NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 621 แผนร้ายของลูกพี่หลิน

บทที่ 621 แผนร้ายของลูกพี่หลิน

“ทำไมเหรอ ร่างกายผอมแห้งแบบแก ยังคิดที่จะต่อยกับฉัน?”

จางเสี่ยวเฟิงหัวเราะอย่างเย้ยหยันพลางกล่าว: “แกยังจำได้ไหมว่าตอนที่พวกเราอยู่ม.ปลายมีเรื่องชกต่อยกันกี่ครั้ง? ครั้งนั้นแกถูกฉันต่อยจนคุกเข่าอ้อนวอนเลยไม่ใช่เหรอ?”

เป็นความจริง ชีวิตนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายเวลาสามปี ระหว่างหลี่ฝางและจางเสี่ยวเฟิงได้เกิดการปะทะขึ้นอยู่บ่อยครั้ง แล้วก็จริงที่หลี่ฝางไม่เคยชนะเลยสักครั้ง

แต่ว่าคุกเข่าอ้อนวอน มันไม่จริงเลยสักนิด

แต่ว่าที่แพ้ในตอนนั้น เป็นเพราะร่างกายขาดแคลนอาหาร บวกกับนอนไม่ค่อยหลับ สภาพจิตใจและร่างกาย ต่างก็ไม่ค่อยจะดี แต่มาวันนี้ ไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว ตลอดระยะเวลามานี้ หลี่ฝางได้วิ่งออกกำลังกาย ฟิตร่างกายอยู่ไม่ขาด

“คิดไม่ถึงจริง ๆ ว่าลูกหมาที่น่าสงสารตอนม.ปลาย จะกลายมาเป็นคุณชายใหญ่แห่งตระกูลหลี่ในวันนี้” จางเสี่ยวเฟิงกล่าวด้วยท่าทีริษยาเล็กน้อย

“นั่นนะสิ ฉันเองก็คิดไม่ถึงเหมือนกัน ว่าเพื่อเงินแล้ว แกจะมาฆ่าฉัน” หลี่ฝางกล่าวอย่างเรียบ ๆ

“ถึงยังไง เราก็เป็นรูมเมทกันมาตั้งสามปีแน่ะ”

หลี่ฝางหัวเราะเหอะ ๆ กล่าว: “ในความเป็นจริงแล้ว ตอนนี้ฉันก็อยากเป็นทาสของแก แต่ก็น่าเสียดาย ฉันรู้ว่าแกไม่ต้องการฉันหรอก”

“ฉันไม่พูดพร่ำทำเพลงกับแกแล้ว มัวชักช้า จะมีคนมาเห็นเอาได้”

จางเสี่ยวเฟิงเม้มปาก แล้วกล่าว: “หลี่ฝาง วันนี้เราสองคน ดูเหมือนว่าจะสามารถรอดชีวิตไปได้เพียงคนเดียวเท่านั้น

“อืม หลังจากตายไป อย่าลืมไปทักทายตู้เฟยด้วยล่ะ” หลี่ฝางพยักหน้า พลางกล่าว

“แม่งเอ๊ย”

หลังจากที่จางเสี่ยวเฟิงสบถออกมาแล้ว เขาก็ตรงดิ่งเข้ามาหาหลี่ฝาง ความเร็วของเขานั้น นับได้ว่าเร็วมาก ดูเหมือนว่าช่วงเวลาที่ไม่ได้เรียนหนังสือ จางเสี่ยวเฟิงคนนี้ ก็ได้พัฒนาขึ้นมาเหมือนกัน

แน่นอน ตัวหลี่ฝางเองนั้นก็สุขุมและใจเย็นอย่างสุดขีด

หากเป็นเมื่อก่อนล่ะก็ ถ้าต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์เช่นนี้ หลี่ฝางคงตกใจจนทำอะไรไม่ถูกไปแล้ว แต่หลังจากที่เขาได้ผ่านเรื่องรบราฆ่าฟันมาตั้งมากมาย ในวันนี้หลี่ฝางเองก็ได้พัฒนาขึ้นมาเยอะมาก

เขาหรี่ตาลงเล็กน้อย มองดูฝีเท้าของจางเสี่ยวเฟิง ในวินาทีที่จางเสี่ยวเฟิงกระโจนเข้ามานั้นเอง ทันใดนั้นหลี่ฝางก็พลันขยับตัว อ้อมไปด้านหลังของจางเสี่ยวเฟิง และมีดที่อยู่ในมือของเขา ก็กรีดเข้าไปที่แผ่นหลังของจางเสี่ยวเฟิง

จางเสี่ยวเฟิงกัดฟันกรอด และไม่ได้เสียงร้องใด ๆ ออกมา แต่บนใบหน้าของเขาได้ปรากฏแววความตื่นตระหนกและโมโหขึ้นมา: “นึกไม่ถึงว่าไม่เจอกันแค่เดือนเดียว แกเหมือนกับเปลี่ยนเป็นคนละคนแน่ะ”

“เพราะฉะนั้น วันนี้แกไม่มีทางชนะแล้ว” หลี่ฝางเอ่ยขึ้นมาอย่างเรียบ ๆ

จางเสี่ยวเฟิงไม่ได้พูดมากอะไร และพุ่งเข้าใส่หลี่ฝางอีกครั้ง ครั้งนี้ เขายังได้ส่งสายตาให้กับเซี่ยลู่ ความหมายคือให้เซี่ยลู่ช่วยเขาอีกแรง

แต่เซี่ยลู่ไม่ได้ไง่ถึงขนาดนั้น ในมือของหลี่ฝางมีมีดอยู่ แต่ในมือของเธอกลับไม่มีอาวุธใด ๆ เลย แล้วจะกล้าถลาเข้าไปอย่างไม่ลืมหูลืมตาได้ยังไง?

เซี่ยลู่มองไปรอบ ๆ อยู่สักพัก แล้วสายตาก็ได้เห็นท่อนไม้ท่อนหนึ่ง

ในตอนนี้หลี่ฝางและจางเสี่ยวเฟิงก็ได้ผัวพันเข้าด้วยกัน บนร่างกายของจางเสี่ยวเฟิง ถูกมีดของหลี่ฝางแทงอยู่ไม่หยุด

หลังจากที่ถูกแทงหลายครั้งติดต่อกัน ในที่สุดเซี่ยลู่ก็ถลาเข้ามา เล็งไปที่หลี่ฝาง แล้วฟาดท่อนไม้เข้าใส่

หลี่ฝางเจ็บปวดจนหน้าตาบิดเบี้ยว เข้าหันหน้ากลับไป แล้วหมุนตัวเตะเข้าที่ร่างเซี่ยลู่ จางเสี่ยวเฟิงถือโอกาสนี้จู่โจม แล้วแทงมีดเข้าใส่หลีฝาง

การจู่โจมในครั้งนี้ มีดเพียงแค่กรีดเข้าที่แขนของหลี่ฝางเล็กน้อย ไม่ได้เป็นแผลลึกอะไร

หลี่ฝางขมวดคิ้ว เขามองคนทั้งสองแล้วกล่าว: “ฉันไม่อยากฆ่าพวกแก ถ้าพวกแกกลับใจในตอนนี้ ฉันจะปล่อยพวกแกไปก็ได้”

“โดยเฉพาะเธอ เซี่ยลู่” หลี่ฝางมองเซี่ยลู่ กล่าว: “ตู้เฟยไม่อยากให้เธอเป็นแบบนี้ เขาได้บอกกับฉันก่อนที่เขาจะตาย ว่าเขาต้องขอโทษเธอ”

“เธอยังจำได้ไหม ตอนที่ฉันโทรหาแพทย์แผนจีนของเธอน่ะ?”

หลี่ฝางกล่าว: “ความแค้นระหว่างฉันกับตู้เฟย ได้ถูกขจัดไปแล้ว ถ้าไม่อย่างนั้นล่ะก็ เขาก็คงไม่ให้ฉันช่วยส่งข่าวหรอก”

“แต่นายก็เป็นคนฆ่าเขาจริง ๆ ” เซี่ยลู่กล่าว

หลี่ฝางหัวเราะเอิ๊กอ๊าก: “ใช่ ตู้เฟยถูกฉันฆ่าตายจริง ๆ แต่ต่อให้ฉันไม่ฆ่าเขา เธอคิดว่าเขายังอยากจะมีชีวิตอยู่ต่อไปอีกเหรอ? พ่อแม่แท้ ๆ ของเขา ตายในเงื้อมมือของเขา และแม่ของเขา ก็ได้ตายในอ้อมกอดของเขา เขาไม่เหลืออะไรอีกแล้ว มีชีวิตต่อไปจะมีความหมายอะไร?”

“อีกอย่าง เขาเกือบทำให้ลู่หลุ่ยต้องตาย แล้วยังต้องการฆ่าฉัน แล้วฉันไม่ควรฆ่าเขาหรือยังไง?”

“ถึงแม้ฉันจะฆ่าเขา แต่ก็ได้ช่วยเขาสร้างสุสาน นี่ก็นับว่าเมตตาที่สุดแล้ว เธอยังจะให้ฉันทำยังไงอีกล่ะ?”

หลังจากที่หลี่ฝางพูดจบ เซี่ยลู่ก็กล่าวขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง: “ฉันไม่สน นายฆ่าตู้เฟย ฉันก็จะล้างแค้นแทนเขา”

หลี่ฝางขมวดคิ้วอย่างหมดคำจะพูด: “ตอนที่ตู้เฟยยังมีชีวิตอยู่ ฉันไม่เห็นว่าเธอจะรักเขามากขนาดนี้เลย แม่ง คิดจะฆ่าฉันอย่างเดียว ก็ไม่ใช่เพราะเงินหรอกเหอ?”

บนใบหน้าของหลี่ฝาง ก็ปรากฏแววดุร้ายออกมา

“พวกแกสองคน ต่างก็ต้องตายในวันนี้” หลี่ฝางกล่าวอย่างเต็มไปด้วยกระแสอาฆาต

กล่าวไป หลี่ฝางก็ไม่รอช้า เขาพุ่งเข้าไปหาเซี่ยลู่ และจางเสี่ยวเฟิงก็วิ่งตามหลังมาติด ๆ แต่หลี่ฝางก็ไม่ได้สนใจ เขาแทงมีดเข้าใส่บริเวณท้องของเซี่ยลู่ แล้วดึงออกมา

และมีดในมือของจางเสี่ยวเฟิง ในขณะที่กำลังจะแทงเข้าไปในร่างของหลี่ฝางนั้น ลูกเล็กกลม ๆ ขนาดเล็กลูกหนึ่ง ก็ได้พุ่งเข้าใส่จางเสี่ยวเฟิง จนทำให้แขนของเขาเป็นรู

เงยหน้าขึ้นไปมอง หลี่ฝางมองเห็นส้าวส้วยนั่งอยู่บนริมหลังคา

หลี่ฝางขมวดคิ้วเล็กน้อย กล่าว: “นายมาตั้งนานแล้ว?”

ส้าวส้วยพยักหน้า

“แล้วทำไมนายถึงไม่ลงมือเร็วกว่านี้ล่ะ?” หลี่ฝางมองส้าวส้วยอย่างหมดคำจะพูด

“เจ้านายต้องการยืนหยัดด้วยตัวเองมาโดยตลอดไม่ใช่เหรอครับ ผมรู้ว่าคุณไม่อยากพึ่งพาผมมากจนเกินไป ดังนั้นผมเลยไม่ลงมือ” ส้าวส้วยยิ้มพลางอธิบาย

“เชรด ฉันตกใจแทบตายน่ะ ดูสิ เหงื่อเต็มหลังฉันไปหมด จนเสื้อผ้าเปียกหมดแล้ว” หลี่ฝางถอนหายใจยาว ๆ อย่างโล่งอก ในที่สุดเหตุการณ์ที่น่าตกใจนี้ก็ผ่านมาไปแล้ว

หลี่ฝางพันบาดแผลที่แขนให้กับตัวเองอย่างลวก ๆ กล่าว: “เห็นจางเสี่ยวเฟิงบอกว่า ข้างนอกมีคนคอยสนับสนุนร่วมมือกับมัน”

“จางเสี่ยวเฟิง รถคันนั้นยี่ห้อไหน เลขทะเบียนอะไร?” หลี่ฝางหันหน้ากลับ แล้วเอ่ยถามจางเสี่ยวเฟิง

จางเสี่ยวเฟิงเงียบขรึม ในตอนแรกเขาไม่คิดจะพูด หลี่ฝางพูดกับส้าวส้วยต่อ: “ถ้ามันไม่พูด นายก็ช่วยฉันโยนมันลงไปข้างล่างแล้วกันนะ”

“ยินดีให้บริการครับ”

ส้าวส้วยกระโดดลงมาทันที เพียงสองสามก้าวก็มาถึงด้านหน้าจางเสี่ยวเฟิงแล้ว หลังจากที่เห็นฝีมือของส้าวส้วย จางเสี่ยวเฟิงก็รีบพูดทันที: “รถเชิงพาณิชย์สีดำคันหนึ่ง”

“เลขทะเบียนXXX”

หลังจากที่จางเสี่ยวเฟิงพูดจบ ส้าวส้วยก็รีบโทรหาหลิงหลงทันที: “รถเชิงพาณิชย์สีดำ เลขทะเบียนXXX จัดการมันซะ”

เสียงของหลิงหลงดังกลับมาจากอีกฝังของสาย: “ฉันจับตาดูมันมานานแล้วล่ะ”

หลังจากที่จัดการเรื่องราวทั้งหมดเสร็จเรียบร้อย หลี่ฝางก็จุดบุหรี่ขึ้นมามวนหนึ่ง เพื่อระงับความหวาดกลัวภายในใจ พลางเอ่ยถาม: “รู้หรือยังว่าใครเป็นคนทำ?”

“ยังเลยครับ ตอนที่หลิงหลงจับตัวพวกมันได้ พวกมันต่างก็กัดลิ้นฆ่าตัวตายไปแล้ว คนพวกนี้ เป็นพวกเดนตาย บนตัวของพวกมันไม่มีอะไรที่จะสืบหาได้เลย สะอาดมาก”

“แต่ว่าพวกมันสามารถตามหาจางเสี่ยวเฟิงและเกาเสิ้งที่เป็นเพื่อนร่วมชั้นของคุณตอนมัธยมปลายเจอ คาดว่า จะต้องสืบข้อมูลของคุณมาก่อนแน่”

ส้าวส้วยกล่าว: “เจ้านายครับ ในตอนที่ต้องการ คุณต้องเรียนกังฟูหน่อยแล้วล่ะ”

หลี่ฝางพยักหน้า ในใจเขาก็คิดแบบนี้อยู่เหมือนกัน หลายครั้งมานี้ สภาพของตัวเองดูไม่ได้เลย

และในวันนี้ มีคนเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ที่อยากให้ตัวเองตาย มันทำให้หลี่ฝางรู้สึกหนาวสันหลังไม่น้อย ที่สำคัญก็คือ ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็นใคร

แม่ง ความรู้สึกแบบนี้ มันทำให้รู้สึกหงุดหงิดจริง ๆ เลย

แต่ว่ามีจุดหนึ่งที่หลี่ฝางสามารถแน่ใจได้ ก็คือฆาตกรที่อยู่เบื้องหลังคนนี้ จะต้องไม่ใช่มู่เสี่ยวไป๋อย่างแน่นอน

เพราะในมือของหลี่ฝาง ยังมีแม่แบบที่มู่เสี่ยวไป๋ต้องการอยู่ ในช่วงสำคัญแบบนี้ มู่เสี่ยวไป๋ไม่มีทางที่จะให้คนมาฆ่าตัวเอง

แต่นอกจากมู่เสี่ยวไป๋แล้ว เกรงว่าก็คงมีแต่สี่ตระกูลใหญ่แล้วล่ะ

ในเวลานี้ ส้าวส้วยมองหลี่ฝาง แล้วกล่าว: “อ้อใช่ เจ้านายครับ สืบมาได้เรื่องหนึ่ง คุณอยากฟังไหม?”

“นายพูดแล้ว ฉันยังจะไม่อยากฟังอีกเหรอ?” หลี่ฝางมองบน

ส้าวส้วยหัวเราะเอิ๊กอ๊าก กล่าว: “หลายวันก่อน ไม่ใช่ว่ามีคนว่าจ้างคนที่ท่าเรือ ให้วางแผนใส่ร้ายเฉินฝูเซิงหรอกเหรอ?”

หลี่ฝางพยักหน้า: “ทำไมเหรอ?”

“คนพวกนั้น ไม่ใช่หวางต้องเป็นคนหามาจริง ๆ นั้นก็หมายความว่า ครั้งที่แล้ว พวกเราเข้าใจมู่เสี่ยวไป๋ผิดไป”

ส้าวส้วยกล่าว: “คนที่ทำร้ายเฉินฝูเซิง จริง ๆ แล้วคือหมาจื่อ”

“หมาจื่อ?” หลี่ฝางขมวดคิ้ว: “เป็นเขาไปได้ยังยังไง?”

“พูดให้ถูกหน่อย น่าจะเป็นลูกพี่หลิน วันนั้นตอนเย็น ลูกพี่หลินได้หนีไปจริง ๆ แต่ที่ที่เขาหนีไป ผมจำได้แม่น เขาอยู่ที่นั่นเพียงแค่วันเดียว แล้วก็หายตัวไป ถ้าหากผมเดาไม่ผิดล่ะก็ เขาน่าจะกลับไปที่เมืองเอก หรือไม่ก็ตงไห่ แต่ว่าหลบอยู่ที่ไหนนั้น ผมก็ยังไม่รู้”

ส้าวส้วยกล่าว: “ผมสงสัยว่า คนที่อยู่เบื้องหลังของหมาจื่อ ยังคงเป็นลูกพี่หลินเหมือนเดิม”

“หมาจื่อไม่ได้ทรยศ เพียงแค่มีสถานะที่พิเศษเท่านั้น หนึ่งคือขึ้นแทนที่ลูกพี่หลิน กลายเป็นตัวแทนขององค์กรนั่น และเป็นถุงมือสกปรกของลูกพี่หลิน ช่วยลูกพี่หลินทำเรื่องที่สกปรก”

“หมาจื่อในตอนนี้ดูเผิน ๆ เหมือนเป็นคนของมู่เสี่ยวไป๋ แต่ความจริงแล้ว เขาไม่มีทางที่จะทำงานให้มู่เสี่ยวไป๋ ยิ่งไปกว่านั้นเพราะเรื่องใส่ความเฉินฝูเซิง หมาจื่อและมู่เสี่ยวไป๋ ยังได้มีปากเสียงกันยกใหญ่ ยังไงสถานะของเฉินฝูเซิงก็ค่อนข้างจะพิเศษ นี่ถ้าเกิดว่าตัดสินโทษเฉินฝูเซิงจริง ๆ มู่เสี่ยวป๋ายก็คงต้องวุ่นวายไม่น้อย นี่ไม่ใช่สิ่งที่มู่เสี่ยวไป๋อยากจะเห็น”

“ดูแล้วเหมือนกับว่าหมาจื่อคิดเองเออเอง แต่ในความเป็นจริง น่าจะได้รับการมอบอำนาจจากลูกพี่หลิน” ส้าวส้วยกล่าว

“คาดเดา?”

“เรื่องแบบนี้ หาหลักฐานยาก แต่ก็น่าจะเป็นความจริง เจ้านายครับ ผมรู้ว่าคุณลำบากใจ แต่คุณจะต้องยอมรับ ในวันนี้ลูกพี่หลินเป็นศัตรูกับพวกเรา” ส้าวส้วยกล่าว

หลี่ฝางขมวดคิ้ว แล้วเอ่ยถามอย่างค่อยจะเข้าใจ: “ทำไมล่ะ?”

“พวกเรากับลูกพี่หลินไม่เคยมีเรื่องราวบาดหมางหรือเหตุปะทะใด ๆ เลย ยิ่งไปกว่านั้นฉันยังเคยช่วยเขา บวกกับมีหลินชิงชิงอยู่ตรงกลาง ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเรากับลูกพี่หลิน ควรจะใกล้ชิดสนิทสนมไม่ใช่เหรอ? ทำไมเขาถึงต้องขัดแข้งขัดขาคนของฉัน หรือว่าเฉินฝูเซิงล่วงเกินเขาหรือยังไง?”

หลี่ฝางเอ่ยถามด้วยความสงสัย: “ฉันไม่เข้าใจจริง ๆ ”

“ถ้าผมเดาไม่ผิดล่ะก็ คงเกี่ยวข้องกับธุรกิจที่ลูกพี่หลินทำ ธุรกิจที่เขาทำนั้น ประจวบเหมาะกับเป็นธุรกิจที่ลูกพี่และท่านจวน ค่อนข้างจะขัดแย้งกันมาก ดังนั้น เขาคอยช่วยมู่เสี่ยวไป๋ต่อกรกับพวกเราอย่างลับ ๆ ความจริงคือเพื่อช่วยตัวเขาเอง”

“เรื่องที่มู่เสี่ยวไป๋ไม่กล้า เขากล้า เพราะเขาไม่มีอะไรต้องพะวง ต่อให้เป็นเรื่องขึ้นมาสักวัน ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเขา ทุกคนต่างก็รู้ ว่าหมาจื่อทรยศเขา ทั้งยังทำให้ขาทั้งสองข้างของเขาพิการ”

หลี่ฝางหัวเราะเหอะ ๆ : “ลูกพี่หลินปัดความรับผิดชอบได้สะอาดจริง ๆ แบบนี้ก็หมายความว่า จิ้งจอกเฒ่าตัวนี้หลบอยู่ข้างหลัง คอยรอบกัดพวกเราอยู่ทุก ๆ วัน?”

ส้าวส้วยกล่าว: “แม้แต่ลูกสาวของตัวเองเขายังคิดร้ายได้ แล้วยังจะมีใครอีกที่เขาไม่คิดร้าย”

“คนคนนี้ ไม่มีความเป็นมนุษย์หรอกครับ”

ส้าวส้วยกล่าวอย่างสงบ: ที่จริงแล้วผมสงสัยมาตลอด เขา……”

ขณะที่กำลังพูด ทันใดนั้นส้าวส้วยก็พลันไอขึ้นมา จากนั้นเขาก็ไม่พูดอะไรอีก

“นี่ก็สายมากแล้ว พวกเราไปเจอมู่เสี่ยวไป๋กันเถอะครับ” ส้าวส้วยกล่าว

“เมื่อกี้นายอยากพูดอะไร?” หลีฝางตามถาม

“ไม่มีอะไร เหอะ ๆ ” ส้าวส้วยหัวเราะเหอะ ๆ หลีกเหลี่ยงที่จะไม่พูดอะไร

ในเมี่อส้าวส้วยไม่อยากพูด หลี่ฝางก็ไม่ได้ถามต่อ

จัดการทุกอย่างเรียบร้อย หลี่ฝางก็มาที่ร้านกาแฟของหลิงหลงทันที หลิงหลงกำลังบดกาแฟอยู่ มองไม่ออกด้วยซ้ำว่าเมื่อกี้เธอพึ่งจะลงมือไป

“รถได้ถูกพี่หน้าหนวดขับไปแล้ว พี่หน้าหนวดบอกว่า พวกนั้นต่างก็เป็นคนนอกพื้นที่”

หลิงหลงยกกาแฟสองแก้วเข้ามา พลางกล่าว: “ลูกพี่ให้ความสำคัญกับที่มาที่ไปของคนพวกนี้มาก อยากจะส่งฉันไปวสืบให้ละเอียด”

“แล้วร้านกาแฟจะทำยังไง?” ส้าวส้วยถาม

“ปิดร้านชั่วคราวสักระยะ รอฉันกลับมาค่อยเปิด” หลิงหลงยิ้มเล็กน้อย

“ระวังตัวด้วย”

หลิงหลงพยักหน้า และยิ้มอ่อน ๆ : “พวกคุณนัดคน เพื่อเจรจาที่ร้านกาแฟของฉัน?”

“ใช่ เชื่อว่าพวกเขาคงจะมาในอีกไม่ช้า” หลี่ฝางมองโทรศัพท์แวบหนึ่ง แล้วกล่าว

“นายน้อยเคยไปเยี่ยมฉินจื่อยี่ไหมคะ?” หลิงหลงเอ่ยถาม

หลี่ฝางส่ายหัว เขาลืมเรื่องที่ฉินจื่อยี่เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ไปแล้ว

“หวังว่าจะไม่ทำให้พื้นของฉันสกปรกนะ” หลิงหลงอืมตอบรับ และเดินไปที่เคาน์เตอร์ แล้วลงมือชงกาแฟราวกับไม่มีอะไรเกิ

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน