ในมือของหยิ่นเจิ้งไม่ได้มีเพียงแค่ห้างสรรพสินค้าเท่านั้น ยังมีแพลตฟอร์มจัดหาสินค้าอยู่อีกมากมาย
หนึ่งในนั้นคือตลาดผักและผลไม้สด สินค้าที่ต้องจัดหาในแต่ละวัน มีจำนวนเยอะมาก ผักและผลไม้ของทั่วทั้งอำเภอหลิน หยิ่นเจิ้งผูกขาดแทบทั้งหมด
หยิ่นเจิ้งมองดูสายที่ไม่ได้รับ ภายในใจหนักอึ้ง เขารู้สึกว่าท่าไม่ค่อยจะดีนัก
หยิ่นเจิ้งที่กดรับโทรศัพท์ ยังคงแสร้งทำเป็นนิ่งเหมือนเดิม: “ลุงหลิว ทำไมจู่ ๆ ถึงได้โทรหาผมล่ะครับ มีเรื่องอะไรหรือเปล่า?”
มีเสียงแก่เล็กน้อยดังมาจากอีกฝั่งของสาย: “แย่แล้วครับ เถ้าแก่หยิ่น เพิงขายผักของเรา จู่ ๆ ก็เกิดหายนะที่ไม่คาดฝันขึ้น เมื่อกี้มีรถบรรทุกขนาดใหญ่คันหนึ่งขับพุ่งชนเข้ามา ทำให้ผักที่อยู่ในเพิง ถูกชนเกลี้ยงไม่เหลือเลย จากนั้นคนขับก็ลงมาจากรถและทำร้ายคนของเราบาดเจ็บไปร้ายคน และก็ขับรถหนีไป”
“ผมได้แจ้งความไปแล้ว ตำรวจบอกว่ารถคันนี้พึ่งถูกขโมยไป……”
หยิ่นเจิ้งไม่รอให้อีกฝ่ายพูดจบ ก็รีบกล่าวปลอบใจทันที: “ไม่ต้องกังวล ลุงหลิว เรื่องนี้ มอบให้ผมจัดการก็พอ ลุงก็อายุมากขนาดนี้แล้ว ความกดทันภายในครอบครัวก็มีมาก ลุงสบายใจได้ ความเสียหายทั้งหมด ไม่ไม่ให้ลุงต้องมารับผิดชอบหรอก”
“ขอบคุณครับ ขอบคุณครับเถ้าแก่หยิ่น” อีกฝั่งของสายมีเสียงตื้นตันใจดังออกมา
พอวางโทรศัพท์ไป หยิ่นเจิ้งยังไม่ทันที่จะได้หายใจแรง ๆ เขาก็ได้รับสายโทรเข้าจากคนขับรถขนของคนหนึ่ง ในครึ่งทาง รถขนของก็เกิดคว่ำขึ้นมา เพราะว่าในขณะที่รถขับอยู่ จู่ ๆ ก็มีคนขับรถมาเบียด
“เหล่ยเหล่ย โทรหาคุณชายหลี่ตอนนี้เลย บอกกับเขาไปว่า แกตกลงรับปากเขา” หยิ่นเจิ้งที่วางสายไป รีบพูดกับลูกชายตัวเองทันที
“พ่อครับ แบบนั้นล่ะก็ พวกเราก็ต้องแตกหักอย่างเป็นทางการกับแมงป่อง หลายปีมานี้ ถึงแม้ว่าเรากับแมงป่องจะมีเรื่องขัดแย้งอยู่ไม่หยุด แต่มันก็เป็นความขัดแย้งเพียงเล็กน้อย ไม่เคยเป็นเรื่องใหญ่โตอะไร ถ้าหากทำตามที่หลี่ฝางว่า พวกเราเป็นคนประกาศเรื่องรางวัลค่าหัวนี้ออกไป งั้น……แมงป่องจะต้องมาปะทะกันซึ่ง ๆ หน้ากับพวกเราแน่นอน”
“และต่อให้พวกเราบอกกับแมงป่อง ว่าหลี่ฝางแป็นคนจ่ายเงิน แมงป่องก็ไม่ปล่อยพวกเราไปเหมือนเดิม”
คำพูดเหล่านี้ที่หยิ่นเหล่ยกล่าวมานั้น หยิ่นเจิ้งจะไม่เข้าใจได้ยังไง
“ยังไงก็ต้องรับปากเหมือนเดิม ตระกูลหลี่ได้เริ่มบีบพวกเราแล้ว ถ้าหากพวกเราไม่ยอมร่วมมือ เช่นนั้นพวกเขาก็จะลงมือโจมตีพวกเรา เมื่อกี้ฉันรับโทรศัพท์สามสายติดต่อกัน โทรศัพท์ทุกสายต่างก็กำลังบอกกับฉัน เกิดปัญหาขึ้นกับผู้จัดหาสินค้าของเรา ตระกูลหลี่รู้ข้อมูลของพวกเราอย่างชัดเจน รวมถึงเส้นทางการขนส่งของพวกเรา พวกเขาก็รู้แจ้งไปหมด
“นี่เป็นการแจ้งเตือนจากตระกูลหลี่ ถ้าหากพวกเรายังไม่รับปาก งั้นหลังจากนี้ เกรงว่าจะทำให้พวกเราได้รับรู้ถึงความเจ็บปวดที่แท้จริง”
“สำหรับเรื่องแมงป่อง พวกเราไม่มีปัญญาไปสนใจแล้ว ถ้าหากตระกูลหลี่ยอมช่วยพวกเรา ไม่แน่ว่า พวกเราก็สามารถช่วยและยืมมือของตระกูลหลี่ จัดการกับไม้ขัดขาอย่างแมงป่องให้สิ้นซากได้
หยิ่นเจิ้งมองลูกชายของตัวเองแล้วเร่งเขา: “เอาล่ะ อย่ามัวลีลาอยู่เลย รีบโทรหาคุณหายหลี่ ให้พวกเขาหยุดมือเถอะ”
หยิ่นเหล่ยพยักหน้า แล้วกดโทรศัพท์โทรหาหลี่ฝาง
หลี่ฝางที่อยู่ในรถ มองดูสายเรียกเข้าที่รอมานาน แต่ก็ไม่ได้รีบร้อนอะไร
สีหน้าของหยิ่นเหล่ยหม่นหมองลงมาทันที: “ไม่มีคนรับ”
หยิ่นเจิ้งรีบกล่าวขึ้นมา: “โทรอีก โทรจนกว่าจะรับสาย”
โทรศัพท์ของหยิ่นเจิ้งดังขึ้นตลอดเวลา แต่ในเวลานี้ เขากลับไม่อยากจะรับแล้ว เขารู้ว่าทุกครั้งที่รับสาย ล้วนต้องนำข่าวร้ายมาให้ตัวเอง
ถึงแม้ข่าวร้ายพวกนี้ หน้าที่ความรับผิดชอบไม่ได้อยู่ที่เขา และความสูญเสียของเขา ก็ไม่ได้มากมายอะไร แต่ว่า เบื้องหลังของเรื่องนี้ ล้วนเป็นเพราะเขา
โทรติดต่อกันสามสาย บนใบหน้าของหลิ่นเหล่ย กระวนกระวายจนเหงื่อไหลออกมา ตอนนี้เอง หลี่ฝางถึงได้กดปุ่มรับสาย
“ทำไม คิดดีแล้วเหรอ?” หลี่ฝางเอ่ยถามพลางหัวเราะเอิ๊กอ๊าก
หยิ่นเหล่ยพยักหน้า กล่าว: “คุณชายหลี่ คุณต้องการให้ผมประกาศเรื่องรางวัลค่าหัวนี้ออกไปเมื่อไหร่?”
“ตอนนี้เลย……” หลี่ฝางกล่าว
“ตอนนี้? รีบขนาดนั้นเลยเหรอครับ แต่ว่าทางผมยังไม่ได้เตรียมตัวเลย” หยิ่นเหล่ยขมวดคิ้วกล่าว
หยิ่นเหล่ยกำลังคิดว่า ก่อนที่จะประกาศออกไป ยังไงก็ควรที่จะวางแผนให้ดีก่อนไม่ใช่เหรอ?
แต่ทว่า หลี่ฝางกลับไม่ให้เวลานั้นกับเขาเลย
หลี่ฝางยิ้มอย่างเรียบ ๆ : “ทางฝั่งแมงป่อง ก็ไม่ได้เตรียมพร้อมเหมือนกันไม่ใช่เหรอ……ช่างเหอะ ฉันให้เวลานายเตรียมตัวครึ่งชั่วโมงแล้วกัน อีกครึ่งชั่วโมงให้หลัง ฉันหวังว่าจะได้ยินข่าวที่ฉันต้องการฟัง ถ้าไม่อย่างนั้นล่ะก็ โทรศัพท์ของพ่อนาย จะมีสายโทรเข้าอย่างไม่หยุด”
หลี่ฝางนับว่าตรงไปตรงมา ไม่ได้ปิดบังอะไรเลยสักนิด เขาบอกออกมาตรง ๆ ว่าเหตุการณ์เมื่อสักครู่ เป็นฝีมือตัวเอง
หลังจากที่วางสาย หยิ่นเหล่ยก็พูดกับพ่อของตัวเอง: “คุณชายหลี่ให้เวลาพวกเราแค่สามสิบนาที”
“กระชั้นชิดแบบนั้นเชียว? เดิมทีอยากจะวางแผนก่อนสักหน่อย ดูเหมือนว่า จะไม่ทันแล้ว”
หยิ่นเจิ้งขมวดคิ้ว กล่าว: “ช่วยฉันนัดพบจางซินหยู่หน่อย”
“ฉันจำได้ว่า น้องชายของจางซินหยู่ จางซินเฟย เป็นลูกน้องคอยทำงานให้แมงป่องใช่ไหม?”
หยิ่นเจิ้งถามอย่างไม่แน่ใจ
ใช้ชีวิตอย่างสงบมานาน หยิ่นเจิ้งไม่ได้รับตาดูแมงป่อง อย่างเข้มงวดสักเท่าไหร่
“ใช่ครับ จางซินเฟยตอนนี้ได้เป็นลูกน้องของแมงป่อง นับว่าเป็นคนพอจะมีชื่ออยู่บ้างแล้ว” หยินเหล่ยพึ่งพูดจบ แล้วเหมือนจะนึกอะไรได้ขึ้นมา
“พ่อครับ พ่อคงไม่ได้คิดจะให้จางซินเฟย……”
หยิ่นเจิ้งหัวเราะหัว ๆ ขึ้นมา แล้วกล่าว: “ถ้าหากเขากล้าพอ ก็จะดีไม่น้อยเลย แต่ว่า ฉันจำได้ว่าไอ้หนุ่มนั่นไม่ค่อยจะมีความทะเยอทะยานสักเท่าไหร่”
“ลองดูก่อนแล้วกัน ตอนนี้ไม่มีตัวเลือกที่ดีกว่านี้แล้ว”
หลังจากที่หยิ่นเจิ้งกล่าวจบ ก็โบกมือ ให้ลูกชายของตัวเองออกไปก่อน
เวลาครึ่งชั่วโมง ถึงแม้จะเร่งรัด แต่หยิ่นเจิ้งก็ไม่อยากที่จะไม่ทำอะไรสักอย่างเลย
ถึงแม้เงินรางวัลค่าหัวนี้ หลี่ฝางจะเป็นคนจ่าย แต่ว่า ในเมื่อตระกูลหยิ่นเป็นตัวแทนประกาศ ก็จะต้องร่วมรับผิดชอบด้วยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ถึงเวลานั้น แมงป่องโมโหขึ้นมา จะต้องมาลงที่ตระกูลหยิ่นอย่างแน่นอน
หลี่ฝางนั่งอยู่ในรถ และโทรหาลุงเฉียน; “ลุงเฉียนครับ เรื่องนี้เรียบร้อยแล้ว สองพ่อลูกตระกูลหยิ่นได้รับปากแล้ว โอนเงินไปให้พวกเขาเถอะ โอนเยอะหน่อยนะครับ”
“ค่าเสียหายของพวกเขา ก็จ่ายให้พวกเขาด้วยแล้วกัน” หลี่ฝางกล่าว
ลงเฉียนอืมตอบรับ: “ครั้งนี้ แมงป่องไฟไหม้ตูดแล้ว”
……
ครึ่งชั่วโมงให้หลัง ตระกูลหยิ่นกระจายข่าวไปยังสถานบันเทิงในอำเภอหลิน ผ่านทางข่าวซุบซิบวงใน
ใครสามารถฆ่าแมงป่องได้ ก็จะได้รับเงินรางวัลค่าหัวจำนวนหนึ่งพันล้าน
ทุกคนต่างก็สืบหาที่มาของข่าว สุดท้าย ล้วนสืบมาได้ว่า ข่าวนี้มีหยิ่นเหล่ยลูกชายของหยิ่นเจิ้งเป็นคนกระจายข่าวออกมา และผู้ว่าจ้าง เป็นคุณชายคนหนึ่งที่มาจากเมืองเอก
ในตอนนี้ เงินก็ได้ถูกโอนเข้าบัญชี และมีตระกูลหยิ่นเป็นคนดูแล
พูดง่าย ๆ ก็คือ ตอนนี้มีตระกูลหยิ่นเป็นนายหน้า ถ้าใครสามารถฆ่าแมงป่องได้ ก็ไปรับเงินที่ตระกูลหยิ่นได้เลย
ทันใดนั้น โทรศัพท์ของหยิ่นเหล่ย ก็มีสายโทรเข้าอยู่ไม่หยุด เพื่อนของหยิ่นเหล่ยหลายคน ต่างก็ต้องการคอนเฟิร์มว่าข่าวนี้จริงหรือไม่ และหยิ่นก็เพียงตอบกลับไปอย่างอ้อมค้อม เขาเพียงแค่ช่วยเพื่อนคนหนึ่งของเขาเท่านั้นเอง
หลังจากที่ได้รับการยืนยัน วงการผู้อิทธิพลของอำเภอหลิน ก็คึกคักวุ่นวายขึ้นมาทันที
“เชรด คุณชายหยิ่นบ้าไปแล้วหรือเปล่าเนี่ย ถึงได้กล้ารับปากช่วยเหลือเรื่องนี้? ถ้าแมงป่องได้ยินข่าวเข้า จะไม่จัดการคุณชายหยิ่นอย่างหนัดกเลยเหรอ?
“ฮ่า ๆ ก็นั่นน่ะสิ คราวนี้มีเรื่องน่าสนุกให้ดู เจ้าพ่อสู้กับเจ้าพ่อ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าฝ่ายไหนจะชนะ อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ จะไม่จบง่าย ๆ อย่างแน่นอน”
“หนึ่งพันล้าน……ใจใหญ่มากเลยจริง ๆ พวกนายว่า คุณชายตระกูลไหนของเมืองเอก ที่ใจใหญ่ และยังโกรธแค้นแมงป่องขนาดนั้น?
“พวกเราก็ไม่รู้ และก็ไม่กล้าถาม เหอะ ๆ ฉันคิดว่า ไม่ถึงหนึ่งวัน ผู้ร้ายตัวจริงที่แอบซ่อนอยู่ด้านหลัง จะต้องโผล่หัวออกมาแน่”
“พวกเรามองดูอยู่เฉย ๆ ดีกว่า ไม่แน่ว่า สำหรับพวกเราแล้ว ถือว่าเป็นโอกาส หลายปีมานี้ ตระกูลหยิ่นผูกขาดธุรกิจมากมายขนาดนั้น อยู่ที่อำเภอหลินแห่งนี้ ตระกูลหยิ่นกินเนื้อ พวกเรากินน้ำมาโดยตลอด ไม่แน่ว่า การทำธุรกิจของตระกูลหยิ่นในอนาคต จะลำบากขึ้นไม่น้อย พอถึงตอนนั้น พวกเราก็สามารถถือโอกาสหาผลประโยชน์ได้”
“ใช่แล้ว นกกับหอยไม่ปรองดองกัน ถูกชาวประมงจับไปทั้งคู่ สุดท้ายคนที่ได้เปรียบ จะต้องเป็นพวกเราอย่างแน่นอน”
ในเวลานี้ พวกทายาทเศรษฐีกลุ่มหนึ่ง ได้รวมตัวกันอยู่ ในตอนที่พวกเขาคุยกันถึงเรื่องนี้ ต่างก็หัวเราะจนตัวงอ
สงครามชนิดนี้ เป็นสิ่งที่พวกเขาอยากจะเห็นมากที่สุด
“ใช่แล้ว พวกนายพนันว่าใครจะชนะ? เดิมทีตระกูลหยินและแมงป่องก็สู้กันทั้งในที่เปิดเผยและในที่ลับมาโดยตลอด ฉันเดาว่าครั้งนี้ จะต้องเกิดสงครามการต่อสู้ขึ้นอย่างแน่นอน พวกเรามาพนันกันหน่อยไหม ว่าใครจะเป็นฝ่ายชนะ?”
“ฉันลงแมงป่อง พนันด้วยรถสปอร์ตคันนั้นของฉัน”
“ฉันก็ลงแมงป่อง เงินพนันหนึ่งล้าน”
ไม่มีใครลงฝั่งตระกูลหยิ่นเลย ทั้งหมดลงให้แมงป่องเป็นฝ่ายชนะ