NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 735 หลี่ฝางชนะ

บทที่ 735 หลี่ฝางชนะ

หลินชิงชิงนึกไม่ถึงเลย ว่าพ่อของตนจะขู่เธอกลับแบบนี้

พ่อลูกคู่นี้ ต่างรู้จักอีกฝ่ายอย่างลึกซึ้ง

หลินชิงชิงรู้ ว่าพ่อของตน สามารถทำได้

หรือพูดได้ว่า คำขู่ของเธอ สำหรับลูกพี่หลินแล้ว ไม่มีประโยชน์อะไรเลย แถมยังทำให้เขาหงุดหงิด จนทำร้ายหลี่ฝาง

บวกกับที่คนเป็นแม่พูด หลินชิงชิงทำได้แค่เอามีดออก แม่หลินโล่งใจ แล้วก็รีบฉกมีด มาจากมือของหลินชิงชิง: “พวกเธอสองคนพ่อลูกนี่นะ ทำอะไรกัน พวกเราสามคนครอบครัว มาเจอกันไม่ง่ายนะ ลูกสาวดันถือมีด คนเป็นพ่อก็ถือปืน จริงๆ เลย……”

แม่หลินทำหน้าเอือม แล้วรีบคว้าตัวหลินชิงชิงและพูด: “ลูกสาว แม่มีของขวัญจะให้ ลูกมากับแม่เถอะ”

หลินชิงชิงไม่ใช่เด็กสามขวบ เลยรู้ว่าแม่หลินต้องการลากเธอออกไปจากตรงนี้

แน่นอนว่าหลินชิงชิงไม่กล้าไป แต่หลี่ฝางกลับพูด: “สิ่งที่เธอควรเห็น ก็ได้เห็นหมดแล้ว ต่อจากนี้ พี่ชิงชิง เธอไม่ต้องดูหรอก”

“แต่……”

“เธอวางใจ ฉันไม่เป็นไรหรอก” หลี่ฝางยิ้มอย่างมั่นใจ แล้วพูด: “พ่อสะใภ้จะฆ่าฉันลงได้ยังไงล่ะ?”

ความจริงแล้ว ลูกพี่หลินก็ไม่กล้าฆ่าหลี่ฝางอย่างโจ่งแจ้ง

ยิ่งถ้ายังไม่รู้ข่าวว่าหลอซ่าตายไปแล้ว ลูกพี่หลินก็ไม่กล้าทำแบบนั้น

เพราะว่าฆ่าหลี่ฝาง จะถูกล้างแค้นอย่างบ้าคลั่ง

ก็เหมือนตระกูลมู่ในตอนแรก เพียงแค่ไม่กี่นาที คนทั้งหมด ชิ้นส่วนของร่างกายเกือบจะแยกออกจากกัน

ลูกพี่หลินบอกว่าไม่กลัว นั่นก็ปลอมแล้ว

ลูกพี่หลินก็หวังให้หลินชิงชิงออกไปจากที่นี่ จึงมองไปทางหลี่ฝางและพูดขึ้น: “ชิงชิง วางใจเถอะ พ่อไม่ทำร้ายหลี่ฝางหรอก”

หลินชิงชิงมองสายตาของลูกพี่หลิน เห็นได้ชัดว่าเต็มไปด้วยความไม่เชื่อใจ

“งั้นเขาล่ะ?”

หลินชิงชิงชี้ไปที่โหจื่อ แล้วพูด: “พวกเขาเป็นหนูที่พามา พ่อต้องรับประกันกับหนู ว่าจะไม่ทำร้ายชีวิตพวกเขา”

ลูกพี่หลินพยักหน้าตามน้ำ แล้วพูด: “ได้ๆๆ พ่อรับปาก”

ตอนนี้หลินชิงชิงจึงตามแรงดึงของแม่หลิน ออกจากห้องนี้ไป

ส่วนจะไปที่ไหน หลี่ฝางก็ไม่รู้เหมือนกัน

แต่เมื่อหลินชิงชิงไป สีหน้าของลูกพี่หลินก็เข้มขึ้น: “คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าพวกนายจะตามฉันจนมาถึงที่นี่ได้”

“ลูกเขย ที่จริงแล้วฉันก็ไม่ได้อยากจะฆ่านายหรอกนะ แต่แค่ นิสัยของนายมันแข็งกร้าวไปหน่อย นายไม่มีทางยอมตกลงร่วมมือกับฉัน ดังนั้นฉันถึงต้องใช้ไม้นี้”

“ลูกเขย ถ้าจะโทษ ก็ต้องโทษที่นายมีความสามารถมากไป นายคนเดียวก็ครอบคลุมพื้นที่ในเมืองเอกของพวกเราไปกว่าครึ่ง ถ้าฉันไม่กำจัดนาย นั่นก็เท่ากับว่าฉันจะต้องวางเนื้อก้อนใหญ่ไว้ และไม่มีทางกินมันเข้าท้องไปได้ ฉันทำใจไม่ได้จริงๆ”

ลูกพี่หลินถอนหายใจเฮือกใหญ่ และพูดด้วยสีหน้าหมดหนทาง

“เรื่องที่ทำร้ายคนอื่น ฉันไม่ทำหรอก แล้วก็เงินพวกนี้ ฉันก็ไม่ได้ขาดมือ” หลี่ฝางยิ้มพลางพูดอย่างนิ่งๆ

ลูกพี่หลินส่ายหน้า แล้วพูด: “ลูกเขย นายเห็นแก่ตัวเกินไปนะ นายไม่ขาด ก็ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นจะไม่ขาดเงินพวกนี้นี่ นายไม่หาเงิน แต่ก็ไม่ให้คนเบื้องล่างหาด้วย แบบนี้ไม่ดีมั้ง?”

หลี่ฝางพูด: “ไม่ดีงั้นเหรอ? ฉันคิดว่าลูกน้องของฉัน ถึงแม้จะไม่ใช่คนทำงานใสสะอาด แต่ก็ไม่ได้สกปรกเท่าไหร่ พวกเขาไม่สกปรกถึงขึ้นไปแตะธุรกิจของนาย ถ้าไม่อย่างนั้น นายก็สามารถแอบซื้อตัวพวกเขา แล้วเลี่ยงฉัน”

“ถึงยังไงฉันก็มีร้านอยู่หลายแห่ง แล้วก็ ฉันก็ไม่ได้เข้าไปจัดการ พวกเขาจะแอบลักลอบทำอะไร ก็สามารถทำได้โดยไม่ให้ฉันรู้” หลี่ฝางยิ้มพลางพูด: “ลูกพี่หลิน นายก็คงเคยลองสินะ? แต่แค่ พวกเขาไม่ยินยอม”

ลูกพี่หลินพยักหน้า แล้วพูด: “ใช่ พวกเขาไม่ยอม แต่นั่นมันเมื่อก่อน”

“แต่ในวันนี้ นายตกมาอยู่ในที่ของฉัน ฉันไม่เชื่อหรอก ว่าพวกเขาจะยังกล้าปฏิเสธฉัน” ลูกพี่หลินพูดด้วยสีหน้าเย็นชา

หลี่ฝางยิ้มนิ่งๆ : “นายคิดว่า นายจะยื้อฉันไว้ได้นานแค่ไหน?”

“ลูกเขยคิดอยากหนีออกไปงั้นเหรอ?” ลูกพี่หลินหัวเราะเหอะๆ : “รอบๆ หมู่บ้านของฉัน เต็มไปด้วยกับดักที่วางไว้ เมื่อมีคนเข้ามา ก็จะถูกพบได้ทันที ฉันรู้ว่าตระกูลหลี่ของพวกนายมีบริษัท แต่แล้วมันยังไง แต่คนของฉันก็ลาดตระเวนตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง ถ้าหากมีเครื่องบินจะมาลงที่นี่ ต้องถูกสอยร่วงแน่ๆ ดังนั้น ถึงแม้จะเป็นฮีโร่นักรบของพวกนายมาก็ไม่มีประโยชน์”

หลี่ฝางพยักหน้าแล้วพูด: “นั่นสิ ฮีโร่นักรบก็ไม่มีประโยชน์”

“แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า คนของฉัน เข้ามาไม่ได้นี่”

หลี่ฝางยิ้มพูดจนจบ และก็ควักโทรศัพท์ออกมา จากนั้นก็กดโทรออก

“นายโทรหาใคร?” ลูกพี่หลินถามอย่างร้อนใจเล็กน้อย

ในตอนนั้น ในใจของลูกพี่หลิน เต้นตุ้มๆ ต่อมๆ

หลี่ฝางหัวเราะเหอะๆ แล้วพูด: “เดี๋ยวนายก็ได้รู้แล้ว”

ในตอนที่หลี่ฝางโทรศัพท์เสร็จ ด้านนอกก็เกิดเสียงวุ่นวายขึ้น เนื่องจากเสียงวุ่นวายนั่นดังขึ้น ทันใดนั้นลูกพี่หลินก็เริ่มวิตกมากขึ้นแล้ว เขาพูดกับหมาจื่อและฉางเหมาที่อยู่ข้างกาย: “รีบไปดู มันเกิดเรื่องอะไรกันแน่”

ด้านนอก มีแสงจากเปลวไฟปรากฏขึ้น

ทันใดนั้น ดวงตาของลูกพี่หลิน ก็เปลี่ยนเป็นแดงก่ำยิ่งกว่าเดิม

จากแสงของเปลวไฟที่ลุกโชน ลูกพี่หลินก็ราวกับคนบ้า เขาโกรธจนเส้นเลือดปูดขึ้นมา

นี่มันธุรกิจของเขา เป็นชีวิตของเขา

ถ้าหากมันไหม้ไป ก็เท่ากับทำลายธุรกิจของลูกพี่หลินและเงินจำนวนนับไม่ถ้วนทันที

หลี่ฝางหัวเราะเหอะๆ แล้วพูด: “บนฟ้าไม่ได้มีฮีโร่นักรบ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าใต้ดินไม่มีนี่”

“ก่อนหน้านี้สองวัน พวกเราตรวจสอบเวลาเปลี่ยนกะเฝ้ายามของที่นี่มาอย่างชัดเจนแล้ว ฉวยโอกาสช่องว่างเวลานี้ คนของฉัน ก็ค่อยๆ คลำกันขึ้นมา แต่แค่ พวกเขาแฝงตัวอยู่ในหมู่บ้านนี้ อย่างมิดชิดเอามากๆ แค่นั้น”

เมื่อหลี่ฝางพูดจบ ลูกพี่หลินก็ทำสีหน้าโหดเหี้ยมและวิ่งเข้ามา กระชากคอเสื้อ ของหลี่ฝางขึ้นมา แล้วพูด: “นายทำลายธุรกิจของฉัน นาของฉัน นายรู้มั้ย ว่าพวกนี้มันมีค่าเท่าไหร่?”

“ฉันจะไปรู้ได้ยังไง ฉันไม่ได้ทำธุรกิจพวกนี้สักหน่อย” หลี่ฝางส่ายหน้าอย่างใจเย็น

ลูกพี่หลินทำสีหน้าโหดเหี้ยม: “พวกนี้ มันมีมูลค่าหลายพันล้านเลยนะ”

นอกจากไร่ของลูกพี่หลินแล้วด้านหลัง ยังมีโรงงานที่ใหญ่โตมากๆ ก็ถูกหลี่ฝางเผาจนหมด

ตอนนี้ ลูกพี่หลินเสียหายครั้งใหญ่เลย เขาส่งของไม่ได้ ไปสักระยะเลย

หลี่ฝางหัวเราะเหอะๆ และพูดอย่างประหลาดใจเล็กน้อย: “เงินเยอะขนาดนั้นเลยเหรอ หลายพันล้าน น่าเสียดายจริงๆ แต่ว่า นั่นมันก็ไม่ใช่เงินของฉัน ไม่เกี่ยวกับฉันซะหน่อย”

หลายพันล้าน เป็นลูกพี่หลินที่สูญเสียไป สิ่งที่เขาสูญเสียไป ยังมีความน่าเชื่อถือของเขาด้วย

เวลานานไม่สามารถเอาของส่งให้ตัวแทนของตนได้ ตัวแทนของเขา ก็ต้องไปซื้อของกับเจ้าอื่น หรือบางที อาจจะไม่ทำธุรกิจแบบนี้อีกเลยก็ได้

ดังนั้น วิธีของหลี่ฝาง เทียบเท่ากับการทำลายห่วงโซ่อุตสาหกรรมของลูกพี่หลินไปครึ่งนึง

หลี่ฝางหัวเราะเหอะๆ แล้วพูด: “เสียดายแล้ว? อยากจะฆ่าฉันแล้วสินะ”

ในตอนนี้ แม่หลินก็เดินกลับเข้ามาอีกครั้ง หล่อนเห็นเปลวไฟด้านนอก ใบหน้าก็ซีดลงทันที

“คุณคะ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทำไมถึงไฟไหม้ล่ะ แถมยังไหม้หนักเลยด้วย”

แม่หลินถามอย่างร้อนรน

ลูกพี่หลินแค่จ้องหลี่ฝางตาเขม็ง และไม่ได้พูดอะไรสักคำ

ปืนในมือของเขา ก็ชูขึ้นมาในตอนนี้ และจ่อไปที่หัวของหลี่ฝาง

ในตอนนั้น ลูกพี่หลินมีใจที่คิดจะฆ่าหลี่ฝางขึ้นมาจริงๆ ส่วนหลี่ฝางกลับพูดอย่างไม่สนใจ: “ทำไม ตอนนี้คิดอยากจะฆ่าฉันแล้วเหรอ?”

“นายทำลายทุกสิ่งทุกอย่างของฉัน หรือว่าจะไม่ให้ฉันฆ่านายเหรอ?” ลูกพี่หลินพูดอย่างเย็นชา

“สมควร แต่เสียดาย นายฆ่าฉันได้เหรอ?”

หลี่ฝางยิ้มอย่างดูถูก: “นายลองดูสิ”

ในตอนนี้ แม่หลินก็เดินเข้ามา แล้วพูดกับลูกพี่หลิน: “คุณคะ อย่าใจร้อน ฐานะของเขาไม่ธรรมดา ถ้าหากฆ่าเขา เราจะโดนล้างแค้นอย่างบ้าคลั่งเลยนะ”

“แต่มันทำลายธุรกิจของมันจนหมดสิ้น” ลูกพี่หลินกัดฟันพูด

แม่หลินพูด: “อย่าลืมล่ะ นอกจากเราจะมีไร่ที่นี่แล้ว ฝั่งฉัน ก็ยังมีอีกไร่นึง อย่างมาก ก็แบ่งจากฝั่งของฉันมาครึ่งนึงที่เมืองเอก แล้วอัพราคาขึ้นเท่านึง”

“อัพราคาเท่านึง?” ลูกพี่หลินขมวดคิ้ว

“ใช่แล้ว พวกเราฝั่งนี้เกิดเรื่องแล้ว ตัวแทนพวกนั้นใช่ว่าจะไม่เห็น พวกเราก็คิดซะว่าถือโอกาสอัพราคา พวกเขาก็พอจะเข้าได้ ถึงแม้จะไม่เข้าใจ งั้นแล้วยังไงล่ะ พวกเราทำธุรกิจผูกขาด นอกจากพวกเรา ในเมืองเอกยังมีใครกล้าทำธุรกิจนี้บ้าง?” แม่หลินคว้าไหล่ของลูกพี่หลินไว้แล้วพูด: “ถ้าคุณฆ่าเขา เกรงว่าปัญหาที่ตามมา จะใหญ่แล้วนะ”

ลูกพี่หลินจึงได้ลดปืนลง แต่ว่า ในใจของเขา ก็ยังคงทำใจยอมรับไม่ได้

หลี่ฝางทำลายน้ำพักน้ำแรงของเขา ไม่ให้หลี่ฝางชดใช้ ลูกพี่หลินก็ทำใจยอมรับไม่ได้

“เหอะๆ ”

จู่ๆ ลูกพี่หลินก็หัวเราะเหอะๆ และยกปืนขึ้นอีกครั้ง เล็งไปที่โหจื่อ

“ลูกเขยของฉัน นายทำลายธุรกิจของฉันมากมายขนาดนั้น ฉันควรจะทำให้นายเจ็บปวดถึงจะถูก” ลูกพี่หลินพูดพลางหัวเราะเสียงดัง

ที่จริงลูกพี่หลินคิดว่าหลี่ฝางจากกังวลและกลัว ถึงขั้นขอร้องอ้อนวอนแทนโหจื่อ ใครจะรู้ ว่าหลี่ฝางกลับหัวเราะเหอะๆ และดูไม่สนใจเลยสักนิด: “พอเถอะน่า ฉันไม่เจ็บปวดหรอก”

“โหจื่อก็ถือได้ว่าเป็นคนของตระกูลหลี่ของนายคนนึงนะ ฆ่าเขา นายจะพูดกับพ่อนายยังไง” ลูกพี่หลินถามขึ้น

หลี่ฝางหัวเราะเหอะๆ : “ใช่แล้ว ฆ่าเขาแล้ว ฉันก็ไปอธิบายกับพ่อไม่ได้จริงๆ แต่ว่า นายมีปัญญาฆ่าโหจื่อเหรอ?”

“ขอแนะนำนายอย่างนะ ทางที่ดีนายอย่าเอาปืน ไปจ่อหัวของโหจื่อ”

หลี่ฝางยิ้มพลางพูด

เมื่อคำของหลี่ฝางหยุดลง โหจื่อก็ขยับตัว เชือกที่มัดมือเขา ก็ถูกปลดออกทันที จากนั้นปืนหนึ่งกระบอก ก็ปรากฏบนมือของโหจื่อ

เสียงปังดังขึ้น โหจื่อยิงปืน ไปที่มือของลูกพี่หลิน

“เหอะๆ เชือกมัดแบบนี้ สามวินาทีฉันก็แก้มัดได้แล้ว” โหจื่อพูดอย่างดูถูก

โหจื่อมาจากสภาพแวดล้อมที่มีแต่ขโมย ไม่ต้องพูดถึงเชือกมัดเลย แม้แต่กุญแจล็อกมากมาย ก็ถูกโหจื่องัดได้อย่างสบาย

เมื่อโหจื่อได้จับปืนก็ตื่นขึ้น เพียงแค่ชั่วพริบตา โหจื่อก็สามารถพลิกสถานการณ์ ในตอนนี้ โหจื่อเล็งปืนไปที่หัวของลูกพี่หลิน แล้วพูด: “เมื่อกี้อยากฆ่าฉันใช่มั้ย?”

“ใช่แล้วยังไง นายดูให้ดีๆ มีปืนกี่กระบอก กำลังเล็งมาที่นายอยู่”

ลูกพี่หลินพูดจบ แม่หลินกับหลายคนที่อยู่ตรงประตู ก็ควักปืนขึ้นมา เล็งไปที่โหจื่อ

โหจื่อแค่ยิ้มอย่างชิวๆ : “แต่แล้วยังไงล่ะ ขอแค่นายอยู่ในมือฉัน คนพวกนี้ ก็ไม่กล้ายิงฉันหรอก”

หลี่ฝางพูด: “คุณพ่อตา คนเรามันเปลี่ยนแปลงกันได้ ในตอนนี้ ถ้าหากนายยอมกลับตัว บางทีฉันอาจจะปล่อยนายไปสักครั้ง”

“กลับตัว?”

“นายเห็นสองขาของฉันมั้ย? มันกลายเป็นโลหะไปแล้ว ก็เพื่อที่จะให้ได้ทั้งหมดนี้มา ฉันกลายเป็นคนพิการ ฉันยอมแลกสิ่งมากมายล่านั้นไป ตอนนี้ นายบอกให้ฉันกลับตัว ฉันถอยกลับได้เหรอ?”

ลูกพี่หลินพูดด้วยน้ำเสียงราวกับคำราม: “นายรู้มั้ยว่ามีคนกำลังของจากฉันอยู่กี่คน?”

หลี่ฝางส่ายหน้า แล้วพูด: “ปากแข็งจริงๆ”

ณ ตอนนั้น ไม่นาน โทรศัพท์ของแม่หลินก็ดังขึ้น

แม่หลินที่รับโทรศัพท์ หลังจากนั้นไม่กี่วินาที สีหน้าก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง เปลี่ยนเป็นหน้าซีดเหมือนไม่มีเลือดมาเลี้ยง

“หมดกัน”

หลังจากประโยคนั้นของแม่หลิน โทรศัพท์ในมือของหล่อน ก็ร่วงหล่นลงบนพื้นในตอนนั้น

ลูกพี่หลินรีบถามขึ้น: “เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”

แม่หลินขมวดคิ้วพลางพูด: “ที่ดินของฉัน ก็เกิดเรื่องเหมือนกัน ไร่นาที่ฉันจัดการ เมื่อกี้ เพิ่งถูกคนเผาเกลี้ยงเลย”

“อะไรนะ?”

ลูกพี่หลินถลึงตากว้าง: “ไหม้เหมือนกันเหรอ?”

“ใช่แล้ว พ่อบ้านเพิ่งโทรหาฉันเมื่อกี้ เมื่อครู่มีเฮลิคอปเตอร์โผล่มาหลายลำ จากนั้นก็ทิ้งถังน้ำมันสิบกว่าถัง จนกระจายเต็มไร่ไปหมด จากนั้นก็มีคนจุดไฟเผา ถึงแม้อยากจะดับ ก็ดับไม่อยู่แล้ว”

แม่หลินพูดอย่างเจ็บปวด: “หมดกัน พังหมด จบสิ้นหมดทุกสิ่งทุกอย่าง”

หลังจากที่แม่หลินพึมพำอย่างเจ็บปวด ก็มองลูกพี่หลินพลางพูด: “คุณคะ ยอมจำนนเถอะ ยอมรับผิดกับคุณชายหลี่ เราพวกเราไปจากที่นี่ หนีไปให้ไกล”

“เงินในบัญชีพวกเรา ก็มากพอแล้ว พวกเราสามารถไปจากที่นี่ หาเกาะๆ นึง แล้วก็อยู่อย่างสุขสบายไปทั้งชาติ” แม่หลินพูดเกลี้ยกล่อม

“ไม่ ฉันรับไม่ได้ ธุรกิจที่ฉันทำมาทั้งชีวิต หลี่ฝาง นายทำลายของฉันไปทั้งหมด ฉันจะฆ่าแก”

ลูกพี่หลินมองหลี่ฝาง แล้วพูดอย่างเย็นชา: “ยิงซะ ยิงหลี่ฝางทิ้งซะ”

หลังจากที่ลูกพี่หลินออกคำสั่ง แต่ก็ไม่มีใครฟังเขาสักคน

ถึงยังไง เขาก็ยังถูกโหจื่อจ่อปืนอยู่ ถ้าหากยิงหลี่ฝาง งั้นลูกพี่หลินจะทำยังไง?

ในฐานะลูกน้อง ลูกพี่ของตนอยู่ในกำมือคนอื่น ตนจะทำอะไรได้?

อะไรก็ทำไม่ได้ทั้งนั้น

แต่ลูกพี่หลินกลับพูดอย่างเย็นชา: “พวกนายหูหนวกกันหรือไง ฉันให้พวกนายยิงไง ใครยิงหลี่ฝาง เงินในห้องนี้ทั้งหมด ก็ตกไปเป็นของคนนั้น”

ลูกพี่หลินใช้มือข้างที่ไม่บาดเจ็บของเขา ชี้ไปที่ห้องเล็กๆ ห้องนึง

หลังจากลูกพี่หลินพูดจบ ตอนนั้นก็มีคนใจเต้นขึ้นมา ขณะที่กำลังจะเตรียมยิงหลี่ฝาง เงาร่างหุ่นสวยก็ปรากฏขึ้น ด้านหลังพวกเขาราวกับวิญญาณ

ฉึบๆ คนหลายคนถูกฟันคอทิ้ง และล้มลงไปกับพื้นเป็นคู่ๆ

หลี่ฝางมองแม่มดที่สวมชุดดำทั้งร่าง ปรากฏตัวตรงหน้า แล้วยิ้ม พลางพูด: “ถ้าเธอมาช้าไปก้าวนึง ฉันคงน็อคไปแล้ว”

“จะเป็นไปได้ยังไง ยังมีโหจื่ออยู่นะ ใครจะทำร้ายนายได้” แม่มดพูดอย่างนิ่งๆ

ในตอนนั้น มืออีกข้างของโหจื่อ ก็มีปืนอีกกระบอกปรากฏขึ้น ถึงแม้แม่มดจะไม่โผล่มา หลี่ฝางก็ไม่เป็นอันตรายใดๆ ทั้งนั้น

หลี่ฝางยิ้ม มองลูกพี่หลินพลางพูด: “คุณพ่อตา ตอนนี้ นายยอมแพ้ยัง?”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท