NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่527 ความบังเอิญในความบังเอิญ

บทที่527 ความบังเอิญในความบังเอิญ

บทที่527 ความบังเอิญในความบังเอิญ

หลี่ฝางคิดว่าตัวเองมองผิดไป จึงรีบลงจากรถแล้วไปดูให้ชัดเจน ใครจะไปรู้ว่าโก่เอ๋อดึงหลี่ฝางไว้ พูดว่า:“แม่เอ๊ยคุณโง่เหรอ ดึกๆดื่นๆแบบนี้เจอคนมีเลือดเต็มตัวไปหมด ก็น่ากลัวพอแล้ว คุณยังจะลงจากรถอีก?”

“ถ้าถูกหลอกจะทำไง?”

“รีบไปเถอะ”

หลี่ฝางแกะมือของโก่เอ๋อออก พูดว่า:“ผมจะไปดู เขาเหมือนเพื่อนผมคนหนึ่งมาก”

“เหมือนห่าไรล่ะ คุณนี่ไม่กลัวเรื่องใหญ่จริงๆ เจอคนเลือดอาบเต็มตัวในที่กันดารแบบนี้ คุณไม่รู้สึกว่าน่ากลัวเหรอ?ถ้าคุณกล้าลงจากรถ ฉันก็กล้าขับรถคุณหนีไป คุณเชื่อไหม?”โก่เอ๋อพูดขู่

หลี่ฝางมองโก่เอ๋อแวบหนึ่ง อาการของโก่เอ๋อ จริงจังมาก ไม่มีท่าทีล้อเล่นสักนิด

หลี่ฝางจึงดึงกุญแจออกมา พูดว่า:“ผมดึงกุญแจออกก็ได้แล้วนี่?”

“การช่วยเหลือชีวิตคนเป็นบุญกุศลยิ่ง ไม่เข้าใจหรือไง”

หลี่ฝางมองอีกครั้ง ยิ่งมองก็ยิ่งเหมือน

โก่เอ๋อห้ามหลี่ฝางไม่อยู่ จึงได้แต่ลงจากรถไปพร้อมกับหลี่ฝาง เดินไปตรงหน้าของคนนี้ คนๆนี้ก็หันหน้ามาทันที มองหลี่ฝางแวบหนึ่ง

โก่เอ๋อตกใจจนล้มไปที่พื้น หลี่ฝางก็ตกใจจนสะอึก

“ลูกพี่หลิน?”

หลี่ฝางเคยเห็นลูกพี่หลินอยู่หลายครั้ง ทรงผมของเขา และก็หุ่นของเขา หลี่ฝางจำได้ดี

แต่หน้าของลูกพี่หลินตอนนี้ เต็มไปด้วยเลือด ถึงเห็นกลางวันแสกๆ คุณก็ตกใจได้ ยิ่งอย่าไปพูดถึงตอนตีสี่เลย

“ช่วยผมด้วย……ช่วยด้วย……”

หลี่ฝางไม่มีความลังเลใดๆ ก็คุกเข่าลงไป แบกลูกพี่หลินขึ้นมา

“ห่า หลี่ฝาง คุณทำอะไรน่ะ คุณนี่ใจบุญจริงๆเลยนะ เกรงว่าเขาจะช่วยไม่ได้แล้วน่ะสิ คุณดูเลือดบนพื้นสิ”โก่เอ๋อชี้ไปที่เลือดบนถนน

ลูกพี่หลินน่าจะคลานมาสิบกว่าเมตรได้ คลานออกมาจากฟางข้าว

คลานมาที่ถนนนี้ ทำให้บนพื้นเต็มไปด้วยเลือดของเขา

ลูกพี่หลินในตอนนี้ อ่อนแอมาก แม้แต่พูดตะโกนขอความช่วยเหลือก็ไร้เรี่ยวแรง

หลี่ฝางขมวดคิ้ว จ้องโก่เอ๋อ:“เขาคือลุงผม คุณรีบไปเปิดประตูรถ”

“จริงเหรอ”โก่เอ๋อลังเลหน่อยๆ

“รีบๆเถอะ อย่ามัวแต่พูดเหลวไหล”สีหน้าหลี่ฝางเย็นชาลง

“อ้อ”โก่เอ๋อตอบไป แล้วรีบวิ่งไปเปิดประตูรถ

หลี่ฝางอุ้มลูกพี่หลินเข้าไปในรถ จากนั้นก็ขับรถ แล้วพูดว่า:“โก่เอ๋อ คุณพันผ้าให้ลุงผมหน่อย ผมต้องรีบพาลุงผมไปส่งโรงพยาบาล”

ถึงแม้ลูกพี่หลินจะเป็นคนชั่วร้าย ที่อยู่ในใจของหลี่ฝาง

แต่ถ้าให้หลินตายต่อหน้าตัวเอง หลี่ฝางทำไม่ลง ยังไง เขาก็เป็นพ่อของหลินชิงชิง

ถึงแม้โก่เอ๋อจะกลัวลูกพี่หลินหน่อยๆ แต่ก็ทำตาม

“อย่าไปโรงพยาบาล”

ขับไปได้ครึ่งทาง ลูกพี่หลินก็เริ่มมีแรงคืนมา พูดว่า:“ส่งผมไปที่ถนนเฉียนถัน”

“เอาโทรศัพท์ให้ผมยืมหน่อย ผมจะโทรศัพท์”

ลูกพี่หลินค่อยๆยื่นมือออกไป หลี่ฝางรีบเอาโทรศัพท์ยื่นให้ลูกพี่หลิน ลูกพี่หลินรับไป ก็โทรหาเบอร์หนึ่ง:“เหล่าอู๋ มารับผมที่สี่แยก”

พูดจบ ลูกพี่หลินก็วางสาย

จากนั้นลูกพี่หลินก็ไม่ส่งเสียงใดๆ เหมือนกับตายแล้ว

หลี่ฝางมองไปแวบหนึ่ง ขาทั้งคู่ของลูกพี่หลิน ต่างถูกยิงหมด รูใหญ่ๆหายจุด มีเลือดไหล

หลี่ฝางไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ก็ไม่ถาม ได้แต่รีบส่งเขาไปที่ถนนเฉียนถัน

พอถึงถนนเฉียนถัน ลูกพี่หลินก็ลืมตาทันที มองด้านนอกรถ แล้วพูด:“ไปข้างหน้าอีกประมาณสองร้อยเมตร แล้วเลี้ยวซ้าย คุณก็จะเห็นคนผมยาวคนหนึ่ง”

หลี่ฝางไปตามทางที่ลูกพี่หลินบอก แล้วพอเลี้ยวซ้ายก็เห็นผู้ชายผมยาวคนหนึ่งจริงๆ

ชายผมยาวดูกำยำ หลี่ฝางขับรถไปจอดตรงหน้าของชายผมยาว ถามว่า:“ใช่คนที่ลูกพี่หลินจะมาหาหรือเปล่า?”

“ใช่ เขาบาดเจ็บใช่ไหม?”

ชายผมยาวพยักหน้าถาม

หลี่ฝางตอบอืมไป แล้วเปิดประตูรถ อุ้มลูกพี่หลินเข้าไปในซอยเล็กๆ

ชายผมยาวพักอยู่นี่ ผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วโมง ชายผมยาวก็หยิบกระสุนออกมาจากตัวของลูกพี่หลิน แล้วทำการให้เลือดเขา

ชายผมยาวเหนื่อยจนเหงื่อเต็มหน้า มาตรงหน้าของหลี่ฝาง พูดว่า:“ขอบคุณที่พวกคุณช่วยลูกพี่ไว้”

พูดจบ ชายผมยาวหยิบเงินห้าปึก ออกมาจากลิ้นชัก:“ผมคือหมอจาก ตลาดมืดมีเงินไม่เท่าไหร่หรอก เอาให้คุณก่อนห้าปึกละกัน รอลูกพี่ดีขึ้นแล้ว ค่อยตบรางวัลงามๆให้ ให้คุณก้อนใหญ่อีกอัน”

“ผมไม่ต้องการเงิน”หลี่ฝางส่ายหน้า

“ไม่เอาเงิน?”

ชายผมยาวขมวดคิ้ว:“เหอะเหอะ ใจบุญจริงๆเลยนะ”

ตอนนี้เอง จู่ๆลูกพี่หลินก็พูดขึ้นมา เขาพูดไปทางหลี่ฝาง:“น้องชาย คุณมานี่หน่อย ผมมีอะไรจะถาม”

หลี่ฝางยืนขึ้นจากโซฟา มาตรงหน้าของลูกพี่หลิน:“ดีขึ้นหรือยังครับ ลุง”

“ผมไม่เป็นไรแล้ว”ลูกพี่หลินส่ายหน้า สีหน้าดีขึ้นมาไม่น้อย

ถึงริมฝีปากยังคงซีดขาว แต่ก็ไม่ใช่อุปสรรคใดๆ

หลี่ฝางก็คิดไม่ถึงว่า ที่ตลาดมืดจะยังมีถุงเลือด ……

ต่อมาหลี่ฝางจึงรู้ว่า ชายผมยาวคนนี้ คือหมอที่เมื่อก่อนลูกพี่หลินเคยช่วยไว้ ก็แค่ลูกพี่หลินไม่เคยไปหาเขา แต่ที่เขานี้ ก็ยังมีคลังเลือดเก็บไว้ให้ลูกพี่หลินเสมอ

นี่คือยันต์ช่วยชีวิตสุดท้ายของลูกพี่หลิน ถ้าวันไหนลูกน้องตัวเองทรยศ เขาก็มาหาชายผมยาว

“คุณรู้จักผมเหรอ?น้องชาย”ลูกพี่หลินมองหลี่ฝางอย่างแปลกใจ

“อือ ผมชื่อหลี่ฝาง เป็นน้องชาย เป็นน้องชายบุญธรรมของหลินชิงชิง”

“นอกจากหลินชิงชิงแล้ว ผมยังรู้จักพี่หมาจื่อ”หลี่ฝางหัวเราะให้ลูกพี่หลิน

ตอนที่หลี่ฝางพูดถึงพี่หมาจื่อสามคำนี้ ลูกพี่หลินไอออกมาทันที:“อย่าพูดถึงคนนี้กับผม”

“ทำไมเหรอ?ลูกพี่หลิน”หลี่ฝางมองลูกพี่หลินอย่างงงงวย พูดอย่างไม่เข้าใจ

ลูกพี่หลินไม่พูด ชายผมยาวล้างมือ แล้วเดินเข้ามา:“ลูกพี่ หมาจื่อทรยศคุณเหรอ?”

“หุบปากคุณซะ อย่าพูดอะไรอีก”ลูกพี่หลินมองหลี่ฝางอย่างกังวล

“ลูกพี่ ไม่ต้องปกป้องน้องชายคนนี้แล้ว ถ้าเขาดีต่อหมาจื่อ เขาจะต้องเอาเรื่องคืนนี้ไปบอกหมาจื่อ”

ชายผมยาวค่อยๆเดินเข้ามา มองหลี่ฝาง:“คุณคงไม่บอกอะไรหมาจื่อใช่ไหม?น้องชาย”

มีดผ่าตัดเล่มหนึ่ง จ่อไปที่บนคอของหลี่ฝางตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้

หลี่ฝางขมวดคิ้ว:“ผมไม่สนิทกับหมาจื่อ”

“ไม่สนิทแล้วคุณเรียกว่าพี่หมาจื่อเนี่ยนะ?”ชายผมยาวไม่ค่อยเชื่อหลี่ฝาง

“นี่ พวกเราเพิ่งช่วยลูกพี่คุณ แล้วตอนนี้คุณจะมาแก้แค้น ไม่เหมาะมั้ง?”โก่เอ๋อยืนขึ้นมาอย่างโมโห

“สาวน้อย พวกคุณก็บังเอิญไปแล้ว?หมาจื่อเพิ่งลงมือจัดการลูกพี่ พวกคุณก็ปรากฏตัวอย่างบังเอิญ ……”

ชายผมยาวหัวเราะเหอะเหอะ:“ทำไม อยากจับผมเหรอ?”

“พวกคุณคือคนของหมาจื่อ?”จู่ๆสีหน้าของชายผมยาวก็เย็นชา

ในใจของหลี่ฝางเต้นตึกตัก คิดในใจ นี่ถูกเข้าใจผิดแล้ว

หลี่ฝางกลัวว่าชายผมยาวนี้จะคุยไม่รู้เรื่องแล้วฆ่าตัวเองทิ้ง จึงรีบอธิบาย:“ลูกพี่หลิน ผมไม่ใช่คนของหมาจื่อ ผมคือคนของหลินชิงชิง”

“คุณน่าจะรู้จัก น้องชายบุญธรรมที่หลินชิงชิงรู้จักมาจากข้างนอกนะ?”

“แล้วก็จางกงหมิง เขาคือพี่ชายผม”

“ครั้งที่แล้วภรรยาของจางกงหมิงถูกจับตัวไป ผมยังให้คนเอาเงินไปเจ็ดล้านด้วย เรื่องนี้ คุณน่าจะรู้สินะ?”

“ผมไม่สนิทกับหมาจื่อจริงๆ ตอนนั้นที่พี่ชิงชิงหนีไปจากตงไห่ ให้พี่หมาจื่อมาปกป้องผม ไม่ให้ผมโดนรังแก”

ทันใดนั้นลูกพี่หลินก็หรี่ตา มองหลี่ฝาง:“ที่แท้ก็คุณ”

“ผมรู้จักคุณ”

ลูกพี่หลินพยักหน้า พูดกับ ชายผมยาว:“ปล่อยเขาเถอะ”

“ลูกพี่ ถ้า……”

“ชีวิตผมถูกน้องชายคนนี้ช่วยไว้ ถ้าเขาคือคนของหมาจื่อจริงๆ ผมก็จะยอมรับมัน อย่างมากก็เอาชีวิตคืนเขา”ลูกพี่หลินพูดอย่างไม่แคร์

ชายผมยาวยังคงไม่เอามีดผ่าตัดออก

“เขาไม่ได้เสแสร้ง”

ลูกพี่หลินพูดกับชายผมยาว:“สายตาของเด็กคนนี้ชัดเจนมาก และก็ลุกลี้ลุกลนมากด้วย ถ้าเขาคือคนของหมาจื่อ ก็ต้องเผยความจริงออกมาแล้ว”

“ดึกๆดื่นๆ คุณออกมาขับรถเล่นทำไม?แล้วยังช่วยลูกพี่ไว้อย่างบังเอิญอีก นี่มันบังเอิญไปหรือเปล่า”ถึงแม้ชายผมยาวจะเอามีดผ่าตัดออกแล้ว แต่ยังคงมองหลี่ฝางอย่าสงสัย

หลี่ฝางพูดไม่ถูกหน่อยๆ:“พูดแล้วคุณสองคนไม่เชื่อแน่ ก็พี่ชิงชิงบอกว่าอยากกินเนื้อลาย่างที่ร้านตรงถนนหยิงเหอนั้น ให้ผมขับมาจากเมืองเอกเพื่อซื้อให้เธอ”

“แม่เอ๊ยคุณอย่ามาไร้สาระกับผมนักเลย”ชายผมยาวยกมีดผ่าตัดขึ้นมาอีกครั้ง

“รู้อยู่แล้วว่าคุณไม่เชื่อ”หลี่ฝางเอาโทรศัพท์ให้ชายผมยาว:“คุณดูเอง ใช่ไหม?”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท