NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่690 คืนนี้ เกิดเรื่องใช่ไหม?

บทที่690 คืนนี้ เกิดเรื่องใช่ไหม?

“ถ้าอีกฝ่ายยิงพลาดไปหน่อย กลัวว่าชีวิตของคนไข้นี้ คงจะน่าเป็นห่วง?”

หมอวัยกลางคนหัวเราะเหอะเหอะ พูดว่า:“จากที่เป็นหมอมาหลายปี ถือว่าเขามีปาฏิหาริย์ ไม่ใช่แค่โชคดี ร่างกายก็ยังแปลกกว่าคนทั่วไป ถ้าผมเดาไม่ผิดล่ะก็ เขาน่าจะเป็นนักศิลปะการต่อสู้ใช่ไหม?”

หลี่ฝางพยักหน้า ยอมรับการเดาของหมอวัยกลางคน

“เหอะเหอะ คิดไม่ถึงว่า สังคมในตอนนี้ ยังจะมีคนเรียนศิลปะการต่อสู้อีก ศิลปะการต่อสู้คือการฝึกฝนที่ยากลำบากทั้งวันทั้งคืน”ชายวัยกลางคนหัวเราะนิ่งๆ:“คนที่ทำร้ายเขา ก็เป็นนักศิลปะการต่อสู้สินะ?นี่น่าจะไม่ใช่อาวุธมีคม ดูเหมือนเป็นหมัดหนักๆหมัดหนึ่ง พลังของหมัดนี้ ไม่น้อยเลยนะ”

หลี่ฝางพยักหน้า ไม่ปฏิเสธ

“โอเค เข้าไปดูเขาเถอะ เขาฟื้นแล้ว ไม่ตกอยู่ในอันตรายแล้ว แต่ต้องพักผ่อนฟื้นฟูสักช่วงหนึ่ง รอเขาค่อยๆฟื้นตัวได้ ผมจะแนะนำแพทย์แผนจีนให้เขา ออกใบสั่งยาจีนบางอย่างให้เขา ราคายาถูกกว่าโรงพยาบาลพวกเราเยอะเลย แล้วยังได้ผลดีกว่าด้วย จำไว้ว่า ช่วยผมเก็บเป็นความลับล่ะ”หมอวัยกลางคนพูดอย่างหวังดี

ถึงหลี่ฝางไม่ได้แคร์นักกับเงิน แต่ก็ไม่ปฏิเสธความหวังดีของหมอวัยกลางคน พยักหน้าพูดว่า:“งั้นก็ขอบคุณพี่ชายจริงๆ”

“ใช่สิ พี่ครับ โรงพยาบาลนี้ มีห้องคนไข้ระดับสูงไหม?ห้องเดี่ยวน่ะ”หลี่ฝางถาม

“มี”

หมอวัยกลางคนพยักหน้า มองหลี่ฝางอย่างแปลกใจ:“มองไม่ออกว่า คุณจะรวยมาก”

“ผมแค่อยากให้พี่ชายผมพักดีขึ้นมาหน่อย พี่ชาย รบกวนจัดการให้เขาหน่อยครับ”

หลี่ฝางพูดจบ ก็ดึงหมอวัยกลางคนไปข้างๆ

“ยังมีอะไรอีกเหรอ?”หมอวัยกลางคนเหลือบมองหลี่ฝาง ด้วยสายตาสงสัย

“มีนิดหน่อยครับ ผมอยากถามคุณหน่อย ถ้าผมอยากให้ออกใบมรณบัตร ยากไหม?”หลี่ฝางถาม

สีหน้าของหมอวัยกลางคนเปลี่ยนไป ถามว่า:“น้องชาย คุณหมายความว่าไง?”

“ผมอยากออกใบมรณบัตรให้พี่ผม ก็คือ พี่ชายผมตายแล้ว บนโลกนี้ไม่มีพี่ชายผมอีกแล้ว ……”หลี่ฝางหัวเราะ แล้วพูด

“แต่พี่ชายคุณยังมีชีวิตอยู่นะ……”

ไม่รอให้หมอวัยกลางคนพูดจบ หลี่ฝางก็หัวเราะ:“ดังนั้น จึงต้องการให้คุณช่วยไง”

“พูดตรงๆนะ ผมไม่มีสิทธิ์นี้ และก็ไม่มีความกล้าด้วย เพราะเรื่องนี้ เกี่ยวพันสูง ถ้าถูกเปิดเผย ใบอนุญาตหมอของผมไม่ใช่แค่ถูกยกเลิก อนาคตก็ยังก่อให้เกิดปัญหาใหญ่อีกด้วย”

หมอวัยกลางคนส่ายหน้าพูด หลี่ฝางพยักหน้า แล้วพูด:“พี่ชาย คุณไม่กล้า งั้นในโรงพยาบาลนี้ ต้องมีคนที่กล้าสินะ?”

“มีคนหนึ่งทำได้ แต่ว่า เขาน่าจะต้องการราคาสูง หัวหน้าผม ช่วงนี้ร้อนเงินมาก เขาเล่นไพ่เสีย ติดเงินกูนอกระบบ อีกฝ่ายไล่ล่าสุดๆ เขาแทบจะบ้าเพราะถูกบีบอยู่แล้ว ถ้าไปหาเขา บางทีเขาอาจจะช่วย”หมอวัยกลางคนพูด

“แต่มีอย่างหนึ่ง ยังไงเรื่องนี้ ก็ผิดกฎหมาย ถ้าออกใบมรณบัตร งั้นคนๆนี้ ต้องหายไป ปรากฏตัวที่บ้านของตัวเอง หรือโผล่หน้าไม่ได้ ไม่อย่างนั้น จะมีคนสืบหา โรงพยาบาลของพวกเราก็จะเสียหาย แล้วก็นะ คนๆนี้ ไม่ใช่อาชญากรที่ต้องการตัวหรือว่ามีคดีติดตัวอะไรใช่ไหม?”

“ช่างเถอะ ไม่ยุ่งเรื่องของผม ผมก็ไม่ถามแล้ว เหมือนกับที่แสดงในทีวีน่ะ ความลับนี้ยิ่งรู้ไว ก็ยิ่งตายเร็ว เหอะเหอะ ผมจะเอาช่องทางติดต่อของเจ้านายผมให้คุณ คุณนัดเขาละกันนะ”

“ความสัมพันธ์ของผมกับเขานั้นดีมาก ถึงตอนนั้น คุณบอกได้ว่าผมแนะนำมา”ให้เบอร์โทรหลี่ฝางไป หมอวัยกลางคนก็พูดไปด้วย

“ผมชื่อว่างต้าต้า”หมอวัยกลางคนหัวเราะ แล้วพูด

“นี่คือนามบัตรของผม ต้องการเมื่อไหร่ ก็หาผมได้ตลอด”ว่างต้าต้าพูด

หลี่ฝางพยักหน้า ถือนามบัตรของว่างต้าต้า แล้วถาม:“พี่ว่าง พอจะบอกหน่อยได้ไหม เจ้านายคุณ ต้องการประมาณเท่าไหร่?”

“เกรงว่าจะเอาสามแสนขึ้นไป”

ว่างต้าต้าพูดเบาๆ:“เท่าที่ผมรู้ ติดไปสามแสนกว่า แล้วก็ เขายังยืมเงินจากเพื่อนร่วมงานของพวกเราไปหน่อยหนึ่งด้วย รวมกันแล้วประมาณแสนได้”

“เยอะขนาดนั้นเลย?”หลี่ฝางแกล้งทำเป็นตกใจ

“ใบมรณบัตรใบหนึ่ง ต้องใช้เงินขนาดนั้นเหรอ?”หลี่ฝางขมวดคิ้ว พูดอย่างสงสัย

“ก็ใช่น่ะสิ ยังไงตอนนี้ก็ควบคุมเข้มงวด ถ้าเงินนี้ไม่เยอะ ใครจะกล้าช่วยคุณล่ะ นี่เป็นเรื่องที่ตกงานได้เลย ถ้าเรื่องแบบนี้เปิดเผยไป เขาก็ไม่มีงานแล้ว แล้วก็ต้องติดคุกอีก ผมบอกให้นะ ทั้งโรงพยาบาลนี้ มีแค่หัวหน้าเรา ที่ยอมทำเรื่องแบบนี้ ถ้าเป็นคนอื่น ไม่มีใครยอมแน่ๆ แล้วก็นะ เรื่องนี้ คุณต้องรีบ ทางที่ดีทำให้เสร็จคืนนี้ ถึงตอนนั้น ก็พูดไปตรงๆ ว่าออกมาจากห้องผ่าตัดไม่นาน ก็ตาย”

ว่างต้าต้าหัวเราะ แล้วพูด

หลี่ฝางพยักหน้า ช่วยจัดการเสี่ยวโจวให้เรียบร้อยก่อน

เสี่ยวโจวมองหลี่ฝาง แปลกใจหน่อยๆ:“คุณชายหลี่ คุณมาแล้ว”

หลี่ฝางพยักหน้า มองเสี่ยวโจวที่จะลุกขึ้น หลี่ฝางรีบเอามือข้างหนึ่งกดลงไป:“เอาน่า อย่าลุกขึ้นเลย แผลที่ตัวคุณ ยังไม่ดีเลยนะ”

“เป็นจางกงหมิงที่แอบโทรมาบอกผม ว่าคุณมีอันตราย ให้ผมรีบไปช่วยคุณ แต่ทางตระกูลหลี่ของพวกเราช่วงนี้ก็ไม่ได้หยุดหย่อนเลย ดังนั้นจึงมีกำลังคนช่วยได้ไม่มากเท่าไหร่”

“อีกนิด เกือบจะช่วยคุณไม่ได้แล้ว ชีวิตคุณต่างหากที่ยิ่งใหญ่ หัวใจโตไม่เหมือนคนปกติ โตอีกที่ ดังนั้นจึงรอดชีวิตมาได้ ก็ถือว่าคุณไม่สมควรตาย”

“อีกอย่าง ผมจะหาคนออกใบมรณบัตรให้คุณ ถึงตอนนั้น ก็จะบอกว่าคุณตายแล้ว แบบนี้ ต่อไปมู่เสี่ยวไป๋ก็จะตามไล่ล่าฆ่าคุณไม่ได้แล้ว”

“คุณอยู่กับตระกูลมู่มาหลายปี รู้ความลับของตระกูลมู่ตั้งเยอะ เรื่องก่อนๆที่ไม่ดีตั้งเยอะขนาดนั้น ถ้าถูกเปิดเผย ก็มีแนวโน้มว่าตระกูลมู่จะเกิดปัญหาใหญ่ ตระกูลมู่กำจัดคุณ ก็เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงปัญหาในอนาคต”

หลี่ฝางพูดจบ เสี่ยวโจวก็พยักหน้า:“ผมรู้”

“ที่จริง ผมก็เคยคิด ไปจากโลกใบนี้กับแม่ผม หลายปีนี้ที่อยู่กับตระกูลมู่ ผมทำกรรมไว้มาก ถึงถูกชางสู่ฆ่า ก็สมควรแล้ว”

เสี่ยวโจวพูด:“ที่จริง ผมไม่คู่ควรให้คุณต้องช่วยเลย คุณชายหลี่”

“นั่นไม่ใช่ความตั้งใจของคุณ ไม่ต้องพูดหรอก ผมจะไม่ถามคุณว่าทำอะไรไป ผมช่วยคุณ ก็เพื่อให้คุณจัดการตระกูลมู่”

หลี่ฝางหัวเราะ พูดว่า:“ก่อนนี้ คุณก็ช่วยผมไปหลายครั้ง ไม่ใช่เหรอ?”

“โอเค พักผ่อนเยอะๆ ผมจะหาพยาบาลชั้นดีให้คุณ”

หลี่ฝางพูด:“พี่ต้าเหนียน คุณไปจัดการธุระกับผมหน่อย”

“ระวังหน่อย”

เสี่ยวโจวมองหลี่ฝางที่จะลุกออกไป พูดว่า:“ผมได้ยินเรื่องของคุณกับแมงป่องแล้ว แมงป่องทุบถิ่นคุณไปไม่น้อย”

“ที่จริง ผมไม่ควรมาอำเภอหลิน ถ้าคนของแมงป่องเห็นคุณ กลัวว่าจะไม่ให้คุณกลับไป”เสี่ยวโจวพูด

หลี่ฝางหัวเราะเบาๆ“แมงป่องไม่มีความสามารถขนาดนั้น วางใจเถอะ อีกอย่าง ผมก็จะระวังตัว”

“ใช่สิ ในเมื่อคุณรู้เรื่องผมกับแมงป่องแล้ว งั้นคุณรู้ไหม เรื่องนี้ ใครอยู่เบื้องหลังช่วย แมงป่อง?”

หลี่ฝางถาม:“ใช่มู่เสี่ยวไป๋หรือไม่?”

“เรื่องนี้ ผมรู้ไม่เยอะ บางทีคุณอาจจะไปถามจางกงหมิง จางกงหมิงน่าจะรู้ มากกว่าผมหน่อย”เสี่ยวโจวพูด

จางกงหมิง?

หลี่ฝางขมวดคิ้ว ตะลึงทันที เรื่องนี้ จางกงหมิงรู้?

ถ้าเขารู้ ทำไมต้องปิดบังตัวเอง?

แป๊บเดียว หัวใจของหลี่ฝาง หม่นลงทันที

“ผมจะถามเขา”

หลี่ฝางพูดจบอย่างเบาๆ ก็หมุนตัวออกไปจากห้องคนไข้

“พี่ต้าเหนียน คุณขับรถเป็นไหม?”หลี่ฝางถาม

โจวต้าเหนียนพยักหน้า พูดว่า:“เป็น แต่ไม่มีใบขับขี่”

ออกมาจากโรงพยาบาล เหยนเสี่ยวน่าก็รออยู่ที่หน้าประตูโรงพยาบาลแล้ว หลี่ฝางเดินเข้าไป เอากุญแจรถของเหยนเสี่ยวน่า มาจากมือของเธอ

“ยืมรถคุณใช้หน่อย”

หลี่ฝางเอากุญแจรถยื่นให้โจวต้าเหนียน พูดว่า:“พวกเราจะไปธุระ คุณเรียกรถกลับไปเอง ได้ไหม?พี่น่า”

“มีอะไรไม่ได้ล่ะ คุณช่วยตระกูลเหยนพวกเราขนาดนั้น อย่าว่าแต่ยืมรถนี้เลย ถึงให้คุณ ฉันก็ไม่ว่าอะไร”

เหยนเสี่ยวน่าหัวเราะเหอะเหอะ มองหลี่ฝาง น้ำเสียงเปลี่ยนไป:“แต่ว่า คุณจะไปทำอะไรกันแน่”

“คืนนี้ เกิดเรื่องใช่ไหม?

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท