NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 738 เธอจะไปจริงๆ เหรอ?

บทที่ 738 เธอจะไปจริงๆ เหรอ?

ในห้องใต้ดิน นอกจากทองคำแล้ว ยังมีเหล้าดีอีกลายขวด มีบางขวดที่ไม่สามารถนำออกที่โล่งได้

“ของพวกนี้ ทำลายทิ้งเถอะ” หลังจากหลี่ฝางเห็น ก็พูดขึ้น: “ถ้าหากมันตกไปอยู่ในมือผู้ไม่หวังดี ต้องทำให้ครอบครัวแตกแยกแน่”

โหจื่อพยักหน้า ต่อหน้าหลี่ฝาง ก็ฉี่รดไปที่สิ่งของพวกนั้น

“ฮี่ฮี่”

บนหน้าของโหจื่อยังคงซ่อนความตื่นเต้นไว้ไม่มิด: “ทองคำพวกนี้ น่าจะขายได้ประมาณสี่ห้าพันล้าน”

หลี่ฝางช็อก: “มากขนาดนั้นเลย?”

ถึงแม้ภายใต้ชื่อของหลี่ฝาง จะมีทรัพย์สินอยู่สี่ห้าพันล้าน แต่นั่นก็มีแต่อุตสาหกรรม

ส่วนทองคำนี้ก็ไม่เหมือนกันแล้ว นี่มันเท่ากับเงินสดชัดๆ เลย

หลังจากทองคำถูกขนออกไป โหจื่อก็เปิดไวน์แดงสองขวด ยื่นให้หลี่ฝางคนละขวด แล้วฉลองกัน

ไฟไหม้ลุกโชนอยู่หลายชั่วโมง ในที่สุดก็ดับลง

หลี่ฝางหัวเราะเหอะๆ แล้วพูด: “ที่จริงแล้ว เงินที่ลูกพี่หลินหามาได้ ทั้งชีวิตนี้ก็ใช้ไม่หมดแล้ว ทำไมเขายังไม่ยอมปล่อยมือนะ?”

“คุณชาย เรื่องนี้นายไม่เข้าใจแล้วสินะ? ทรัพย์สินของนาย มันมีมาตั้งแต่เกิด ดังนั้นจึงไม่ค่อยเห็นค่ามัน แต่ลูกพี่หลินไม่ใช่แบบนั้น ทั้งหมดของเขา หามาทีละก้าวๆ ช่วงนี้ ไม่รู้ว่าเขาเจอประสบการณ์เฉียดตายมากี่ครั้ง ที่จริงแล้วเขาก็ไม่ง่ายเลย เพื่อที่จะทำให้เป้าหมายของตัวเองสำเร็จ จึงทำให้ตนกลายเป็นคนพิการไป”

“เขาเป็นคนใจเด็ด เขาตั้งเป้าหมายของตนเองไว้ใหญ่มาก เขาไม่รู้จักพอหรอก ความฝันของเขา คงจะเหมือนกับองค์กรที่อยู่เบื้องหลังป๋ายหม่า จัดตั้งองค์กรข้ามชาติ คนแบบนี้ เก้าสิบเก้าเปอร์เซ็นต์มีชะตากรรมเดียวเท่านั้นที่รอพวกเขาอยู่ นั่นก็คือการถูกยิงเป้าประหาร”

โหจื่อพูด: “พูดอย่างง่ายๆ ความโลภมักจะเป็นภัยต่อตัวเอง”

หลี่ฝางมองโหจื่อ แล้วถาม: “งั้นพ่อของฉันเป็นคนแบบนี้มั้ย?”

“ลูกพี่ใหญ่แน่นอนว่าไม่ใช่แบบนั้น ลูกพี่ใหญ่ไม่สนใจเงิน มากกว่าเงินตรา ลูกพี่ใหญ่สนใจความสัมพันธ์มากกว่า”

“พวกแมงป่อง มู่เสี่ยวไป๋ ท่านจวน ลูกพี่หลินคนพวกนี้ คนใต้บัญชาของพวกเขา ในบัตรมีเงินอยู่เท่าไหร่? ส่วนคนพวกนั้นในบัตร มีเงินอยู่เท่าไหร่? พวกเข้าล้วนใจดำ ในบัตรพวกเขามีเงินอยู่เป็นร้อยล้าน ลูกน้องข้างกายของเขา อาจจะมีอยู่แค่ไม่กี่ล้าน แต่ว่าพวกเราไม่เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นฉัน แล้วก็ลุงเฉียน ล้วนมีเงินกันหมด ทุกครั้งที่หาเงินได้ ลูกพี่ใหญ่ก็จะแบ่งให้ตามงานที่ทำ ไม่เคยหุบไว้เองมากกว่าเลย”

“ส่วนเงินที่กลับประเทศมาลงทุน ก็เป็นเงินที่ตาเฒ่าที่ต่างประเทศมอบให้ลูกพี่ใหญ่ แบบนี้ลูกพี่ใหญ่ยังไม่เอาเลย แต่ตาเฒ่าพูดแล้ว ถือว่าเขาลงทุนแล้วกัน” โหจื่อยิ้มนิ่งๆ : “ลูกพี่ใหญ่ ก็เซ่ออยู่นะ”

“เซ่อ? เพราะว่าไม่เห็นเงินสำคัญเหรอ?” หลี่ฝางถามกลับอย่างไม่แฮปปี้

ในตอนนั้น หลี่ฝางได้ยินโหจื่อบอกว่าพ่อของตนเซ่อ ก็รู้สึกไม่แฮปปี้มาก

โหจื่อส่ายหน้า แล้วพูด: “ไม่ใช่แค่เรื่องนั้น ยังมีเรื่องท่านจวนคนนั้น ที่จริง นายคิดดูดีๆ ท่านจวนคนนั้น มีค่าพอที่จะต้องไปสานสัมพันธ์ด้วยจริงๆ เหรอ?”

“ตอนแรก ท่านจวนเป็นคนนำ ลูกพี่ใหญ่เป็นแค่คนลงมือ ถึงแม้ชื่อเสียงจะค่อยๆ นำหน้าท่านจวนขึ้นไป แต่ว่า ลูกพี่ใหญ่ก็ยังเรียกท่านจวนว่าลูกพี่มาตลอด ไม่เคยคิดที่จะข้ามหัวเลย ลูกพี่ใหญ่เป็นคนซื่อสัตย์คนนึง แต่ว่า เมื่อเกิดเรื่อง ท่านจวนก็ปัดเรื่องไปที่ลูกพี่ใหญ่ ไม่ถามไถ่ ตัวเองก็ขึ้นไปหลบพักผ่อนเข้ากลีบเมฆไป ราวกับเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเขาทั้งสิ้น”

“ถ้าหากไม่ใช่เพราะว่าเขาถอยหนี พวกเราจะแพ้หมดรูปแบบนั้นได้ยังไง”

โหจื่อพูดอย่างโมโหเล็กน้อย: “การจากไปของท่านจวน ทำเราอย่างกับเป็นเด็กไร้บ้าน เปรียบแบบนี้ ไม่ได้มากไปเลยจริงๆ”

“ในวันนี้ หลังจากที่เห็นลูกพี่ใหญ่กลับประเทศมาลงทุนหลายหมื่นล้าน ท่านจวนนั่นก็รีบเสนอหน้ามาทันที มาคุยเรื่องความร่วมมือกับพวกเรา นายว่า ไอ้สารเลวนี่ คู่ควรมั้ย? แต่ลูกพี่ใหญ่ก็ยังเห็นแก่ความสัมพันธ์ในอดีต ยอมตกลงไป”

“ครั้งที่แล้วศึกด่านนอกบ้านพักตากอากาศ ท่านจวนก็ลงแรงน้อยนิดแต่ได้ไปมาก เอาที่ของเมืองเอกครึ่งนึง แย่งไปทั้งหมดเลย เหอะๆ เอาเปรียบพวกเราก็ช่างเถอะ แต่ว่า ยังหาเรื่องในที่ของเรา ไม่ใช่แค่ดูอยู่นิ่งๆ แถมยังซ้ำกันอีก”

โหจื่อพูดอย่างโมโหเล็กน้อย

พูดจบ ก็ดื่มเหล้าเข้าไปอึกใหญ่

“พ่อฉันอาจจะเห็นถึงความสัมพันธ์ในอดีตมั้ง เปรียบเทียบ ท่านจวนเป็นคนที่ดันพ่อฉัน บุญคุณครั้งนั้น ก็ควรจะตอบแทน?” หลี่ฝางพูดอย่างอ่อนๆ

หลี่ฝางอยากจะพูดแทนพ่อของตนสักประโยค แต่ในใจ ก็ยังรู้สึกหงุดหงิดพ่อของตนอยู่หน่อยๆ

เมื่อก่อน หลี่ฝางก็คิดเหมือนกันว่าท่านจวนคือผู้หลักผู้ใหญ่ของตน และเป็นคนช่วยพ่อของตน แต่วันนี้เห็นที เรื่องทั้งหมดไม่ใช่แบบนั้นแล้ว

เขาก็คือดอกหญ้า ลมพัดไปทางไหน เขาก็ปลิวไปทางนั้น

ค้างอยู่ที่หมู่บ้านบนภูเขา อยู่คืนนึง วันถัดมาตอนรุ่งสาง หลินชิงชิงก็ออกมา

ส่วนหลี่ฝางก็รีบปัดก้นตัวเองแล้วลุกขึ้น: “พี่ชิงชิง เธอจะไปไหน ฉันไปส่งนะ”

หลินชิงชิงเห็นหลี่ฝางก็ประหลาดใจ แล้วถาม: “นายเฝ้าอยู่ด้านนอกทั้งคืนเลยเหรอ?”

หลี่ฝางพยักหน้า ในสายตาของหลินชิงชิง มีความซึ้งใจขึ้นมา: “ทำไมไม่ไปนอน? ไม่กลัวเป็นหวัดหรือไง?”

หลี่ฝางหัวเราะแห้ง และไม่ได้พูดอะไร

“ฉันอยากกลับคฤหาสน์ จากนั้นนายช่วยฉันถามหน่อย ว่าพ่อฉันถูกขังไว้ที่ไหน ฉันอยากจะไปหาเขา หลี่ฝาง เรื่องนี้ นายช่วยฉันได้มั้ย?” หลินชิงชิงพูด

หลี่ฝางพยักหน้า แล้วพูด: “นั้นต้องไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว”

หลินชิงชิงอืม จากนั้นก็ขยับฝีก้าว เดินไปทางลงเขา หลี่ฝางมองแผ่นหลังของหลินชิงชิง จู่ๆ ในใจก็รู้สึกหดหู่เล็กน้อย

ในตอนนี้โหจื่อก็เดินมาข้างหน้าหลี่ฝาง แล้วพูด: “ยืนนิ่งทำอะไร รีบเดินสิ”

“เธอยังไม่มีทางยกโทษให้ฉัน” หลี่ฝางพูดด้วยน้ำเสียงไม่ดัง

“นายรู้ได้ยังไง?” โหจื่อมองหลี่ฝาง: “หล่อนไม่ได้บอกว่าโทษนายนี่”

“แล้วก็ ฉันเห็นหล่อนพูดกับนาย ก็ดูเป็นมิตรดีนี่ ไม่เหมือนคนเคียดแค้น”

หลี่ฝางก็พูดไม่ถูก มันเป็นความรู้สึกบางอย่างมั้ง

เดินลงเขามาด้วยกัน มาถึงบนรถ หลี่ฝางกับหลินชิงชิงยังคงนั่งคู่กันที่เบาะหลัง โหจื่อขับรถ แต่ว่า ระหว่างทาง หลินชิงชิงกลับไม่คุยกับหลี่ฝางเลยสักคำ ก็แค่ตอนที่ลงรถ หลี่ฝางพูดกับหลินชิงชิง: “จัดการเรียบร้อย หลังจากนี้ครึ่งชั่วโมง เธอก็เจอหน้าพ่อเธอได้แล้ว”

หลินชิงชิงพยักหน้า: “ขอบคุณนะ”

น้ำเสียงฟังไม่ออกถึงความรู้สึก หลี่ฝางมองหลินชิงชิง แล้วถาม: “เธอกลับมาคฤหาสน์ทำไม?”

หลินชิงชิงไม่ได้ตอบ เมื่อหลี่ฝางตามขึ้นไปตอนนั้น ที่หน้าประตูห้องของเธอ หลี่ฝางมองลอดช่องประตูเข้าไป เห็นหลินชิงชิงกำลังเก็บข้าวของของตน

ตู้ม หัวของหลี่ฝาง จู่ๆ ก็เกิดรู้สึกชาขึ้นมาทันที

จะจากไป!

หลินชิงชิงจะไป นี่เป็นภาพที่หลี่ฝางไม่อยากเห็นที่สุด แต่ว่า กลับเกิดขึ้นแล้ว

แม้ว่าหลี่ฝางจะเตรียมรับมือกับสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด แต่ก็ไม่คิดว่าผลจะเป็นแบบนี้ ในใจของหลี่ฝาง ก็ยังคงทรมานขนาดนี้

เมื่อหลินชิงชิงเก็บกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว ในที่สุดหลี่ฝางก็ทนไม่ไหว ผลักประตูเข้าไป สูดหายใจเฮือกใหญ่พลางมองหลินชิงชิง แล้วถาม: “พี่ชิงชิง จะไปจริงๆ เหรอ?”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน