NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่612 จูเก่อเหย่ คุณมีคำสั่งเสียไหม?

บทที่612 จูเก่อเหย่ คุณมีคำสั่งเสียไหม?

ชายชรากระอักเลือดออกมา แป๊บเดียวก็ทำเอาจูเก่อเหย่และคนอื่นๆตกใจหมด

“พี่ เกิดอะไรขึ้น?ทำไมยังอ้วกเป็นเลือดอีก?”

“ร่างกายของพี่หวงแข็งแรงมาตลอด นี่ไม่มีสาเหตุอะไร ทำไมจู่ๆก็กระอักเลือดออกมาล่ะ?”

คนที่ฝึกศิลปะการต่อสู้ ต้องฝึกอย่างลำบากแทบจะทุกวัน ไม่อย่างนั้น ก็จะฝึกศิลปะการต่อสู้ได้อย่างยากเย็น แล้วก็จะค่อยๆถดถอยลง

กังฟูคนๆหนึ่งจะสู้ได้หรือไม่ ที่สำคัญมีอยู่สองอย่าง หนึ่งคือร่างกายของตัวเองแข็งแรงหรือไม่ ถ้าไม่แข็งแรง ต่อสู้ขึ้นมา ไม่ว่าจะความเร็ว หรือว่ากำลัง ระดับก็จะถดถอยลงแน่นอน

อย่างที่สองก็คือความสามารถของการพลิกแพลงตามสถานการณ์ และก็การประยุกต์ใช้กระบวนท่าบางส่วน

พูดได้ว่า ชายชรานามสกุลหวงคนนี้ ถึงจะเป็นปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้คนหนึ่ง ร่างกายของเขา เป็นธรรมชาติโดยไม่ต้องสงสัยเลย

อ้วกเป็นเลือดอย่างไม่มีเหตุผล เกี่ยวข้องกับหมัดของหลอซ่าเมื่อกี๊กว่าแปดสิบเปอร์เซ็นต์แน่ๆ

“คุณทำเหรอ?”มองไปที่หลอซ่า สีหน้าของจูเก่อเหย่ ก็ซับซ้อนสุดๆ

นอกจากความกลัวแล้ว ที่มากกว่านั้นก็คือความที่ยากจะทำให้คนเชื่อได้

หลอซ่าไม่พูด ได้แต่มองจูเก่อเหย่นิ่งๆ สายตาเต็มไปด้วยความดูถูก

พรวด

ในตอนนี้ ชายชราที่นามสกุลหวงนี้ ในปากก็มีเลือดอ้วกออกมาอีกครั้ง

หลังจากอ้วกติดต่อเป็นเลือดสดออกมาสองรอบติด ใบหน้าของชายชราคนนี้ ก็ดูซีดขาว เลือดสูบฉีดที่ใบหน้า หายไปในทันที ที่มาแทนที่นั่น ก็คือความเจ็บปวดทั้งใบหน้า

“พี่หวง”

มีคนในกลุ่มคนเริ่มใจร้อน รีบวิ่งเข้าไป ประคองชายชราที่นามสกุลหวงไว้ เพราะว่าเขามองออกว่า ชายชราที่นามสกุลหวงนี้ เหมือนจะทนต่อไปไม่ไหวแล้ว

“พี่หวง คุณไม่เป็นไรใช่ไหม?”ชายชราคนหนึ่งถามอย่างเป็นห่วง

และตอนที่ชายชราที่นามสกุลหวงจะพูดขึ้นมา ในปากของเขา ก็อ้วกออกมาเป็นเลือดอีกครั้ง นี่เป็นเลือดที่เขาอ้วกออกมาเป็นครั้งที่สามแล้ว

หลังจากอ้วกเป็นเลือดออกมาสามรอบ ที่ตัวของชายชราที่นามสกุลหวง ดูซีดเซียวแทบจะไม่เหมือนมีชีวิตแล้ว

ทั้งตัว เหมือนกับสิ้นชีพลงแล้ว

ถ้าไม่ใช่ว่ามีคนประคองเขาไว้ เวลานี้ เขาจะต้องล้มลงไปที่พื้น จมลงไปลุกไม่ขึ้นมาแน่

“เอ่อ……”

ใบหน้าของทุกคน เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมสุดๆ

ทุกคนมองไปที่ชายชราที่นามสกุลหวง มองไปที่หลอซ่าแวบหนึ่ง ในสายตานอกจากความหวาดกลัวแล้ว ก็มีแต่ความหวาดกลัว

“หรือว่า……”

ปรมาจารย์ที่ประคองชายชรานามสกุลหวง เวลานี้จู่ๆก็ถอดเสื้อผ้าของชายชรานามสกุลหวง

เห็นเพียงแต่ หน้าอกของชายชราที่นามสกุลหวง มีรอยฝ่ามือแดงสดอย่างชัดเจน

และรอยฝ่ามือนี้ ก็เป็นหลอซ่าที่ทิ้งไว้ในร่างกายเขา

มองเห็นฉากนี้ ทุกคนต่างแน่ใจว่า ที่พี่หวงอ้วกเป็นเลือดถึงสามรอบนี้ เป็นหลอซ่าที่ทำ

“เป็นกำลังภายใน”

ในนั้นมีชายชราที่รอบรู้คนหนึ่งสูดหายใจลึกๆ พูดว่า:“เมื่อกี๊ที่หลอซ่าใช้ เป็นกำลังภายใน”

กำลังภายใน?

คำนี้พูดออกไป ทุกคนต่างพูดไม่ออก

จากนั้น ก็เริ่มถกเถียงขึ้นมา

“เขาฝึกกำลังภายในซะด้วย จะเป็นไปได้ไงล่ะ?ไม่ได้บอกเหรอว่า กำลังภายในก็แค่เรื่องเล่าที่หลอกผู้คนน่ะ?จะมีคนฝึกออกมาได้ไงกัน”

“ใช่ แม้แต่ชายชราที่เขาบู๊ตึ๊งฝึกศิลปะการต่อสู้มาเกือบร้อยปี ก็ยังฝึกกำลังภายในออกมาไม่ได้ แสวงหามาทั้งชีวิต เขายังหนุ่มขนาดนี้ จะฝึกกำลังภายในออกมาได้ไงล่ะ?”

“ไม่มีทาง ผมไม่เชื่อ”

“เรื่องนี้พอมาอยู่ตรงหน้า คุณยังจะไม่เชื่ออีก หรือว่าคุณมองไม่ออกเหรอว่า พี่หวงได้รับการบาดเจ็บภายในอย่างรุนแรงอย่างเห็นได้ชัด พูดได้เลยนะ ถึงคุณจะใช้แรงทั้งหมดอัดใส่พี่หวงสองหมัด ก็ทำให้พี่หวงอ้วกออกมาเป็นเลือดได้เหรอ?”

“สามหมัดก็ไม่ได้”

“ใช่ ถ้าทำให้พี่หวงบาดเจ็บภายในได้ นี่ต้องใช้พลังมากแค่ไหนกัน พลังจะต้องทะลุผ่านร่างกาย โจมตีไปที่อวัยวะภายในอย่างรุนแรง แบบนี้ถึงจะได้รับบาดเจ็บภายใน ถึงจะอ้วกเป็นเลือด”

“ถ้าเป็นเด็กทั่วๆไป หรือว่าคนที่อ่อนแอ ต่อสู้จนอ้วกเป็นเลือด หากพวกเราพยายามกันหน่อย ก็ทำได้แน่ แต่พี่หวงที่ร่างกายแข็งแรงแบบนี้ ดัน……”

นึกถึงหมัดเบาๆสบายๆของหลอซ่าเมื่อกี๊ ทุกคนต่างขนหัวลุกขึ้นมา

มองไปแล้ว หลอซ่าไม่ได้ใช้แรงมากเลย

แต่ถึงแม้จะแบบนี้ ร่างกายของพี่หวง กลับถูกโจมตียับเยิน

ฆ่าอย่างรวดเร็ว!

ใช่ มันคือการฆ่าอย่างรวดเร็ว!

พี่หวงถูกฆ่า!

หลอซ่าใช้แค่ทริคเดียว ก็ฆ่าพี่หวงได้อย่างรวดเร็ว!

“คนๆนี้ได้เข้าสู่ขอบเขตที่ตำนานว่ากันมาแล้ว ถึงพวกเราจะร่วมมือกัน ก็กลัวว่าจะไม่ใช่คู่ต่อสู้เขาหรอก?”เวลานี้ มีคนเริ่มถอนตัว พูดออกมาตรงๆ

กำลังภายใน

ตำนานอย่างหนึ่งที่ว่ากันว่าเป็นการมีอยู่ที่เพ้อฝัน ขอบเขตที่ไม่เคยมีใครไปถึงได้

หลอซ่าที่อยู่ตรงหน้านี้ เหมือนจะไปถึงแล้ว

ถ้าข่าวนี้เผยแพร่ออกไป ทั้งยุทธภพได้ตกตะลึงแน่

สีหน้าของจูเก่อเหย่ ก็บูดเบี้ยว เขามองไปที่หลอซ่า ถามอย่างอ้ำๆอึ้งๆ:“ที่คุณ……เพิ่งใช้ไป ……เป็นกำลังภายในจริงๆเหรอ?”

จูเก่อเหย่กลัวแล้ว กลัวโดยสิ้นเชิง

“ผมไม่รู้ว่ากำลังภายในคืออะไร”

หลอซ่ามองไปที่จูเก่อเหย่ พูดเบาๆ

จูเก่อเหย่ขมวดคิ้ว พูดว่า:“คุณแกล้งโง่ต่อหน้าผมให้มันน้อยๆหน่อยเถอะแม่เอ๊ย หมัดที่คุณปล่อยออกไปเมื่อกี๊ มันเป็นการใช้กำลังภายใน”

“อ้อ ที่แท้นั่นก็คือกำลังภายใน”หลอซ่าหัวเราะแบบโง่ๆ

“อยากตายใช่ไหม!”

ทันใดนั้น ในมือของจูเก่อเหย่ ก็หยิบปืนออกมา

จูเก่อเหย่คิดในใจ ถึงคุณฝึกกำลังภายในเป็นแล้วยังไง?ถึงศิลปะการต่อสู้คุณจะสูงแล้วยังไง?

ศิลปะการต่อสู้สูงแค่ไหน ก็เป็นคนมีเนื้อหนังกลัวอาวุธเหมือนกันแหละน่า

แล้วนับประสาอะไรกับผมที่มีปืนอยู่ในมือ ฮ่าฮ่า

นอกจากร่างกายของคุณ จะอยู่ในจุดที่ฟันแทงไม่เข้า ไม่อย่างนั้น ถูกกระสุนผมยิงใส่ ก็ตายอย่างไม่ต้องสงสัยแน่

ไม่มีร่างกายของใครที่ทนต่อกระสุนได้

ดังนั้นในใจของจูเก่อเหย่ หลอซ่าตายแน่ๆครั้งนี้

หลอซ่ามองจูเก่อเหย่แล้วหัวเราะเบาๆ:“สามปีก่อนคุณต่ำช้าแบบนี้ คิดไม่ถึงว่าวันนี้ คุณยังจะไม่เปลี่ยนไปเลยนะ”

“ต่ำช้าก็ดี สูงส่งก็ได้ เป้าหมายของผมก็คือฆ่าคุณ ต้องการชีวิตของคุณ”

“คุณก็แค่นักเลงตัวเล็กๆ ไม่มีคุณสมบัติที่จะต่ำช้าหรือไม่ต่ำช้าเลย ในยุทธภพของพวกคุณ ไม่ใช่ว่าผู้ชนะก็เป็นพระราชาเหรอไง?”

จูเก่อเหย่หัวเราะหึหึขึ้นมา:“คุณไม่ใช่นักศิลปะการต่อสู้ ผมก็ไม่จำเป็นต้องคุยหลักการ กฎอะไรกับคุณ แค่ฆ่าคุณได้ ก็พอแล้ว”

เวลานี้จูเก่อเหย่หยิบปืนออกมา ใบหน้าชายชราทุกคน ก็เผยให้เห็นความดูถูก

พวกเขาล้วนแต่เป็นนักศิลปะการต่อสู้ที่อนุรักษนิยม ที่ไม่ชอบที่สุด ก็คืออาวุธ

สู้เขาไม่ได้ ก็หยิบปืนออกมา อะไรกันเนี่ย?

ถึงแม้ในใจจะไม่พอใจ แต่จะทำไงเมื่อจูเก่อเหย่เป็นคนที่ต้องการอะไร ก็จะเอาอย่างนั้นให้ได้ จึงไม่มีใครกล้าพูดอะไร

“หลอซ่า ครั้งนี้คุณตายแน่”

จูเก่อเหย่ทำเสียงฮึดฮัด

“เหรอ?”

หลอซ่าส่ายหน้า:“คุณคิดว่า กระสุนของคุณ จะยิงผมได้เหรอ?”

พูดจบ หลอซ่าก็ลงมือก่อน มือข้างหนึ่งของเขายื่นออกไป ออกไปทางจูเก่อเหย่ ส่วนจูเก่อเหย่ก็นิ่งเฉยใดๆ ถึงแม้การยิงปืนของเขาจะไม่สุดยอดเหมือนโหจื่อ แต่ก็ถือว่าเป็นนักแม่นปืนอีกคน

ที่จริง ตอนที่จูเก่อเหย่ไปท้าทายสุดยอดปรมาจารย์แบบลับๆ ก็เคยแอบใช้อาวุธอยู่หลายครั้ง นั่นก็คือปืน

มีผู้ชายสองคนที่เก่งกว่าจูเก่อเหย่ ต่างถูกจูเก่อเหย่ยิงตายหมด

แต่พอจบเรื่องจูเก่อเหย่ก็เอาศพจัดการอย่างเรียบร้อย ดังนั้นจึงไม่มีใครรู้มาตลอด

จูเก่อเหย่เหนี่ยวไก ไม่มีความลังเลสักนิด ส่วนหัวของหลอซ่านั้น ก็เหมือนกับภาพลวง หลบกระสุนของเขา

ระยะห่างของจูเก่อเหย่กับหลอซ่านั้นใกล้ชิดกันมาก ความเร็วที่จูเก่อเหย่เหนี่ยวไก ยังไม่เร็วเท่ากับที่หลอซ่าลงมือ

ฉับ!

แค่ได้ยินเสียงฉับ หลอซ่าก็บีบแขนของจูเก่อเหย่ ทำเอากระดูกในแขน แตกหักหมด

ทุกคนสูดลมหายใจ ไม่มีใครเข้ามาช่วย

ปรมาจารย์ที่ฝึกฝนกำลังภายในคนหนึ่ง ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขามากพอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวอย่างของพี่หวง ชีวิตที่วางไว้อยู่ตรงหน้าพวกเขา พวกเขาจะกล้าลงมือได้ไง

ใครต่างก็ไม่อยากกลายเป็นคนต่อไป

เกี่ยวกับปรมาจารย์กำลังภายในนั้นเจ๋งแค่ไหน นี่คือความลึกลับ แล้วก็เป็นตำนานอย่างหนึ่ง

ระหว่างช่องว่างนั้น ไม่มีใครรู้ว่ามากแค่ไหน แต่ต้องไม่น้อยแน่

เรียกได้ว่าจูเก่อเหย่เป็นคนหนึ่งที่สุดยอดในท่ามกลางพวกเขา แต่อยู่ในมือของหลอซ่า กลับถูกจับไว้ เหมือนกับนกอินทรีที่จับลูกไก่ แม้แต่แรงที่ต้านทานยังไม่มี

ปืนในมือของจูเก่อเหย่ เหมือนกับของตกแต่ง ถูกหลอซ่าแย่งไป แตกหักออกเป็นสองสามท่อน

“จูเก่อเหย่ คุณมีคำสั่งเสียไหม?”หลอซ่าถามด้วยใบหน้าเย็นชา

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน