NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 549 คุณชายหลี่ ท่านมาแล้ว

บทที่ 549 คุณชายหลี่ ท่านมาแล้ว

บทที่ 549 คุณชายหลี่ ท่านมาแล้ว

“หลอซ่า!”

“หลอซ่า! ”

“หลอซ่า!”

พอพูดถึงหลอซ่า คนพวกนั้น ก็ตัวสั่นขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว

“หลอซ่ากลับมาแล้วจริงๆ เหรอ?”

“งั้นพวกเรา?”

ทุกคนในนี้ มีหลายคน ที่เคยเป็นศัตรูกับหลอซ่า

ถ้าหลอซ่ากลับมา ก็คงหนีไม่พ้นสงคราม

“ไม่ได้บอกว่าตอนนั้นสี่ตระกูลใหญ่ไล่ตามไปจนรู้ตัวตนที่แท้จริงของหลอซ่า และฆ่าเขาไปแล้วไม่ใช่เหรอ? ทำไม เขาถึงกลับมาอีกล่ะ?” คนพวกนั้นขมวดคิ้ว

“ใช่แล้ว เขาไม่ใช่แค่กลับมา แถมยังอยู่ข้างกายทุกคนด้วย ตระกูลหลี่แห่งบ้านพักตากอากาศ นั่นก็คือหลอซ่า”

ลูกพี่หลินหัวเราะเหอะๆ แล้วพูด: “ป๋ายหม่าถูกคนของหลอซ่าฆ่าตาย พวกนายคิดว่าหมาจื่อจะปลอดภัยเหรอ?”

ลูกพี่หลินมองฉางเหมา แล้วพูด: “นี่ก็สายแล้ว พวกเราควรไปได้แล้ว”

“ถ้าหากพวกนายอยากจะร่วมงานกัน สามารถติดต่อเสี่ยวเทาที่อยู่ด้านล่างได้ ส่วนของ พวกนายเอาไปก่อนได้ เมื่อได้ที่ขายได้ ค่อยเอามาจ่าย แน่นอนว่า ถ้าหากพวกนายอยากติดหนี้ละก็นะ……” ลูกพี่หลินยิ้มตาหยี ในคำข่มขู่ ก็มีความชัดเจน

ฉางเหมาหัวเราะเหอะๆ : “พวกพี่ทุกคนไม่ใช่คนที่อยากติดหนี้หรอก จริงมั้ย พวกพี่ๆ ?”

ปฏิกิริยาของฉางเหมาเมื่อครู่ ทำให้คนไม่น้อยถึงกับช็อก

ออกไปแค่เจ็ดนาทีเท่านั้น กลับจัดการคนข้างกายของหวางจี๋สองคนได้ราบคาบ

ประเด็นก็คือ ฉางเหมาไม่ได้บาดเจ็บเลยแม้แต่น้อย

“หวางจี๋ สองคนที่นายพามา ฝีมือเป็นยังไง?” หลังจากที่ลูกพี่หลินออกไป คนพวกนั้นก็เดินไปหาหวางจี๋ และถามอย่างกระวนกระวาย

สีหน้าของหวางจี๋ ซีดลงเอามากๆ : “ถ้าหากฉันบอกพวกนายว่า พวกเขาสองคน เป็นลูกน้องฝีมือดีที่สุดของฉันล่ะ พวกนายจะเชื่อมั้ย?”

“ห้ะ?”

“เสี่ยงเอ้อร์กับเสี่ยวปิง” หวางจี๋พูดขึ้น: “พวกนายที่สนิทกับฉัน น่าจะรู้จักพวกเขา สองคนนี้ ถือได้ว่าเป็นลูกน้องที่เยี่ยมที่สุดของฉันแล้ว ทำงานสกปรกให้ฉันมาไม่น้อย”

“เห้อ เห็นที่ฉางเหมาจากเขตสามเหลี่ยมนั่นฝีมือไม่ธรรมดาจริงๆ ซะแล้ว”

หลังจากฟังหวางจี๋พูดจบ คนในห้อง ทั้งหมด เกิดความหวาดกลัวฉางเหมา

เมื่อมาถึงด้านล่าง ฉางเหมาก็มองเสี่ยวเทา แล้วถาม: “แฟนนายล่ะ?”

สีหน้าของเสี่ยวเทา ชะงักเล็กน้อย: “ผมปล่อยหล่อนไปแล้ว แต่ว่าผมบอกหล่อนแล้ว เรื่องที่ได้เห็นทั้งหมดในวันนี้ หล่อนจะไม่ไปบอกคนที่สองอย่างแน่นอน พี่ พวกพี่วางใจได้”

“หล่อนมีลูก มีพ่อแม่ ผมมีข่าวของพวกเขา ถ้าหากเธอกล้าหักหลังผม……” ใบหน้าของเสี่ยวเทา แสดงให้เห็นถึงความอาฆาตเบาๆ

“ไม่ต้องมาพูดเรื่องนี้กับฉัน ฉันเชื่อแค่คนตาย รอให้ถึงตอนที่นายหาครอบครัวเพื่อล้างแค้น ก็แสดงว่าที่ของพวกเราที่นี่ก็ถูกเปิดเผยแล้วสิ นายเข้าใจมั้ย?”

ลูกพี่หินมองเสี่ยวเทา พลางพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา: “ก็แค่ผู้หญิงคนเดียวเอง นายยังลงมือไม่ได้ จะเป็นคนใหญ่คนโตได้ยังไง?”

“หรือว่านายมองไม่ออกเหรอ? ยัยผู้หญิงคนนั้นเห็นแก่เงิน ผู้หญิงแบบนี้ ขอแค่มีเงิน นายก็สามารถเอาหล่อนได้”

ลูกพี่หลินมองบนใส่เสี่ยวเทา แล้วพูด: “ถ้าหากนายไม่ลงมือ ฉันจะส่งคนอื่นไป”

“ให้ผมทำเองเถอะ” เงียบอยู่ไม่กี่วินาที เสี่ยวเทาก็พูดขึ้นเสียงเบา

“อืม ฉางเหมา ถามที่อยู่ของคุณชายหลี่ที พวกเราไปกันตอนนี้เลย ถ้าช้ากว่านี้ พวกเขาจะสงสัยพวกเรา” ลูกพี่หลินพูดขึ้น

“เมื่อครู่ตอนออกมา คุณชายหลี่โทรหาผม แล้วส่งที่อยู่มาให้แล้ว”

อีกฝั่ง ที่คฤหาสน์บ้านซาน

“ยังไม่มาอีกเหรอ?” ส้าวส้วยมองหลี่ฝาง แล้วถาม

“อืม ที่ตำแหน่งไปให้แล้ว ฉางเหมาบอกว่า รออีกแป๊บนึง” หลี่ฝางพูด: “ฉางเหมาบอกว่าพวกเขาเพิ่งมาถึงเมืองเอก”

“เหอะๆ พวกเขาออกมาจากบาร์ แล้วตรงมาที่เมืองเอกเลย แต่พวกเรา แวะกลางทางกันก่อน กินข้าวเช้ากันหนึ่งมื้อ จากนั้นค่อยเข้ามาเมืองเอก ฉันขับรถก็ไม่ได้เร็ว ถึงพวกเขาจะช้ายังไง ก็น่าจะถึงได้แล้ว”

ส้าวส้วยพูดอย่างมั่นใจ: “ฉันคิดว่า พวกนั้นต้องไปทำเรื่องอื่นแน่”

“ช่างเถอะ พวกเราขึ้นไปกันเถอะ” ส้าวส้วยไม่ได้พูดมากอะไรต่อ และเดินขึ้นไปบนคฤหาสน์บ้านซาน

เมื่อมาถึงวิลล่ากลางภูเขาหมายเลข1 ที่หน้าประตูมีรปภ.ยืนอยู่หนึ่งคน รปภ.คนนี้มองแล้วอายุน่าจะราวๆ สี่สิบกว่าๆ หลี่ฝางเดินเข้าไป แล้วถามขึ้น: “นายคือพ่อของจ้าวเสี่ยวตาว จ้าวควนใช่มั้ย?”

“ใช่ครับ คุณชายหลี่ เป็นผมเอง” จ้าวควนผงกหัวให้อย่างเคารพ

หลี่ฝางชะงักอยู่ครู่ พลางมองชายวัยกลางคนข้างหน้า พูดขึ้น: “นายรู้จักฉัน?”

“ตอนที่อยู่ที่บ้านพักตากอากาศ ผมเคยเจอคุณชายหลี่ครั้งนึง เป็นเสี่ยวตาวที่บอกผม” จ้าวควนพูดไปผงกหัวไป

จ้าวเสี่ยวตาวสูญเสียเพราะหลี่ฝางครั้งใหญ่ ดังนั้นจ้าวควนจึงได้รับบทเรียน และไม่สามารถสูญเสียเป็นครั้งที่สองได้แล้ว

ถึงยังไง ตระกูลเล็กๆ อย่างตระกูลจ้าว ก็ไปยั่วโมโหตระกูลใหญ่ๆ อย่างตระกูลหลี่ได้หรอก

หลี่ฝางพยักหน้า แล้วพูด: “ทำงานอาทิตย์นี้เสร็จ นายก็กลับไปได้แล้ว แล้วก็พาภรรยานายไปด้วยเถอะ ระยะที่ผ่านมา ทำให้พวกนายต้องเสียใจแล้ว”

“ไม่เสียใจครับ ไม่เสียใจ เสี่ยวตาวพุ่งเข้าไปแทงท่าน ท่านไม่ได้เอาคืนเสี่ยวตาว ไว้ไมตรีแล้ว พวกเราของคนผัวเมียทำงานให้ท่านอยู่ที่นี่ ก็ถือว่าเป็นการชดเชยความผิดแทนลูกแล้ว” จ้าวควนรีบพูดขึ้น

ในตอนนั้นหลี่ฝางไม่รู้จะต้องพูดยังไงดี

คนที่เป็นถึงประธานบริษัทจ้าวซื่อ ในมือกำอนาคตของบริษัทเอาไว้ กลับวิ่งมาที่บริษัทตนมาเป็นรปภ.?

แถมยังให้ภรรยาตัวเอง มาเป็นแม่บ้านด้วย

แล้วก็ยังให้กลุ่มผู้ประกาศข่าวมาเป็นแม่บ้านอีก

ถ้าบอกว่าสามีภรรยาคู่นี้ไม่เสียใจ ตีหลี่ฝางให้ตายก็ไม่เชื่อ

พูดตามตรง หลี่ฝางก็แค่อยากจะให้บทเรียนจ้าวเสี่ยวตาว ถึงยังไงเรื่องนี้ก็ผ่านไปนานแล้ว ความโกรธในใจตน ก็หายไปแล้ว ก็ถึงเวลาที่จะปล่อยพวกจ้าวควนไปแล้ว

หลี่ฝางหัวเราะเหอะๆ : “ฉันกับจ้าวเสี่ยวตาวเป็นคนหนุ่ม มีเรื่องเข้าใจผิดกัน ทำให้มีปัญหาระหว่างกันเป็นเรื่องธรรมดา ถึงยังไงถ้าไม่สู้กันก็จะไม่เข้าใจกันจริงมั้ย”

ประโยคนี้ของหลี่ฝาง ทำให้จ้าวควนโล่งใจขึ้นเยอะ

ประโยคนี้ของหลี่ฝาง มีสองความหมาย อย่างแรก ไม่เพียงแต่เข้าใจจ้าวเสี่ยวตาว อย่างที่สอง ยังหมายความว่าสามารถเปลี่ยนจากศัตรูเป็นมิตรได้

สามารถทำให้ตนกับคุณชายตระกูลหลี่เป็นเพื่อนกันได้ จ้าวควนคิดว่าสิ่งที่ตนได้พบเจอมาไม่กี่วันนี้ มันคุ้มค่า

หลายวันที่ผ่านมา ผู้ประกาศข่าวตัวเล็กๆ ก็กล้าเรียกใช้เขาไปมาแล้ว ไม่ง่ายเลยที่จะทนไหว

“ไว้คราวหน้าฉันจะเป็นเจ้ามือ เชิญคุณกับภรรยากินข้าวสักมื้อ เรียกเสี่ยวตาวมาด้วย ถือว่าเป็นการชดเชยที่หลายวันมานี่ผมเสียมารยาทไป ถึงยังไง พวกคุณก็เป็นผู้อาวุโส ให้พวกคุณมาทำงานให้ผม ไม่ไหวเลยจริงๆ ”

หลี่ฝางรู้ว่า พวกผู้อาวุโส สิ่งที่สำคัญที่สุด นอกจากผลกำไรแล้ว ก็คือหน้าตาทางสังคม

จ้าวควนคนนี้คงจะไม่หน้าไม่อาย ถ้าตนให้เขาออกไปเฉยๆ แล้วไม่ไว้หน้าเขาละก็ หลังจากวันนี้ เขาคงจะต้องมาขัดขวางตนแน่นอน

แน่นอนว่า มองจ้าวควนคนนี้ เขาก็พอมีความกล้าที่จะทำมันด้วย

ถือว่าเชื่อมสัมพันธ์สักเส้นแล้วกัน หลี่ฝางยิ้มอ่อนให้จ้าวควน แล้วพูด: “โอเค ฉันเข้าไปก่อนนะ ช่วงนี้ฉันจะหาคนมาเป็นรปภ.คนใหม่ รอให้เขามาแล้ว คุณก็กลับไปเถอะ”

“ขอบคุณคุณชายหลี่” จ้าวควนถึงจะพยักหน้าแล้วพูด

ไม่นาน หลี่ฝางก็เดินเข้ามาในคฤหาสน์

ในตอนนั้น ผู้หญิงหลายคน ที่สวมชุดนอน กำลังนั่งอยู่ที่ชั้นหนึ่งกินข้าวเช้าที่คุณนายจ้าวเป็นคนทำ

“พวกนายเป็นใครกัน?”

นักข่าวคนนึงลุกขึ้นมาอย่างเร็ว พลางมองที่ไปหลี่ฝางกับส้าวส้วยและคนอื่นๆ : “รปภ.ที่หน้าประตู นี่มันเรื่องอะไรกัน ทำไมถึงได้ปล่อยใครก็ไม่รู้เข้ามาเหนี่ย”

“นั่นสิ ใครกันเหนี่ย ทำไมถึงได้โผล่พรวดเข้ามาในคฤหาสน์พวกเรา”

“รปภ.ทำงานยังไงเหนี่ย?”

นักข่าวพวกนั้น ล้วนต่างไม่ได้แต่งหน้า แถมยังสวม บางได้ขนาดไหนก็บางเท่านั้น เป็นชุดนอนเดรส ชุดนอนพวกนั้น

จู่ๆ ก็มีชายสองคนเข้ามา ในใจของพวกหล่อนตกใจเป็นเรื่องธรรมชาติ หนึ่งพวกหล่อนสวมเสื้อผ้าน้อยชิ้น สองพวกหล่อนหน้าสด

“ยังจะมอง!”

“รีบหันหน้าไป” ผู้หญิงรูปร่างดี สวมเสื้อผ้าน้อยชิ้นคนนึงลุกขึ้น แล้ววิ่งเข้าห้องตนไปอย่างโมโห

โก่เอ๋อพูดอย่างไม่พอใจ: “เสียดายรุ่นดีๆ แบบนี้ แต่หน้าตาน่าเกลียด”

“ยัยเด็กนี่ แกพูดอะไรห้ะ เพื่อนฉันแต่งหน้าแล้วสวยกว่าแกเยอะ ดูเธอยังไร้เดียงสาแบบนี้ ยังไม่หย่านมใช่สินะ” นักข่าวหญิงคนนึงลุกขึ้น แล้วพูดอย่างโมโห

ในตอนนั้น จู่ๆ เหยาเหยาก็ลงมาจากชั้นบน เมื่อเห็นหลี่ฝาง จึงรีบยิ้มรับ: “คุณชายหลี่ ท่านกลับมาแล้ว”

“คุณชายหลี่?”

“เหยาเหยา เรียกเขาว่าอะไรนะ?”

เมื่อได้ยินชื่อนี้ นักข่าวหญิงในห้อง ก็ถึงกับหน้าเปลี่ยนสี

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน