เมื่อเห็นหลินชิงชิงเก็บกระเป๋า เตรียมตัวจากไปในตอนนั้น หลี่ฝางก็รู้สึกว่าใจของตนเองสั่นเทาขึ้นมา
หลี่ฝางไม่เคยลนลานขนาดนี้ กลัวขนาดนี้มาก่อนเลย ไม่ว่าจะเป็นตอนที่ชีวิตตนกำลังจะจากไป หรือว่าตอนที่ลู่หลุ่ยเลิกกับตนตอนนั้น ไม่สามารถเทียบกับเรื่องครั้งนี้ได้เลย
หลี่ฝางเข้าใจดี ครั้งนี้ที่หลินชิงชิงจะจากไป คือการจากไปแล้วไปลับ
สายตาที่หลี่ฝางมองหลินชิงชิง เต็มไปด้วยความกลัวและรู้สึกผิด แต่หลินชิงชิงกลับพยักหน้า ถึงแม้จะขยับแค่เล็กน้อยเท่นั้น แค่พยักหน้าเบาๆ แต่นัยน์ตาของเธอ กับแน่วแน่อย่างหาที่เปรียบไม่ได้
หลี่ฝางลนลานหนักกว่าเก่า รู้สึกจุกอกอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน หลี่ฝางชะงักทันที และพูดอย่างหอบๆ : “พี่ชิงชิง ถ้าหากอารมณ์ไม่ดี ฉันให้เธอหยุดพักได้สักระยะนึง ให้เธอไปพักผ่อนจิตใจ เธออย่าทำให้ฉันตกใจได้มั้ย จู่ๆ ก็เก็บกระเป๋า เธอเตรียมที่จะแยกจากฉันโดยสิ้นเชิงเลยใช่มั้ย?”
หลินชิงชิงไม่ได้ตอบคำถามของหลี่ฝางตรงๆ และเดินผ่านด้านข้างหลี่ฝาง ลงไป เดินไปพูดไป: “ไปเถอะ ใกล้จะครึ่งชั่วโมงแล้ว”
เมื่อมองแผ่นหลังของหลินชิงชิงแล้ว หลี่ฝางก็รู้สึกเหมือนกับทั้งร่างถูกสูบพลังงานออกไปหมดเลย เกือบจะขาอ่อนทรุดลงไปกับพื้น
ขณะที่ลงบันได หลี่ฝางก็เจอกับโจวเจ๋ โจวเจ๋มองหลี่ฝางอย่างลนลาน แล้วถาม: “คุณชายหลี่ จะไปซานย่าจริงเหรอ?”
“ตอนนี้ชาแนลของพวกเรากำลังอยู่ในช่วงเรตติ้งดีอย่างคงที่ จู่ๆ จะประกาศไปว่าพนักงานทุกคนจะไปเที่ยวซานย่า คง……”
โจวเจ๋ขมวดคิ้ว ยังพูดไม่ทันจบ ก็ถูกหลี่ฝางพูดขัด
“ช่องของเราพัฒนาไปเร็วเกินไป ต้องแก้ไขสักหน่อย การพัฒนาที่ป่าเถื่อนพวกนั้นต้องแก้ไข พวกเน็ตไอดอลตอนนี้ ก็เกาะแต่วิธีพวกนั้นดัง เกาะพวกหยก เกาะรถBMW เกาะรถเบนซ์ดัง หรือแม้กระทั่งนัดพบทางออนไลน์ ยิ่งมากขึ้นทุกวัน”
หลี่ฝางส่ายหน้า แล้วพูด: “แบบนี้ไม่เหมาะกับการพัฒนาในระยะยาว”
โจวเจ๋พูด: “แต่มันกลับดึงดูดพวกลูกค้านะ ผู้คนต่างชอบดูแบบนี้ พวกเราก็ทำเพื่อเชิญชวนผู้คนมาดู ปรับตัวให้เข้ากับการตลาดนี้”
“นายเห็นแต่การพัฒนาแบบผิดๆ แต่กลับไม่เห็นถึงนโยบายที่ซ่อนไว้ ช่องของเรา ตอนนี้คนติดตามเริ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เป็นแบบนี้ต่อไป ไม่นานพวกเราก็จะกลายเป็นแพลตฟอร์มอันดับหนึ่งของคลิปสั้นบนโลกโซเชียล ถึงแม้มูลค่าการตลาดจะเพิ่มขึ้น แต่ก็ จะต้องถูกจับตามองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ถึงตอนนั้น พวกเราก็จะมีปัญหาใหญ่ตามมา”
“เมื่อท่าทางของเน็ตไอดอลของเรา มีผลกระทบต่อทัศนคติของเด็กวัยรุ่น จะต้องถูกจัดระเบียบแน่ๆ”
“มีบางปัญหา มีอยู่กับพวกเรามาตลอด พวกเราไม่พยายามไปจัดการ ก็จะมีคนมาคอยช่วยจัดการ ถึงตอนนั้น พวกเราก็จะพบชะตากรรมที่ต้องตรวจสอบตัวเอง ระยะเวลาอาจจะเป็นหลายวัน หลายเดือน ถ้าหนักหน่อย บางทีอาจจะถูกตรวจสอบตลอดไป ถึงตอนนั้น วันเวลาที่พวกเราพยายามและดั้นด้นมาก ก็จะสูญเปล่าไปทั้งหมด”
“แบบนั้นเป็นสิ่งที่ฉันไม่อยากเห็น และทุกคนก็ไม่อยากเห็นเหมือนกัน” หลี่ฝางพูดหน้าเข้ม
โจวเจ๋ชะงักอยู่ครู่ แล้วพูด: “แต่พวกเราก็ไม่ได้รับข่าวสารว่าจะมีการตรวจสอบอย่างเข้มงวดนี่ คุณชายหลี่ จะระวังเกินไปมั้ย?”
หลี่ฝางส่ายหน้า แล้วพูด: “ปลอดภัยไว้ก่อน ตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป ฉันเตรียมการคิดเรื่องจะเปลี่ยนแนวทางของช่อง วันนี้ พวกเรามีการติดตามแล้ว พวกเราตอนนี้คิด หาวิธีให้การเข้าชมเหล่านี้สร้างรายได้ ให้พวกพิธีกรเปลี่ยนสไตล์ นอกจากขายความสามารถแล้ว จะทำสินค้ามาก็ได้ ลุงเฉียนช่วยฉันเจรจาเรื่องสินค้ามามากแล้ว เหลือแค่เซ็นสัญญา พวกเราเซ็นไปหลายแบรนด์แล้ว ยังมีสินค้าจากต่างประเทศด้วย รับมาได้ในราคาถูกมากๆ”
“ระยะนี้ พวกเราลองให้เน็ตไอดอลเปลี่ยนแนวไปเป็นขายสินค้าออนไลน์ แต่ว่า จะขายอย่างเดียวไม่ได้นะ แม้ขายสินค้าจะทำเงินได้ แต่ก็ต้องแสดงความสามารถด้วย ฉันให้พวกนายทำสองอย่างนี้ให้ได้ หนึ่งคือการเข้าชมไม่พุ่งขึ้นอย่างพรวดพราด สองยอดขายของสินค้าต้องให้สูง ที่ซานย่ามีผู้เชี่ยวชาญเรื่องการโฆษณารอพวกนายอยู่ ให้พวกเน็ตไอดอลพวกนั้นวางใจได้ ในอนาคตรายรับของพวกเธอ ฉันรับรองว่าจะมีแต่สูงขึ้น และไม่มีทางลดลง”
หลังจากหลี่ฝางพูดจบ โจวเจ๋ก็อืม: “ช่วงนี้ก็มีหลายคนมาหาพวกเราเพื่อร่วมธุรกิจ โฆษณาเกม ปล่อยเงินกู้ และนิยายอะไรพวกนั้น……ผมกำลังหาโอกาสบอกกับคุณอยู่”
“เกมกับเงินกู้ไม่เอา นิยายยังพอคุยได้” หลี่ฝางพยักหน้า
“แต่ก็มีแรงดึงดูดใจเหมือนกัน เกมกับเงินกู้ราคาจะสูงกว่านิยายเท่านึง” โจวเจ๋พูด
หลี่ฝางขมวดคิ้ว และพูดอย่างโมโห: “นายคิดว่าฉันขาดเงินมั้ย?”
“ข้อแรก ฉันต้องการประสบการณ์ของผู้ใช้ เกมกับเงินกู้ ถึงจะให้เงินฉันมากกว่านี้ ฉันก็ไม่เอาด้วย เพราะจะทำให้ผู้ใช้ด่าเอา และก็จะทำให้มีผลกระทบไม่มีต่อผู้ใช้ ถ้าเป็นนิยาย ก็ต้องเคร่งครัดเรื่องเนื้อเรื่องให้ดี”
หลี่ฝางมองโจวเจ๋ พลางพูด: “ฉันรู้ว่านายเป็นนักธุรกิจ จุดเริ่มต้นในหลายๆ ครั้ง ก็เพื่อที่จะหาเงินมาให้ได้มากขึ้น แต่ว่า ตอนนี้นายจะต้องเปลี่ยนความคิดแล้ว ผู้ประกอบการที่แท้จริง คนที่สามารถก้าวสู่เวทีโลกได้จริงๆ ต้องไม่ใช่คนแบบนี้ เข้าใจมั้ย?”
โจวเจ๋เม้มปาก ไม่ได้พูดอะไรมาก เห็นได้ชัดว่าไม่ค่อยเห็นด้วย กับความคิดของหลี่ฝางสักเท่าไหร่
หลี่ฝางตบไปที่ไหลของโจวเจ๋แล้วพูด: “ทำตามที่ฉันบอกเถอะ แล้วก็ หาเวลากลับบ้านสักหน่อย นายกับโจวหยาง ระยะนี้ไม่ได้กลับบ้านไปเยี่ยมคุณลงกับคุณป้าเลยนี่? กลับไปเยี่ยมบ่อยๆ จะเพราะว่ายุ่งอยู่แต่กับงานไม่ได้ จนแม้แต่เวลาไปเยี่ยมพ่อแม่ ยังหาเวลาไม่ได้เลย”
โจวเจ๋พยักหน้า แล้วพูด: “ขอบคุณมากครับคุณชายหลี่”
“ตอนกลับไป ซื้อของดีๆ ติดมือไปด้วย แล้วก็ ให้น้องชายนายซื้อรถหรูๆ สักคัน พวกนายจะมาเติบโตที่เมืองเอก ต้องมีคนจับตาดูพวกนายแน่ๆ พวกนายกลับไปแบบดูดี ก็ทำให้พ่อแม่พวกนาย มีหน้ามีตา”
หลี่ฝางพูด: “คนยิ่งมีอายุ ก็ยิ่งถือหน้าตา”
หลังจากหลี่ฝางพูดกับโจวเจ๋เสร็จ ก็เดินลงบันไดมา ตั้งแต่หน้าประตู หวางเหยากำลังคุยกับหลินชิงชิง เมื่อหลี่ฝางเดินเข้าหาพวกเธอ ทั้งสองก็หยุดสนทนากันทันที
หลินชิงชิงมองเวลาแล้วพูด: “หลี่ฝาง จะถึงเวลาแล้ว”
หลี่ฝางพูดอืม หลี่ฝางจงใจเดินช้าๆ รอให้หลินชิงชิงลงไปแล้ว หลี่ฝางก็รีบวิ่งกลับเข้ามา แล้วพูด: “หวางเหยา พี่ชิงชิงพูดอะไรกับเธอ?”
“คุณชายหลี่ ฉันก็อยากจะถาม ทำไมจู่ๆ พี่ชิงชิงก็ฝากฝังอะไรไว้ตั้งเยอะ ยังให้ฉันทำหน้าที่แทนเธออีก สรุปมันเรื่องอะไรกันเหนี่ย? ทำไมฉันฟังที่พี่ชิงชิงพูด เหมือนกำลังจะจากไปอย่างนั้นแหละ?”
ใจของหลี่ฝางดาวน์ลงไปอีก ความต้องการจะไปของหลินชิงชิง มันชัดเจนขนาดนั้นเลยเหรอ?