NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 704 ยืมดาบฆ่าคน

บทที่ 704 ยืมดาบฆ่าคน

เขาจ้องมองโทรศัพท์ หลี่ฝางเงียบไปครึ่งค่อนวัน

เป็นหยิ่นเหล่ยที่โทรเข้ามา หลี่ฝางเดาไม่ออก อีกฝ่ายมีความคิดเช่นไรกันแน่?

ถึงแม้หยิ่นเหล่ยต้องการเอาคืนตัวเอง แต่ก็ไม่กล้าทำซึ่ง ๆ หน้า

ยังไม่ต้องพูดถึงว่าตอนนี้ตระกูลหยิ่นและตระกูลหลี่มีการร่วมมือทางธุรกิจที่แน่นอน หรือต่อให้ไม่มี ตระกูลหยิ่นกล้าเหรอ?

เมื่อเทียบกับตระกูลหลี่แล้ว ทรัพย์สินอันน้อยนิดของตระกูลหยิ่น ไม่ควรค่าแกการพูดถึง

ในที่สุด หลี่ฝางก็กดข้าที่ปุ่มรับสาย ถึงแม้ว่าอำเภอหลินจะเป็นอาณาเขตของตระกูลหยิ่น แต่หลี่ฝางก็ไม่ได้กลัวเขา

ไม่มีแมงป่อง ตระกูลหยิ่นก็ไม่สามารถทำอะไรร้ายแรงได้

“คุณชายหลี่ ทำไมรับสายช้าแบบนี้ล่ะ” มีเสียงหัวเราะคิกคักดังมาจากอีกฝั่งของสาย

หลี่ฝางทำเสียงเหอะขึ้นมาหนึ่งครั้ง แล้วพูดกับหยิ่นเหล่ยที่อยู่อีกด้านของสาย: “มีอะไรจะพูดก็พูดมา อย่ามาลีลา และไม่ต้องมาพูดจาอ้อมค้อมอะไรกับฉัน”

“เรื่องที่แกให้แมงป่องมาจัดการฉัน แกคิดว่าฉันไม่รู้หรือไง?”

หลี่ฝางกล่าวอย่างอารมณ์เสีย เขาพูดอย่างไม่ไว้หน้า

ในเมื่อรู้จากแมงป่องแล้วว่าตระกูลหยิ่นเป็นหนึ่งในผู้ที่อยู่เบื้องหลัง ก็ไม่จำเป็นที่หลี่ฝางจะต้องเสแสร้งกับเขาอีกต่อไป

ทางด้านหยิ่นเหล่ยเงียบไปชั่วขณะ เป็นที่ประจักษ์ว่าเขาคิดไม่ถึงว่าหลี่ฝางจะเปิดโปงเขาอย่างตรงไปตรงมาแบบนี้

“เหอะ ๆ เข้าใจผิด เข้าใจผิด คุณชายหลี่ ที่ผมโทรมาหาคุณ ก็เพื่ออธิบายเรื่องนี้พอดีเลย”

หยิ่นเหล่ยกล่าว: “คุณชายหลี่ ผมรู้ว่าคุณอยู่อำเภอหลิน จะให้โอกาสผมสักหน่อยจะได้ไหม ให้ผมได้อธิบายต่อหน้าคุณ”

“อธิบายเหรอ? ยังมีอะไรต้องอธิบายอีก หรือว่านายไม่ได้เป็นคนทำหรือไง?” หลี่ฝางกล่าวอย่างเยือกเย็น

“หรือว่า ตระกูลหยิ่นของพวกนายไม่ได้ยัดเงินให้กับแมงป่อง?” หลี่ฝางซักถาม

หยิ่นเหล่ยกล่าว: “คุณชายหลี่ คุณเข้าใจตระกูลหยิ่นของพวกเราผิดแล้ว”

“เรื่องนี้ เป็นการตัดสินใจของผมเพียงคนเดียว ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับตระกูลหยิ่นเลย” หยิ่นเหล่ยกล่าว

“หมายความว่ายังไง?” หลี่ฝางถามต่อ

“ผมว่า พวกเราออกมาคุยต่อหน้ากันดีกว่า ผมจองห้องVTP ไว้ที่เอิร์ล คาเฟ่ เดี๋ยวผมแชร์โลเคชั่นให้คุณ ไม่ต้องกลัวว่าผมจะวางกับดัก ผมไม่โง่ขนาดนั้น” หยิ่นเหล่ยกล่าว

หลี่ฝางหัวเราะเอิ๊กอ๊าก: “โอเค ฉันจะไปตอนนี้แหละ”

จะเป็นกับดักหรือเปล่านะ?

แน่นอนว่าหยิ่นเหล่ยไม่กล้า ถ้าเกิดตระกูลหยิ่นทำร้ายหลี่ฝางโดยตรง เช่นนั้นผลลัพธ์ที่ได้ นั่นก็คือตระกูลหยิ่นล่มสลายอย่างสิ้นเชิง

ดังนั้น หยิ่นเหล่ยนัดพบด้วยตัวเอง จะต้องมีจุดประสงค์อื่นแน่ แต่จะไม่ใช่เพื่อทำร้ายตัวเองอย่างแน่นอน

หรือแม้แต่เขาจะแอบโจมตีตัวเอง ก็เป็นไปได้ แต่จะไม่นัดตัวเองออกไป แล้วทำร้ายอย่างแน่นอน

หลี่ฝางขับรถ คนเดียวเพียงลำพัง เขาขับไปตามGPS และมาถึงที่หน้าประตูของเอิร์ล คาเฟ่

พอถึงหน้าประตู หลี่ฝางพึ่งจะเดินเข้าไป พนักงานสาวสวยคนหนึ่งก็เดินเข้ามาต้อนรับ: “คุณเป็นแขกของคุณชายหยิ่นสินะคะ?”

“เธอรู้ได้ยังไง?” หลี่ฝางเอ่ยถาม

“เมื่อสามสิบนาทีที่แล้ว คุณชายหยิ่นได้เหมาเอิร์ล คาเฟ่ของเรา เขาบอกว่า เขาจะรับรองแขกคนสำคัญคนหนึ่ง” พนักงานสาวสวยกล่าว: “เมื่อกี้ คุณชายหยิ่นบอกว่า แขกคนสำคัญของเขากำลังจะมาถึงแล้ว ดังนั้นจึงให้ดิฉันออกมาต้อนรับค่ะ”

“พาฉันไปพบเขา” หลี่ฝางกล่าวอย่างเรียบ ๆ

สำหรับหยิ่นเหล่ยแล้ว เหมาร้านกาแฟร้านหนึ่ง ไม่นับว่าเป็นเรื่องใหญ่อะไร

ไม่นานหลี่ฝางก็มาถึงห้องVTP ภายในห้องVTPนอกจากหยิ่นเหล่ยแล้ว ยังมีอีกคน นั่นก็คือหวางซีกาง

หวางซีกางเห็นหลี่ฝางเดินเข้ามา ก็รีบลุกขึ้นทันที แล้วร้องเรียกคุณชายหลี่อย่างนอบน้อม หลี่ฝางไม่ได้สนใจเขา แต่เดินมาที่ด้านหน้าของหยิ่นเหล่ย และนั่งลง แล้วเอ่ยถามขึ้นอย่างตรงไปตรงมา: “พูดมา ที่เรียกฉันมา ตกลงต้องการคุยอะไรกับฉันกันแน่”

“เหมาร้านกาแฟแห่งนี้ ต้องใช้เงินไม่น้อย ดูเหมือนว่า เรื่องที่นายจะคุยนั้นค่อนข้างจะเป็นความลับ” หลี่ฝางยิ้มอ่อน ๆ

ร้านกาแฟแห่งนี้ นับว่าเป็นร้านกาแฟใหญ่ที่สุดในอำเภอหลิน

ต้องการเหมาตลอดช่วงบ่าย เกรงว่าจะไม่ใช่เงินจำนวนน้อย ๆ

เห็นได้ชัด ว่าเรื่องที่หยิ่นเหล่ยต้องการคุยกับตัวเองนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เขาไม่ต้องการให้คนอื่นเห็น หรือได้ยิน

หยิ่นเหล่ยมองหวางซีกางแวบหนึ่ง แล้วกล่าว: “คุณชายหลี่ ผมคิดว่าคุณน่าจะเคยพบเขา เขาชื่อว่าหวางซีกาง ผมกับเขาสนิทกันมาก เขานับว่าเป็นเพื่อนสนิทของผม เขาช่วยผมจัดการปัญหามากมาย มือก่อน ผมเลอะเลือนไปชั่วขณะ ให้เขาไปหาเรื่องคุณ เรื่องนี้ เป็นผมที่ผิดเอง ผมต้องขอโทษคุณด้วย”

หลี่ฝางหัวเราะเหอะ ๆ : “แค่ขอโทษคำเดียวก็จบแล้วเหรอ?”

“คุณชายหลี่ คุณต่อยจนผมกลายเป็นใช้การไม่ได้ ชาตินี้มีลูกไม่ได้ ตระกูลหยิ่นของเรา เป็นไปมากได้ว่าจะไม่มีทายาทสืบสกุล ผมคิดว่า ผมให้คนไปหาเรื่องคุณ มันก็สมเหตุสมผลไม่ใช่เหรอ?” หยิ่นเหล่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

หลี่ฝางพยักหน้า กล่าว: “เข้าใจ แต่ว่า นายสู้ฉันไม่ได้ ตระกูลหยิ่นของพวกนาย ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉันเลยด้วยซ้ำ”

หลี่ฝางกล่าวอย่างเย้ยหยันเล็กน้อย: “เรื่องนี้ ฉันขอเตือนนายว่าให้พอแค่นี้ ถ้าหากยังคิดจะเอาคืน ฉันรับรองได้ว่า ธุรกิจทุกอย่างในอำเภอหลินของพวกนาย จะกลายเป็นอัมพาตทันที ครั้งนี้ ก็แล้วไปเถอะ”

หลี่ฝางกล่าวอย่างใจกว้าง: “เพราะถึงยังไง นายก็ไม่ได้ทำร้ายฉัน”

หยิ่นเหล่ยพยักหน้า เขากล่าวกลับหลี่ฝางด้วยท่าทางตื้นตันใจ: “ขอบคุณคุณชายหลี่ที่ยั้งมือไว้ไมตรี ที่จริงแล้ว เรื่องนี้ ตั้งแต่ต้นจนจบ ล้วนเป็นความคิดของผมเพียงคนเดียว ตอนนั้น ผมนอนอยู่ที่โรงพยาบาล หวางซีกางมาเยี่ยมผมที่โรงพยาบาล หลังจากที่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับผม เขาอาสาที่จะช่วยผมล้างแค้น ผมห้ามเขาเอาไว้ไม่อยู่ ก็เลยตกลงไป เพราะยังไงเรื่องที่คุณทำให้ผมต้องกลายเป็นขันที สำหรับผมในเมื่อก่อนแล้ว มันยากที่จะรับได้จริง ๆ ดังนั้น ผมก็เลยขายรถของตัวเอง ให้กับหวางซีกาง ให้เขาช่วยผมแก้แค้น”

“เหอะ ๆ ต้องจ่ายไปเยอะเหมือนกันนี่”

หลี่ฝางหัวเราะเหอะ ๆ เขามองหยิ่นเหล่ยอย่างสงสัยพลางกล่าว: “เรื่องที่นายขายรถ ฉันจะให้คนไปสืบ”

“ผมรู้ว่าคุณไม่เชื่อผม แต่ความจริงก็คือความจริง ผมก็เพียงให้หวางซีกางไปจัดการคุณ แต่ตั้งแต่ต้นจนจบไม่เคยใช้แมงป่องเลย และไม่เคยให้เงินอะไรกับแมงป่อง ข้อหนึ่ง ผมไม่มีปัญญาจ่ายมากขนาดนั้น ข้อสอง ผมไม่กล้าพอที่จะไปหาแมงป่องให้เขาช่วย แมงป่องเป็นคนแบบไหน ตัวผมเองนั้นรู้ดี ผมสามารถเล่นกับหวางซีกาง แต่ก็ไม่อาจเล่นกับแมงป่องได้”

“หมายความว่ายังไง?” หลี่ฝางขมวดคิ้วเอ่ยถาม

“หวางซีกางจะไม่สืบหาตัวตนของคุณ แต่แมงป่องสืบหาตัวตนของคุณได้ง่าย ๆ ดังนั้น มีไม่ถึงแปดหลัก ไม่มีทางที่เขาจะช่วยผมทำงาน นอกจากนี้ แมงป่องคนนี้ ไม่ลงมือก็ไม่มีอะไร แต่พอลงมือ นั่นถึงขั้นทำลายล้าง ผมยังไม่กล้าที่จะทำยังไงกับคุณ ที่จริงแล้ว สี่งที่ผมคิดที่สุด ก็คือลงมือกับแฟนของคุณ”

หยิ่นเหล่ยกล่าว: “แน่นอน ว่าผมเองก็มีความคิดเห็นแก่ตัวอยู่เหมือนกัน ก็คือความสัมพันธ์ระหว่างแมงป่องและหวางซีกางค่อนข้างจะใกล้ชิด ถ้าหากเกิดอะไรขึ้นกับหวางซีกาง เช่นนั้นแมงป่องจะต้องแก้แค้นให้เขาอย่างแน่นอน ดังนั้น ผมก็เลยมีความคิดหนึ่ง นั่นก็คือยืมดาบฆ่าคน ใช้หวางซีกางเป็นสะพาน ให้เกิดความขัดแย้งขึ้นระหว่างคุณกับแมงป่อง”

“เหอะ ๆ นายทำสำเร็จแล้ว” หลี่ฝางกล่าวพลางหัวเราะ

“ไม่ ผมทำไม่สำเร็จ ในทางกลับกัน ผมกลับล้มเหลว ถึงแม้ตามแผนการของผม แมงป่องและคุณจะต้องขัดแย้งกัน แต่ผมคิดไม่ถึงว่า แมงป่องจะลงมือเร็วขนาดนั้น ผมยังคิดกลยุทธ์ไว้มากมาย เพื่อให้ความสัมพันธ์ของพวกคุณค่อย ๆ เลวร้ายลง แต่กลับไม่ได้ใช้เลยสักอย่าง คุณและแมงป่อง ก็ลงมือสู้กันแล้ว หลังจากที่เกิดเรื่องขึ้น คุณพ่อของผมก็มาหาผม ซักถามผมไปยกใหญ่ ผมก็เลยบอกเรื่องราวทั้งหมดกับพ่อของผม”

หยิ่นเหล่ยกล่าว: “พ่อของผมเป็นคนที่มีความอดทนอดกลั้นสูงคนหนึ่ง และรู้จักวิธีการแบกรับความอัปยศเป็นอย่างดี จุดนี้ ผมก็ได้เรียนรู้มาจากเขาอยู่ไม่น้อย แต่สำหรับคุณแล้ว ผมยังคงอดกลั้นไม่อยู่”

จุดนี้หลี่ฝางเชื่อ ครั้งที่แล้วตอนที่อยู่สถานตากอากาศ หยิ่นเหล่ยยังเคยคุกเข่าต่อหน้าเขา ณ จุดนี้ หลี่ฝางก็รู้แล้วว่าหยิ่นเหล่ยคนนี้เป็นคนที่มีความอดทนอดกลั้นสูงคน

และจุดนี้ หยิ่นเจิ้งทำได้ดียิ่งกว่า

“พ่อของผมไม่คิดจะไปแก้แค้นคุณ ง่ายนิดเดียว ก็เหมือนกับที่คุณพูดเมื่อกี้ ตระกูลหลี่ของพวกคุณสามารถล้มล้างตระกูลหยิ่นของเราได้อย่างสบาย ดังนั้น การล้างแค้น สำหรับพวกเราแล้วก็เหมือนกับเอาไข่กระทบหิน แต่ทว่า มีคนใช้ชื่อพ่อของผม โอนเงินจำนวนหนึ่งล้าน เข้าสู่บัญชีของแมงป่อง ผ่านบัญชีบริษัทของเรา”

หยิ่นเหล่ยกล่าว: “หลังจากที่ฝ่ายบัญชีโอนเงินให้แมงป่องเสร็จ ก็หายตัวไป พวกเราตามหาเขาอยู่หลายวัน สุดท้ายก็หาร่างของเขาพบ ที่ในแม่น้ำสายหนึ่ง”

หยิ่นเหล่ยกล่าวไป ก็พลางยื่นโทรศัพท์ของตัวเองให้กับหลี่ฝาง บนหน้าจอโทรศัพท์ เป็นฟอรั่มข่าวท้องถิ่น

“คุณลองดูสิ เขาก็คือพนักงานฝ่ายบัญชีของบริษัทเรา หลังจากที่โอนเงินให้แมงป่องไม่นาน ก็กระโดดน้ำฆ่าตัวตาย”

หยิ่นเหล่ยกล่าว: “ตามที่พวกเราตรวจสอบ ก่อนที่เขาจะกระโดดน้ำ ครอบครัวของเขา ได้ถูกลักพาตัว”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท