NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่712 ทำไมนายกลับมาล่ะ?

บทที่712 ทำไมนายกลับมาล่ะ?

หยิ่นเจิ้งพยักหน้าเบาๆ “นายก็พูดเกินไป นายเป็นคนบังคับให้ฉันทำแท้ๆ”

“บังคับ?”

จางซินเฟยหัวเราะเสียงเย็น “คุณรู้ไหมว่าผมเกลียดอะไรที่สุด?”

“ผมเกลียดคนที่ชอบแบล็กเมล์ผมที่สุด”

สีหน้าของหยิ่นเจิ้งยังคงนิ่งสงบ “ไม่มีใครชอบที่ต้องถูกบังคับข่มขู่ แต่นายเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดของฉัน เพราะงั้นฉันตำเป็นต้องใช้วิธีบีบให้นายตกลง”

“เมื่อนายเหยียบย่างออกจากห้องห้องนี้ คลิปวีดีโอก็จะถูกส่งไปถึงมือแมงป่อง ถึงตอนนั้น นายคงต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย”

“ร่วมมือกับฉันนายยังมีโอกาสรอดสิบเปอร์เซ็นต์ แต่ถ้าไม่ นายต้องตายแน่นอน”

หยิ่นเจิ้งพูดกับจางซินเฟย “ฉันหวังว่านายจะทำใจให้สงบก่อนจะเดินออกจากห้องนี้ไป”

ทั้งสี่มุมห้องล้วนเป็นกล้องวงจรปิด ทุกการกระทำของจางซินเฟยล้วนถูกบันทึกไว้หมดแล้วจางซินเฟยรู้ดี หากเขาเดินออกไป หยิ่นเจิ้งจำต้องส่งคลิปที่เขามาที่ห้องทำงานนี่ไปให้แมงป่อง และแมงป่องในเวลานี้กำลังหวาดระแวงอย่างหนัก เขาคงไม่ให้โอกาสเขาแม้แต่จะอธิบาย ก็กำจัดเขาทิ้ง

แต่แน่นอนว่า จางซินเฟยยังมีโอกาสรอดอยู่

นั่นก็คือออกไปจากห้องทำงานนี่ แล้วรีบเผ่นออกจากอำเภอหลิน บางทีนี่อาจจะเป็นทางเดียวที่ทำให้เขารอด

แต่ถ้าทำแบบนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างที่กว่าเขาจะมีได้ในวันนี้ก็จะสลายหายไปกับตา

เพราะงั้นจางซินเฟยย่อมรู้สึกยอมไม่ได้

“เจ้านายหยิ่น ที่ผ่านมาผมเคยทำอะไรให้คุณไม่พอใจหรอครับ? ทำไมจะต้องผลักผมไปตายให้ได้?” จางซินเฟยจ้องหยิ่นเจิ้ง

หยิ่นเจิ้งส่ายหน้า “ยังไม่ทันไรก็พูดแบบนี้แล้ว นายจะตัดสินเร็วเกินไปไหม? บางทีการร่วมมือของเราอาจจะสำเร็จก็ได้?”

“ถ้ามันสำเร็จจริง ฉันจะกลายเป็นผู้มีพระคุณของนายนะ” หยิ่นเจิ้งหัวเราะหึๆ

“เจ้านายหยิ่น เจ้านายหยิ่น ได้โปรดปล่อยน้องผมไปเถอะครับ การที่คุณส่งน้องผมไปจัดการกับแมงป่องก็ไม่ต่างอะไรกับส่งเขาไปตาย” จางซินหยู่ดึงแขนของหยิ่นเจิ้ง

แต่แค่หยิ่นเจิ้งสะบัดทีเดียว ก็ทำให้จางซินหยู่เซไปไกลหนึ่งเมตร

“จางซินหยู่ นายคิดว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาทำไมฉันต้องดูแลนายเป็นพิเศษ เพราะน้องชายนายเป็นหมากตัวนึงในแผนการของฉันก็เท่านั้น” หยิ่นเจิ้งสะบัดแขนออกแล้วพูดอย่างเย็นชา

“จางซินเฟย นายจะสาวเท้าก้าวออกไปเลยก็ได้นะ ฉันไม่ห้าม” หยิ่นเจิ้งพูดจางซินเฟยหัวเราะเหอะ “ดีครับ พอผมเจอกับลูกพี่แมงป่อง ผมจะเล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นในวันนี้ให้เขาฟัง”

“เมื่อถึงตอนนั้น ธาตุแท้ของคุณก็จะถูกเปิดเผย” จางซินเฟยพูด

“เหอะๆ นายคิดว่าจะได้เจอแมงป่องงั้นสิ? จะฆ่านาย ต้องรอให้แมงป่องเป็นคนลงมือหรือไง?” หยิ่นเจิ้งพูด “ส่วนพวกลูกน้องของแมงป่อง คิดว่าพวกมันจะฟังนายเล่านิทานหรือไง?”

“พวกมันคงจะฆ่านายทันทีเลยล่ะ” หยิ่นเจิ้งพูด

“หยิ่นเจิ้ง ไอ้เฮงซวยนี่ มาสู้กันตัวต่อตัวสิวะ” จางซินเฟยกำหมัดแน่น แล้ววิ่งไปตรงเข้าไปหาหยิ่นเจิ้ง

เมื่อเดินเข้าไปแค่ไม่กี่ก้าว หมัดหนักๆของจางซินเฟยก็กำลังจะทุ่มลงบนใบหน้าของหยิ่นเจิ้ง

แต่ตอนนั้นเอง หยิ่นเจิ้งกลับยื่นมือออกมาจับมือของจางซินเฟยไว้ได้

“ทำได้แค่นี้หรอ?” หยิ่นเจิ้งยิ้มอ่อน “นายมาถึงจุดนี้ได้ยังไงกัน?”

จางซินเฟยใช้หมัดอีกข้างสวน แต่ก็ถูกหยิ่นเจิ้งรั้งไว้ได้อีก

“ทำไม อายจนโมโหหรอ? ยังอยากต่อยฉันอีกไหม? โตจนป่านนี้ ทำอะไรก็คิดให้มันรอบคอบหน่อย ต่อยฉันแล้วจะมีประโยชน์อะไรกับนาย? นอกจากได้ระบายความโกรธแค่นิดหน่อย แล้วยังได้อะไรอีก?”

หยิ่นเจิ้งพูดตรงไปตรงมา จากนั้นใบหน้าก็เย็นยะเยียบ “อ้อ แล้วก็ยังได้ทำผิดกับฉันอีกด้วย”

หยิ่นเจิ้งยกขาขึ้นเตะปลายคางของจางซินเฟย เสียงดึงปึ้ง

ตัวของจางซินเฟยลอยหมุนร้อยแปดสิบองศากลางอากาศ แล้วร่วงลงบนพื้นอย่างจัง

วินาทีนั้น จางซินเฟยก็ราวกับสมองเบลอไป

จางซินเฟยยกมือขึ้นเช็ดรอยเลือดที่มุมปาก เขาไม่ได้สนใจกับความเจ็บปวดบนร่างกาย แต่มองหน้าหยิ่นเจิ้ง “ทำไมคุณมีฝีมือดีขนาดนี้?”

อย่างน้อยๆหยิ่นเจิ้งก็น่าจะอายุสี่สิบ แต่ท่าเตะของเขาเมื่อกี๊เป็นท่าฉีกขาขึ้นฟ้าในครั้งเดียว

ท่าแบบนี้ ต้องเป็นตระกูลที่ผ่านการฝึกมาเท่านั้นถึงจะทำได้

แต่หยิ่นเจิ้ง…ที่ผ่านมาเป็นแค่พ่อค้า มิหนำซ้ำยังขึ้นชื่อเรื่องความอ่อนหัด ทุกครั้งที่ประมือกับแมงป่อง ก็มีแต่พ่ายแพ้ยับเยิน

ไม่ใช่แค่นั้น มีครั้งนึงที่หยิ่นเจิ้งถูกพวกนักเลงรุมทำร้ายที่KTV แน่นอนว่าแมงป่องคือผู้อยู่เบื้องหลัง สุดท้ายตอนจบของเหตุการณ์นั้นก็คือแมงป่องแสร้งทำเป็นต่อว่าลูกน้องไม่กี่ประโยค ก็เป็นอันจบเรื่อง

ตอนนั้น จางซินเฟยเห็นเหตุการณ์นี้กับตาตัวเอง

หยิ่นเจิ้งในตอนนั้น ก็แค่ไอ้โง่ขี้เหล้าหลงผู้หญิง แต่วันนี้ จู่ๆก็กลายเป็นคนมีฝีมือขั้นสูง…

นี่เป็นคนๆเดียวกันจริงหรอ?

อีกทั้งเมื่อกี๊หยิ่นเจิ้งพูดว่า ที่พี่ชายของเขาสามารถก้าวหน้ามาได้ เป็นเพราะตัวเขาถูกหยิ่นเจิ้งจับวางเป็นหมากตัวนึง

แต่ที่พี่ชายได้เลื่อนตำแหน่ง นั่นเป็นเรื่องตั้งแต่สามถึงห้าปีที่แล้วนะ

หรือจะบอกว่า หยิ่นเจิ้งตั้งใจจะเขาเป็นหมากเพื่อต่อกรกับแมงป่องมาตั้งแต่สามถึงห้าปีก่อน?

วินาทีนั้น จางซินเฟยรู้สึกเหมือนไม่ใช่เรื่องจริง“ที่ผ่านมา คุณแกล้งทำมาตลอดเลยหรอ?”

“ที่ผ่านมาจริงๆแล้วคุณไม่ได้กลัวแมงป่องเลยสักนิด หรือถึงขั้นเคยคิดจะกำจัดเขาด้วยซ้ำ” จางซินเฟยมองหน้าหยิ่นเจิ้ง

หยิ่นเจิ้งส่ายหน้า “ไม่ ฉันกลัวเขาจริงๆ แต่อย่างที่นายเห็น ฉันเป็นวิทยายุทธ์นิดหน่อย แต่ก็ยังไม่ใช่คู่ปรับมือของแมงป่อง อย่างมากก็แค่ป้องกันตัว”

“แต่นายก็พูดถูกอยู่อย่าง ฉันอยากจะกำจัดแมงป่องตั้งนานแล้ว เพียงแต่กำลังรอเวลาอยู่ก็เท่านั้น” หยิ่นเจิ้งพูด “เพราะงั้นถ้านายรีบรับปากฉัน นายก็จะไม่ต้องสู้ตัวคนเดียว”

“ข้างกายแมงป่อง มีคนของคุณอยู่?” จู่ๆจางซินเฟยก็รู้สึกเสียวสันหลัง

“แน่นอนอยู่แล้ว” หยิ่นเจิ้งหัวเราะ “และไม่ใช่แค่คนเดียว”

จางซินเฟยสูดหายใจยาว แล้วยกยิ้มขึ้น “ได้ เจ้านายหยิ่น ผมรับปากคุณ อยากให้ผมลงมือเมื่อไหร่?”

“ฉันจะส่งสัญญาณให้” หยิ่นเจิ้งพูด “เพื่อไม่ให้เสียเวลาไปเรื่อยๆ ฉันจะรีบสร้างสถานการณ์ เรื่องลงมือฆ่าแมงป่อง ฉันจะให้คนอื่นไปทำ แต่หลังจากที่แมงป่องล้ม ฉันต้องการให้นายคว้าถิ่นของแมงป่องมาให้ได้เร็วที่สุด”

“แต่…ถ้าแมงป่องตายไป ลูกชายนอกไส้ของเขาจะเป็นคนได้สืบทอดต่อ มันจะมาถึงมือผมได้ยังไง?” จางซินเฟยขมวดคิ้ว

ฉ่างจือไม่ใด้มีแค่ความสามารถ แต่ทั้งบารมีและชื่อเสียงก็เป็นที่น่านับถือกว่าจางซินเฟยเป็นไหนๆ ถ้าเขาจะขึ้นตำแหน่ง ใครจะยอมล่ะ?

“เพราะงั้น ศัตรูที่แท้จริงของนาย ก็คือลูกนอกไส้ของแมงป่อง ส่วนจะกำจัดเขายังไง นั่นเป็นปัญหาของนาย ในเมื่อเป็นการร่วมมือกัน ทั้งฝ่ายก็ต้องออกแรง จะให้ฉันประเคนให้นายทุกอย่างคงไม่ได้ การที่ให้นายขึ้นตำแหน่ง ไม่มีอะไรดีไปกว่านี้อีกแล้ว”

หยิ่นเจิ้งหัวเราะ “แต่ฉันจะบอกไบ้อะไรให้อย่าง ถึงฉ่างจื่อเป็นเป็นเด็กกำพร้าไม่มีพ่อแม่ แต่ไม่ได้หมายความว่ามันไม่มีจุดอ่อน ในร้านชาซินซินมีหญิงสาวที่ชื่อเฉินซาน”

“สาวแจกไพ่คนนั้น?” จางซินเฟยถาม

“ใช่ ฉ่างจื่อชอบหล่อน แค่นายจับตัวผู้หญิงคนนั้นได้ ถึงเวลานั้น ฉ่างจื่อก็มีแต่จะต้องยอมก้มหัวให้นาย” หยิ่นเจิ้งพูด

“ขอบคุณครับเจ้านายหยิ่นเจิ้ง” จางซินเฟยพยักหน้า

แต่ว่า จะฆ่าแม่งป่องง่ายขนาดนั้นเลยหรอ?

แมงป่องเป็นคนระมัดระวังตัวอยู่แล้ว ยิ่งพอมีเรื่องประกาศล่าหัวขึ้นมา หลังจากนี้เขาคงยิ่งระวังตัวมากขึ้นแน่ เผลอๆแม้แต่เข้าห้องน้ำก็คงพาบอร์ดี้การ์ดไปด้วยมั้ง?

“เจ้านายหยิ่น ทำไมถึงไม่ใช้ตัวเฉินซานเพื่อบีบให้ฉ่างจื่อเป็นคนลงมือกับแมงป่อง…” จางซินเฟยพูด พร้อมกับทำท่าปาดคอ

“ฉ่างจื่อเป็นคนให้ความสำคัญกับเรื่องบุญคุณ แมงป่องเลี้ยงเขามาตั้งแต่เด็ก ทุกอย่างที่เขามีทุกวันนี้เป็นแมงป่องที่ให้ ฉันไม่แน่ใจว่าสำหรับฉ่างจื่อแล้ว ระหว่างแม่งป่องกับเฉินซานใครสำคัญกว่า ถ้าฉันตัดสินใจผิดตัวตนของฉันก็จะถูกเปิดเผย” หยิ่นเจิ้งพูด

จางซินเฟยหัวเราะ แล้วลุกขึ้นยืน “เจ้านายหยิ่นเองก็เป็นคนทำอะไรระมัดระวังตัวเหมือนกัน”

จากคำพูดของหยิ่นเจิ้งเมื่อครู่ จางซินเฟยรู้สึกได้ว่าหากนี่เป็นเรื่องที่ไม่มีความเป็นไปได้ หยิ่นเจิ้งคงไม่มีทางทำ เพราะงั้นตัวเขาเองก็คงไม่ถึงกับมีโอกาสรอดแค่สิบเปอร์เซ็นต์

“เจ้านายหยิ่น ยังมีอะไรอีกไหมครับ? ถ้าไม่มีงั้นผมขอตัวก่อนนะครับ” จางซินเฟยพูด “ยิ่งผมอยู่ที่นี่นาน คงไม่ดีต่อผมนัก”

“ออกทางนี้”

หยิ่นเจิ้งหมุนรูปปั้นมังกรบนโต๊ะทำงาน จากนั้นที่ห้องหนังสือก็ปรากฏประตูลับ ที่ด้านหลังของประตูมีลิฟต์

“ลิฟต์นี่ลงไปถึงชั้นจอดรถ”

หยิ่นเจิ้งล้วงเอากุญแจรถออกมา แล้วยื่นให้จางซินเฟย “นี่คือเปอร์เช่รุ่นผลิตที่จีน หลังจบเรื่องฉันจะให้นายขับเปอร์เช่ของจริง”

“รถออร์ดี้a6ของนายสะดุดตาเกินไป เพื่อป้องกันไม่ให้เป็นที่สังเกต ขับคันนี้กลับไปเถอะ ออร์ดี้a6ของนายฉันให้คนขับไปส่งที่บ้านแล้ว”

หยิ่นเจิ้งพูดจบ จางซินเฟยก็ลูบกุญแจรถของตัวเอง ก่อนจะยิ้มออกมา “ลึกๆแล้วเจ้านายหยิ่นเป็นคนฉลาดหลักแหลมมากจริงๆนะครับ”

“ในสายตาของนาย คนทำการค้าแบบฉันคงดูเป็นคนจิตใจสะอาดหมดสินะ?” หยิ่นเจิ้งย้อนถาม

“คงงั้นมั้งครับ แต่หลังจากวันนี้ไปคงไม่คิดแบบนั้นแล้วล่ะ เพราะเจ้าหยิ่นสอนอะไรผมมาเต็มๆชั่วโมงนึง” จางซินเฟยเดินเข้าไปในลิฟต์

เวลานี้ ที่หน้าประตูบ้านของตระกูลหยิ่น มีรถออร์ดี้a4จอดอยู่ ชายสองคนนั่งอยู่ด้านใน คนนึงคือหลี่ฝาง ส่วนอีกคนคือหยิ่นเหล่ย

สีหน้าของหยิ่นเหล่ยเวลานี้ ยากจะอธิบาย

หลี่ฝางหัวเราะหึ “ไม่ต้องตื่นเต้น ในเมื่อฉันไว้ชีวิตนายมาแล้ว ก็ย่อมรับประกันกันว่านายจะปลอดภัย”

“กลับไปซะ” หลี่ฝางเปิดประตูให้หยิ่นเหล่ย

แต่หยิ่นเหล่ยเม้มปาก มองหน้าหลี่ฝาง นัยน์ตาเผยความไม่เป็นมิตร แต่กลับไม่กล้าพูดอะไรออกมา

“คุณชายหลี่ ไม่ขึ้นไปนั่งหน่อยหรอครับ?” หยิ่นเหล่ยมองหน้าหลี่ฝางแล้วถาม

“ไม่ล่ะ ฉันตอนนี้แสลงตาเกินไป ถ้าถูกคนของแมงป่องเห็นเข้าต้องอันตรายแน่” หลี่ฝางพูดเรียบๆ จากนั้นจึงผลักหยิ่นเหล่ยลงจากรถ

หยิ่นเหล่ยเจ็บใจ นายยังกลัวอันตราย แล้วฉันไม่กลัวหรือไง?

ตอนนั้น ลูกน้องทั้งหมดของแมงป่องที่กำลังตามหาตัวหยิ่นเหล่ย ทันทีที่เขาลงจากรถ ทุกสายตาก็จับต้องมาที่เขา หยิ่นเหล่ยซอยขาวิ่งเข้าประตูบริษัทได้ทันก็ถอนหายใจออกมาหนักๆ

เมื่อมาถึงห้องทำงานของหยิ่นเจิ้ง หยิ่นเจิ้งเห็นลูกชายตัวเองย้อนกลับมา เขาก็สตั๊นท์ไปในทันใด “เหล่ยเหล่ย? กลับมาทำไม? พ่อให้แกหนีไปซ่อนตัวไม่ใช่หรอไง?”

“แล้วแม่ล่ะ?” หยิ่นเจิ้งถามร้อนรน

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน