NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่641 ฉินวี่เฟยปรากฏตัวขึ้น

บทที่641 ฉินวี่เฟยปรากฏตัวขึ้น

มู่หรงฉางเฟิงหัวเราะเหอะๆ “ดูท่าทางนายจะไม่โง่อย่างที่คิด”

“นั่นแหละ เป้าหมายของฉัน”

“ดูเหมือนจะถูกนายจับได้ซะแล้ว”

มู่หรงฉางเฟิงพยักหน้าเรียบๆ “ถ้าจะโทษก็ต้องโทษที่หลอซ่าพ่อของนายยิ่งใหญ่เกินไป ยิ่งใหญ่จนพวกเราสี่ตระกูลใหญ่ต้องหากำลังเสริมจะข้างนอก”

“หมาที่วิ่งหางจุกตูดเมื่อสามปีก่อน ใครจะคิดว่าการกลับมาครั้งนี้ ไม่ใช่แค่กลายเป็นมติมหาเศรษฐี แต่ยังลึกลับจนใครๆต่างก็กลัว”

“การที่ตระกูลจูเก่อถูกตระกูลหลี่อย่างพวกนายโค่นล้มจนหมดสิ้นอย่างง่ายดาย เป็นเรื่องเหนือความคาดหมายของทุกคน”

“โดยเฉพาะจูเก่อเฟย เขามีลูกมือมากมายขนาดนั้น แต่ก็ยังสลายหายไปกับสายลมภายในค่ำคืน เขาลืมกันว่าหลอซ่าพ่อของนายเป็นคนฆ่า ถึงฉันจะไม่เชื่อข่าวลือนี่ แต่อำนาจของตระกูลหลี่ทำให้พวกเราเริ่มรู้สึกกลัว”

“ลูกค้าพวกนั้นของชั้นใต้ดิน แต่ละคนล้วนเห็นแก่ตัว ถ้าหลอซ่าไม่หันเป้ามาทางพวกมัน พวกมันก็คงไม่คิดจะยื่นมือมาช่วยเรา เพราะงั้นฉันจะกุสถานการณ์ขึ้น ให้ตระกูลหลี่ของพวกนายเล่นงานพวกมัน จนทำให้พวกมันโมโห”

มู่หรงฉางเฟิงหัวเราะเสียงเย็น “นี่ก็คือแผนของฉัน”

“หลี่ฝาน คนโง่อย่างนายต่อให้จระล่วงรู้แผนการของฉันแล้วยังไงล่ะ? สุดท้ายนายเองก็ตกหลุมพรางของฉันอยู่ดี อีกเดี๋ยวฉินวี่เฟยก็จะมา หรือนายคิดว่าจะยอมปล่อยให้พี่สาวตัวเองตายไปต่อหน้าต่อตาโดยไม่ไยดีหรือไง?”

“หุ้นจำนวนหลายพันล้านของตระกูลฉิน อยู่ๆจะยกให้ยัยเด็กฉินวี่เฟยนั่นก็ยกให้ดื้อๆ ขนาดที่ท่านฉินส่งกำลังคนมาแล้ว แต่นายก็ยังเสนอตัวออกมาช่วยสุดชีวิต ใครจะดูไม่ออกว่านายมีใจให้ยัยเด็กนั่น เพราะฉันรู้ว่าคุณชายหลี่เป็นคนมีหัวจิตหัวใจยังไงล่ะ ฉันถึงได้ใช้ประโยชน์จากความรู้สึกของนายแล้วคิดแผนการนี้ขึ้นมา”

มู่หรงฉางเฟิงเลิกคิ้วท้าทาย “อีกอย่างตอนนี้พ่อของนายกับส้าวส้วยก็ไม่อยู่ที่เมืองเอก อำนาจของนายคงจะเหลืออยู่แค่น้อยนิดแล้วสินะ?”

“พวกเขาสองคนไม่อยู่แบบนี้ แล้วถ้าฉันได้รับความช่วยเหลือจากพวกลูกค้านั่นอีก เกรงว่าตระกูลหลี่ของนาย…”

มู่หรงฉางเฟิงยิ้มร้าย “ฉันเป็นห่วงพวกนายจัง”

“ห่วงว่าพวกเราจะแพ้หรือไง?”

หลี่ฝางพูดขึ้นด้วยสีหน้านิ่งขรึม “เอาเวลาไปห่วงตัวเองก่อนเถอะ”

ทันทีที่พูดจบ โทรศัพท์ก็ดังขึ้น

ลุงเฉียนโทรมา เมื่อหลี่ฝางกดรับสาย ก็รีบพูดขึ้นทันที “ลุงเฉียนนี่เป็นกับดัก ไม่อย่างนั้นเราปล่อยไปเถอะครับ”

แม้ว่าการตัดสินใจแบบนี้อาจจะทำให้ฉินวี่เฟยผิดหวัง หรืออาจจะถึงขั้นทำให้พวกเขาสองคนมองหน้ากันไม่ติด แต่หลี่ฝางจำเป็นต้องเลือกประโยชน์ส่วนใหญ่ไว้ก่อน

หลี่ฝางไม่อยากให้ตระกูลทั้งตระกูลต้องมาติดกับเพียงเพื่อผู้หญิงคนเดียว

ทั้งลุงเฉียน โหจื่อ แล้วก็พี่หลิงหลง…

พวกเขาทั้งหมดล้วนเป็นคนเก่าคนแก่ของพ่อ แต่ละคนล้วนเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายเพื่อพ่อของเขามานับไม่ถ้วน

พ่อติดค้างพวกเขาไว้มาก จะให้เขาทำแบบนั้นอีกก็คงไม่ได้

เสียงของลุงเฉียนเงียบไป ก่อนจะตามมาด้วยเสียงหัวเราะดัง “เจ้าฝางน้อย ถ้าอย่างนายคิดได้ว่านี่เป็นกับดัก งั้นลุงเฉียนก็ภูมิใจแล้ว”

“ภูมิใจ?”

หลี่ฝางนิ่งไปเล็กน้อย แต่ต่อมาก็เข้าใจ

ก็จริง ขนาดคนอย่างเขายังรู้ว่านี่เป็นกับดัก มีหรอที่คนฉลาดอย่างลุงเฉียนจะคิดไม่ได้?

ดีไม่ดีลุงเฉียนคงรู้ตั้งแต่ตอนที่เขาบากหน้าไปขอความช่วยเหลือแล้วด้วยซ้ำ

“เจ้าฝางน้อย นายยังอยู่ที่นั่นใช่ไหม?”

ลุงเฉียนถามมาคำนึง

หลี่ฝางพยักหน้า “ลุงเฉียนก็ถึงแล้วหรอครับ?”

“ใช่ ลุงกำลังจะเข้าไปเดี๋ยวนี้” ลุงเฉียนพูด

“ลุงเฉียน แต่นี่เป็นกับดัก หรือพวกเราจะ…” หลี่ฝางพูดอย่างลังเล

ถึงแม้หลี่ฝางเองก็อยากช่วยไม่น้อย แต่เขาก็ไม่อยากผลักพวกลุงเฉียนไปอยู่ในกองไฟเช่นกัน

“ลูกธนูที่อยู่บนคันศร ยังไงก็ต้องยิง ฝางน้อย ยังไงซะพวกเราก็มาแล้ว ก็ต้องช่วยคนคนนั้นให้ได้ แล้วก็ระหว่างทางที่มา ลุงส่งสัญญาณบอกให้ลูกพี่รับทราบแล้ว ลูกพี่บอกว่ายังไงซะนี่ก็เป็นเรื่องที่เราต้องลงมืออยู่แล้ว ต่างกันก็แค่จะช้าหรือเร็วก็เท่านั้น”

“ก็แค่พายุที่ซัดรุนแรงหน่อยก็เท่านั้น มีอะไรต้องกลัว ตอนที่พวกเราหนีเป็นหนีตายกัน ลุงเคยเจอพายุที่โหมกระหน่ำแรงกว่านี้ตั้งหลายร้อยเท่า”

ขณะที่ลุงเฉียนกำลังพูด จู่ๆเสียงโทรศัพท์สั่นก็ขึ้นมา

หลังจากนั้นเสียงโทรศัพท์ของซือถูเฟยก็ดังขึ้นตามแรงสั่น

“คุณชายซือถู มีคนบุกรุก ให้แจ้งตำรวจไหมครับ?” ปลายสายเอ่ยถามขึ้น

“ไม่ต้อง รีบอัดคลิปไว้ก่อน แล้วค่อยว่ากัน” ซือถูเฟยหัวเราะหึ เมื่อวางสายไปแล้วก็หันไปพูดกับมู่หรงฉางเฟิง

“คนที่เรากำลังรออยู่มาถึงแล้ว”

ซือถูเฟยกับมู่หรงฉางเฟิงกำลังรอให้ปลาติดเบ็ดอยู่ และตอนนี้การมาถึงของลุงเฉียน ทำให้พวกมันเผยความชั่วร้ายมากขึ้น แน่นอนว่าทั้งสองคนจะต้องมีความสุขอย่างที่สุด พวกเขายกแก้วขึ้นชนเพื่อเป็นการฉลอง

“หลี่ฝาง ความพ่ายแพ้ของตระกูลหลี่ในครั้งนี้มาจากน้ำมือของคนๆเดียว และคนๆนั้นก็คือนาย”

มู่หรงฉางเฟิงเทเหล้าให้หลี่ฝาง แล้วพูดด้วยใบหน้าตื้นตัน “เพราะฉะนั้น ฉันกับคุณชายซือถูเลยอยากจะดื่มเหล้าฉลองกับนาย เพื่อเป็นการขอบคุณ”

“ขอบคุณอย่างสุดซึ้ง”

มู่หรงฉางเฟิงกับซือถูเฟยตบบริเวณหน้าอกของตัวเองเบาๆ “ขอบคุณคุณชายหลี่ที่มอบชัยชนะให้แก่เรา”

หยามหน้า!

ไอ้สองคนนี้มันกำลังหยามหน้าหลี่ฝางอย่างได้ใจ

หลี่ฝางเดินเข้าไปหยิบแก้วเหล้า แล้วสาดมันใส่ใบหน้าของทั้งสอง “พวกแกคิดว่าใช้วิธีสกปรกต่ำตมแบบนี้แล้วจะชนะได้หรอ?”

“ถ้าอยากชนะ ก็หัดใช้ความสามารถบ้างสิ”

หลี่ฝางพูดไม่แยแส

เมื่อถูกสาดเหล้าใส่ มู่หรงฉางเฟิงก็เด้งตัวลุกขึ้น ในขณะที่ซือถูเฟยดึงแขนเขาไว้อีกข้างเป็นการห้าม

“คุณชายมู่หรง ทำไมต้องเสียงแรงลงมือทำอะไรเอง ที่หน้าประตูก็มีหมาเฝ้าอยู่ตัวนึงไม่ใช่หรือไง? หรือหมาตัวนี้มันกัดคนไม่เป็น?”

ซือถูเฟยปรายตามองฉินเสี่ยวหู่ที่หน้าประตู แล้วเผยยิ้มชั่วร้าย

“ฉินเสี่ยวหู่ มีคนสาดเหล้าใส่ฉัน มันดูถูกฉัน นายคงเห็นแล้วใช่ไหม?” มู่หรงฉางเฟิงมองหน้าฉินเสี่ยวหู่แล้วถาม

ฉินเสี่ยวหู่พยักหน้า แววตาเผยให้ความหวาดกลัว

ต่อให้โง่ขนาดไหน เขาก็พอจะเข้าใจสิ่งที่มู่หรงฉางเฟิงต้องการจะสื่อ

มู่หรงฉางเฟิงทำหน้านิ่ง แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “แล้วทำไมยังไม่รีบมากู้ศักดิ์ศรีคืนให้ฉันอีก?”

ฉินเสี่ยวหู่กัดฟัน แล้วรีบลุกขึ้น

ตอนนี้เขาเป็นคนของมู่หรงฉางเฟิง หรือจะพูดให้ชัดอีกหน่อย ก็คือหมาตัวนึง

หากไม่ทำตามที่เขาพูด เกรงว่าคิวต่อไปจะเป็นเขาเองนั่นแหละที่ถูกมู่หรงฉางเฟิงลงแซ่

ฉินเสี่ยวหู่ลุกขึ้นยืน แล้วตรงเข้าไปเตรียมจู่โจมกับหลี่ฝาง แต่จังหวะนั้นถังหยู่ซวนเข้ามาห้ามไว้ คมมีดจึงกรีดเข้าที่แขนของฉินเสี่ยวหู่ซะเอง เลือดไหลออกมาเป็นแนวยาว

“ใช้ได้นี่”

มู่หรงฉางเฟิงมองหน้าถังหยู่ซวนแล้วเอ่ยชม “ฉันก็นึกว่าคุณชายหลี่พาขยะเดินได้มาซะอีก ตอนนี้ดูท่าจะไม่ได้เป็นขยะอย่างที่คิด”

ซือถูเฟยส่งสายตาให้คนที่ยืนอยู่หน้าประตู “มีแขกมา ดูแลแทนฉันให้ดีๆด้วยล่ะ”

“ครับ คุณชายซือถู”

คนที่ยืนอยู่หน้าประตู เดินออกไป แล้วเคาะไล่เคาะประตูทีละห้อง

ไม่นาน ทั้งบริเวณโถงทางเดินก็มีคนจำนวนหลายร้อยปรากฏตัวขึ้น พวกเขาล้วนเป็นคนที่ซือถูเฟยกับมู่หรงฉางเฟิงเตรียมไว้

โดยมีเป้าหมายคือหยุดลุงเฉียน

แต่แน่นอนว่า พวกเขาไม่ได้คิดจะหยุดลุงเฉียดจริงๆ แต่แค่แสร้งทำให้ดูเหมือนอย่างนั้น

พวกเขาต้องยอมเสียสละตัวสักหน่อย ไม่งั้นหลังจากนี้ ลูกค้าของชั้นใต้ดินจะไม่พอใจได้

คนพวกนี้มีไว้แค่เพื่อแสร้งให้ดูเหมือนว่าได้ทำตามที่ลูกค้าเหล่านั้นต้องการแล้ว และเมื่อถึงตอนนั้น ซือถูเฟยค่อยแกล้งพูดว่า ดูสิ คนของผมห้ามไว้แล้วแต่ห้ามไม่อยู่จริงๆ

“ฉินเสี่ยวหู่ ถ้านายแพ้ ฉันจะตัดนิ้วนายทิ้งสองนิ้ว” มู่หรงฉางเฟิงจิบเหล้า แล้วพูดขึ้นเสียงเรียบ

หลี่ฝางหนักใจแทนถังหยู่ซวน

ถังหยู่ซวนเพิ่งจะเรียนวิทยายุทธ์ได้แค่ไม่กี่วัน ถ้าแพ้ขึ้นมาล่ะ?

เขาเป็นพี่น้องที่ดีของหลี่ฝางเชียว

หลี่ฝางไม่อยากให้ถังหยู่ซวนเป็นอะไรไป

มู่หรงฉางเฟิงมองหน้าหลี่ฝางยิ้มๆ “คุณชายหลี่ ผู้หญิงที่นายรักกำลังจะมาถึงแล้ว”

“ดูท่าทาง แผลบนตัวเธอนี่ ก็แค่สำออยสินะ”

มู่หรงฉางเฟิงล้วงโทรศัพท์ออกมา แล้วเปิดคลิป ในคลิปเป็นภาพที่ฉินวี่เฟยวิ่งออกมาจากโรงพยาบาล

เป็นคลิปที่เพิ่งถูกส่งมาเมื่อห้านาทีก่อน

ตอนนี้ฉินวี่เฟยน่าจะกำลังมาที่นี่แล้ว หลี่ฝางพูดเสียงเย็น “สายของนายเยอะจริงๆเลยนะ”

“ขนาดสายเยอะแบบนั้น ก็ยังตกหลุมพรางคุณได้เลยนะ…”

มู่หรงฉางเฟิงปรายตามองหลี่ฝาง แล้วพูดช้าๆไม่ใส่ใจนัก “ฉินวี่เฟยแกล้งทำเป็นขาหัก คงจะเป็นความคิดชายหลี่คุณสินะ?”

หลี่ฝางไม่ได้สนใจกลับ แต่ใช้โอกาสนี้คว้าขวดเหล้า ก่อนจะขว้างไปที่หัวของฉินเสี่ยวหู่

ฉินเสี่ยวหู่ไม่ทันระวัง จึงโดนเข้าอย่างจัง

หลังจากที่ถูกฟาดเข้าที่หัว ถังหยู่ซวนก็ใช้มีดแทงเข้าที่บริเวณท้อง

ฉินเสี่ยวหู่ล้มตัวลงนอนบนพื้น ใบหน้าของมู่หรงฉางเฟิงเย็นยะเยียบทันใด

“ไอ้ขยะ!”

มู่หรงฉางเฟิงขมวดคิ้ว สายตาเย็นชา “แกนี่มันขยะจริงๆ”

มู่หรงฉางเฟิงขว้างแก้วลงกับพื้น แล้วหรี่ตาลง ซือถูเฟยเดาได้ว่าเขากำลังจะทำอะไรต่อ ก็รีบเข้ามาตบบ่าเบาๆแล้วว่า “ช่างเถอะ ก็แค่หมาตัวนึง คุณชายมู่หรงไม่จำเป็นต้องอารมณ์เสียเพราะมันหรอก”

“ราชสีห์อย่างคุณ ขืนลงมือฆ่าหมาตัวนึง จะมีแต่เสียศักดิ์ศรีซะเปล่าๆ” ซือถูเฟยส่งเสียงเหอะ

หลี่ฝางพอจะฟังออกว่าคำพูดของซือถูเฟยกำลังหลอกด่าเขากลายๆ

หลี่ฝางไม่โกรธ แต่ส่งวีดีโอที่อยู่ในมือให้โก่เอ๋อ

“ซือถูเฟย คลิปที่นายแทะโลมผู้หญิงไปทั่วนั่นน่ะ ฉันอัดมันแล้วก็ส่งให้โกเอ๋อแล้วเรียบร้อย ไม่ต้องซึ้งใจล่ะ ฉันทำความดีไม่เคยหวังผลตอบแทนอยู่แล้ว” หลี่ฝางพูดยิ้มๆ

ซือถูเฟยได้ยินดังนั้น ใบหน้าก็แข็งทื่อ

ตระกูลซือถูใฝ่ฝันจะปรองดองกับตระกูลโก่เอ๋อมาตลอด ถึงแม้ตระกูลซือถูจะเคยมีบุญคุณต่อคุณปู่ของโกเอ๋อ และคุณปู่ของเธอเองก็ยังสำนึกถึงบุญคุณนี้อยู่ตลอด

แต่เมื่อคุณปู่ท่านตายล่ะ?

บุญคุณที่ว่าก็หายวับไปกับตา ตระกูลซือถูเองก็ขาดที่พึ่งขนาดใหญ่ไป

ดังนั้น เพื่อสามารถอาศัยบารมีนี้ได้อย่างถาวร ตระกูลซือถูจึงพยายามให้ซือถูเฟยกับโก่เอ๋อสานสัมพันธ์เพื่อหมั้นหมายกันมาอย่างยาวนาน

แต่หลี่ฝางก็คอยสร้างความแตกแยกระหว่างพวกเขาอยู่ตลอดๆ

ครั้งก่อน หลี่ฝางก็แฉเรื่องที่ซือถูเฟยแอบไปทิ้งไข่ไว้ให้โก่เอ๋อรู้ แต่ดีที่หลักฐานมัดตัวไม่แน่นพอ คุณปู่ของโกเอ๋อจึงไม่ได้ซักไซร้เอาเรื่องต่อ

แต่ครั้งนี้ ถ้าคลิปท่อนนั้นถูกส่งไปถึงมือของคุณปู่ ท่านคงจะโมโหจนระเบิดลง

ตอนนั้น งานหมั้นหมายของพวกเขาก็จะต้องถูกยกเลิก

“หลี่ฝาง แกไม่เคยได้ยินคำสอนที่ว่า สร้างความแตกฉานให้ครอบครัวชาวบ้านถือเป็นความบาปอันใหญ่หลวงหรือไง?” ซือถูเฟยพูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

หลี่ฝางหัวเราะหึ “เคยได้ยินสิ แต่ฉันไม่อยากให้เพื่อนตัวเองต้องแต่งงานกับชายชั่ว”

“ฉันคิดว่าสิ่งที่ตัวเองทำ เป็นสิ่งที่เพื่อนคนนึงควรทำ”

หลี่ฝางพูด “แล้วก็นะ ถึงฉันจะไม่รู้ว่าพื้นเพเบื้องหลังของโก่เอ๋อจะใหญ่โตแค่ไหน แต่ดูจากที่ตระกูลซือถูของพวกนายได้ใจขนาดนี้ เห็นทีก็คงใหญ่โตอยู่ไม่น้อย”

“ในฐานะศัตรู ฉันก็ไม่อยากเห็นนายกับโก่เอ๋อได้ลงเอยกัน”

“จริงสิ ช่วงนี้โกเอ๋อตามติดฉันแจ ไหนจะทักมาคุยกับฉันเวลาดึกๆดื่นๆ ชวนฉันออกไปดื่มอีก แล้วตอนนี้เธอเองก็พักอยู่ในวิลล่าของฉัน นายก็รู้ของล่อตาล่อใจมายั่วถึงที่แบบนี้ เกิดวันไหนฉันอดใจไม่อยู่ แล้วมีอะไรกับเธอขึ้นมา จนเกิดเป็นความรักสุกงอม ยิ่งไปกว่านั้นเกิดมีลูกด้วยกันล่ะ นั่นก็ไม่แน่ว่า…ตอนจบฉันอาจจะได้คู่กับโก่เอ๋อก็เป็นได้”

คำพูดของหลี่ฝาง ทำให้ซือถูเฟยสูญเสียความควบคุม ทำใจเย็นไม่ได้อีกต่อไป เขาตบโต๊ะดังปึ้ง “แกกล้าหรอ”

“ทำไมฉันจะไม่กล้า?”

หลี่ฝางหัวเราะหึ “เรื่องหวาบหวามระหว่างชายหญิง มันสปาร์กกันง่ายอยู่แล้ว”

“นายคิดจะหยุดมันหรอ?”

“คิดว่าทำได้หรือไง?”

หลี่ฝางหัวเราะเบาๆ “ถ้านายรับปากฉันว่าจะปล่อยตัวฉินหยีหรัน บางทีฉันอาจจะลองพิจารณาเรื่องรักษาระยะกับโก่เอ๋อก็ได้มั้ง”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท