“ขอบใจที่พวกนายมากันนะ”
หลี่ฝางไปต้อนรับด้วยตัวเอง พูดขึ้นด้วยสีหน้ารู้สึกขอบคุณ
ส้งเคอเดินเข้ามาคนแรก จับไหล่ของหลี่ฝางเอาไว้”คุณชายหลี่ คุณอย่าพูดแบบนี้สิครับ คุณมาขอความช่วยเหลือจากพวกเรา มันก็ถือเป็นเกียรติของพวกเรามากแล้วนะครับ”
หวงเจ๋ก็พูดตามขึ้นมา”ใช่ครับ การที่คุณชายหลี่ติดหนี้ชีวิตของพวกเรา ก็ถือเป็นเกียรติเป็นศรีที่ยิ่งใหญ่สำหรับพวกเราแล้วล่ะครับ”
หลี่ฝางยิ้มๆ ก่อนจะพูดขึ้น”วางใจได้ น้ำใจในครั้งนี้ ฉันจะจดจำเอาไว้ในใจเลย”
หลี่ฝางพูดจบ ก็ชำเลืองมองไปยังจ้าวเสี่ยวตาว”นายก็มาเหมือนกันเหรอ?”
เมื่อก่อน หลี่ฝางกับจ้าวเสี่ยวตาวทะเลาะกันอยู่ไม่น้อย แถมจ้าวเสี่ยวตาว ก็อยู่พวกเดียวกับมู่เสี่ยวไป๋อีกด้วย
จ้าวเสี่ยวตาวพยักหน้า ประมาณว่าปล่อยวางไปไม่ได้
หวางซวงพยักหน้าพร้อมกับพูดขึ้น”คุณชายหลี่ ผมเป็นคนลากมาเองครับ”
“ความเข้าใจผิดก่อนหน้านี้……”
หวางซวงยังไม่ทันพูดจบ หลี่ฝางก็พูดขึ้นมาต่อ”เรื่องก่อนหน้านี้ ฉันลืมไปตั้งนานแล้ว ไหนๆก็ยอมมากันแล้ว จากนี้ไปทุกคนก็เป็นพี่น้องกัน ไม่ต้องเกรงใจกับฉันขนาดนี้แล้วก็ได้”
“ฉันคิดว่าส้งเคอน่าจะพูดกับพวกนายแล้วนะ ว่าที่เชิญพวกนายมาในครั้งนี้ ไม่ใช่ให้พวกนายมาเที่ยวเล่นกัน แต่ให้พวกนายมาช่วยไปจัดการทำลายสถานที่สักสองสามแห่ง”
หลี่ฝางพูดขึ้น”แถมเจ้าของของสถานที่เหล่านี้ สถานภาพก็ไม่ได้ธรรมดาทั่วไป”
ก่อนจะมา จริงๆแล้วส้งเคอได้บอกกับพวกเขาไปแล้วหนึ่งรอบ แต่หลี่ฝางก็ยังอยากจะพูดซ้ำอีกหนึ่งครั้งอยู่ดี”ชื่อว่าแมงป่อง มีชื่อเสียงมากในอำเภอหลิน ถ้ามีใครกลัวล่ะก็ สามารถกลับไปได้เลย หรือไม่ก็ไม่ต้องกมาช่วยฉันในครั้งนี้ก็ได้ ฉันไม่ว่าพวกนายแน่นอน ถึงยังไงเรื่องนี้ ก็อาจจะต้องเสี่ยงอันตรายอยู่แล้ว”
หลี่ฝางพูดขึ้น”ฉันส่งคนไปรักษาความปลอดภัยให้กับพวกนายให้ถึงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แต่มีสิ่งหนึ่ง นั่นก็คือสิ่งที่ไม่คาดคิด ฉันคิดว่าพวกนายก็น่าจะรู้กัน……”
“วางใจได้ครับ คุณชายหลี่ ก็แค่ไปก่อเรื่องทำลายสถานที่เองไม่ใช่เหรอ? ไม่ใช่ว่าพวกเราจะไม่เคยทำมาก่อนนี่”
“ใช่ พี่ เรื่องอื่นอาจจะไม่ค่อยเก่งมาก แต่ถ้าเป็นเรื่องนี้ พวกเราทำกันบ่อยมาก”
“แมงป่องคนนี้ พวกเราก็เคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนามมาบ้าง ถ้าพวกเรากลัวเขาล่ะก็ พวกเราก็คงจะไม่มาแล้วล่ะครับ ในเมื่อมาแล้ว พวกเราก็ไม่กลัว คุณชายหลี่ คุณจัดสรรวางแผนเลยครับ พวกเราจะลงมือพร้อมกัน หรือว่าจะแยกกันไปตามที่ต่างๆ?”หวงเจ๋พูดไปยิ้มไป ดูแล้วคงจะไม่สนใจเลยสักนิดสินะ
ทายาทเศรษฐีพวกนี้ ล้วนแต่เป็นคนที่มีวงศ์ตระกูลระดับสูงเป็นแบ็คกราวด์ทั้งนั้น ถ้าแมงป่องคิดที่จะจัดการพวกเขา ก็ต้องคิดให้ดีก่อน
ถ้าจัดการไปเพียงแค่คนเดียว นั่นก็เท่ากับว่าไปก้าวก่ายตระกูลธุรกิจตั้งหนึ่งตระกูล
แม้ว่าแมงป่องจะไม่ใช่คนของเมืองเอก แต่ก็ไปยุแหย่คนจำนวนมากมายขนาดนั้นไม่ได้
“ลงมือพร้อมกัน แมงป่องเป็นเจ้าของสถานที่เยอะแยะมากมาย”
หลี่ฝางหันไปมองไอ้หน้าหนวด จากนั้นไอ้หน้าหนวดก็วิ่งเข้ามาทันที ก่อนจะเอากระดาษมาให้กับเขาหนึ่งแผ่น
“เอาล่ะ ไปจัดกากรตามล่า ไปจัดการทำลายที่นั่น ฉันจะจัดหาคนไปปกป้องพวกนาย หรือไม่พวกนายก็ลุยด้วยตัวเองเลย หลังจากเข้าไปแล้ว ก็บริโภคได้ตามใจชอบเลย แล้วมาคิดบัญชีที่ฉันทั้งหมด พอเสร็จแล้ว ก็ไปชำระหนี้กับเฝิงจื่อหลิน”
หลี่ฝางชำเลืองมองเฝิงจื่อหลิน
เฝิงจื่อหลินก็เป็นหนึ่งในพรรคพวกนี้ เป็นคนที่สุภาพเรียบร้อยที่สุด เขาดูแล้วไม่เหมือนกับพวกคนที่ชอบปะปนอยู่ในผับในบาร์ แต่ว่า เขากลับอยากที่ไปลองดูด้วยตัวเองสักครั้ง แสวงหาแรงกระตุ้นในการทำลายสถานที่สักหน่อย
หลี่ฝางหัวเราะเหอะๆ ไม่ได้ห้ามหรือรั้งเขาเอาไว้
เวลาใกล้ค่ำ หยิ่นเจิ้งขับรถพาคนมาถึงยังสถานที่ของตระกูลหลี่
ด้านหลังของหยิ่นเจิ้ง มีรถตามมาห้าคัน ภายในรถห้าคันนี้ มีแต่บอดี้การ์ดทั้งหมด
หลี่ฝางมองภาพตรงหน้านี้ ก่อนจะยิ้มอย่างรู้สึกสนใจขึ้นมา”ทำให้คุณหวาดกลัวกันขนาดนั้นเชียวเหรอ?”
“คุณชายหลี่ จะบอกคุณตรงๆเลยแล้วกัน ผมคนนี้ กลัวตายที่สุด ผมเปิดเผยหน้าตาให้กับแมงป่องแล้ว ตอนนี้แมงป่องกำลังส่งคนมาสอดส่องทุกการเคลื่อนไหวของผม ถ้าข้างตัวผมมีคนน้อยล่ะก็ พวกมันจะต้องลงมือจัดการผมแน่นอน แล้วกลับไปรับรังวาลกับแมงป่อง”
หยิ่นเจิ้งพูดขึ้น”ผมต้องพาคนไปด้วยเยอะๆ ในใจถึงจะรู้สึกสบายใจ”
“อื้อ คนของผมมาถึงกันแล้ว สถานที่นี้ของตระกูลหลี่ไม่มีที่ให้อยู่มากขนาดนั้น แถมต่อให้มี สภาพแวดล้อมก็ลำบากมากๆ ผมส่งคนไปช่วยคุณ คุณก็เตรียมอาหารการกินที่พักอาศัยให้ด้วยแล้วกัน คงจะไม่เป็นปัญหาอะไรใช่ไหม?”หลี่ฝางพูดถามขึ้นอย่างนิ่งๆ
“ผมเคลียร์โรงแรมห้าดาวของผมให้ว่างเรียบร้อยแล้วครับ ในช่วงนี้ ปิดทำการอยู่ หรือพูดได้ว่า ช่วงนี้ คนของคุณสามารถมาอยู่ในโรงแรมได้ตามสบายเลยครับ แถมที่นั่นก็มีแต่คนของผมทั้งนั้น ปลอดภัยแน่นอน”
หยิ่นเจิ้งพูดยิ้มๆ
หลี่ฝางหยักหน้ายอย่างพออกพอใจ”เหอะๆ ทุ่มเททำงานดีมาก”
“ตอนนี้ความสัมพันธ์ระหว่างผมกับแมงป่องอยู่ในช่วงตึงเครียด ช่วงบ่าย ภายในครัวหลังภัตตาคารแห่งหนึ่งของผม จู่ๆก็ถูกคนเอากระสอบงูมาทิ้งเอาไว้ แม้ว่าจะไม่มีพิษ แต่ก็ทำให้พนักงานของผมต่างพากันรับไม่ได้ ภัตตาคารแห่งนั้น ผมปิดไปเรียบร้อยแล้ว แผนการของแมงป่องคนนี้มันช่างโหดร้ายจริงๆ แต่ว่า ถ้ามันไม่ให้ผมได้ใช้ชีวิตอยู่ดีๆ มันก็อย่าหวังว่าจะได้อยู่ดีเหมือนกัน”
“มันเป็นเจ้าของเขตอินเตอร์เน็ตคาเฟ่เขตหนึ่ง ผมเลยหาแฮกเกอร์จากข้างนอกมาหนึ่งคน จากนั้นก็แฮกอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ของมัน เชื่อว่าครั้งนี้ อินเตอร์เน็ตคาเฟ่ทั้งหมดในเขตอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ของมัน ระบบเป็นอัมพาตไปหมดเรียบร้อยแล้ว”
หยิ่นเจิ้งยิ้มอย่างรู้สึกสนใจ”ลุยเลย ผมไม่กลัวหรอก ผมมีเงินมากกว่าแมงป่องเยอะ ผมจะดูซิว่าใครจะทนเอาไว้ไม่ไหวก่อนกัน”
หลี่ฝางมองหยิ่นเจิ้ง พร้อมกับพูดยิ้มด้วยความดีใจ”คุณฉลาดเฉลียวขนาดนี้ ผมดีใจจริงๆ ผมแค่กลัวว่าคุณได้รับความเสียหายไปเล็กน้อยแล้วจะแสดงสีหน้าไม่พอใจเสียอีก”
“ลมฝนผ่านไป สายรุ้งก็จะโผล่ขึ้นมา ตอนนี้ผมเข้าใจคำพูดนี้แล้ว”
หยิ่นเจิ้งพูดยิ้มๆ”คุณชายหลี่ คุณวางใจได้ ทรัพย์สินพันกว่าล้านของตระกูลหยิ่นของผม ต่อให้ไม่ต้องทำธุรกิจตั้งแต่ตอนนี้จนถึงปลายปี ก็ยังคงเป็นบริษัทชั้นนำของอำเภอหลินอยู่ดี”
หลี่ฝางพยักหน้ายิ้มๆ จากนั้นก็พูดขึ้น”ผมจะลงมือในคืนนี้”
“ผมรู้ว่าความสัมพันธ์ของคุณกับจ้าวโหย่วฉายไม่เลวเลย หวังว่าถึงตอนนั้นคุณจะไปขอความช่วยเหลือจากเขา ให้เขาร่วมมือได้นะ”
หลี่ฝางพูดขึ้น
หยิ่นเจิ้งขมวดคิ้วพูดถามขึ้น”คุณชายหลี่มีแผนการอะไรครับ? จำเป็นต้องให้จ้าวโหย่วฉายช่วยเหลือเหรอ? เรื่องที่ผิดกฎหมายแบบนี้ จ้าวโหย่วฉายไม่ทำหรอกนะครับ แถมเขาเป็นเพื่อนร่วมชั้นกับผมมานานขนาดนี้ ผมไม่อยากทำให้เขาเสียหายด้วย”
หลี่ฝางพยักหน้า พูดขึ้น”วางใจได้ ผมรู้ว่าเขาเป็นคนยังไง”
“เห็นรถหรูพวกนั้นแล้วหรือยัง?”หลี่ฝางชี้ไปที่รถหรูที่จอดเรียงกันตรงทางเข้า
หยิ่นเจิ้งพยักหน้า พูดขึ้น”ทางด้านของเมืองเอก มีทายาทมหาเศรษฐีมาจำนวนไม่น้อย อันนี้ผมได้ยินมาบ้างแล้วครับ”
“คืนนี้ พวกเขาจะไปยังสโมสรต่างๆ เช่นพวกKTVอะไรแบบนี้ของแมงป่อง ไปอุปโภค ไปใช้บริการ หลังจากที่ดื่มเหล้ากันเยอะแล้ว พวกเขาก็จะหาเรื่องก่อความวุ่นวาย ทำลายสถานที่ต่างๆของแมงป่อง ในสถานที่นี้ของแมงป่อง มีแต่ของไม่ใสสะอาดทั้งนั้น ผมก็หวังว่าตอนที่พวกเพื่อนทายาทมหาเศรษฐีเหล่านี้ของผมก่อเรื่องขึ้น จ้าวโหย่วฉายจะลุกขึ้นมา แยกงานออกจากเรื่องส่วนตัว”
“ไม่สนว่าจะเป็นการจับไปคุมขังหรือว่าอะไร ก็ได้หมด”
หลี่ฝางยิ้มๆ ก่อนจะพูดขึ้น”ขอแค่ให้จ้าวโหย่วฉายมาทันเวลาเท่านั้น ไม่ให้พวกเขาถูกคนของแมงป่องรังแกก็พอแล้ว”
หยิ่นเจิ้งพยักหน้า พูดขึ้น”สบายมาก เดี๋ยวผมจะโทรไปหาจ้าวโหย่วฉาย ให้เขาจัดการวางแผนลงมือก่อน ไปจับตาดูที่ละแวกใกล้ๆสโมสรนั่นซะ”
“ให้เขาระวังตัวด้วย อย่าให้แมงป่องรู้ตัวล่ะ”หลี่ฝางพูดขึ้น
หยิ่นเจิ้งพยักหน้า เดินมาริมๆ โทรออกไปหาจ้าวโหย่วฉาย
หลังจากอาหารมื้อค่ำผ่านไป พอได้กินอาหารเชิงเกษตรแบบแท้ๆแล้ว พวกของเฝิงจื่อหลิน หวงเจ๋ หวางซวง จ้าวเสี่ยวตาว ก็เลือกพวกอันธพาลมาคนละสองคน แล้วเริ่มแยกย้ายกันไปตามสถานที่ต่างๆของตัวเอง
หลังจากที่กลุ่มคนพวกนี้จากไปแล้ว หยิ่นเจิ้งก็เผยให้เห็นถึงแววตาที่ดูซับซ้อน”คิดไม่ถึงว่าคุณชายหลี่จะรู้จักเพื่อนเยอะขนาดนี้นะครีบ ผมได้ยินมาว่าคุณชายหลี่เป็นคนนิสัยตรงไปตรงมาไม่ยอมจำนนต่อใครง่ายๆ ไม่ยอมอยู่ด้วยกันกับทายาทมหาเศรษฐี แถมเนื่องด้วยเหตุผลเฉพาะบางอย่าง ดูเหมือนว่าคุณจะเพิ่งเป็นทายาทมหาเศรษฐีได้ไม่นานใช่ไหม?”
หลี่ฝางพยักหน้า พูดขึ้น”จากผู้ชายธรรมดาจนๆคนหนึ่งที่ไม่มีข้าวดีๆกินไม่มีเสื้อดีๆใส่ กลายเป็นคุณชายหลี่ในทุกวันนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างมันเกิดขึ้นภายในเวลาแค่สองสามเดือนเท่านั้น”
“เหอะๆ ระยะเวลาสั้นมาก สามารถหาเพื่อนได้เยอะขนาดนี้ มันยากมากๆแล้วครับ แถมประเด็นสำคัญก็คือความสัมพันธ์ของพวกเขากับคุณ ก็ลึกซึ้งมากว่าการคบกันเพื่อผลประโยชน์อีกด้วยนะครับ”
“คุณกำลังจะบอกว่า ผมกับพวกเขา คบกันด้วยใจอย่างนั้นสินะ?”หลี่ฝางพูดขึ้นอย่างยิ้มๆ
“ใช่ครับ ข้างๆกายของเสี่ยวเหล่ยก็มีเพื่อนที่เป็นทายาทมหาเศรษฐีแบบนี้อยู่กลุ่มหนึ่งเหมือนกัน แต่ว่าคนพวกนั้น ส่วนใหญ่ก็ประจบประแจงเสี่ยวเหล่ยกันทั้งนั้น จนทำให้เสี่ยวเหล่ยเหริงทะนงตัว นิสัยของเขาก็เลยเปลี่ยนเป็นหยิ่งผยองทันที แม้ว่าเขาจะทำเรื่องผิดๆ แต่ก็ไม่มีใครบอกเขาว่าสิ่งที่ทำอยู่มันผิด ถ้าไม่อย่างนั้นล่ะก็ เขาก็คงจะไม่ล้มเหลวพ่ายแพ้ต่อคุณชายหลี่หรอกครับ”หยิ่นเจิ้งพูดขึ้นด้วยสีหน้าซับซ้อน
หลี่ฝางหัวเราะเหอะๆ”ลุงหยิ่นกำลังว่าผมอยู่ใช่ไหม?”
“ไม่ได้ว่า นั่นเป็นลูกชายของผม คุณเล่นทำซะลูกชายของผมหมดสภาพแบบนั้น ในใจของผมไม่ได้มีคำบ่นหรือคำด่าอะไรคุณเลยแม้แต่คำเดียว คำพูดนี้ คุณคงจะไม่เชื่อสินะ? แต่ว่า ต่อให้ผมต่อว่าคุณ ก็ไม่กล้าทำอะไรอยู่ดี พวกเราตระกูลหยิ่นมีสถานภาพระดับไหน ในใจผมรู้ดี ผมไม่ใช่แมงป่อง ไม่ได้มีความกล้ามากมายขนาดนั้น ถึงจะไปยุแหย่กับพวกคุณตระกูลหลี่ได้หรอกครับ”
หยิ่นเจิ้งยิ้มอย่างอมทุกข์พร้อมกับพูดขึ้น”พ่อของคุณเป็นบุคคลในตำนาน คุณท่านรองเฉียนที่อยู่กับเขา ก็ยิ่งเป็นอัจฉริยะทางด้านธุรกิจอีก พวกเขาร่วมมือกัน ทั้งชีวิตนี้ของผมไม่มีทางไปสู้ได้หรอกครับ”
“ผมก็หวังว่าจะมีใครสักคนไปช่วยเตือนสติให้กับเสี่ยวเหล่ย ช่วยสั่งสอนเขา ให้เขาได้ทราบได้จำ แต่บทเรียนนี้ก็ดูเหมือนจะเป็นบทเรียนที่ใหญ่ไปหน่อย”
หยิ่นเจิ้งพูดขึ้นด้วยสีหน้าหดหู่
“บางครั้งหยิ่นเหล่ยมักจะทำอะไรเกินกว่าเหตุ ตอนแรกที่ผมไปช่วยเขา เขาก็ยุแหย่จนผมเริ่มโมโหอยู่เหมือนกัน”หลี่ฝางพูดอธิบายไป อยากที่จะขอโทษ แต่กลับไม่ได้ขอโทษ
หลี่ฝางคิดว่าตัวเองไม่ได้ทำอะไรผิด
หยิ่นเจิ้งหัวเราะเหอะๆ ก่อนจะพูดขึ้น”จริงๆแล้ว จุดจบของเสี่ยวเหล่ย ไม่ถือว่าน่าอนาถใจมากนัก ถ้าคนที่เสี่ยวเหล่ยไปก้าวก่าย เป็นทายาทมหาเศรษฐีชั้นสูงที่จิตใจเหี้ยมโหดล่ะก็ จะต้องไม่ใช่แค่เสี่ยวเหล่ย แม้แต่ผมก็จะต้องพลอยเดือดร้อนไปด้วยแน่ๆ”
“แม้ว่าตอนนี้ผมจะมีทรัพย์สินมากมาย มีคนถึงพันคน แต่ในสายตาของตระกูลชั้นนำระดับสูงพวกนั้นแล้ว แทบจะไม่มีค่าอะไรเลยด้วยซ้ำ ถ้าไปก้าวก่ายพวกเขาแล้วล่ะก็ บางทีพวกเขาอาจจะฆ่าพวกเราตายได้อย่างง่ายเลยก็ได้”
หยิ่นเจิ้งขมวดคิ้วพูดขึ้น”มีคุณชายคนหนึ่งชื่อว่าเซี่ยจือชิว ชอบแข่งรถมาก ในตอนแรกสุด เขาเอาแต่เก็บซ่อนตัวมาโดยตลอด เสี่ยวเหล่ยเจ้าลูกชายคนนี้ หลังจากที่พ่ายแพ้ให้กับเขาไปหลายครั้ง ก็คิดที่จะใช้แผนการชั่วร้ายไปตามราวีเขา โชคดีที่ผมรู้ทัน ตรวจสอบสถานภาพของเซี่ยจือชิวทัน ทำให้พวกเราตระกูลหยิ่นรอดจากภัยพิบัติครั้งนั้นมาได้”
หยิ่นเจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆหนึ่งที ก่อนจะพูดขึ้น”ถ้าผมรู้ช้ากว่านี้แค่นิดเดียว พวกเราตระกูลหยิ่นก็คงจะไม่เหลือซากแล้วแน่ๆ”
“เซี่ยจือชิว”หลี่ฝางได้ยืนชื่อชื่อนี้ ก็หัวเราะเหอะๆออกมา
คนที่ขับรถแลมโบกินี่ก่อนหน้านี้ไม่ใช่หรือไง กลับแพ้ให้กับส้าวส้วยนักแข่งมืออาชีพคนนั้นน่ะเหรอ?
“เขาสุดยอดมากเลยเหรอ?”หลี่ฝางถามขึ้นมาด้วยความสนใจ
“คุณชายหลี่รู้จักเขา?”หยิ่นเจิ้งถาม
หลี่ฝางพยักหน้า พร้อมกับพูดขึ้น”เคยติดต่อพูดคุยกันครั้งหนึ่ง ไม่ได้เจอกันซึ่งๆหน้า ถือว่าเคยเจอกันก็แล้วกัน”
“พละกำลังของเซี่ยจือชิว เกรงว่าจะอยู่ในระดับพอๆกับพวกคุณตระกูลหลี่ ถึงขนาดที่มีบางจุด ที่เขายังเก่งกาจกว่าตระกูลของพวกคุณอีกนิดหน่อยด้วย คุณควรจะรู้ว่าเขามาจากที่ไหน”หยิ่นเจิ้งพูดขึ้น”คุณเรียกผมว่าลุง ฉะนั้นผมก็จะบอกแนะนำคุณก็แล้วกัน คนพวกนี้ อย่าไปยุแหย่ด้วยจะดีกว่า”
“ไม่ว่าคุณจะก่อเรื่องอะไรก็ตามในเมืองหลัก พ่อของคุณก็ปกป้องคุ้มกันคุณได้ แต่ถ้าคุณออกจากเมืองหลักนี้ไปล่ะ?”
หยิ่นเจิ้งพูดขึ้น”แต่ว่าเซี่ยจือชิวไม่เหมือนกัน ไม่ว่าเขาจะไปก่อเรื่องที่เมืองไหนก็ตามทั่วทั้งประเทศนี้ ก็จะมีคนคอยช่วยเหลือเขาอยู่ทุกที่”
หลี่ฝางยิ้มๆ ไม่ได้พูดอะไร บางทีหยิ่นเจิ้งอาจจะไม่ได้กำลังขู่เขาอยู่ สถานภาพของตัวเองกับเซี่ยจือชิว ถ้าเทียบกันแล้ว อาจจะต่างกันอยู่นิดหน่อยจริงๆก็ได้
พอพูดถึงเซี่ยจือชิว หลี่ฝางก็นึกถึงโก่เอ๋ออย่างช่วยไม่ได้ สถานภาพของโก่เอ๋อคนนี้ ใหญ่โตมาก ขนาดเกิดเรื่องขึ้นที่ตงไห่ แค่โทรศัพท์ไปหาโก่เอ๋อสายเดียว ก็จัดการเรื่องทุกอย่างให้คลี่คลายลงได้แล้ว
แต่แค่ไม่รู้ว่า สถานภาพของโก่เอ๋อกับเซี่ยจือชิว สรุปแล้วใครสุดยอดกว่ากันแน่……
ในตอนนี้เอง มือถือของหลี่ฝางก็ดังขึ้น
“เกมใกล้จะเริ่มแล้ว”