NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 659 ฉินวี่เฟยตกอยู่ในอันตราย

บทที่ 659 ฉินวี่เฟยตกอยู่ในอันตราย

หลี่ฝางมองไปยังท่านลู่ และกำลังรอคำตอบอยู่

“ความจริงคนที่อายุราวๆพวกเรา ล้วนกลัวความตายกันทั้งนั้น”

ท่านลู่พูดต่อ “เมื่อห้าปีก่อน ไม่ว่าจะเป็นทางโซเชียมหรือว่าความเป็นจริง ก็มีแต่คนพูดถึงคำทำนายของคนมายาอะไรสักอย่างนี้แหละ แม้ว่านั้นจะดูปัญญาอ่อน แต่เรื่องบางอย่าง โดยเฉพาะเรื่องที่มีผลต่อชีวิตของพวกเขา พวกเราก็เลือกที่จะเชื่อ มากกว่าไม่เชื่อ”

“เพราะงั้น คนแก่ที่ร่ำรวยอย่างพวกเราก็มารวมตัวกันในปีนั้น ระหว่างที่ดื่มชากันอยู่ จู่ๆก็นึกเรื่องอะไรขึ้นมาได้ ก็คือทุกคนเอาเงินออกมาคนละพันล้าน แล้วสร้างสวนสวรรค์ใต้ดินขึ้นมา เพื่อหลบซ่อนตัวจากความวุ่นวายในโลกแห่งความเป็นจริง”

“หรือก็คือชั้นใต้ดินของสโมสรเจียงหนาน”

“และพวกเราก็เอาเงินเหล่านี้ มอบให้กับสี่ตระกูลใหญ่ที่เป็นเจ้าถิ่น ทั้งสี่ตระกูลใหญ่ ใช้เวลานานหลายปี ค่อยๆสร้างสวนสวรรค์ชั้นใต้ดินขึ้นมา ความจริงแล้ว สวนสวรรค์ใต้ดินนี้ จนถึงตอนนี้ก็ยังก่อสร้างอยู่”

“จะบอกแกแบบนี้ก็แล้วกัน ไม่ว่าจะเกิดแผ่นดินไหวกว่าสิบลิตเตอร์ หรือน้ำแข็งเกิดละลายขึ้นมา จะเกิดน้ำท่วงยังไง หรือไฟไหม้อะไรพวกนั้น ก็จะไม่ส่งผลต่อชีวิตของพวกเรา ข้างในมีออกซิเจนที่เพียงพอ ทั้งน้ำ และอาหาร และคนรับใช้ที่คอยบริบาลพวกเรา ให้พวกเราใช้ชีวิตได้อย่างหมดห่วง”

“เข้าใจรึยัง? นั่นตั้งหากที่เป็นจุดประสงค์เริ่มแรกที่ก่อสร้างสถานที่แห่งนั้น และเป็นเหตุผลที่ทำให้เกิดสถานที่แห่งนั้น”

ท่านลู่พูดต่อ “แน่นอน ฉันเองก็จะไม่ขอบอกว่าในหมู่คนสูงอายุอย่างพวกเรา จะไม่มีสัตว์เดรัจฉานอยู่สักตัวสักสองตัวอยู่เลย พอตื่นเต้นขึ้นมา ก็ทำเรื่องที่มันต่ำช้ายิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉานได้ แต่ว่า นั่นมันเกี่ยวข้องอะไรกับฉันล่ะ อีกอย่าง นี่มันก็ไม่ใช่เรื่องปกติ”

“พวกเราก็อายุปูนนี้แล้ว แค่จะเดินอย่างลำบากเลย จะไปเอาแรงที่ไหนไปยุ่งกับร่างกายของหญิงสาวพวกนั้นกันล่ะ? ท่านลู่พูด

“สถานที่แห่งนั้น ลูกหลานตระกูลของพวกเรา ก็รู้เรื่องนั้นดี และสาวบริการส่วนใหญ่ พวกเขาก็เป็นคนเลือกมาเอง ถ้าเกิดพวกเราทำเรื่องสัตว์เดรัจฉานแบบนั้นขึ้นมา งั้นพวกเราจะไปมีหน้าไปมองลูกหลานของพวกเราได้ยังไง พวกเรายังต้องการรักษาหน้าแก่ๆนี้อยู่นะ?”

ท่านลู่พูดด้วยใบหน้าที่อึดอัด

“ไม่ใช่แบบนั้น?”

หลี่ฝางมองท่านลู่ด้วยความสงสัย “สิ่งที่แกพูดออกมา เป็นความจริงงั้นเหรอ?”

“เป็นเรื่องจริงแน่นอน อีกอย่าง ฉันเองก็เคยปล่อยหญิงสาวพวกนั้นอยู่จำนวนนึง เพียงแต่ว่า เกี่ยวกับเรื่องรายละเอียด ฉันก็จะให้พวกเธอเซ็นสัญญาว่าจะเก็บเป็นความลับก็เท่านั้นเอง”

ท่านลู่พูดต่อ “อีกอย่าง คนแก่อย่างพวกเรา มักจะชอบเล่าความลับเล็กน้อยของตัวเอง เพราะงั้น พวกเราจึงตั้งกฏกับพวกเธอเอาไว้ นั่นก็คือห้ามพวกเธอพูดคุยกัน”

“ความหมายก็คือ พวกเธอไม่สามารถคุยเรื่องของพวกเราได้ ยิ่งไม่สามารถเอาความลับของพวกเรา ให้คนอื่นได้รับรู้”

ท่านลู่พูดต่อ “การที่ไม่สามารถพูดคุยได้ ในสถานที่ลับที่ปิดตาย ไม่มีอิสระ ไม่สามารถคบหาเพื่อนได้ ไม่มีสิ่งบันเทิงอะไรให้พวกเธอเสพสุข ชีวิตแบบนี้ ใช้เวลาไม่นาน พวกเธอก็จะรับไม่ไหวกันเอง”

“ฉันไม่ได้เลวร้ายอย่างที่แกคิด แต่ว่า ระหว่างเราและพ่อของแก จริงอยู่ที่มีความแค้น พ่อของแกเคยบุกเข้ามาที่บ้านที่ปลอดภัยของพวกเรา และพาผู้หญิงกลับไปหนึ่งคน คิดว่า ก็น่าจะเป็นแม่ของแก”

“นับเวลานั้น สี่ตระกูลใหญ่และพ่อของแกต่างก็ต่อสู้กันอย่างลับๆ ต่อสู้กันอยู่นาน มีอยู่ครั้งนึงสี่ตระกูลใหญ่ได้จับแม่ของแกไป แล้วเอาเธอไปไว้ในข้างในเซฟเฮ้าส์ของพวกเรา จากนั้น พ่อของแกจึงบุกเข้ามา และยังฆ่าคนของพวกเรา ทำให้พวกเราโกรธขึ้นมา”

“ว่ากันตามตรง การที่พวกเรามีความแค้นกับตระกูลหลี่ของพวกแก ก็เป็นเพราะสี่ตระกูลใหญ่”

“แต่ว่า ตอนนี้ความแค้นนี้ น่าจะไม่สามารถปล่อยวางได้แล้ว นอกซะจะ พ่อของแกหลอซ่าจะตายในภารกิจครั้งนี้

ท่านลู่หัวเราะพร้อมพูดต่อว่า “ฉันไม่ได้จะแช่งให้พ่อแกตาย แต่ว่าในใจก็หวังให้เขาตายจริงๆ”

“ฉันเป็นคนพูดตรงแบบนี้แหละ แกอย่าถือสาฉันเลย”

“ฮ่าๆ ฉันเองก็หวังว่าแกจะตาย รีบตายยิ่งดี แกเองก็อภัยให้ฉันด้วย ฉันเองก็เป็นคนพูดตรง” หลี่ฝางพูด

“เฮิง พ่อของแกทำกับแกแบบนี้ แกก็ยังปกป้องเขาอีก ช่างไม่เข้าใจซะจริงๆ” ท่านลู่ส่ายหัว พร้อมกับลุกขึ้นและเดินจากไป

เขาเพิ่งเดินออกไป หลี่ฝางก็หันไปมองเขาแวบนึง ตอนที่หันกลับมา กลับเห็นลุงเฉียนนั่งอยู่บนโซฟา พอหลี่ฝางเห็นลุงเฉียน ก็ตกใจขึ้นมา

เวลาดึกป่านนี้ คนๆนึง ปรากฏตัวออกมาด้วยที่ตัวเองไม่รู้ตัว มันทำให้ขนลุกไปทั้งตัวจริงๆนะ

หลี่ฝางตบอกตัวเอง แล้วพูดว่า “ลุงเฉียน คุณมาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย ผมตกใจแทบแย่?”

พอเห็นหลี่ฝาง ลุงเฉียนก็พูดออกไปอย่างนิ่งๆว่า “ฉันมาตั้งนานแล้ว ตอนที่ไอ้แก่นี้เข้ามา ความจริง ฉันก็แอบเดินเข้ามาในห้องนี้อย่างเงียบๆแล้ว”

“งั้นบทสนทนาของพวกเรา……” ใบหน้าของหลี่ แดงขึ้นมาเล็กน้อย

เมื่อกี้ด้วยคำพูดของท่านลู่ ทำให้ข้างในใจของหลี่ เกิดความรู้สึกโกรธแค้น พ่อของตัวเองขึ้นมาแล้วจริงๆ

แต่ความรู้สึกแค้นนี้ ยังไม่ถึงกลับหวังให้พ่อของตัวเองตาย

แค่ความรู้สึกที่ทอดทิ้งนั้น ทำให้คนเรารู้สึกเจ็บปวดเล็กน้อย

“ฉันได้ยินหมดแล้ว อย่าไปฟังคำพูดไร้สาระของตาแก่นั้นเลย ความจริงสามปีที่ผ่านมา ก็มีคนซ่อนตัว แอบปกป้องคุณอยู่ลับๆ แต่ว่า ไม่เคยเผยตัวออกมาก็เท่านั้นเอง”

“สามปีนี้ ข้างกายของคุณ มีคนค่อยจับตาปกป้องอยู่ตลอด แต่ไม่มีใครที่ต้องการจะฆ่าคุณหรอก”

“ขอแค่คนพวกนี้ยังไม่เห็นศพของพ่อคุณ ไม่มีใครโง่ถึงขั้นฆ่าคุณหรอก” ลุงเฉียนพูดอธิบาย

“งั้นทำไม หลังจากที่พวกคุณปลอดภัยแล้ว หลังจากที่มีอำนาจ ถึงไม่มาพาฉันออกจากตงไห่ล่ะ?”

หลี่ฝางมองไปยังลุงเฉียน ถามด้วยความสงสัย “พวกคุณสามารถพาผมออกไปได้ พาผมไปดูไบ แล้วใช้ชีวิตอยู่กับพวกคุณ”

“ฉันไม่ได้สนใจพวกเงินทอง ฉันแค่อยากจะถามพวกคุณว่า ทำไมถึงไม่กลับมาพาฉันไปด้วย?”

หลี่ฝางพูดต่อ “อย่าบอกว่าพวกคุณไม่มีอำนาจพอที่จะทำแบบนั้น หรือ พวกคุณไม่สามารถปกป้องฉันได้ ฉันไม่เชื่อหรอก”

ลุงเฉียนส่ายหัว แล้วพูดว่า “เป็นความต้องการของพ่อคุณ”

“แม่ของคุณเคยเสนอไปตั้งหลายครั้งแล้ว แต่ว่า ลูกพี่ก็ห้ามเอาไว้ จริง อย่างที่คุณว่า สองปีมานี้ ดูแลเด็กแค่คนเดียว สำหรับพวกเราแล้วก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร แต่ว่า ถ้าเกิดมาพาคุณไปด้วย ให้คุณไปใช้ชีวิตที่สุขสบายแบบนั้น สำหรับอนาคตของคุณแล้ว มันส่งผลดีอะไรล่ะ?”

“พ่อของคุณไม่อยากให้คุณกลายเป็นคุณชายเจ้าสำราญ เพราะงั้น จึงให้บททดสอบกับคุณ ถ้าเกิดคุณสามารถเอาชีวิตรอดได้เป็นเวลาสามปีด้วยตัวคนเดียว งั้น สามปีนี้ ก็จะเป็นบทเรียนที่สำคัญมากสำหรับชีวิตของคุณ คุณที่อายุแค่นี้แต่กลับไม่มีอำนาจอะไร ต่อให้หลังจากนี้จะเจอกับสถานการณ์ที่ยากลำบากขนาดไหน ก็คงจะผ่านมันไปได้อย่างราบรื่น”

“คุณในตอนนี้ ที่ได้เป็นถึงคุณชายใหญ่ แต่ก็เคยใช้ชีวิตอย่างกับขอทาน”

ลุงเฉียนพูดต่อ “ในฐานะพ่อคนนึง เขาอาจจะดูไร้หัวใจไปหน่อย แต่ว่า คุณไม่สามารถพูดได้ว่าสิ่งที่เขาทำนั้นผิด”

“ตอนนั้น พ่อของคุณวางแผนไว้สองอย่าง อย่างแรกก็คือไปรับตัวคุณมา จากนั้นก็ให้คุณใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย ใช้ชีวิตอย่างสุขสบายทั้งชาติ ถ้าเกิดไปรับตัวคุณมา งั้นตอนนี้ คุณก็น่าจะอยู่ที่ดูไบ คงจะไม่ตามพวกเรากลับมา เพราะว่าคนที่ใช้ชีวิตอย่างกับเจ้าชายจนชินแล้วอย่างคุณ คงไม่สามารถตามพวกเรามา เพื่อเผชิญหน้ากับพวกศัตรูได้”

“แผนที่สอง ก็คือไม่สนไม่ถามเกี่ยวกับคุณ ให้คุณไปเผชิญหน้ากับปัญหาด้วยตัวเอง รอให้พวกเราถึงเวลาที่เหมาะสมแล้ว ค่อยกลับไปรับคุณ”

“สุดท้าย พ่อของคุณก็เลือกอย่างหลัง” ลุงเฉียนอธิบาย

“คุณไม่ควรโกรธแค้นเขา พวกเราก็ไม่ควร บนบ่าของพ่อคุณ มีสิ่งที่ต้องแบกรับไว้มากจนเกินไป”

“แต่เขา ก็ไม่กล้าล้มลง ถ้าเกิดเขาล้มลง งั้นพวกเราที่เหลือทั้งหมด ก็จะล้มตามไปด้วย คุณคิดว่ากับที่พวกเราอยู่ต่างประเทศ จะใช้ชีวิตอย่างสงบสุขเหรอ? พวกนักฆ่าพวกนั้น มันชัดเจนมากว่าได้รับผลประโยชน์จากตาแก่พวกนั้น เพราะงั้นจึงเป็นศัตรูกับพวกเรามาด้วยตลอด”

“ถ้าเกิดคุณไปที่นั่น ก็คงจะตกเป็นเป้าหมายที่ต้องสังหารด้วย”

ลุงเฉียนพูด

หลี่ฝางไม่ได้พูดอะไร แค่ถอดหายใจเบาๆ แล้วนั่งลงไปบนโซฟาและพูดว่า “ความจริง ผมหวังให้พ่อของผม เป็นแค่คนขับรถธรรมดา ถึงแม้จะไม่ค่อยอยู่บ้าน แต่ว่า อย่างน้อยมันก็ยังเรียกได้ว่าอบอุ่น”

“ไม่ต้องใช้ชีวิตแบบที่ต้องต่อสู้อยู่ตลอดเวลา ใช้ชีวิตอยู่แต่กับการฆ่าฟัน” หลี่ฝางพูดไปพร้อมกับเบะปาก

ลุงเฉียนหัวเราะออกมา “มีเรื่องมากมาย ที่มันไม่มีทางเลือก”

“ชีวิตคนเราถ้าเกิดเดินผิดไปสักก้าว ก็ต้องเดินเส้นทางนั้นต่อไปเรื่อยๆ ถ้าเกิดจะโทษล่ะก็ ก็ต้องโทษที่พ่อของคุณมีความสามารถมากจนเกินไป ความสามารถที่เขามี ให้เขาไปเป็นแค่คนขับรถ เขาจะยอมรับได้เหรอ?”

“คุณก็เหมือนกับจูเก่อเหลียงนั่น เขาเป็นอัจฉริยะในสามโลก ต่อให้เล่าปี่จะไม่มาหาเขาถึงสามครั้ง เขาก็คงไม่หลบซ่อนไปตลอด และเป็นแค่คนที่มีความรู้ธรรมดาหรอก”

ลุงเฉียนพูดต่อ “คนๆนึง ชีวิตๆนึง นี่เป็นชีวิตของคุณ คุณต้องยอมรับมัน”

“เวลาป่านนี้แล้ว ฉันไปล่ะ คุณไปนอนพักผ่อนเถอะ”

ลุงเฉียนลุกขึ้นมาแล้วพูดออกมา

หลี่ฝางพูดขึ้นมา “สิ่งที่ไอ้ตาเฒ่าแซ่ลู่ พูดเมื่อกี้ เป็นความจริงรึเปล่า? เซฟเฮ้าส์แห่งนั้น เป็นที่ๆปลอดภัยจริงเหรอ?”

“น่าจะเป็นอย่างนั้น” ลุงเฉียนก็ตอบกลับไปด้วยที่ไม่มั่นใจ

ตอนที่ลุงเฉียนเดินมาจนถึงประตู หลี่ฝางทนไม่ไหวจนถามออกไปว่า “เมื่อกี้ ท่านลู่พูดข่มขู่ผม ถามว่าผมยอมที่จะเห็นเพื่อนของผม ผู้หญิงที่ผมรัก ต้องตกอยู่ในอันตรายเหรอ?”

“วางใจได้ เพื่อนของคุณ และก็แฟนของคุณ จะไม่เป็นไร”

ลุงเฉียนพูดเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น “เขาแค่ขู่คุณ ขอแค่ตาแก่นี้ยังอยู่ที่สถานตากอากาศของพวกเรา คำขู่ที่เขาพูดกับคุณ ก็เป็นแค่ลมปาก”

หลี่ฝางพยักหน้า หลังจากที่ลุงเฉียนเดินจากไป หลี่ฝางก็ไปขึ้นไปฟูกอยู่บนเตียง

แต่ว่า หลี่ฝางกลับนอนไม่หลับ และในคืนนั้นก็ฝันแปลกๆ ข้างในฝัน เพื่อนของตัวเอง และผู้หญิงของตัวเอง ล้วนตายกันหมด

แถมยัง ตายต่อหน้าตัวเอง

โดยเฉพาะตอนที่เห็นหลินชิงชิง ลู่หลุ่ย ฉินวี่เฟยผู้หญิงพวกนี้ หลี่ฝางก็ตื่นขึ้นมาจากฝันร้าย หน้าของเขาเต็มไปด้วยเหงื่อ

หลี่ฝางที่ตื่นขึ้นมา รีบโทรไปหาลู่หลุ่ย หลังจากที่ลู่หลุ่ยไม่รับสาย ก็โทรไปหาหลินชิงชิง ชิงชิงเองก็ไม่รับสาย

ตอนที่โทรไปหาฉินวี่เฟยเป็นคนสุดท้าย หลี่ฝางก็ไม่ได้หวังอะไร แต่ปรากฏว่าฉินวี่เฟยกลับรับสายทันที

“เธอยังไม่นอนเหรอ?” หลี่ฝางถาม

“อืม ฉันอยู่กับพี่สาว พวกเราหนีออกมาแล้ว ไอ้มู่หรงฉางเฟิงนั่น ส่งคนมาตามหาพี่สาวฉันมาด้วยตลอด คิดจะจับตัวพี่สาวฉันกลับไป” ฉินวี่เฟยพูดต่อ “พวกเราหลบซ่อนตัวอยู่ในหมู่บ้านแห่งนึง”

หลี่ฝางทำหน้าเครียด แล้วพูดว่า “ไอ้สารยำมู่หรงฉางเฟิง ยังไม่ยอมปล่อยพี่สาวเธอไปอีกเหรอ?”

ฉินวี่เฟยไม่ได้พูดอะไร หลี่ฝางได้ยินเสียงผู้หญิงร้องไห้จากสายโทรศัพท์ หลี่ฝางพูด “เอางี้ไหม เธอส่งที่อยู่มาให้ฉัน ฉันจะพาคนไปรับพวกเธอมาอยู่ข้างในสถานตากอากาศ”

“ได้ ฉันอยากจะโทรไปหาคุณตั้งนานแล้ว อยากให้คุณช่วย แต่ก็รู้สึกเกรงใจ” ฉินวี่เฟยพูดด้วยน้ำเสียงที่ดีใจ

หลังจากที่วางสาย หลี่ฝางก็วิ่งไปหาโหจื่อ

และโหจื่อในเวลานี้ นอนหลับสบายเหมือนหมู่ตัวนึง ใช้เวลาเรียกอยู่นาน กว่าจะยอมตื่นขึ้นมา

“เจ้านาย คุณชายใหญ่เรียกผมตื่นขึ้นมา มีเรื่องอะไรเกินขึ้นเหรอ?”

โหจื่อขยี้ตาตัวเอง หลังจากที่ลืมตาตื่น จู่ๆก็พูดเสียงดังขึ้นมาว่า “แม่งเอ๊ย คงไม่ใช่ว่ามีคนบุกเข้ามาใช่ไหม?”

“ไม่มีใครบุกเข้ามา ฉันอยากให้แกตามฉันไปรับผู้หญิงสองคน”

พอหลี่ฝางพูดจบ โหจื่อก็ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ “ฮ่าๆ ทนไม่ไหวแล้วสิน่ะ? ฮ่าๆ ยังถือว่าคุณมีน้ำใจ ยังรู้ว่าต้องไปรับมาสองคน แต่ว่า สถานตากอากาศของพวกเราไม่มีผู้หญิงไม่ใช่เหรอ ครั้งก่อนคุณก็ส่งมาหนึ่งคนไม่ใช่เหรอ? ฉันว่าเธอเองก็ไม่เลวน่ะ หน้าตาก็ดี รูปร่างก็โอเค……”

หลี่ฝางมองโหจื่อด้วยหางตา “เธอเป็นเพื่อนร่วมห้องของแฟนฉัน แกว่าฉันจะลงมือกับเธอได้เหรอ?”

“ถุ้ยๆๆ พูดแต่อะไรก็ไม่รู้ คนที่พวกเราไปรับ คือฉินวี่เฟยกับฉินหยีหรันของตระกูลฉินตั้งหาก ใครคิดถึงผู้หญิงกัน? เป็นมู่หรงฉางเฟิงที่ค่อยหาเรื่องฉินหยีหรันอยู่ตลอด ฉันอยากจะรับเธอเข้ามา ให้เธอเข้ามาหลบอยู่ในสถานตากอากาศสักสองสามวัน” หลี่ฝางพูด พร้อมมองโหจื่อด้วยหางตา

โหจื่อเพิ่งพูดจบ สายของฉินวี่เฟยก็ดังขึ้นมา “หลี่ฝาง ดูเหมือนว่าพวกเขาจะเจอพวกเราแล้ว”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน