NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่564 เฉินฝูเซิงถูกใส่ร้าย

บทที่564 เฉินฝูเซิงถูกใส่ร้าย

“หลี่ฝาง เรื่องครั้งนี้ ขอบคุณคุณจริงๆ ถ้าไม่มีคุณ……”ฉินวี่เฟยพูดด้วยใบหน้าขอบคุณ

ประโยคต่อไปของเธอจะต้องพูดว่า ถ้าไม่มีหลี่ฝาง บริษัทฉินซื่อ กรุ๊ป จะต้องตกไปอยู่ในมือของพ่อฉินเสี่ยวหู่แน่

ส่วนพ่อของฉินเสี่ยวหู่ก็เหมือนกับฉินเสี่ยวหู่ ล้วนแต่เป็นคนใจคดทั้งนั้น

“คุณชายหลี่ ไว้วันไหนมาเป็นแขกบ้านผม”

พ่อของฉินวี่เฟย ก็พูดเชื้อเชิญ:“ผมต้องต้อนรับคุณอย่างดีแน่”

“พี่ใหญ่ คุณหมายความว่าไง พ่อยังไม่ทันฝัง คุณก็เชิญฆาตกรมาเป็นแขกแล้ว?นี่มันต่างอะไรกับ เห็นกงจักรเป็นดอกบัว?”

“พ่อตายยังไม่ทันพ้นเจ็ดวัน คุณก็ทำเรื่องเนรคุณแบบนี้ ไม่กลัวคุณท่านจะตายตาไม่หลับเหรอ?”

พ่อของฉินวี่เฟยไม่สนใจน้องชายรองของตัวเอง แต่ขึ้นรถไปโดยตรง แล้วก็ออกไป

แป๊บเดียวฉินวี่เฟยก็ขึ้นรถมา:“หลี่ฝาง ฉันไปก่อนนะ ส่วนขอบคุณ ฉันไม่พูดมากแล้ว”

หลี่ฝางพยักหน้า จากนั้นก็หรี่ตาให้พ่อฉินเสี่ยวหู่:“เหอะเหอะ แผนล้มเหลวแล้วสินะ?”

“ผมไม่รู้ว่าคุณพูดอะไร?”จนตอนนี้พ่อของฉินเสี่ยวหูก็ยังไม่ยอมรับ

“เหอะเหอะ ยังจะเสแสร้งกับผมอีกทำไม เทคนิคการแสดงของคุณนั้น หลอกคนโง่ได้เท่านั้นแหละ”หลี่ฝางหัวเราะเหอะเหอะ

พ่อของฉินเสี่ยวหู มองหลี่ฝางอย่างอาฆาตแค้น พูดว่า:“คุณชายหลี่ แนะนำนะ ยุ่งเรื่องคนอื่นมากๆ จะตายเร็ว เข้าใจไหม?”

“เหอะเหอะ ผมรู้ว่าคุณเกลียดผม แต่ได้โปรดล่ะคุณทำร้ายอะไรที่เป็นเนื้อแท้หน่อยได้ไหม?คำสาปแช่งพวกนี้ จะมีประโยชน์อะไร ทำไม เป็นนักมายากลเหรอ หรือว่าแม่มด แค่พูดไม่กี่คำ ผมก็จะอายุสั้นหรือเป็นอะไรไปเลยเหรอไง?”หลี่ฝางมองพ่อของฉินเสี่ยวหู ดูถูกอย่างเย็นชา

“โอเค รีบไสหัวไปเถอะ นายท่านฉินไปแล้ว คุณยังไม่รีบตามไปอีก”หลี่ฝางพูดอย่างมีบางอย่างแอบแฝง

หลังจากพ่อของฉินเสี่ยวหูไป เฉินเจียโล่ก็เอารถตักดินกลับไป

“เหอะเหอะ เรื่องนี้ทำได้ไม่เลว”หลี่ฝางมองเฉินเจียโล่กับหวางเสี่ยวหยวนแล้วพูด

“ก็แค่ คุณเอารถตักดินมาจากไหน?”หลี่ฝางมองเฉินเจียโล่ ถามอย่างแปลกใจ

“เหอะเหอะ ก่อนจะมาเป็นนักเลงนี้ ที่จริงผมเป็นแรงงานชาวนา มักจะเดินเตร็ดเตร่ไปทั่วสถานที่ก่อสร้างใหญ่ๆอยู่บ่อยๆ ต่อมา ผมจึงเรียนการแย่งโครงการมาจากคนอื่น รู้จักผู้รับเหมาจำนวนมาก พูดตรงๆนะ อย่าว่าแต่รถขุดดินสี่คันเลย ถึงเป็นสิบคัน ร้อยคัน ผมก็เอามาอยู่ในมือได้อย่างง่ายดาย”

“คุณชายหลี่ ผมสงสัยว่าฉินเสี่ยวหู่ไม่ยอมวางมือดีๆแน่ ไม่อย่างนั้น ให้ผมตามไปไหม?”หวางเสี่ยวหยวนถาม

หลี่ฝางพยักหน้า พูดว่า:“พาคนกลุ่มนี้ คุ้มกันไปตลอดทางเถอะ”

“ค่าใช้จ่ายทุกอย่างของครั้งนี้ ผมจะโอนไปที่บัตรคุณ วางใจเถอะ ทำงานให้ผม ผมไม่ให้คุณควักเงินหรอก”หลี่ฝางมองหวางเสี่ยวหยวน หัวเราะเหอะเหอะขึ้นมา:“จ้างคนพวกนี้ ใช้เงินไม่น้อยเลยสินะ?”

“เงินไม่ได้จ่ายไปเยอะหรอก แต่ใช้แรงเยอะมาก ผมหาอยู่หลายที่ กว่าจะหาคนพวกนี้เจอ”หวางเสี่ยวหยวนพูด:“ผมกลัวคนน้อยไป จะเอา ฉินเสี่ยวหู่ไอ้หมอนี่ไม่อยู่ ยังไม่ทันรอเจียโล่มา ผมก็กลัวว่าเขาจะลงมือ ยกโลงศพของนายท่านฉินไป”

หลี่ฝางหัวเราะไปพูดไป:“ที่นอนอยู่ในโลงศพนั้น ยังไงก็เป็นคุณปู่ฉิน ที่เป็นปู่เขา ถึงฉินเสี่ยวหู่ไม่กตัญญู ก็ไม่กล้าทำอย่างนี้ ไม่อย่างนั้น เขาก็ลงมือไปนานแล้ว ไม่รอพวกเรามาหรอก”

“ตราบใดที่ยังเป็นคน ก็ต้องกลัวฟ้าผ่าใส่”

หลี่ฝางพูดไป แล้วก็กลับมาข้างในเบนซ์G-Classของตัวเอง

ส้าวส้วยหัวเราะเหอะเหอะ:“ลำบากไปหมดจริงๆ จำเป็นด้วยเหรอ?ฉินเสี่ยวหู่เด็กคนนี้ มีดีไว้แค่มอง เขามาถึงวันนี้ได้ อย่างมากก็ใช่อำนาจของตระกูลฉิน”

“ที่จริง หวางเสี่ยวหยวนคนเดียวสามารถเอาฉินเสี่ยวหู่ไอ้เด็กนี่ล้มได้”

หลี่ฝางส่ายหน้า พูดว่า:“ฉินเสี่ยวหู่ไอ้เด็กนี่มีปืน”

“ถ้าบีบจนเขากังวล แล้วยิงขึ้นมาจะทำไง?”หลี่ฝางถามย้อน

“วางใจเถอะ เขาไม่กล้ายิง”

ส้าวส้วยหัวเราะเหอะเหอะ พูดว่า:“ไม่ใช่แค่ฉินเสี่ยวหู่ขี้ขลาด ไม่กล้ายิง แม้แต่หวางเสี่ยวหยวน เฉินเจียโล่ พวกเขาต่างก็ขี้ขลาด”

ส้าวส้วยพูดไป ก็หยิบปืนออกมาจากอ้อมแขน จากนั้นเล็งไปที่ถังแก๊ส แล้วเหนี่ยวไก

เวลานี้ หลี่ฝางตกใจหมด ตกใจจนหน้าเหยเก

ถังแก๊สสี่อันอยู่ด้วยหัน ถ้าระเบิดพร้อมกัน งั้นตัวเอง ก็เกรงว่าจะได้รับผลกระทบด้วย

หลี่ฝางมองส้าวส้วย ตาเบิกโต พูดว่า:“คุณบ้าไปแล้ว!”

แต่ หลังจากที่กระสุนทะลุผ่านถังแก๊ส ส้าวส้วยกลับหัวเราะเหอะเหอะ:“ผมไม่ได้บ้า เจ้านาย คุณดูดีๆ ถังแก๊สนี้ที่จริงไม่มีอะไร”

“แค่มองก็รู้ว่าเป็นถังแก๊สอันใหม่ ไม่เคยใช้”

หลี่ฝางมองส้าวส้วย ด้วยใบหน้าสงสัย:“คุณรู้ได้ไง?”

หลี่ฝางถาม:“เดาเหรอ?”

“ไม่ใช่ ผมวิเคราะห์ออก เฉินเจียโล่นี้ ตั้งแต่ต้นจนจบเขาไม่กลัวตายเลย เขาไม่กลัวตายเหรอ?เขากลัว แต่ ถังแก๊สนี้ล้มลงพื้นแบบนี้ ไม่ระเบิดหรือไง?มีความเป็นได้แน่ที่จะระเบิด ถึงเฉินเจียโล่ไม่กลัว คนที่ขับรถตักดินพวกนั้น ทำไมไม่กลัว?พวกเราก็ไม่กลัวตายหรือไง?”

“ดังนั้น ความจริงมีแค่อย่างเดียว นั่นก็คือถังแก๊ส ที่จริงไม่มีอะไรอยู่ เป็นของปลอม”

ส้าวส้วยหัวเราะเหอะเหอะ พูดว่า:“ที่จริง เฉินเจียโล่มีความกลัวอยู่ชั่วขณะหนึ่ง นั่นก็คือตอนที่ฉินเสี่ยวหู่ใจร้อน เหนี่ยวไก”

“คนอย่างฉินเสี่ยวหู่ ยังเด็กเกินไป คนว่าเขานิดเดียว เขาก็รับไม่ไหว”ส้าวส้วยหัวเราะเหอะเหอะ ปรากฏความดูถูก

“ดูเหมือนข้างกายมู่หรงฉางเฟิง จะไม่มีใครที่ใช้งานได้แล้ว ไม่อย่างนั้น ไม่มีทางที่ใช้ไอ้สวะอย่างนี้อีกแน่”

หลี่ฝางพูดเบาๆ:“น่าจะเพราะว่าฉินเสี่ยวหู่คือคนของตระกูลฉินแหละ”

“ไปเถอะ พวกเรากลับคฤหาสน์กันเถอะ พวกแก๊งคุณชาย ทิ้งไว้อยู่ที่นั่น จะดูไม่ค่อยเหมาะ”หลี่ฝางพูด

ตอนที่หลี่ฝางไปจากคฤหาสน์บ้านซาน บอกพวกเขาแล้วว่า มีเรื่องด่วนต้องจัดการ รอจัดการเสร็จ จะกลับไป

ตอนนี้จัดการเสร็จแล้ว ต้องกลับไปแล้ว

ไปได้ครึ่งทาง โทรศัพท์ของหลี่ฝางก็ดังขึ้นมา เป็นเฉินฝูเซิงที่โทรมา

หลี่ฝางรับสาย แล้วถาม:“เรื่องจัดการเป็นไงบ้าง?”

“แม่เอ๊ย เจ้านาย เกิดเรื่องแล้ว”เฉินฝูเซิงพูด

“เกิดอะไรขึ้น?”

หลี่ฝางขมวดคิ้วแล้วถาม:“ไม่ใช่แค่นักเลงตัวเล็กๆเหรอ?ทำไม เกิดเรื่องอะไรอีก?”

“ใช่นักเลงตัวเล็กๆน่ะจริง แต่ นักเลงตัวเล็กๆพวกนี้มีบางอย่างแปลกๆ พวกเราไม่ได้ตีอะไรเขามากนัก เขากลับตายในที่เกิดเหตุ แล้วหูเฟยก็นำทีมมาทันที มาจับพวกเราไป”

“เมื่อกี๊หูเฟยบอกผมว่า มีคนแจ้งความล่วงหน้า คาดคิดไว้นานแล้ว ดังนั้นหลังจากคนๆนี้ตาย ผมยังไม่ทันหนี หูเฟยก็มาถึง แล้วจับผม”

“หูเฟยพูดแล้ว มีคนจับตาดูอยู่ ถ้าเขาไม่จับ จะต้องมีคนคว้าจุดอ่อนของเขา ถือโอกาสจัดการเขาแน่”

“สี่ตระกูลใหญ่ก็รู้แล้ว ตอนนี้หูเฟยคือคนของคุณ และหูเฟยก็ไม่ได้จ่ายเงินของตระกูลสวี ให้สี่ตระกูลใหญ่ ทำให้สี่ตระกูลใหญ่ไม่พอใจหูเฟย”

“แต่ไหนแต่ไรไม่เคยมีใครกล้าไม่จ่ายเงินสี่ตระกูลใหญ่”

เฉินฝูเซิงพูด:“เจ้านาย คุณมานี่หน่อยไหม?ผมกำลังคุยกับหูเฟย เรื่องนี้ พูดถึงแล้วก็ยากที่จะรับมือ”

“ไม่ใช่ว่าหาคนมาเป็นแพะก็จบแล้วเหรอ?”หลี่ฝางพูด:“ทำไม แม้แต่ผู้ชายล่ำๆก็คว้ามาไม่ได้?”

“เห้อ คนน่ะหาได้ กลุ่มคนข้างกายผม แต่ละคนอยากรับแทนผม แต่ไม่มีประโยชน์อะไร เมื่อกี๊โทรศัพท์ของหูเฟย ได้รับวิดีโออันหนึ่ง ในคลิปนั้นเห็นชัดเจนว่า ผมคือฆาตกร และก็ไม่สามารถสลัดออกได้”

เฉินฝูเซิงขมวดคิ้ว พูดว่า:“เจ้านาย ผมจะทำไงดี คุณต้องช่วยผมนะ ผมไม่อยากเข้าคุก ผมยังไม่แต่งงานเลยด้วยซ้ำ”

“โอเค เรื่องนี้ผมจัดการเอง คุณเอาโทรศัพท์ให้หูเฟยหน่อย”หลี่ฝางพูด

หลังจากเฉินฝูเซิงเอาโทรศัพท์ให้หูเฟย หลี่ฝางจึงถามไปตรงๆ:“เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ไม่สามารถดำเนินการได้เหรอ?”

หูเฟยส่ายหน้า พูดว่า:“ไม่ใช่ไม่ได้ ผมไม่กล้าต่างหาก อีกฝ่ายรู้เบอร์ผม อีเมลส่วนตัว สันนิษฐานว่า อีกฝ่ายคงจับผมไว้แน่นแล้ว แค่ผมเคลื่อนไหวเล็กน้อย อีกฝ่ายก็จะจับจุดอ่อนของผมไว้ทันที ผมสงสัยว่า เป็นสี่ตระกูลใหญ่ทำ อยากให้ผมช่วยเฉินฝูเซิง จากนั้นก็ดึงผมลงมา”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน