NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 733 ติดกับดักเอง

บทที่ 733 ติดกับดักเอง

“นี่……นี่มันจะเป็นไปได้ยังไง?” นิ้วมือหลินชิงชิงสั่น แขนก็ปล่อยออกจากไหล่ของหลี่ฝาง

สีหน้าของหลินชิงชิง เปลี่ยนเป็นย่ำแย่สุดๆ ราวกับเธอได้ยินไม่ชัดอย่างนั้น แล้วถามซ้ำอีกครั้ง: “นายบอกว่า พ่อของฉันต้องการจะฆ่านาย? เป็นไปได้ไง? พ่อฉันทำไมต้องฆ่านายด้วย นายเคยช่วยชีวิตเขาไว้ครั้งนึงไม่ใช่เหรอ?”

“ฉันก็ไม่อยากจะเชื่อ แต่ว่า จากที่ตระกูลหลี่ของพวกเราสืบมา เป็นเรื่องจริงที่ลูกพี่หลินทำ แล้วก็ พ่อแม่ของเซี่ยลู่ แล้วก็พ่อแม่ของเพื่อนสองคนนั้น ก็ถูกพ่อของเธอจัดการไปแล้ว” หลี่ฝางพูด

“พวกนาย พวกนายมีหลักฐานมั้ย?” หลินชิงชิงถามอย่างไม่ยอมรับ

คนร้ายคือลูกพี่หลิน ความจริงเรื่องนี้ หลินชิงชิงจะยอมรับได้ยังไง?

“พยานกำลังเดินทางมา คนที่ฆ่าพ่อแม่ของเซี่ยลู่ ถูกพวกฉันจับได้แล้ว”

“ส่วนในตอนแรกที่ฉันช่วยลูกพี่หลินเรื่องนั้น พวกเราก็ตรวจสอบมาอย่างละเอียดแล้ว นั้นเป็นแผนการ เป็นแผนการที่วางไว้สำหรับฉัน ตั้งแต่ที่ฉันออกจากมหาลัย ก็ถูกรถคันนึงสะกดรอย มีคนถ่ายรถคันนั้นเอาไว้ได้ ว่าเอาแต่คอยสะกดรอยตามฉัน จากเส้นทางของฉัน ลูกพี่หลินจัดฉากเล่นละครทรมานตน รับบททรมานสุดๆ ให้ฉันหลงเชื่อ ให้ตระกูลหลี่ของพวกฉันกับองค์กรเบื้องหลังของป๋ายหม่า ขัดแย้งกัน”

“ลูกพี่หลินขัดใจองค์กรเบื้องหลังของป๋ายหม่าไม่ไหว ดังนั้นเลยยืมแรงตระกูลหลี่ของพวกเรา ช่วยจัดการไอ้ป๋ายหม่าคนนั้น” หลี่ฝางพูด

“เป็นไปไม่ได้ จะเป็นแบบนี้ไปได้ยังไง?” หลินชิงชิงส่ายหน้าอย่างแรง แล้วพูด: “พ่อของฉันกลายเป็นคนพิการไปแล้ว ต้องมีคนทำร้ายเขาแน่ๆ แล้วก็พ่อของฉันออกจากเมืองเอกไปแล้ว ทำไมยังต้องฆ่านายด้วยล่ะ”

“เกี่ยวกับคำตอบของเรื่องนี้ ฉันสามารถตอบเธอได้ เมื่อก่อนลูกพี่หลินทำธุรกิจอะไร เธอคงรู้ดี ถึงแม้ปากเขาจะเอาแต่บอกว่าตนเลิกแล้ว แต่ความจริง เขายังทำอยู่ แล้วก็ ตอนนี้เขาทำมันด้วยตนเอง เมื่อก่อน เขาช่วยป๋ายหม่าทำ”

“ลูกพี่หลินไม่ได้หนี เขาออกไปได้ไม่กี่วัน ก็กลับมาที่เมืองเอกใหม่”

หลี่ฝางพูด: “พี่ชิงชิง ถ้าหากพี่ไม่เชื่อ ผมพาพี่ไปหาเขาก็ได้”

“พ่อฉันเขาอยู่ที่ไหน?” หลินชิงชิงถามอย่างรีบร้อน

หลี่ฝางพูดกลับหลินชิงชิง: “มากับฉัน ฉันจะพาเธอไปหาเขาเดี๋ยวนี้”

หลี่ฝางควงแขนหลินชิงชิง และมาที่รถ

“ไปหาลูกพี่หลิน” หลี่ฝางพูดกับโหจื่อที่อยู่ตรงที่นั่งคนขับ

โหจื่อหัวเราะเหอะๆ แล้วมองหลินชิงชิง: “ทำใจดีแล้วใช่มั้ย? เกรงว่าที่เธอจะได้เห็นในอีกไม่ช้า จะเป็นพ่ออีกคนนึงแล้ว”

หลินชิงชิงพยักหน้า แล้วพูด: “ฉันอยากจะเห็นพ่อด้วยตาของตัวเอง แบบนี้ฉันถึงจะเชื่อคำของพวกนาย”

โหจื่อหัวเราะ แล้วขับรถออกไปทันที

รถขับผ่านภูเขาลูกแล้วลูกเล่า ภูเขาพวกนี้ ล้วนแต่มีเอกลักษณ์ นั้นก็คือหมู่บ้านที่กระจัดกระจาย และผู้คนน้อย

และหลังจากที่รถหยุดลง คนที่นี่ ก็เปิดไฟกันหมด ราวกับกำลังทำงาน

ที่นี่คือสถานที่ที่ไม่มีใครเตะตาที่สุด โหจื่อหยุดรถ แล้วพูด: “ถนนด้านหน้า พวกเราต้องเดินไปแล้ว ถ้าหากขับรถเข้าไป ไม่นานก็จะถูกจับได้”

“ถูกจับได้แล้วยังไง?” หลี่ฝางไม่ได้คิดจะหลบซ่อน

“ถ้าหากถูกจับได้ พวกเราอาจจะโดนระเบิดตายกันก่อนน่ะสิ” โหจื่อหัวเราะ แล้วพูด

หลี่ฝางมองโหจื่อ และขมวดคิ้ว: “โหจื่อ นายล้อเล่นใช่มั้ย?”

“สำหรับคนกลุ่มนี้แล้ว ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้” โหจื่อพูด: “พวกเขาใจเด็ดเอามากๆ นายดูให้ดีๆ รอบตัวนอกจากคนของพวกมัน ยังมีชาวบ้านคนอื่นมั้ย?”

“ที่ที่พวกเราผ่านมาเมื่อกี้ ควรจะมีชาวบ้านอยู่บ้าง แต่วันนี้ กลับไม่มีเลย น่าจะโดนฆ่าไปหมดแล้ว หรือบางที ก็ถูกจับไปใช้แรงงานแล้ว” โหจื่อพูด

“ไม่ต้องพูดมากแล้ว พวกเราเดินไปก็พอแล้ว”

กำลังของหลินชิงชิงไม่ได้ด้อยไปกว่าหลี่ฝาง ดังนั้นจึงไม่กลัวทางเดินบนป่าเขา

เมื่อเดินไปได้ไม่กี่ก้าว โหจื่อก็ล้มหน่วยลาดตระเวนของพวกเขาไปหลายคน โหจื่อปัดมือเบาๆ พลางยิ้ม แล้วพูด: “เห็นอาวุธของพวกมันแล้วใช่มั้ย?”

มองไปยังคนที่นอนอยู่บนพื้น ในมือกอดปืนไว้ บนหน้าของหลี่ฝางกับหลินชิงชิง ก็เปลี่ยนสีไปพร้อมกัน

โดยเฉพาะหลี่ฝาง ถึงขั้นเกิดความคิดที่อยากจะถอยตัว

แต่หลินชิงชิง กลับมีความคิดที่อยากเข้าไปดูที่หนักแน่นขึ้น

เมื่อเข้าใกล้ส่วนที่สว่างไสวมากขึ้นเรื่อยๆ ใจของหลินชิงชิง ก็ยิ่งเต้นรัวขึ้น

“คุณชาย อีกแป๊บนึงต้องระวังตัวให้ดี” โหจื่อลากหลี่ฝางเข้ามาใกล้ และกระซิบบอก

หลี่ฝางอยากจะอยู่ใกล้หลินชิงชิง แต่กลับถูกโหจื่อดึงไว้แล้วพูด: “นายไม่ต้องกังวลหล่อน เสือยังไงก็ไม่กินลูกตัวเอง ลูกพี่หลินจะบ้าแค่ไหน ก็คงไม่ลงมือกับลูกสาวของตัวเองหรอก”

“สิ่งที่นายควรกังวล ก็คือความปลอดภัยฉันและของตัวนายเอง” โหจื่อพูด

ไม่นาน พวกหลี่ฝางทั้งสามคน ก็มาถึงในหมู่บ้าน แต่ขณะที่กำลังเข้าไป ทั้งสามคน ก็ถูกล้อมไว้ทันที

“คุณหนูใหญ่? มาได้ยังไง?”

หัวหน้านั้น ก็ไม่ใช่ใครอื่น นั่นก็คือหมาจื่อ

ในมือของหมาจื่อถือปืนไวอยู่กระบอกนึง เมื่อเห็นหลินชิงชิงกับหลี่ฝาง เขาก็ขมวดคิ้วเข้ม: “ไอ้หมอนี่ นายพาคุณหนูใหญ่มาเหรอ?”

หลี่ฝางมองหมาจื่อ แล้วหัวเราะอย่างเย็นชา: “ที่แท้นายไม่ได้หักหลัง”

“ลูกพี่หลินล่ะ?” หลี่ฝางมองหมาจื่อ และถามขึ้น

“ความตายมาอยู่ตรงหน้ายังจะถามนู่นถามนี่อีก” หมาจื่อเล็งปืนไปที่หลี่ฝาง แล้วพูดอย่างไม่สบอารมณ์: “ฉันอยากจะฆ่านายมาตลอด คิดไม่ถึงว่านายจะมาให้ฉันฆ่าเองถึงมือ ดีจริงๆ ส่งมาถึงที่เลยนะ”

“อย่าทำร้ายเขา”

หลินชิงชิงเดินมาหลายก้าว แล้วบังหลี่ฝางไว้

“คุณหนูใหญ่ ถอยออกไป คนนี้เป็นคนที่ลูกพี่หลินต้องการตัว การมีชีวิตอยู่ของเขา เป็นภัยต่อความร่ำรวยของเรา” ในตอนนั้นหมาจื่อก็ไม่ได้ปิดบังอะไร พูดความจริงออกมาตรงๆ

ส่วนหลินชิงชิงก็ขมวดคิ้วแล้วพูด: “หมาจื่อ สรุปแล้วมันเรื่องอะไรกัน พวกนายทำอะไรกันแน่?”

สีหน้าของหมาจื่อ ดูลำบากใจ: “คุณหนูใหญ่ ลูกพี่หลินไม่อยากให้คุณรู้ความจริงเรื่องนี้มาโดยตลอด แต่ทำไมคุณ……”

“ทำไมถึงต้องอยากรู้ความจริงให้ได้ล่ะ”

หมาจื่อรู้ดี เมื่อหลินชิงชิงมาถึงที่นี่ เกรงว่าเรื่องทั้งหมด ก็คงปิดไม่มิดแล้ว

“ช่างเถอะ ฉันไม่รู้จะจัดการพวกนายยังไงดี ฉันพาพวกนายไปหาลูกพี่ดีกว่า” หมาจื่อส่ายหน้า แล้วก็พาหลี่ฝางกับหลินชิงชิงและคนอื่นๆ มาที่หน้าบ้านหลังหนึ่ง

หลี่ฝางกับโหจื่อ หลังจากถูกมัดมือมัดขาแล้ว ก็ถูกส่งขึ้นไป

แน่นอนว่า พวกเขายังส่งของในมือโหจื่อ ปืนที่ควักออกมาสองกระบอกนั่น โหจื่อที่เหมือนคลังอาวุธ บนตัวจะมีปืนแค่สองกระบอกได้ยังไงล่ะ?

เมื่อมาอยู่ต่อหน้าลูกพี่หลิน ลูกพี่หลินกำลังกินสุกี้กับคนอื่นอีกหลายคน

และหนึ่งในนั้น ก็คือหญิงสาววัยกลางคนผมสั้นคนนึง

หล่อนสวมชุดสีขาวเข้าเซต มองดูแล้วเหมือนกับหลินชิงชิงสุดๆ หลินชิงชิงเมื่อเห็นหล่อน น้ำตาอุ่นๆ ก็ไหลออกมาจากดวงตาทันที: “แม่……”

ส่วนหญิงวัยกลางคนคนนั้นก็วางตะเกียบลงทันที แล้ววิ่งเข้ามาโอบกอดหลินชิงชิง: “ลูกแม่ รีบมาให้แม่ดูหน่อย……ไม่เจอกันตั้งหลายปี คิดไม่ถึงว่าจะสูงขนาดนี้แล้ว”

หญิงวัยกลางคนลูบใบหน้าหลินชิงชิง และดีใจจนน้ำตาไหล

ส่วนหน้าของลูกพี่หลิน กลับเย็นชา และก็ มีความอาฆาตเล็กน้อย

ลูกพี่หลินเงยหน้ามองหลี่ฝาง แล้วหัวเราะเหอะๆ : “คุณชายหลี่สายข่าวกว้างขวางจริงๆ ฉันหลบซ่อนซะดิบดี คิดไม่ถึงว่าจะถูกนายหาเจอจนได้”

หลี่ฝางหัวเราะ: “ก็ไม่ได้หายากเท่าไหร่นี่”

ในตอนนี้ หลี่ฝางยังคงนิ่งอยู่ เพราะว่าถ้าร้อนรน งั้นตนก็จบเห่กันพอดี

ถ้าหากตนแกล้งทำเป็นไม่กลัว บางทีอาจจะข่มลูกพี่หลินได้บ้าง

อย่างน้อยในใจหลี่ฝางก็คิดแบบนั้น

ลูกพี่หลินใช้ทิชชูเช็ดปาก แล้วพูด: “เหอะๆ เห็นที ฉันคงดูถูกตระกูลหลี่มากเกินไป”

“เห้อ คุณชายหลี่ พูดไปพูดมา นายก็เคยช่วยชีวิตฉันไว้ ฉันก็ควรจะสำนึกบุญคุณที่นายเคยช่วยฉันไว้ แล้วปล่อยนายไปครั้งนึง แต่ว่า นายก็ไม่เห็นถึงความหวังดี กลับวิ่งถ่อมาถึงรังของฉัน แบบนี้ จะให้ฉันปล่อยนายไปได้ยังไง?”

ลูกพี่หลินส่ายหน้า และพูดพลางทำสีหน้าหมดทางเลือก

ส่วนหลี่ฝางก็ขมวดคิ้วพลางพูด: “เหอะๆ นายยังกล้าจะฆ่าฉันเหรอ?”

“พ่อ พ่อฆ่าเขาไม่ได้นะ ถ้าหากพ่อฆ่าเสี่ยวฝาง งั้นลูกก็จะไม่อยู่แล้ว” หลินชิงชิงก้าวออกมา พูดกับลูกพี่หลิน

“พ่อน่าจะรู้นิสัยของลูกดี ลูกพ่อพูดอะไร ก็ทำตามนั้น” หลินชิงชิงปากแข็ง

“เด็กดี ลูกวางใจ นี่เป็นลูกเขยในอนาคต พ่อจะฆ่าเขาลงได้ยังไงกัน พ่อเอ็นดูเขาจะตายไป ดูที่นี่สิ ดีออก ป่าไม้ภูเขาลำธาร แถมยังไม่มีมลพิษ ดูที่พวกเรากินกันสิ เขียวขจีขนาดไหน ลูกเขยที่แสนดี ที่นี่ดีกว่าเมืองเอกเยอะ ตั้งแต่วันนี้ นายก็อยู่ที่นี่แล้วกันนะ”

ลูกพี่หลินมองหลี่ฝาง แล้วถาม: “เป็นยังไง?”

“หมายความว่าไง?” หลี่ฝางถาม: “นายอยากใช้ฉันเป็นตัวประกัน จากนั้นให้ลูกน้องของฉัน ทำงานร่วมกับนาย?”

“ฮ่าๆ ไม่เสียแรงที่เป็นลูกเขยของฉัน ฉลาดดีนี่ ในใจฉันคิดอะไรยังเดาออก ถูกแล้ว ตอนนี้ผู้คนจำนวนมากในเมืองเอก ทำหน้าที่เป็นตัวแทนฉัน นอกจากคนของนาย ที่ไม่ยอมซื้อของฉัน ไม่ยอมร่วมมือด้วย……ยังไงนายก็มาแล้ว พวกเรานั่งลงแล้วคุยกันดีๆ ว่าจะร่วมมือกันหาเงินยังไงดีกว่า”

ลูกพี่หลินยิ้มพลางพูด: “ลูกเขย นายก็น่าจะเห็นแล้วนะ ที่ดินฉันตรงนี้ ไม่ได้เล็กเลย ที่นายเห็นทั้งหมด มันเงินทั้งนั้นนะ”

“ฉันจะไม่ร่วมมือกับนาย” หลี่ฝางส่ายหน้าพลางพูด

“เงินสกปรกแบบนี้ ฉันไม่ต้องการ” น้ำเสียงของหลี่ฝางเด็ดขาด

ลูกพี่หลินหัวเราะเหอะๆ แล้วพูด: “ขอแค่นายอยู่ที่นี่ จะร่วมมือหรือไม่ ก็ไม่ได้อยู่ที่นายแล้ว”

“ลูกน้องของนายพวกนั้น ฉันจะไปประกาศให้รู้” ลูกพี่หลินพูด: “ที่จริงแล้ว ฉันที่สองทาง ทางแรกคือกำจัดนายทิ้งซะ แต่ทางนี้ เป็นทางที่ไม่ทิ้งหลักฐานอะไรไว้ เห็นได้ชัดว่า ทางนี้ฉันล้มเหลวแล้ว นายจับคนของฉันได้ ตอนนี้อยู่บนเครื่องบินแล้ว รอให้ถึงพรุ่งนี้เช้า ฉันก็จะกลายเป็นฆาตกรตัวจริงแล้ว”

“ดังนั้น เมื่อกี้ตอนที่กินสุกี้อยู่ ฉันก็นึกทางเลือกที่สองขึ้นมาได้ นั่นก็คือล่อนายมาที่นี่ ขังนายไว้แล้วบงการลูกน้องของนาย ให้ลูกน้องของนาย ร่วมมือกับฉันอย่างไม่มีทางเลือก หาเงินให้ฉัน”

“ฮ่าๆ คิดไม่ถึงนะ ไม่รู้ว่าฟ้าเป็นใจหรืออะไร สิ่งที่ฉันเพิ่งจะพูดไป คิดไม่ถึงว่ามันจะเป็นจริงขึ้นมา ฉันยังสงสัยอยู่ ว่าฉันฝันไปหรือเปล่า”

ลูกพี่หลินพูด: “ฉันยังไม่ได้ทำอะไร นายก็กลับถูกมัดส่งมาอยู่หน้าฉันถึงที่”

“เด็กดีของพ่อ ลูกเดินเข้ามาติดกับดักเองเลยนะ”

หลี่ฝางหรี่ตายิ้ม แล้วพูด: “พูดตามจริง ฉันไม่เชื่อมาตลอด ที่ทำร้ายฉันคนที่บงการอยู่เบื้องหลัง จะเป็นนาย”

“เป็นฉัน ฉันทำทั้งหมด เซี่ยลู่ จางเสี่ยวเฟิง เกาเสิ้ง พ่อแม่ของพวกมันเป็นฉันเองที่ทำร้ายพวกนั้นจนตาย เรื่องบนดาดฟ้านั่น ก็เป็นแผนของฉัน นอกจากเรื่องนี้ แล้วก็เรื่องที่เฉินฝูเซิงต้องเข้าคุก ก็เป็นฝีมือฉันเอง แล้วก็ เรื่องก่อนหน้านี้ที่ไอ้แมงป่องมันไปพังร้านนาย ฉันก็ช่วยอยู่เบื้องหลัง”

“วันที่ผ่านมา ร้านของนายไม่ค่อยสงบ ทั้งหมดก็เป็นฝีมือฉัน เป้าหมายของฉันมีอยู่อย่างเดียว นั่นก็คือต้องการให้นายร่วมมือกับฉัน ฉันไม่สนใจเรื่องที่จะฆ่านาย ที่จริงก็ไม่ได้อยากจะกำจัดนายทิ้ง ก็แค่ นายมันหัวแข็ง เงินตั้งมากมายไม่กอบโกย นายคิดว่าพวกมันเหมือนนายมั้ย เป็นบ้ากันหมด ดังนั้นฉันจึงสั่งสอนพวกมันไป”

ลูกพี่หลินพูดจบ จู่ๆ ก็ยิ้มมุมปาก แล้วหัวเราะเหอะๆ : “ฉันได้ยินมาว่านายเพิ่งจะไปพังร้านของท่านจวน กล้าดีนี่”

“ทำไม พังร้านของท่านจวนเสร็จ ก็คิดจะมาทำตัวบ้าๆ บอๆ บนที่ของฉันเหรอ?” สีหน้าของลูกพี่หลินค่อยๆ เย็นชาขึ้นเรื่อยๆ

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท