NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่688 ฉวยโอกาสโจมตี

บทที่688 ฉวยโอกาสโจมตี

“ตามไป!”

ตอนที่ชางสู่วิ่ง ก็คว้า ผ้าขาวไว้ พันไว้รอบๆ แล้วกดไว้ที่คอของตัวเอง

เขาไม่อยากต่อสู้แล้ว คิดแต่จะรีบหนีออกไป หาโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง แล้วรีบพันให้ตัวเอง

แน่นอนว่า ถ้าชางสู่ยอม สามารถกลับไปฆ่าเฉินฝูเซิงและคนอื่นๆได้ ก็แค่แบบนั้น จะต้องใช้เวลามากพอสมควร ถึงตอนนั้น ก็เป็นไปได้ที่ตัวเองจะเสียเลือดเยอะและตาย

ไปถึงข้างกำแพง ชางสู่ก็ซ่อนที่หินก้อนหนึ่ง กระโดดขึ้นมา แล้วข้ามกำแพง ฉากนี้ เหมือนกับปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้ที่ทำวิชาตัวเบาเหาะเหินบนหลังคา

“แม่เอ๊ย ผู้ชายคนนี้ยังเป็นคนอยู่ไหม?”เสี่ยวซานจื่อขมวดคิ้ว ด่าเสียงดัง

ตอนที่เฉินฝูเซิงและเสี่ยวซานจื่อออกมาจากประตูหลัก ชางสู่ก็ขึ้นรถของหวางเห้าแล้ว ถูกช่วยออกมา

“แม่เอ๊ย!”

เห็นรถที่ขับไปอย่างรวดเร็ว เฉินฝูเซิงก็ด่าด้วยความโมโห รีบขับรถ แล้วตามไปติดๆ

เสี่ยวซานจื่อเอาปืนกระบอกหนึ่งใส่กระสุน แล้วเอาไว้ที่เอวของตัวเอง เฉินฝูเซิงตำหนิไป:“พี่ซาน อย่าก่อเรื่องให้ผมล่ะ”

“วางใจเถอะคุณชาย ถ้าเกิดเรื่อง ผมรับผิดชอบเองคนเดียว”

มุมปากเสี่ยวซานจื่อเปยให้เห็นความดูถูก

“นี่ไม่ใช่ถิ่นของพวกเรา ยังไม่หมดทางเลือก อย่าเพิ่งใช้ปืนก่อนดีกว่า ถ้าใช้ปืน พวกเราจะหลบหนีได้ยาก”จูเปิ่นก็พูด

“พวกเราแค่ตามรถคันนี้ไปติดๆ อย่าให้ชางสู่ไอ้ระยำนั่นโรงพยาบาล ก็OKแล้ว”จูเปิ่นพูด

เฉินฝูเซิงก็หมายความเช่นนี้

บีบให้ชางสู่ตาย ทำให้เขาเสียเลือดไปเยอะๆแล้วตายลง

“พวกคุณกลัว?พี่จูเปิ่น คุณลืมแล้วเหรอ คนที่ตายคือใคร?เขาคือเพื่อนรักของพวกเรา เพื่อนรักที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกัน เข้าใจไหม?เขาตายเพื่อพวกเรา”

คืนวันนั้นที่ต้อนรับน้องสาวจูเฟิ่งปิน ชางสู่จะฆ่าคนเพื่อเป็นการโชว์ และหวูเชาคือคนแรกที่ยืนออกมา ยั่วยุชางสู่ ทำให้เกิดโศกนาฏกรรมขึ้นมา

วันธรรมดาแล้ว หวูเชาเป็นลูกน้องคนหนึ่งของเฉินฝูเซิง ที่อดทนได้ดี และพูดน้อยที่สุด

แต่หลังจากที่ได้ยินชางสู่เชือดไก่ให้ลิงดูนั้น เขากลับกระโดดออกมา แล้วยั่วยุชางสู่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า……

จุดประสงค์ของเขาอยู่ที่ไหน?

อย่างมากก็คงไม่อยากเห็นเพื่อนของตัวเองตาย ดังนั้นจึงได้แต่อุทิศตัวเอง

พอเสี่ยวซานจื่อพูดจบ ทันใดนั้นจูเปิ่นก็เงียบขึ้นมา

“ไม่ว่าอย่างไร คืนนี้ก็ต้องฆ่าไอ้ระยำนั่น!”เสี่ยวซานจื่อพูดด้วยใบหน้าเย็นชา

ตอนนี้ ในรถของหวางเห้า

“คุณกลับมาได้ไง?”ชางสู่ถามหวางเห้า

“เหอะเหอะ มู่เสี่ยวไป๋เพิ่งโทรหาผม บอกว่าคุณน่าจะมีอันตราย ดังนั้นผมจึงกลับมา ……”มองแผลที่คอของชางสู่:“เสี่ยวโจว……ตายแล้วเหรอ?”

หวางเห้าเคยสู้กับเสี่ยวโจว รู้ว่ามือเสี่ยวโจว สามารถทำให้พื้นผนังฉีกออกได้

และแผลที่คอของชางสู่ แค่มองก็รู้ว่าเป็นเสี่ยวโจวที่ทำ

หมายความว่า ทั้งสองคนสู้กันแล้ว

จากการชี้ขาดของตัวเอง เสี่ยวโจวไม่ใช่คู่ต่อสู้ของชางสู่ ถ้าไม่ใช่ชางสู่ประมาทหรือมองศัตรูต่ำไป ถึงเสี่ยวโจวจะสู้สุดชีวิต ก็ไม่อาจทำร้ายชางสู่เพื่อนของตัวเองได้

“ตายแล้ว ผมใช้แรงทั้งหมดปล่อยหมัดไปที่หัวใจของเสี่ยวโจว เขาตายอย่างไม่ต้องสงสัย”

ชางสู่พูดไป ก็ขมวดคิ้ว:“เขามันบ้า เพื่อที่จะฆ่าผม ก็เดิมพันชีวิตของตัวเองโดยไม่สนใจอะไร”

“ผมหาโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดแล้ว”หวางเห้าพูดอย่างรีบร้อน

ในสายตาหวางเห้า ชางสู่คือคนสำคัญในชีวิตเขา เวลานี้ เขาร้อนใจกว่าใครๆ

ชางสู่ตอบรับอือ หยิบโทรศัพท์ แล้วโทรหาเบอร์หนึ่ง

“แมงป่อง ผมคือชางสู่”

โทรติด ก็มีเสียงเหอะเหอะของแมงป่องเข้ามา:“ชางสู่?ทำไมคุณถึงมีเวลาโทรหาผมได้ล่ะ”

“หาโรงพยาบาลได้ยัง?”

ชางสู่มองหวางเห้าแล้วถาม หวางเห้าก็รายงานชื่อของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งทันที

จากนั้น ชางสู่ก็ให้แมงป่องส่งคนไปโรงพยาบาล ……

แมงป่องหัวเราะเหอะเหอะ พูดอย่างลวกๆ:“คนของผม สามนาทีก็สามารถรวมตัวกันหน้าที่หน้าโรงพยาบาลแล้ว ก็แค่ ผมอยากถาม ทำไมผมต้องช่วยคุณด้วย?”

“คุณน่าจะเข้าใจผม ผมเป็นนักปฏิบัตินิยม เรื่องที่ไม่มีประโยชน์ ใครจะทำล่ะ?”

แมงป่องพูดจบก็หัวเราะเหอะเหอะ:“ดูท่าคุณแล้ว น่าจะเจอเรื่องลำบากนะ แบบนี้ไหม หนึ่งล้าน ……”

“คุณปล้นหรือไง……”ชางสู่ด่าทอด้วยความโกรธ

“ชางสู่ ผมให้ราคากันเองกับคุณแล้ว ในเมื่อคุณยอมเปิดปากพูด ก็คงไม่ใช่ปัญหาเล็กๆแน่ หนึ่งล้าน ถ้าคุณยอม ก็โอนมาให้ผม เงินเข้าบัญชีแล้ว ผมจะส่งคนไปสนับสนุนคุณที่โรงพยาบาลทันที”

“เงินไม่เข้าบัญชี ก็อย่ามาพูดเรื่องน้ำใจกับผม ยุคนี้แล้ว น้ำใจไม่มีค่าที่สุดแม่เอ๊ย”แมงป่องพูดจบด้วยคำด่า ก็วางสาย ส่งเลขบัญชีให้ชางสู่

ชางสู่ได้แต่หดหู่หน่อยๆ แล้วจึงโอนเงิน

ชางสู่รู้ดี ถ้าคนที่อยู่เบื้องหลัง ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ถึงจะถึงโรงพยาบาลแล้ว ตัวเองก็ถูกฆ่าตายแน่ๆ

เฉินฝูเซิงและคนอื่นๆ ในเมื่อยอมมาจากเมืองเอกมาที่อำเภอหลินเพื่อฆ่าคนได้ นั่นจะต้องทำได้ทุกอย่างโดยไม่เลือกวิธีการแน่

อย่าว่าแต่โรงพยาบาลเลย ถึงเป็นโรงพัก ……เฉินฝูเซิงก็คงไม่ปล่อยตัวเองหรอก?

พึ่งหวางเห้าคนเดียว ยากที่จะรับมือได้ ดังนั้น ชางสู่ต้องการคนช่วย

และสถานที่อย่างอำเภอหลิน ผู้ช่วยที่ดีที่สุด ก็ต้องเป็นแมงป่องเจ้าถิ่นที่นี่สิ

พอแมงป่องได้รับเงิน ก็โทรกลับมาทันที

“เงินผมได้รับแล้ว แต่ผมตัดสินใจชั่วคราว เพิ่มอีกหนึ่งล้าน ……”แมงป่องหัวเราะหึหึ ที่ปลายสายหัวเราะอย่างร้ายกาจ

เผชิญหน้ากับการรีดไถที่โจ่งแจ้งเช่นนี้ ในตาของชางสู่ มีความเป็นฆาตกร

แต่เขาก็หมดหนทางอีกครั้ง

“แมงป่อง คุณรู้ไหมเล่นกับผมต้องตอบแทนด้วยอะไร?”ชางสู่ขู่อย่างเย็นชา

“เหอะเหอะ จะเล่นได้ไงล่ะ?จะโทษ ก็โทษที่คุณสะใจเกินไป คุณเป็นคนที่ขี้เหนียวคนหนึ่ง หนึ่งล้านนี้บอกว่าจะให้ก็ให้ เห็นได้ชัดว่าคุณไปเจอเรื่องที่สำคัญ ถ้าเดาไม่ผิด น่าจะมีคนเป็นอันตรายถึงชีวิตใช่ไหม?เทียบกับชีวิตแล้ว ล้านสองล้านนี้ ก็ไม่อะไรเลย?คุณว่าไหมล่ะ”

แมงป่องไม่กลัวชางสู่ โดยสถานะยุทธภพตอนนี้ของแมงป่อง สู้ขึ้นมาจริงๆ ชางสู่ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาเลย

แน่นอนว่า พูดถึงความสามารถแล้ว ชางสู่ดีกว่าหน่อยแน่นอน

แต่ในสมัยนี้ ใครยังจะสู้ตัวต่อตัวกับคุณล่ะ

ทุกคนเปรียบเทียบด้วยเงินมากกว่า คนมากกว่า ธุรกิจมากกว่า ……

“ชางสู่ ถ้าในใจคุณคิดว่าไม่โอเค ไม่เป็นไร เงินผมจะคืนให้คุณทันที”แมงป่องหัวเราะเบาๆ

แมงป่องเป็นคนชำนาญในยุทธภพแล้ว เขาวิเคราะห์จากรายละเอียดมากมาย ชางสู่จะต้องเจอเรื่องที่ลำบากแน่

ดังนั้นเวลานี้ แมงป่องมั่นใจจะคุกคามชางสู่

ชางสู่ไม่พูดเหลวไหลใดๆอีก เพราะว่าเวลายิ่งยืดออกไป ยิ่งไม่มีประโยชน์ต่อเขา:“แมงป่อง ครั้งสุดท้าย ถ้าคุณยังเล่นกับผมอยู่ล่ะก็ ……”

“ทางที่ดีคุณอย่ามาขู่ผม อย่าลืมล่ะ นี่คือถิ่นของผม”แมงป่องตัดบทของชางสู่

“ไม่งั้นถ้าผมไม่พอใจ เงินผมจะไม่คืน แล้วผมก็ไม่ช่วยด้วย”แมงป่องพูดอย่างหน้าด้าน

ชางสู่วางสาย หันไปมองหวางเห้า:“หวางเห้า คุณยังมีเงินไหม?”

“เท่าไหร่……”

“หนึ่งล้าน”

ชางสู่ยืมเงินจากหวางเห้าหนึ่งล้าน โอนไปที่บัญชีของแมงป่อง จากนั้น แมงป่องก็ส่งข้อความ บอกว่าจัดการคนให้แล้ว

ชางสู่จึงถอนหายใจ แต่ที่ปากยังบ่นไปว่า:“คนในตอนนี้ ยิ่งไม่มีเหตุผลมากขึ้นเรื่อยๆ”

“สังคมนี้ ทุกคนรู้จักแค่เงิน ……”

ชางสู่ถอนหายใจ ในใจรู้สึกอาฆาตแค้น

“แมงป่องไม่ใช่คนดีอยู่แล้ว ตอนแรกเพื่อเงิน เขาก็วางยาคนกันเอง”หวางเห้าหัวเราะเหอะเหอะ:“ไม่มีเหตุผลจริงๆ คนแบบนี้ ดันเป็นลูกพี่ได้”

ถึงชางสู่ไม่รู้จักนิสัยของแมงป่อง แต่ความสามารถของเขา ชางสู่กลับเลื่อมใส

ไม่เลือกวิธีแบบนั้น ไม่เห็นแก่หน้าใครทั้งสิ้นแบบนั้น ……

เหมือนว่า กำหนดแล้วให้แมงป่องเป็นจอมฉวยโอกาส

และไม่ว่าจะหวางเห้าหรือว่าชางสู่ ล้วนแต่มีความผูกพันทางจิตใจระหว่างเพื่อนพ้องมากไป……

แต่แมงป่องไม่เหมือนกัน ผู้หญิงที่เขาชอบที่สุด ก็สามารถยกให้ได้ เพราะคนนั้นช่วยเขาได้……

เพื่อนรักที่ดีที่สุดของเขา ตายในเงื้อมมือของคนใหญ่โต แต่พอจากนั้น แมงป่องกลับไม่ติดใจเอาความ ขายชีวิตให้คนใหญ่คนโตคนนั้น

สรุปคือ แค่สำเร็จได้ แมงป่อง ก็ไม่มีหลักการใดๆ……

“อ้อใช่ อยู่ห่างจากเขาหน่อย”

“ผู้ชายคนนี้ เป็นgay”ระหว่างทาง ชางสู่หัวเราะเบาๆ

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท