NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 538 โอนกรรมสิทธิ์บาร์เหล้า

บทที่ 538 โอนกรรมสิทธิ์บาร์เหล้า

บทที่ 538 โอนกรรมสิทธิ์บาร์เหล้า

หลี่ฝางสามารถมองออก ป๋ายหม่าคนนี้ เป็นคนที่ฆ่าคนได้อย่างเลือดเย็น

แต่ทว่าหลี่ฝางยังคงทำใจดีสู้เสือลุกขึ้นมา ลูกพี่หลินจะตายไม่ได้ เพราะว่าเขาเป็นถึงท่านพ่อตาของตัวเอง

“แกคือหลี่ฝางใช่ไหม?”

ป๋ายหม่าจ้องมองหลี่ฝางพลางเอ่ยถาม

หลี่ฝางพยักหน้า เขามองป๋ายหม่าด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย: “คุณรู้จักผม?”

“ไม่รู้จัก แต่ว่าเมื่อกี้ฉันได้รับปากกับคนคนหนึ่งไป ว่าจะไม่ฆ่าแก” ในขณะที่ป๋ายหม่ากำลังพูดนั้น ได้ปรากฏแววของความเกรงกลัวหวาดผวาออกมาจากสายตาของเขา แต่ทว่าเพียงแวบเดียวก็หายไป

“แกช่วยหลบไปหน่อยสิ อย่าเข้ามารบกวนการทำงานของฉัน”

ป๋ายหม่าส่ายหน้าให้กับหลี่ฝาง ความหมายก็คือไม่ให้หลี่ฝางเข้ามายุ่ง

แต่หลี่ฝางกลืนน้ำลายเฮือกใหญ่ กล่าว: “เสนอราคามา”

“หมายความว่ายังไง?” ป๋ายหม่าชะงักงัน เขาจ้องมองหลี่ฝาง จากนั้นก็หัวเราะขึ้นมาอย่างหยามเหยียด: “หลี่ฝาง แกหมายความว่ายังไง บอกให้ฉันเสนอราคา? ความหมายของแก คงไม่ใช่ต้องการที่จะซื้อชีวิตของลูกพี่หลิน ไปจากเงื้อมมือของฉันหรอกใช่ไหม?”

“ใช่”

หลี่ฝางพยักหน้า กล่าว: “ผมหมายความว่าแบบนั้น”

ป๋ายหม่าส่ายหัว: “เมื่อกี้แกก็ได้ยินแล้วนี่ เพื่อที่จะฆ่าเขา แม้แต่เงินห้าร้อยล้านฉันยังไม่เอาเลย”

“ทำไม แกสามารถให้ได้มากกว่าห้าร้อยล้านหรือยังไง?” ป๋ายหม่ามองหลี่ฝางอย่างไม่เชื่อ จนเกือบจะหัวเราะออกมา

ต่อให้ฆ่าป๋ายหม่าให้ตาย ป๋ายหม่าก็ไม่มีทางเชื่อ เด็กชายตรงหน้าที่รูปร่างหน้าตา เสื้อผ้าอาภรณ์แสนธรรมดาคนนี้ จะสามารถนำเงินออกมาได้มากกว่าห้าร้อยล้าน

หลี่ฝางพยักหน้า กล่าว: “ได้สิ”

ในตอนที่ป๋ายหม่าขู่กรรโชกเอาเงินห้าร้อยล้านกับลูกพี่หลิน ก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเขาเป็นคนที่หลงใหลในเงินตราเช่นเดียวกัน

ขอเพียงแค่เป็นคนที่ชื่นชอบในเงินตรา เรื่องก็ง่ายขึ้นมาเยอะเลย

“เหอะ ๆ แกจ่ายได้เท่าไหร่ล่ะ?” จ้องมองหลี่ฝาง ป๋ายหม่าหัวเราะขึ้นมาอย่างดูแคลน

“เด็กน้อย นายอย่าเล่นตุกติกกับฉันนะ ไม่เช่นนั้นล่ะก็ ฉันจะต้องโมโห เมื่อฉันโมโหขึ้นมา แกก็จะ……”

ไม่รอให้ป๋ายหม่าพูดจบ หลี่ฝางก็พลันเอ่ยออกมาทันที: “เอาเถอะ ในมือของลูกพี่หลินมีอยู่ห้าร้อยล้าน ผมให้คุณเพิ่มไปอีกสองพันล้าน ทั้งหมดเป็นเงินสองพันห้าร้อยล้าน ซื้อชีวิตของพวกเราทั้งหมด โอเคไหม?”

“พี่ชายป๋ายหม่า ถึงแม้ผมไม่รู้ว่าคุณทำอาชีพอะไร แต่ผมเชื่อว่า ไม่ว่าพี่จะทำอาชีพอะไร ล้วนเพื่อเงินทองใช่ไหมล่ะ? เงินจำนวนสองพันห้าร้อยล้านนี่ ต่อให้ไปปล้นธนาคาร คุณก็ต้องปล้นอยู่หลายธนาคารว่าไหม”

หลังจากที่หลี่ฝางพูดจบ ป๋ายหม่าจ้องมองหลี่ฝางพลางกล่าว: “ในตัวแกมีสองพันห้าร้อยล้าน?”

“ทางที่ดีแกอย่าเล่นตลกกับฉัน” ป๋ายหม่าเริ่มขู่ขวัญหลี่ฝางอีกครั้ง

“ถ้าแกกล้าเล่นตลกกับฉันละก็……”

หลี่ฝางเพียงหัวเราะอย่างเย็นชา แล้วกล่าว: “พี่ชายป๋ายหม่า คุณคิดว่าผมกล้าที่จะเล่นตลกกับคุณไหม? ในมือของคุณมีปืน ผมเล่นตลกกับคุณ ไม่เท่ากับรนหาที่ตายหรอกเหรอ?”

หลี่ฝางกล่าว พร้อมกับเปิดเผยตัวตนของเขาออกมาโดยตรงในทันที: “ผมชื่อหลี่ฝาง เป็นนายน้อยของสถานตากอากาศหลงฉวนถ้าหากคุณเคยได้ยินชื่อของสถานตากอากาศหลงฉวนล่ะก็ คุณก็น่าจะรู้ว่าผมเป็นใคร”

“ในนามของผมมีบาร์อยู่แห่งหนึ่ง มีชื่อว่าRecalling the past มูลค่าสองพันกว่าล้าน” หลี่ฝางกล่าวอย่างเรียบ ๆ

ได้ยินดังนั้น สีหน้าท่าทางของป๋ายหม่า ตะลึงงันก่อน จากนั้นจึงยิ้มขึ้นมา: “แกพูดจริงเหรอ?”

“ถ้าหากพี่ป๋ายหม่าไม่เชื่อล่ะก็ จะลองถองหมาจื่อดูก็ได้นะ” หลี่ฝางชี้ไปที่หมาจื่อ พลางกล่าว

หมาจื่อพยักหน้า กล่าว: “พี่ป๋ายหม่า เขาเป็นคุณชายใหญ่แห่งตระกูลหลี่จริง ๆ ”

“คุณชายใหญ่แห่งตระกูลหลี่ ลูกชายของหลอซ่า……”

เห็นได้ชัดว่าหลี่ฝางไม่ใช่คนโง่ในยุทธภพ เพียงชั่วพริบตาเข้าก็รู้ได้ถึงฐานะของหลี่ฝาง

ป๋ายหม่ามีสีหน้าท่าทางลังเลเล็กน้อย: “ความหมายของแกก็คือ ยกบาร์นั่นให้ฉัน จากนั้นให้ฉันปล่อยลูกพี่หลินไป ใช่ไหม?”

ป๋ายหม่าจ้องมองหลี่ฝางพลางเอ่ยถาม: “ยอมศูนย์เสียบาร์ของตัวเอง เพื่อแลกกับชีวิตของลูกพี่หลิน เหอะ ๆ แกนี่มันใจใหญ่จริง ๆ เขาเป็นอะไรกับแก ญาติพี่น้อง? หรือว่าผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิต”

“เขาเป็นพ่อตาของผม” หลี่ฝางกล่าว: “บอกตามตรง พี่ป๋ายหม่า ผมและหลินชิงชิงลูกสาวของลูกพี่หลิน กำลังคบกันอยู่”

“คุณว่า ถ้าหากคุณจัดการกับพ่อตาผม ต่อหน้าของผม คุณจะให้ผมอธิบายกับหลินชิงชิงยังไง คุณว่าไหมล่ะ?” หลี่ฝางจ้องมองป๋ายหม่า แล้วหัวเราะขึ้นมาอย่างเย็นชา

ป๋ายหม่าหัวเราะตาม แล้วเก็บปืนลง: “แกพูดถูก”

“บาร์หนึ่งร้าน แลกกับชีวิตของลูกพี่หลินและพวกใช่ไหม? ตกลง”

ป๋ายหม่ามองหลี่ฝาง แล้วยิ้มอ่อน ๆ : “เพียงแต่ว่าคุณชายหลี่ บาร์ของแก ไม่ได้มีมูลค่าเพียงแค่สองพันล้าน อย่างน้อยต้องไม่ต่ำกว่าสามพันล้านแน่”

“ใช่ไหม?” ใบหน้าของหลี่ฝางไม่ได้เปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อย

สำหรับหลี่ฝางแล้ว จะสองพันล้าน หรือสามพันล้านก็ไม่มีค่าอะไร ล้วนเป็นเพียงตัวเลขเท่านั้น ยังไงก็ไม่สำคัญเท่าชีวิตของลูกพี่หลิน

ป๋ายหม่ากล่าว: “ใช่แล้ว จะเปลี่ยนใจไหมล่ะ?”

“ไม่มีอะไรต้องเปลี่ยนใจ” หลี่ฝางกล่าวอย่างเย้ยหยัน: “ผมเพียงต้องการให้พ่อตาของผมยังมีชีวิตอยู่”

ป๋ายหม่าเก็บปืนลง แล้วมองไปที่ลูกพี่หลินพลางยิ้ม: “เหล่าหลิน แกถือว่าได้ลูกเขยที่ไม่เลยเลยจริงๆ ”

“คุณชายหลี่คนนี้ ร่ำรวยกว่ามู่เสี่ยวไป๋ตั้งเยอะ”

ลูกพี่หลินสีหน้าเคร่งเครียด เขามองหลี่ฝางพลางกล่าว: “เสี่ยวฝาง ฉันได้กลายเป็นคนพิการไปแล้ว ทำไมนายถึงได้ใช้เงินมากมายขนาดนั้นมาแลกกับฉัน มันไม่คุ้มหรอก”

“ท่านพ่อตาครับ เงินไม่มีแล้ว พวกเรายังหาใหม่ได้ แต่ถ้าคนไม่อยู่แล้ว ก็จะไม่อยู่เลย ตั้งแต่เล็กจนโต พ่อของผมจะพูดกับผมแบบนี้อยู่ตลอด เขาบอกผมว่าอย่าให้ความสำคัญกับเงินมากเกินไป

หลี่ฝางพยุงลูกพี่หลินขึ้น กล่าว: “ท่านพ่อตา ท่านมีชีวิตอยู่ ชิงชิงถึงจะดีใจ”

“อีกอย่าง บาร์ร้านหนึ่ง ไม่เพียงแค่แลกกับชีวิตของท่าน ยังมีชีวิตของพี่ฉางเหมาด้วย” หลี่ฟางมองดูฉางเหมาแวบหนึ่ง

ป๋ายหม่าหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา แล้วโทรหาทนายความ

หลังจากที่คุยโทรศัพท์เสร็จ ป๋ายหหม่าก็พูดกับหลี่ฝาง: “ไปกันเถอะ พวกเราไปดูบาร์ของแกกันในตอนนี้เลย แล้วก็เซ็นสัญญาซะ”

“ไปด้วยกันทั้งหมดนี่ อย่าให้ขาดแม้แต่คนเดียว”

“หม่าเชา นายอยู่จัดการที่นี่ให้เรียบร้อย ได้ไหม? ถ้าไม่ได้ ฉันก็จะเปลี่ยนคน”

ป๋ายหมามองดูหม่าเชา พลางเอ่ยถาม

หม่าเชาถูกยิงเข้าไปที่หู สายตาที่มองป๋ายหม่า ไม่เพียงไม่มีวี่แววของความโมโห ในทางกลับกันกลับเต็มไปด้วยนับถือและหวาดเกรง

เหตุผลนั้นง่ายเพียงนิดเดียว ไม่ว่าจะเป็นภูมิหลังหรือความสามารถของป๋ายหม่านั้น ล้วนแข็งแกร่งกว่าหมาเชามากนัก

แม้แต่ลูกพี่ของตัวเอง เวลาอยู่ต่อหน้าป๋ายหม่าลูกพี่หลินยังด้อยกว่า อย่าได้พูดถึงตัวเองเลย

ถึงแม้ต่างก็มีปืนอยู่ในมือ แต่หม่าเชากลับไม่กล้าจ่อปืนไปที่ป๋ายหม่า เพราะเขารู้ว่าถ้าหากทำแบบนั้นผลลัพธ์จะเป็นยังไง

หม่าเชาพยักหน้า กล่าวด้วยท่าทีเชื่อฟัง: “ได้ ผมจะจัดการเรื่องข้างหลังเอง”

“เหอะ ๆ ฉันรู้ว่านายกับหม่าเทียนเป็นครอบครัวเดียวกัน อีกเดี๋ยวหม่าเทียนจะต้องมาที่นี่แน่ ให้นายอยู่ที่นี่ เหมาะสมที่สุด”

ป๋ายหม่ายิ้มอ่อน: “ที่ยิงหูนายน่ะ ขอโทษด้วยแล้วกัน”

“ต่อไปจะพูดอะไร ทำให้มันลับ ๆ หน่อย ถึงแม้ฉันจะไม่ใช่คนใหญ่โตอะไร แต่ก็ไม่ใช่คนไม่มีสมอง เข้าใจไหม? “ป๋ายหม่าจ้องมองหม่าเชา ในสายตาเต็มไปด้วยความน่าเกรงขาม

“เข้าใจแล้วครับ พี่ป๋ายหม่า” หม่าเชาพยักหน้าอย่างว่านอนสอนง่าย

“เสร็จงานแล้วฉันจะให้นายสองพันอัน ให้นายและพี่น้องของนายแบ่งกัน” ป๋ายหม่ากล่าวอย่าเรียบ ๆ

บนใบหน้าของหม่าเชาปรากฏความไม่พอใจขึ้นมาเล็กน้อย ยังไงซะในครั้งนี้ ป๋ายหม่าได้รับผลพลอยได้จำนวนมหาศาล

บาร์ที่มีมูลค่าสามพันล้าน บวกกับเงินสดจำนวนห้าร้อยล้าน แต่ในคืนนี้หม่าเชาสูญเสียพี่น้องไปหกคน แต่กลับได้รับส่วนแบ่งเพียงแค่สองพันอัน หม่าเชามีความรู้สึกว่าตัวเองขาดทุนจริง ๆ

แม้แต่คำสัญญาที่หมาจื่อให้เมื่อกี้ ก็ไม่ได้น้อยไปกว่านี้เลย

ป๋ายหม่าดูออกว่าหม่าเชาไม่พอใจ เขากล่าวขึ้นอย่างเย็นชา: “หุ้นส่วนของ Recalling the past ให้นายหนึ่งเปอร์เซ็นต์ รู้ไหมว่าหนึ่งเปอร์เซ็นต์เป็นเงินเท่าไหร่?”

เมื่อได้ยินดังนั้น ดวงตาของหม่าเชาพลันเปล่งประกายขึ้นมา: “รู้ครับ รู้ครับ”

หนึ่งเปอร์เซ็นต์ นั่นเป็นเงินสามสิบล้านเชียวนะ ยิ่งไปกว่านั้นหุ้นส่วนนี่ คือให้ตัวหม่าเชาโดยตรงทั้งหมด ไม่ต้องแบ่งกับพรรคพวก

“ฉางชิง นายเองก็ไปกับฉันด้วย”

ป๋ายหม่ามองไปที่ฉางชิง กล่าว: “เมื่อกี้ฉันได้เรียกหมอมาด้วย อีกเดี๋ยวไปที่บาร์ เขาจะช่วยเอาลูกกระสุนออกมาให้นาย”

“ขอบคุณครับ พี่ป๋ายหม่า” ฉางชิงเอ่ยขอบคุณ

ป๋ายหม่าพยักหน้า จากนั้นก็หมุน เท้าข้างหนึ่งเตะเข้าไปที่ท้องของหมาจื่อ เตะจนตัวหมาจื่อถอยห่างออกไปไกลหลายเมตร

ป๋ายหม่ากล่าวอย่างเยือกเย็น: “แกไอ้เศษสวะ ไม่เพียงจัดการกับคนพิการคนหนึ่งไม่ได้ แม้แต่พี่น้องพรรคพวกเดียวกันกับตัวเอง ก็เกือบถูกแกทำให้แตกแยก แกเป็นแบบนี้ จะขึ้นเป็นลูกพี่ได้ยังไง?”

ป๋ายหม่ากล่าวด้วยความผิดหวัง: “ถ้าแกทำไม่ได้ ฉันจะรีบเปลี่ยนคนในทันที”

“พี่ป๋ายหม่า ให้โอกาสผมอีกสักครั้งเถอะนะครับ” หมาจื่อคลานลุกขึ้นมา เขามองไปที่ป๋ายหม่า บนใบหนาเต็มไปด้วยความกังวลและหวาดกลัว

ป๋ายหม่าเปล่งเสียงหึออกมาหนึ่งครั้ง แล้วก็จากไปทันที

ที่จริงป๋ายหม่าได้มาถึงนานแล้ว เพียงแต่ว่าได้ซุ่มดูอยู่เท่านั้นเอง

หมาจื่อคนนี้ใช้ปืนยิงฉางชิงก่อน แล้วยังใช้ปืนของตัวเองเล็งไปที่หม่าเชา

นั่นเท่ากลับว่าได้ล่วงเกินคนสองคนภายในชั่วพริบตา

ไม่ว่าจะเป็นฉางชิงหรือว่าหม่าเชา พวกเขาล้วนมีพรรคพวกของตนเอง

ถ้าหากผิดใจกับพวกเขาทั้งสอง หมาจื่อคนนี้ ก็คงต้องจบสิ้นแล้ว

ไม่เพียงสูญเสียความเคารพนับถือจากพรรคพวก ทั้งยังต้องสูญเสียผู้สนับสนุนไปอีกด้วย และนี่ก็ทำให้ป๋ายหม่าปวดหัวอย่างมาก คนคนนี้ที่กว่าจะปลูกฝังมาได้……

ทำให้เขาผิดหวังจริง ๆ

ฉางเหมาแบกลูกพี่หลินขึ้น และกล่าวถามเบา ๆ : “พี่ใหญ่ จะสู้อย่างเต็มที่อีกครั้งไหมครับ?”

“จะเอาอะไรมาสู้ นายไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมัน ยิ่งไปกว่านั้น คนคนนี้ พวกเราทุกคนล้วนไม่อาจล่วงเกิน” ลูกพี่หลินพูดจบ แล้วมองไปที่หลี่ฝางแวบหนึ่ง ในแววตาเต็มไปด้วยความละอายใจ

“เสียวฝาง ชาตินี้ฉันไม่อาจทดแทนบุญคุณของนายได้แล้ว”

ลูกพี่หลินไม่ได้ใส่ใจชีวิตของตัวเองแม้แต่น้อย เพียงแต่ว่า เขายังคงค่อนข้างที่จะแคร์ชีวิตฉางเหมา

“ท่านพ่อตาครับ ท่านพูดอะไรของท่านนี่ บาร์แห่งนี้ ถือว่าเป็นสินสอดที่ผมใช้ขอหลินชิงชิงในอนาคตแล้วกัน รอจนถึงตอนที่ผมกับชิงชิงแต่งงานกัน ท่านอย่ามาเรียกร้องสินสอดจากผมอีกล่ะ” หลี่ฝางกล่าวอย่างสง่าผ่าเผย

ลูกพี่หลินจ้องมองหลี่ฝาง กล่าว: “เสี่ยวฝาง ทุกอย่างที่นายทำ ฉันได้จดจำไว้ในใจแล้ว”

“ฉันดูออกว่า นายชอบชิงชิงของฉันจากใจจริง ไม่ว่าทางฝั่งชิงชิงจะยอมรับนายหรือไม่ ยังไงก็ตามในใจของฉัน นายคือลูกเขยเพียงคนเดียว นอกจากนายแล้ว ฉันจะไม่ยอมรับใครทั้งนั้น”

สายตาที่ลูกพี่หลินมองหลี่ฝาง เต็มไปด้วยความซาบซึ้งใจ

ทุกอย่างที่หลี่ฝางได้ทำ ล้วนได้อยู่ในสายตาของลูกพี่หลินทั้งหมด

เพียงแค่ ลูกพี่หลินไม่รู้ว่าจะตอบแทนยังไงเท่านั้นเอง

ในขณะที่เดินมาจนถึงข้างทาง หลี่ฝางมองเห็นรถพัง ๆ ที่คุ้นตาคันหนึ่ง รถพัง ๆ คันนี้ เป็นของส้าวส้วย

เมื่อกี้ตอนที่ป๋ายหม่าเข้ามา ได้พูดออกมาว่า เขาได้รับปากกับใครบางคน ว่าจะไม่ฆ่าหลี่ฝาง แล้วคนคนนี้ ก็คงจะเป็นส้าวส้วย

หลี่ฝางคาดไม่ถึงเล็กน้อย ในเมื่อส้าวส้วยได้มาแล้ว ทำไมถึงไม่เข้าไป

ในเวลานี้เอง ป๋ายหม่าได้เปิดประตูรถ และกล่าวกับหลี่ฝาง: “คุณชายหลี่ เชิญ”

หลี่ฝางมองดูรถของส้าวส้วยแวบหนึ่ง จากนั้นก็เข้าไปในรถ

ในขณะที่โก่เอ๋อกำลังจะตามขึ้นรถนั่นเอง ก็ถูกหลี่ฝางขวางเอาไว้: “เห็นรถคันนั้นไหม? เธอไปขึ้นคันนั้น ส้าวส้วยอยู่ที่นั่น”

“ฉันจะไปคันเดียวกันกับนาย” โก่เอ๋อกล่าวอย่างดื้อรั้นเล็กน้อย

หลี่ฝางถลึงตาดุเธอ และกล่าวอย่างโมโห: “เชื่อฟังหน่อยสิ ไปขึ้นกับส้าวส้วย”

“ถ้าเธอไม่เชื่อฟัง ฉันจะส่งเธอกลับไปหาพี่ชายเธอทันที หรือไปก็ส่งกลับไปที่ตระกูลซือถูเลย เธอเชื่อไหม?” หลี่ฝางใช้คำขาด กล่าวข่มขู่

โก่เอ๋อเบ้ปาก ถึงแม้จะดูไม่ยินยอม แต่ก็ยังคงเดินไปที่รถของส้าวส้วย

ป๋ายหม่าเห็นอยู่ในสายตา แต่ก็ไม่ได้ห้าม เพียงแค่หัวเราะอย่างเย็นชา: “คุณชายหลี่ คิดมากเกินไปแล้ว ฉันจะไม่ทำร้ายแฟนของนายหรอก”

หลี่ฝางไม่ได้สนใจป๋ายหม่า และพยุงลูกพี่หลินขึ้นรถ

หลี่ฝางมองดูลูกพี่หลิน แล้วกล่าวอธิบาย: “โก๋เอ๋อกับผมเป็นเพียงแค่เพื่อนกัน”

“เหอะ ๆ ไม่ต้องอธิบายเรื่องพวกนี้กับฉันหรอก เป็นผู้ชาย มีเมียหลายคนก็เป็นเรื่องธรรมดา ยิ่งไปกว่านั้นนายโดดเด่นแบบนี้ มีผู้หญิงหลายคน ก็ไม่เห็นจะเป็นอะไร เพียงแค่นายจริงใจต่อชิงชิง ไม่ทำให้ชิงชิงต้องเสียอกเสียใจ ก็เพียงพอแล้ว” ลูกพี่หลินกล่าวอย่างเปิดใจ

ในตอนนี้เองป๋ายหม่าก็ได้สตาร์ทรถ แล้วขับไปทาง Recalling the past

และ Recalling the past ในเวลานี้ พึ่งระปิดร้านได้ไม่นาน โหจื่อนอนอยู่บนโซฟา ในมือถือขวดเบียร์บัดไวเซอร์อยู่ และกำลังดื่มอย่างเหนื่อยหน่าย

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท