NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่616 ไม่มีเงินแล้ว?

บทที่616 ไม่มีเงินแล้ว?

หลี่ฝางไม่ได้รอสายของมู่เสี่ยวไป๋ แต่ก็ไม่อยากพลาดอะไรไป ยังไงรับสายก็ไม่เป็นไรนี่

ถ้ามู่เสี่ยวไป๋จะบอกเรื่องอะไรที่สำคัญตัวเองล่ะ?

หลังจากรับสาย หลี่ฝางก็ถามไปตรงๆ:“มีอะไรก็พูดมา อย่าไร้สาระ เวลาของผมมีค่ามาก”

เสียงของมู่เสี่ยวไป๋เย็นชามาก:“คนกลุ่มนั้นที่เขาหมาป่า คุณส่งไปเหรอ?”

“เขาหมาป่าเขาหมาห่าอะไรล่ะ ผมไม่รู้ว่าคุณกำลังพูดอะไร”หลี่ฝางปฏิเสธ

ตอนที่ไอ้หน้าหนวดไปถึงศูนย์อาบน้ำ เห็นได้ชัดว่าผ่านการต่อสู้ที่ดุเดือด และการต่อสู้ที่ดุเดือดนั้น จะต้องมาจากทางเขาหมาป่าแน่

ตอนนี้ดูเหมือน ไอ้หน้าหนวดน่าจะสำเร็จแล้ว

หมายความว่า เครื่องจักรทำเงิน วัสดุอะไรพวกนั้นบนเขาหมาป่า ถูกไอ้หน้าหนวดกำจัดทิ้งแล้ว

หลี่ฝางคิดในใจ ตอนนี้มู่เสี่ยวไป๋ที่ปลายสาย น่าจะบ้าคลั่งแล้วสินะ?

“หลี่ฝาง คุณใช่ผู้ชายหรือเปล่า?กล้าทำไม่กล้ารับ?”

มู่เสี่ยวไป๋พูดอย่างเซ็งๆ:“เรื่องโรงงานที่เขาหมาป่า ความลับนี้คนที่รู้มีไม่เยอะ หนึ่งในนั้นคือจูเฟิ่งปิน”

“จูเฟิ่งปินอยู่ในมือของคุณ น่าจะพูดหมดแล้วสินะ?”

มู่เสี่ยวไป๋หัวเราะเหอะเหอะอย่างเย็นชา:“หลี่ฝาง คุณนี่ใช้ได้นี่ โทรศัพท์ของจูเฟิ่งปิน ก็ถูกคุณเอาไป”

มู่เสี่ยวไป๋ฉลาดมาก เดาออกว่าโทรศัพท์ของจูเฟิ่งปินอยู่ในมือของหลี่ฝาง

“โทรมา ก็เพื่อพูดพวกนี้น่ะเหรอ?”หลี่ฝางทนไม่ค่อยไหวแล้ว เตรียมจะวางสาย

“พูดไปก็ไม่มีประโยชน์ ผมพูดอีกครั้งนะ เวลาของผมมีค่ามาก ไม่มีเรื่องอื่น ผมวางละ”หลี่ฝางพูดอย่างเซ็งๆ

มู่เสี่ยวไป๋จึงเข้าสู่ประเด็น:“ผมรู้ว่าแม่แบบอยู่ในมือของคุณ บอกราคามาสิ”

“เหอะเหอะ คุณรู้ได้ไง?อู๋เฟยบอกคุณเหรอ?”หลี่ฝางลองถามดู

ถึงแม้หลี่ฝางจะปล่อยอู๋เฟย แต่จากที่โหจื่อพูด เจ้านายเบื้องหลังของอู๋เฟย เป็นไปได้ที่จะไม่ใช่มู่เสี่ยวไป๋ แต่เป็นลูกพี่หลิน

ดังนั้น หลี่ฝางอยากลองเชิง มู่เสี่ยวไป๋ดันปฏิเสธ:“ผมโทรมาหลายสาย โทรไม่ติดเลยสักสาย รวมทั้งเบอร์ของจูเก่อเหย่ โทรศัพท์ของเขา ก็ไม่มีใครรับ”

“ถ้าผมเดาไม่ผิด ผมน่าจะติดกับแล้วใช่ไหม?”

หลี่ฝางไม่พูด ลังเลหน่อยๆ มู่เสี่ยวไป๋จึงพูดต่อ:“เดิมทีผมอยากยืมมือคนมาฆ่า หลอกใช้จูเก่อเหย่กำจัดคุณ แต่คิดไม่ถึงว่า กลับตกหลุมพรางของพวกคุณเอง”

“เหอะเหอะ พวกคุณทำการซุ่มโจมตีนานแล้ว สุดท้ายกลับติดกับดักของตัวเองเอง”

หลี่ฝางหัวเราะเหอะเหอะ มองมู่เสี่ยวไป๋:“นี่น่าจะไม่ใช่ที่คุณคาดไว้สินะ?คุณน่าจะส่งคนไปตรวจดูที่ศูนย์อาบน้ำแล้วสินะ?”

มู่เสี่ยวไป๋ไม่ตอบ แต่มองหลี่ฝางแล้วถามอีกครั้ง:“ไม่พูดเรื่องอื่นแล้ว พวกเรามาคุยเรื่องธุรกิจดีกว่า”

“แม่แบบในมือของคุณ เตรียมจะขายเท่าไหร่?”

มู่เสี่ยวไป๋พูด:“คุณน่าจะเข้าใจดี ทั้งเมืองเอก นอกจากผมแล้ว ไม่มีใครสนใจแม่แบบในมือคุณได้”

“คุณเห็นผมเป็นคนไม่มีเงินเหรอ?”หลี่ฝางหัวเราะเหอะเหอะ ถามย้อนขึ้นมา

มู่เสี่ยวไป๋มีเสียงเย็นชาหน่อยๆ:“หลี่ฝาง คุณอย่ามาทำไร้เดียงสาหน่อยเลย สังคมนี้ ทุกคนต่างทำงานหาเงิน คุณจะทำตัวสูงส่งกับผมทำไมเหรอ ภูมิหลังของคุณ ผมได้ยินมาว่า หลี่เจียเฉินนั่น ที่จริงก็คือบุคคลที่ออกมาอย่างเสมือนจริง เขาไม่ใช่ปู่คุณเลย เขาเป็นคนต่างชาติคนหนึ่ง”

“ส่วนหลอซ่าพ่อคุณ ก็แค่เคยช่วยเขาเท่านั้น เพื่อเป็นการตอบแทน คนที่ชื่อหลี่เจียเฉินนั้น ให้เงินก้อนหนึ่งหลอซ่า ให้เขากลับไปที่เมืองเอก”

“หลายวันมานี้ หลอซ่าเอาเงินก้อนนั้น ใช้ไปหมดแล้วสินะ?”

มู่เสี่ยวไป๋พูด:“หลี่ฝาง อย่าเพิ่งรีบปฏิเสธ คุณถามพ่อคุณก่อนก็ได้ ต้องการเงินไหม วางใจเถอะ ผมต้องให้ราคาที่คุณพอใจแน่”

พอหลี่ฝางได้ยินคำพูดนี้ของมู่เสี่ยวไป๋ ก็ขมวดคิ้ว

หรือว่า พ่อตัวเองจะใช้เงินหมดเกลี้ยงแล้วจริงๆ?

ผับ สถานตากอากาศ สวนสนุก แล้วก็สตรีทฟู้ดที่ปรับเปลี่ยนจากร้านปิ้งย่างเจ้าพาน ต่างลงทุนด้วยเงินจำนวนมาก

หลี่ฝางรู้ว่า พ่อตัวเองไม่ได้ยืมเงินจากธนาคาร ต่างใช้เงินตัวเองจ่ายทั้งนั้น

ถ้าหลี่เจียเฉินนั่นไม่ใช่ปู่ตัวเองจริงๆ งั้น เงินก็น่าจะใช้ใกล้หมดแล้วจริงๆ

หลี่ฝางคิด แล้วพูด:“คุณพูดก่อน คุณเสนอราคาให้เท่าไหร่?”

“เหอะเหอะ นี่สิถึงจะถูก”

มู่เสี่ยวไป๋เห็นการประนีประนอมของหลี่ฝาง ก็หัวเราะหึหึ:“ห้าร้อยล้าน”

เสียงดังฟ่อขึ้นมา หลี่ฝางสูดหายใจแม่แบบเก่าๆในมือตัวเองนี้ มู่เสี่ยวไป๋เสนอราคามาห้าร้อยล้านเลย

ทันใดนั้นหลี่ฝางก็รู้สึกว่าแม่แบบที่ตัวเองถืออยู่นั้น มีค่ายิ่งกว่าเพชร

“ว่าไง?”มู่เสี่ยวไป๋ถาม

หลี่ฝางไม่ตอบ เงียบไปสักพัก แล้วจึงวางสายลง

หลี่ฝางมองส้าวส้วย แล้วถาม:“ส้าวส้วย ผมถามคุณอย่างหนึ่ง คุณบอกความจริงกับผม”

ส้าวส้วยพยักหน้า มองหลี่ฝางแล้วพูด:“ถามมาเถอะ”

“พ่อผมเขายังมีเงินอยู่ไหม?”หลี่ฝางถาม

ส้าวส้วยหัวเราะเหอะเหอะ:“ทำไมต้องถามนี่ล่ะ?”

“มู่เสี่ยวไป๋อยากจะซื้อแม่แบบในมือของผม เหมือนว่าเขาจะสืบภูมิหลังของพ่อผมมาดีแล้ว เขาบอกว่า พ่อผมเอาเงินที่มาจากต่างประเทศนั้น ใช้ฟุ่มเฟือยจนเกลี้ยงหมดแล้ว”

“เป็นแบบนี้เหรอ?”หลี่ฝางถามอย่างกังวล

“พูดตามเหตุผลแล้ว เป็นแบบนี้จริงๆ”ส้าวส้วยพยักหน้า พูดว่า:“ตอนนั้นเงินที่พวกเราเอากลับมาจากดูไบ เยอะมาก แล้วโดยพื้นฐานก็ใช้ไปพอประมาณแล้ว”

ในใจหลี่ฝางกังวล ไม่มีเงินแล้วเหรอ?

แต่ตัวเอง ก็ยังใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย

ทันใดนั้น ในใจของหลี่ฝาง ก็รู้สึกผิดหน่อยๆ

ตลอดมา หลี่ฝางใช้เงินอย่างไม่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นหุ้นของตระกูลฉิน หรือว่าผับนั้นที่มีมูลค่าสามพันล้าน หลี่ฝางก็คิดว่านั่นก็แค่ของนอกกาย

แต่จากนั้น ส้าวส้วยพูดอีกว่า:“แต่ ถึงแม้ลูกพี่ไม่มีเงินแล้ว แต่ในมือของลุงเฉียน กลับมีอีกเยอะ”

“ทรัพย์สินในมือของลุงเฉียน เทียบกลับลูกพี่แล้ว ถือว่าเยอะมาก นอกจากลุงเฉียนแล้ว ในมือผมก็ไม่น้อย”

“แน่นอนว่า โหจื่อก็มี พวกเรามีหมด”

“ในมือลุงเฉียนนั้นมีมากสุด ในมือของลูกพี่ถือว่าอันดับสอง ตอนที่พวกเราไปจากดูไบ หลี่เจียเฉินแบ่งค่าคอมมิชชั่นให้พวกเรา นอกจากนี้ ลูกพี่ยังมีบ่อน้ำมัน กำไรทุกปีของบ่อน้ำมันนั้น อยู่ที่พันกว่าล้านขึ้นไป”

“ดังนั้น ถึงในมือลูกพี่จะยังไม่มีเงินชั่วคราว ก็ไม่จำเป็นต้องห่วง”

“เงินของพวกเรา ล้วนแต่เป็นของลูกพี่”

ส้าวส้วยหัวเราะเหอะเหอะ พูดว่า:“สำหรับพวกเราแล้ว เงินก็คือตัวเลขเสมือนจริง ผมไม่รู้เลยว่าจะใช้ยังไง”

หลี่ฝางฟังจบ ก็รีบกลืนน้ำลาย:“งั้นคุณเท่าไหร่?”

“สามถึงห้าพันล้าน?ผมก็ไม่เคยดู น่าจะประมาณนี้”ส้าวส้วยพูดหน้านิ่งๆ:“โหจื่อน้อยกว่าผมหน่อย แต่ที่มากสุด ก็คือลุงเฉียน ลุงเฉียนช่วยหลี่เจียเฉินดูแลหุ้น กองทุนของเขา ได้ค่าคอมมิชชั่นจำนวน ทรัพย์สมบัติของเขา ถึงจะไม่ถึงแสนล้าน แต่ก็น่าจะไม่ต่ำกว่าหกหมื่นล้าน”

“ส่วนลูกพี่นั้น เหมือนว่าเขาจะได้แบ่งไปสามหมื่นล้าน”

“เงินพวกนี้ เป็นเงินที่คุณท่านหลี่เจียเฉินให้พวกเรา ตอนที่พวกเราจากมา”ส้าวส้วยพูดด้วยหน้านิ่งๆ

หลี่ฝางตะลึงจนอ้าปากกว้าง:“พูดแบบนี้คือ พวกคุณแต่ละคนล้วนแต่เป็นเศรษฐีกันน่ะสิ?”

“ใช่ ไม่ใช่แค่พวกเรา แม่คุณก็ด้วย เจ้านาย ในมือของเธอ น่าจะถือเงินก้อนหนึ่งไว้ด้วย นอกจากแม่คุณแล้ว ก็มีคุณ คุณน่าจะมีอยู่ส่วนหนึ่ง ตอนนั้นคุณท่านหลี่เจียเฉิน อยากเรียกคุณมาอยู่ข้างกายเขา และเจอคุณมาตลอด แต่ลูกพี่ปฏิเสธ เขาบอกว่ามีโอกาส จะพาคุณไปเจอเขา”

“ผมคิดว่า คุณท่านหลี่เจียเฉินอยากจะเอาทรัพย์สินของเขา โอนให้คุณ”ส้าวส้วยพูด

หลี่ฝางไม่ค่อยอยากจะเชื่อ:“โอนให้ผม?”

“ใช่ หลี่เจียเฉินมีทายาทแค่คนเดียว แต่ทายาทคนนั้นของเขา อกตัญญูมาก และก็เป็นคนที่ทะเยอทะยานสุดๆ อยากจะฆ่าหลี่เจียเฉินให้ตาย เป็นลูกพี่ที่ลงมือ ห้ามไว้หลายครั้งแล้ว”

“ที่จริงแล้ว หลี่เจียเฉินเอาทรัพย์สินของตัวเอง โอนให้ลูกพี่ทั้งหมดไม่ใช่แค่ครั้งเดียว แต่ลูกพี่ปฏิเสธหมด”

ส้าวส้วยพูด:“กลับกัน คุณท่านหลี่เจียเฉินอยู่ที่ต่างประเทศ ไม่มีคนที่สนิทหรือไว้ใจได้ ในเมื่อเขารับลูกพี่เป็นลูกชายบุญธรรม งั้นคุณก็เป็นหลานชายบุญธรรมของเขา เขาเอาทรัพย์สินโอนให้คุณ ก็เป็นเรื่องปกติมาก”

“ตอนนั้น เขาพูดกับผมอยู่หลายครั้ง”

ส้าวส้วยพูด

หลี่ฝางฟังจบ ก็ตะลึง:“คุณล้อเล่นกับผมเหรอ?”

ส้าวส้วยส่ายหน้า:“สรุปคือ จำไว้ว่า พวกเราไม่ได้ขาดเงิน”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท