เมื่อเดินได้ไม่กี่ก้าว ฉินซ่างเสียนก็รีบวิ่งตามมา
“เกิดอะไรขึ้น?” หลี่ฝางมองฉินซ่างเสียน พลางถาม
“เงินไม่เข้าบัญชีเหรอ?”
ฉินซ่างเสียนส่ายหน้า แล้วพูด: “เงินเข้าเรียบร้อยแล้ว เป็นเรื่องส่วนตัวของผม”
“เรื่องส่วนตัว?” หลี่ฝางขมวดคิ้ว พลางถามอย่างสงสัย: “เรื่องส่วนตัวอะไร?”
ฉินซ่างเสียนมองฉินเสี่ยวหู่ ราวกับจะหลีกเลี่ยง
ทันใดนั้นหลี่ฝางก็พูดกับฉินเสี่ยวหู่: “ไปรอฉันที่หน้าลิฟต์”
ฉินเสี่ยวหู่ไม่กล้าขัด จึงเดินไปอย่างว่าง่าย
ฉินซ่างเสียนเห็นภาพนี้ ก็ไม่ค่อยอยากจะเชื่อ
นี่ยังใช่ฉินเสี่ยวหู่ที่หยิ่งผยองคนนั้นหรือเปล่า?
หลี่ฝางพูดกับฉินซ่างเสียน: “เขาไปแล้ว ตอนนี้พูดได้แล้วใช่มั้ย?”
“เมื่อกี้คุณชายมู่หรงโทรมา บอก……บอกว่าจะพาลูกสาวผมไปที่ชั้นใต้ดินของสโมสรเจียงหนาน” ตอนที่พูด สีหน้าของฉินซ่างเสียน ก็แย่ลงไปสุดขีด
“เขาบอกว่า นี่เป็นบทลงโทษข้อหาที่ไม่เชื่อฟัง”
ฉินซ่างเสียนเงยหน้ามองหลี่ฝาง ด้วยสายตาอ้อนวอน: “คุณชายหลี่ คุณต้องช่วยลูกสาวคนรองของผมนะ”
“ฉินหยีหรัน?”
หลี่ฝางถอนหายใจ เมื่อกี้ที่ฉินซ่างเสียนบอกให้ช่วยลูกสาวเขา หลี่ฝางนึกว่าเกิดอะไรขึ้นกับฉินวี่เฟยซะอีก
“ลุงบอกผมสิ ชั้นใต้ดินของสโมสรเจียงหนานมีอะไร? ทำไมตอนพูดถึง สีหน้าถึงได้ดูแย่แบบนั้น?” หลี่ฝางถาม
“คุณชายหลี่ไม่รู้?” ฉินซ่างเสียนมองหลี่ฝางอย่างแปลกใจ
“ผมจะไปรู้ได้ยังไงล่ะ?” หลี่ฝางมองบนใส่ฉินซ่างเสียน: “นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้ยิน ว่าสโมสรเจียงหนานมีชั้นใต้ดินด้วย?”
“เป็นโรงจอดรถเหรอ?” หลี่ฝางถามอย่างโง่ๆ
“แน่นอนว่าไม่ใช่ ชั้นใต้ดินชั้นหนึ่งของสโมสรเจียงหนาน เป็นการมีอยู่ที่ชั่วร้ายสุดๆ ในสังคมชั้นสูงของเมืองเอก ก็ไม่ใช่ความลับอะไร ที่นั่น บอกได้ว่าเป็นสวรรค์ของผู้ชาย แต่กลับเป็นนรกของผู้หญิง ผู้หญิงที่ถูกจับลงไปชั้นใต้ดินของสโมสรเจียงหนาน มีแค่ครึ่งนึงที่สามารถรอดชีวิตออกมาได้”
“ส่วนอีกครึ่ง หลังจากออกมา สติก็ไม่ดีแล้ว”
หลังจากหลี่ฝางได้ยิน สีหน้าก็ชะงักอยู่ครู่: “น่ากลัวขนาดนั้นเลย? ลุงอธิบายหน่อยได้มั้ย?”
“ผมไม่เคยไป เลยบอกไม่ถูก แต่ยังไง ที่สโมสรนั่น ผู้ชายที่เที่ยวอยู่ด้านใน ล้วนแต่เป็นพวกคนใหญ่คนโต คนพวกนั้น มาจากทั่วทุกมุมโลก”
“ถ้าไม่อย่างนั้น ผู้หญิงพวกนั้นก็คงไม่ตายไปเฉยๆ โดยไม่มีใครสืบตาม”
หลี่ฝางไม่อยากจะเชื่อ ในเมืองเอกยังมีที่แบบนี้อยู่อีกเหรอ?
แต่ฉินซ่างเสียนก็ไม่เหมือนกำลังโกหกตนอยู่
“คุณชายหลี่ คุณสามารถใช้อิทธิพลของพอคุณได้มั้ย ผมรู้ว่าพ่อคุณคือหลอซ่า อย่างที่เห็นวันนี้ คงมีแค่หลอซ่า ที่สามารถช่วยชีวิตลูกสาวผมออกมาได้”
ฉินซ่างเสียนพูด จนเกือบจะคุกเข่าให้หลี่ฝาง
ในตอนนั้น หลี่ฝางถึงจะรู้สึกถึงความหนักหนาของเรื่องนี้
หลี่ฝางขมวดคิ้ว แล้วถาม: “ที่นั่น น่ากลัวขนาดนั้นจริงๆ เหรอ?”
“ใช่แล้ว แม้แต่ตระกูลฉินของพวกเรา ก็ยังไม่มีความสามารถที่จะช่วยคนออกมาได้เลย”
“หลายปีที่ผ่านมา ก็ไม่เคยได้ยินว่าที่ชั้นใต้ดินของสโมสรเจียงหนานเคยมีใคร ถูกช่วยออกมาได้เลยสักคน แต่ก็มีข่าวลือ ว่าหลอซ่าเคยทำมาแล้วครั้งนึง แต่นั่นก็เป็นแค่ข่าวลือเท่านั้น” ฉินซ่างเสียนพูด
ทันใดนั้นหลี่ฝางก็ชะงักทันที
“แต่พ่อของฉัน ไม่ได้อยู่ที่เมืองเอกน่ะสิ”
ที่จริงหลี่ฝางคิดว่าจะเป็นแค่การเผชิญหน้าธรรมดา แต่นึกไม่ถึง ว่าจะเป็นสถานที่ลึกลับ และสถานที่นั้น ฟังดูแล้วจะน่ากลัวกว่าถนนแห่งความตในโบลิเวียายซะอีก
“แย่แล้ว แย่แล้ว หรือว่าลูกสาวของผม……” สีหน้าของฉินซ่างเสียน ก็แสดงให้เห็นถึงความสิ้นหวังทันที
หลี่ฝางรีบความปลอบ: “ลุงฉิน ลุงไม่ต้องกังวล ผมเคยบอกลุงไว้ ว่าจะช่วยฉินหยีหรันออกมาให้ได้ ถ้าหากวันนี้เธอเป็นอะไรไป ก็เป็นความรับผิดชอบของผม ดังนั้น ผมจะไม่นิ่งดูดาย”
“ผมจะหาวิธีเอง”
หลี่ฝางพูด: “แต่ว่าลุงฉิน ลุงอยู่ที่เมืองเอกมานานหลายปี เป็นไปไม่ได้ว่าจะไม่มีอำนาจใช่มั้ย? ผมหวังว่าพวกเราสองตระกูลช่วยกันร่วมมือ”
ในใจหลี่ฝางคิดว่า ก็แค่ตระกูลซือถู ก็คงไม่น่ากลัวขนาดนั้นหรอกมั้ง?
ฉินซ่างเสียนคนนี้ ก็ถือได้ว่าปอดแหกอยู่
ถึงยังไง นี่ก็คือคุณหนูรองตระกูลฉินนะ ถึงตระกูลมู่หรงกับมู่หรงฉางเฟิงจะใจกล้าแค่ไหน ก็คงไม่กล้าเล่นงานเธอถึงตายหรอกมั้ง?
ฉินซ่างเสียนพยักหน้าย้ำๆ
ถังหยู่ซวนเอ่ยขึ้น: “ผู้จัดการฉิน ออฟฟิศนี้ ของคุณใช่มั้ย? ด้านในมีแขก รบกวนคุณต้อนรับหน่อย”
ฉินซ่างเสียนชะงักอยู่ครู่: “แขก?”
เปิดประตูห้องออฟฟิศของตน ถังหยู่ซวนเห็นชายคนนั่งเลือดไหลท่วมตัว ที่ท้องของเขา ยังมีมีดปักอยู่ ยังไม่ได้ดึงออกมา
“วางใจเถอะ ผู้จัดการฉิน เขาไม่เป็นอะไร ผมช่วยเขาเรียกรถพยาบาลแล้ว น่าจะไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต แต่ว่า ก่อนที่หมอจะมา ผมอยากให้คุณเฝ้าเขาหน่อย” ถังหยู่ซวนพูดขึ้น
“น้องชาย นายอย่าทำร้ายกันแบบนี้สิ เขาเป็นคนของคุณชายมู่หรงนะ” ฉินซ่างเสียนพูดอย่างขี้ขลาด
ถังหยู่ซวนหัวเราะเหอะๆ แล้วส่ายหน้าไม่พูดอะไร
ถ้าหากฉินซ่างเสียนไม่ได้อ่อนแอแบบนี้ หากแข็งแกร่งได้อย่างมู่เสี่ยวไป๋ล่ะก็ งั้นมู่หรงฉางเฟิง เกรงว่าจะไม่กล้าส่งตัวฉินหยีหรันไปที่ชั้นใต้ดินสโมสรเจียงหนานหรอก?
จะให้พูด ตระกูลฉินกับตระกูลมู่ ในเมืองเอกก็มีฐานะเท่าเทียมกัน
ส่วนฉินซ่างเสียน ก็ทำหน้าที่แทนนายท่านฉินในตระกูลฉินกับฉินซื่อกรุ๊ปมาตั้งหลายปี แต่เมื่อเทียบกับมู่เสี่ยวไป๋ ยังห่างกันอีกเยอะ
มู่เสี่ยวไป๋นั่น ยังกล้าด่ามู่หรงฉางเฟิง ต่อหน้า
มาถึงหน้าประตูลิฟต์ ก็เห็นฉินเสี่ยวหู่ หลี่ฝางถาม: “นายรู้อะไรเกี่ยวกับ ชั้นใต้ดินชั้นหนึ่งของสโมสรเจียงหนานบ้าง?”
“ที่นั่น บอกได้ว่าเป็นสวรรค์เลย” เมื่อฉินเสี่ยวหู่ได้ยินเรื่องชั้นใต้ดินของสโมสรเจียงหนาน ตาก็เป็นประกาย
“นายเคยเข้าไปเที่ยว?” หลี่ฝางมองฉินเสี่ยวหู่อย่างจริงจัง
ฉินเสี่ยวหู่ส่ายหน้า แล้วพูด: “ฐานะแบบผม จะไม่มีสิทธิ์เข้าไปเที่ยวในสถานที่หรูแบบนั้นได้ยังไง”
“นายบอกว่านายไม่มีสิทธิ์เข้าไป? เป็นถึงคุณชายของตระกูลฉิน กลับไม่มีสิทธิ์ที่จะเข้าไป?” หลี่ฝางตกใจเล็กน้อย
ระหว่างลงลิฟต์ ฉินเสี่ยวหู่ก็พูดอืม: “ที่นั่น เปิดรับเฉพาะมหาเศรษฐี เกรงว่าตระกูลฉิน คงจะมีแต่คุณปู่ผมที่เข้าไปได้ แต่ว่าคุณปู่ผม ไม่ชอบที่แบบนั้น ดังนั้นจึงไม่เคยไป แต่ว่านายท่านตระกูลมู่ กลับเป็นแขกขาประจำของที่นั่น ได้ยินว่าด้านในนั้น ทุกคนใช้ชีวิตอย่างศรีวิไล แล้วร่วมดื่มด่ำไปกับระยะสุดท้ายของชีวิตผู้สูงอายุ”
ฉินเสี่ยวหู่ยิ้มพลางเลียปาก แล้วพูด: “เมื่อก่อน ผมเคยส่งผู้หญิงเข้าไปในนั้นอยู่ จึงเคยเข้าไปครั้งนึง คนพวกนั้นนะ เต็มที่กันจริงๆ ไม่ว่าจะขี้จะเยี่ยว ก็ไม่ต้องขยับ มีคนทุ่มเทคอยปรนนิบัติพวกเขา”
“แล้วก็ ผมเคยได้ยินมาว่าผู้หญิงที่เข้าไป บางคน ก็ตายอยู่ด้านใน สาเหตุ ผมก็ไม่ค่อยรู้ชัด ผมส่งผู้หญิงเข้าไปทั้งหมดห้าคน ตายไปแล้วสอง แม้แต่ศพผมก็ยังไม่ได้เห็น ผู้หญิงที่เหลืออีกสามคน สติก็ไม่ดีแล้ว”
“แต่ว่า แบบนี้แล้ว ก็ยังมีคนเข้าไป บางรายถูกบังคับ บางรายยินยอม แต่หลังจากเข้าไปแล้ว ส่วนมากก็เลือกที่จะไม่อยู่ต่อ อยู่ในนั้นหนึ่งวัน ได้เงินเดือนเจ็ดหลัก แน่นอนว่า จะไล่ตามก็ไม่ได้ คนด้านในนั้น ไม่ใช่คนที่ผู้หญิงพวกนั้นจะเล่นด้วยได้เลย”
หลังจากหลี่ฝางฟังจบ ก็ส่ายหน้า
หลี่ฝางพูด: “งั้นนายรู้มั้ย พี่สาวนายฉินหยีหรัน ถูกส่งตัวไปที่นั่น?”
“อะไร? จะเป็นไปได้ไง?”
สีหน้าของฉินเสี่ยวหู่ เอ๋อไปเลย ทำสีหน้าเหลือเชื่อ: “ที่นั่น มันนรกนะ”
“พี่สาวผมเป็นคุณหนูตระกูลฉินนะ ทำไมถึงถูก……ส่งลงไปในที่แบบนั้น?”
“เมื่อกี้นายยังบอกว่าเป็นสวรรค์อยู่เลย” หลี่ฝางมองบนใส่ฉินเสี่ยวหู่
“ไม่ นั่นมันนรก”
ฉินเสี่ยวหู่เม้มปาก: “น่ากลัวเกินไปแล้ว เห็นทีคุณชายมู่หรง ไม่ได้มีความรู้สึก ให้พี่รองของผมเลยแม้แต่นิดเดียว”
“เห้อ พี่รองผมอนาถมากๆ เลย ตั้งแต่เด็กถูกทะนุถนอม ต้องรับสภาพแวดล้อมแบบนั้นไม่ได้แน่ๆ เกรงว่า เธอคงจะกัดลิ้นตัวเองตายอยู่ด้านในแน่ๆ ”
ฉินเสี่ยวหู่ถอนหายใจ แล้วพูด
ในตอนนี้ หลี่ฝางถึงได้รู้สึกถึงความร้ายแรงของเรื่องนี้ เห็นทีที่นั่น จะน่ากลัวมากจริงๆ
ที่จริงหลี่ฝางคิดจะเรียกโหจื่อช่วยออกหน้า แล้วช่วยจัดการ ตอนนี้เห็นที โหจื่อก็ยากจะรับมือ เรื่องนี้ คงได้แต่รบกวนลุงเฉียนแล้ว
หลี่ฝางคิด พลางควักโทรศัพท์ออกมา แล้วโทรหาลุงเฉียน