาง”

โหจื่อชะงักอยู่ครู่ แล้วยื่นโทรศัพท์ให้หลี่ฝางอีกครั้ง หลี่ฝางรับมา แล้วได้ยินพ่อของตนพูดขึ้นทางปลายสาย: “ไอ้ลูกชาย ตบโหจื่อแทนพ่อสักสองที”

“ห้ะ” หลี่ฝางชะงักอยู่ครู่

“ตบโหจื่อแทนพ่อสองที ไอ้บ้านี่ดื่มเมาแล้ว ตบมันสักสองที ให้มันได้สติหน่อย ไอ้เด็กผยองนี่ ถึงกับอยากจะตัดความสัมพันธ์ หมอนี่มันเลี้ยงไม่เชื่องจริงๆ” หลอซ่าที่อยู่ปลายสาย พูดอย่างโมโห

หลี่ฝางอยากจะหัวเราะและร้องไห้ แล้วยื่นโทรศัพท์ให้โหจื่อ แล้วพูดด้วยสีหน้ากระอักกระอ่วน: “โหจื่อ พ่อฉันบอกว่าให้ตบนายสองที นายว่าให้ฉันทำมั้ย?”

“ลูกพี่ใหญ่ให้นายตบ ก็ตบเถอะ”

โหจื่อพูดอย่างกับคนหมดแรง

หลี่ฝางอืม จากนั้นก็ลูบเบาๆ ไปที่หน้าของโหจื่อสองครั้ง: “เอาล่ะ ตบเสร็จแล้ว”

“โห นายลงมือได้โหดเหี้ยมมากจริงๆ ” โหจื่อพูด ด้วยน้ำเสียงตกใจ

หลอซ่าพูดขึ้นจากปลายสาย: “พวกนายสองคนไม่ต้องมาแสดง ฉันดูผ่านCCTVเห็นชัดหมดทุกอย่าง”

“นายบอกเด็กที่ชื่อป๋ายหม่านั้น บาร์นี้ถ้าเขาอยากได้ ก็ให้เขาไป”

“ขอแค่เขามีปัญญามาเอาไปได้ ไม่ต้องพูดถึงบาร์ แม้แต่บ้านพักตากอากาศ หรือว่าสวนสนุก รวมไปถึงที่ดินที่ฉันมีอยู่ทั้งหมด ก็จะให้เขาหมด นายถามเขา ว่าเขาอยากได้มั้ย? ถ้าอยากได้ ฉันจะไปเดี๋ยวนี้ ไปเซ็นสัญญากับเขา”

หลอซ่าพูดจากปลายสาย

โหจื่อมองป๋ายหม่า แล้วหัวเราะเหอะๆ : “ป๋ายหม่า ใช่มั้ย? นายรวยแล้ว ลูกพี่ใหญ่ของพวกเราบอกว่าแม้แต่บ้านพักตากอากาศกับสวนสนุก ทั้งหมดก็จะยกให้นาย นายอยากได้มั้ย? ถ้าอยากได้ลูกพี่ใหญ่ของพวกเราก็จะมาเซ็นสัญญาเดี๋ยวนี้”

“ฉันให้นายคุยกับลูกพี่”

ป๋ายหม่ายื่นมือ ไปรับโทรศัพท์: “หลอซ่า พวกเราทำอะไรมีขอบเขตไม่ก้าวก่าย บาร์นี้ เป็นลูกชายของคุณเอามาแลกกับชีวิตของลูกพี่หลิน ถ้าคุณรู้สึกไม่พอใจกับการแลกเปลี่ยนนี้ พวกเราสามารถยกเลิกได้”

“มีอะไรให้ไม่พอใจล่ะ นายอยากได้ ก็เอาไปสิ”

หลอซ่าหัวเราะ แล้วพูด: “ยังคงเป็นคำเดิม นายมีความสามารถขนาดไหน ก็ทำตามนั้น นายฟังที่ฉันจะพูดให้ดี บาร์แห่งนี้ฉันให้นายไปแล้ว งั้นฉันก็ไม่เอาแล้ว”

“เหอะๆ งั้นมูลค่าบนร่างของผมจะคิดยังไง กระสุนสองนัด ทั้งหมดยิงมาที่ขาของผม เกรงว่าอีกครึ่งชีวิตที่เหลือ คงจะเดี้ยงไปข้าง ยังมีฟันทั้งปากอีก” ป๋ายหม่าถามน้ำเสียงเย็นชา

ส่วนหลอซ่าที่อยู่ปลายสายก็เงียบอยู่ครู่ แล้วพูดต่อ: “ใช่แล้ว ป๋ายหม่า เมื่อกี้นายบอกว่าให้โหจื่อฆ่านายเลย ใช่มั้ย?”

วินาทีนั้น ร่างของป๋ายหม่า ก็สั่นไปทั้งตัว

“นายเปิดลำโพง ให้ฉันพูดกับโหจื่อหน่อย” หลอซ่าพูดขึ้น

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท