“ฉันก็ไม่รู้ว่าควรจะแสดงความรู้สึกในตอนนี้ออกมายังไง พ่อของฉันถูกจับ ความรู้สึกฉันดาวน์มาก ฉันรู้ว่าข้อหาของเขาไม่ใช่เบาๆ ครั้งนี้เขาถูกตำรวจจับไป เป็นไปได้มากว่าจะถูกยิงเป้า……”
หลินชิงชิงมองหลี่ฝาง พูดพลางส่ายหน้า: “ถึงแม้เขาทำผิดก็ควรจะถูกลงโทษ แต่ว่า กลับเป็นนายที่แจ้งจับเขา”
หน้าของหลี่ฝางนิ่ง: “พูดมาตั้งนาน เธอยังไม่ได้ตอบคำถามฉันตรงๆ เลย”
“ตอนนี้ความรู้สึกฉันซับซ้อนมาก……ฉันไม่อยากให้พ่อฉันตาย เสี่ยวฝาง” หลินชิงชิงเดินขึ้นหน้าไป คว้าแขนหลี่ฝางแล้วพูด: “นายช่วยเขาได้มั้ย?”
“ไม่ได้”
หลี่ฝางส่ายหน้า สูดหายใจเข้าลึกแล้วพูด: “ถึงฉันจะมีความสามารถมากแค่ไหน ฉันก็ไม่สามารถช่วยเขาออกมาได้”
“เธอก็เห็นแล้ว หมู่บ้านนี้ทั้งหมู่บ้าน เป็นของเขาหมด เขาทำความผิดร้ายแรงมาก ถ้าว่าตามกฎหมาย เกรงว่าต้องยิงเป้าเขาเป็นร้อยครั้ง นักโทษที่ทำความผิดร้ายแรงแบบนี้ ฉันจะช่วยออกมาได้ยังไง?”
หลี่ฝางพูดอย่างเอือมๆ
ในหัวหลินชิงชิงนึกภาพพ่อของตนถูกยิงเป้า ทันใดนั้นแรงทั่วร่างของเธอก็ถูกดูดออกไปหมด
หลินชิงชิงนั่งลงบนเตียง นิ่งไปครึ่งวัน
หลี่ฝางมองหลินชิงชิง แล้วพูด: “ฉันรู้ว่าเธอเสียใจมาก แต่……”
“ตอนนี้ฉันไม่อยากพูดอะไร เสี่ยวฝาง นายออกไปก่อน ได้มั้ย?” หลินชิงชิงก้มหน้าพูด
หลี่ฝางพูดแล้วก็หยุดไป หลังจากมองหลินชิงชิงไม่กี่วินาที ก็หันหลังเดินออกจากห้องไป
ตอนที่เดินออกมา โหจื่อก็ยืนรออยู่ด้านนอก
“คุยกันเป็นยังไงบ้าง?” โหจื่อถามหลี่ฝาง
หลี่ฝางส่ายหน้า แล้วพูด: “ก็ไม่ไง พี่ชิงชิงตอนนี้ไม่อยากคุยกับฉัน”
“ทำไมต้องหดหู่ขนาดนั้นด้วย ผลลัพธ์นี้ นายไม่ใช่ว่าเดาได้อยู่แล้วเหรอ? อย่างน้อย หล่อนก็ไม่ได้ตะโกนด่านาย หรือว่าให้นายตายไปพร้อมกับเธอ แบบนี้แสดงว่านายยังมีโอกาส” โหจื่อพูด
หลี่ฝางมองบนใส่โหจื่อ แล้วพูด: “พี่ชิงชิงไม่ใช่คนไม่ฟังเหตุผล”
“เหอะๆ ฟังเหตุผลแล้วยังไง ลูกพี่หลินเป็นพ่อของหล่อน แล้วก็ แม่ของหล่อนก็ถูกตำรวจรวบตัวไปเหมือนกัน ที่จริงหล่อนมีโอกาสที่จะหนี ฉันก็บอกหูเฟยเอาไว้แล้ว แต่หล่อนไม่อยากหนีเอาชีวิตรอดไปคนเดียว อยากจะอยู่เป็นเพื่อนลูกพี่หลินจนคราวสุดท้าย” โหจื่อพูด
หลี่ฝางขมวดคิ้วแล้วพูด: “แบบนี้ก็หมดกัน ช่วยไว้ไม่ได้สักคน ฉันคิดว่า อย่างน้อยถ้าฉันให้แม่หลินหนีออกไปได้ พี่ชิงชิงอาจจะเกลียดฉัน น้อยลงสักนิดนึง”
“นายให้โอกาสพวกเขาแล้ว”
โหจื่อตบไหล่หลี่ฝาง แล้วพูดปลอบ
“ความจริง ฉันไม่ได้ให้โอกาสเขาเลย นายควรจะรู้ดี ว่าลูกพี่หลินไม่มีทางรอด ใช่มั้ย?” หลี่ฝางถามโหจื่อ
ประโยคสุดท้ายของลูกพี่หลิน ถึงแม้หลี่ฝางไม่เข้าใจ แต่โหจื่อต้องเข้าแน่ๆ
โหจื่อพยักหน้า แล้วพูด: “ถูกแล้ว เขามีชีวิตอยู่ เมืองเอก รวมถึงอำเภอหลิน ตงไห่ ลูกพี่ใหญ่ของหลากหลายที่ ก็คงจะกลัว ไม่ว่าเขาจะหนีไปที่ไหน ก็จะตามไปฆ่าเขาอยู่ดี”
“ถ้าหากไร่นาพวกนี้ยังอยู่ ลูกพี่หลินก็คือต้นเงินต้นทองของพวกนั้น แต่ถ้าไร่นาพังหมด งั้นลูกพี่หลินไม่ใช่แค่ไม่ช่วยพวกนั้นหาเงิน แถมยังเป็นไปได้มากว่าจะทำร้ายพวกเขา”
โหจื่อพูด: “มู่เสี่ยวไป๋ แมงป่อง ท่านจวนคนพวกนั้น ที่เห็นดี ก็คือไร่นาและโรงงานที่อยู่เบื้องหลังลูกพี่หลิน”
“เป็นฉันที่ทำร้ายลูกพี่หลินจนตาย”
หลี่ฝางพูดอย่างโทษตัวเอง
“แต่นายช่วยคนไว้ได้มากกว่า คุณชาย ต้องคิดถึงส่วนรวม เข้าใจมั้ย? นายช่วยตำรวจจับลูกพี่หลิน ที่ถือได้ว่าเป็นคนที่ทำร้ายผู้คน คราวนี้ หูเฟยคงจะได้เลื่อนยศ เมืองเอกนี้ อำเภอหลิน ตงไห่ แม้กระทั่งอีกหลายจังหวัด ก็จะมีคนที่รอดพ้นจากการกดขี่ข่มเหงโดยลูกพี่หลิน และฮีโรที่มีส่วนช่วยประเทศนี้ นั่นก็คือนาย”
โหจื่อปลอบหลี่ฝาง แต่หลี่ฝางกลับแค่หัวเราะเหอะๆ แล้วพูด: “ฮีโร่นั่นคือพวกนาย ไม่ใช่ฉัน”
“ไม่ต้องเยินยอฉันไปสูงส่ง เป็นพวกนายที่เผาไร่นาของลูกพี่หลิน ไม่เกี่ยวอะไรกับฉันเลย ฉันเกือบ แม้กระทั่งเพราะความรู้สึกส่วนตัวของตน ทำลายแผนการของลุงเฉียน”
หลี่ฝางพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา: “แผนการในครั้งนี้ ฉันเป็นตัวถ่วงโดยสิ้นเชิง”
“คุณชาย อย่ามองในแง่ร้ายนักสิ นายเอาแต่พูดแบบนี้ ฉันจะปลอบนายยังไงล่ะ พวกเราออกไปดื่มกันหน่อยเป็นไง? ในอยู่ดังของลูกพี่หลิน ฉันเจอเหล้าดีๆ ไม่น้อยเลย” โหจื่อตาเป็นประกายอยู่ครู่
“เหล้ากี่ขวดทำนายตื่นเต้นได้ขนาดนี้?” หลี่ฝางมองบนใส่โหจื่อ: “อย่างกับคนไม่มีอนาคตเลย”
“โกดังของลูกพี่หลิน จะมีเหล้าแค่ไม่กี่ขวดได้ยังไง?”
โหจื่อพูด พลางลากแขนของหลี่ฝาง ไปที่ห้องของลูกพี่หลิน
เปิดประตูบานเล็กออก หลี่ฝางก็เข้าไปในห้องใต้ดิน แต่เมื่อเข้ามายังห้องใต้ดิน หลี่ฝางกลับถูกทองคำด้านในทำให้ตื่นตาตื่นใจ
ทองคำพวกนี้กองรวมกัน เทียบกับที่Recalling the pastแล้วเยอะกว่ามาก ไม่รู้ว่าเยอะกว่ากี่เท่า
หลี่ฝางมองทองคำพวกนี้ ก็อดกลืนน้ำลายไม่ได้ แล้วพูด: “พวกนี้ ต้องให้หูเฟย หรือว่าให้พวกเรา?”
“พูดเป็นเล่น แน่นอนว่าต้องเก็บไว้ให้พวกเราสิ หรือว่าพวกเราต้องช่วยเขาฟรีๆ กัน แล้วก็ ถึงแม้จะให้หูเฟย แล้วมีประโยชน์อะไร เขาก็เอาไปไม่ได้ ดังนั้น เมื่อกี้ฉันโทรหาเขาแล้ว เขาบอกว่า เขาขอแค่พาคนไปก็พอ ส่วนพบเจอของมีค่าอะไร ให้พวกเราจัดการกันเอง”
โหจื่อพูดพลางยิ้มเหอะๆ : “หูเฟยคนนี้อยู่เป็นเหมือนกันนี่ รอพวกเรากลับไปแล้ว จะต้องเลี้ยงเหล้าเขาหน่อย”
“เขามอบของขวัญชิ้นใหญ่ขนาดนี้ให้เรา แค่เลี้ยงเหล้าเขาเหนี่ยนะ?” หลี่ฝางมองโหจื่อ แล้วเอือมเล็กน้อย: “นายนี่ขูดเลือดขูดเนื้อไปมั้ย?”
“นายจะไปเข้าใจอะไร พวกเราให้เงินเขาได้เหรอ? ให้เงินเขา ก็เท่ากับทำร้ายเขาไม่ใช่เหรอ? ดังนั้น ความรู้สึกทั้งหมดถึงตอนนั้นก็อยู่ในเหล้าแล้ว” โหจื่อยักคิ้ว แล้วพูด: “ตอนนี้ฉันจะโทรหาคนของเรา ให้พวกเขามาลากไป”
“ยิ่งผ่านไปนานเรื่องยิ่งเยอะ”
โหจื่อพูด: “คราวนี้พวกเรา ถือได้ว่ารวยเละแล้ว”
“ลูกพี่หลินคนนี้ ไปเอาทองคำมากมายขนาดนี้มาจากไหน?” หลี่ฝางสูดหายใจเข้าลึก และพูดอย่างสงสัยเล็กน้อย
“พูดอย่างซีเรียส ทองคำพวกนี้ คงไม่ใช่ของลูกพี่หลินทั้งหมด มีบางส่วน เป็นป๋ายหม่าที่ทิ้งไว้ บวกกับของลูกพี่หลินเอง มารวมกัน ก็กลายเป็นภูเขาเล็กๆ แบบนี้ นายคิดดูนะ พวกเขาทำธุรกิจอะไร นั่นเป็นธุรกิจที่ไม่สามารถเจอแสงได้ ดังนั้นเงินของพวกเขา ไม่สามารถใส่ไว้ในธนาคารได้ ถ้าไม่ใช่เงินสด ก็ต้องเป็นทองคำ”
โหจื่อพูดอย่างตื่นเต้น: “แต่ไม่ว่าจะเป็นอะไร ทั้งหมดนี้ก็เป็นรางวัลของเราในคืนนี้ ฮี่ฮี่ หลังจากกลับประเทศ ทั้งวันเอาแต่ยุ่งๆ นี่เป็นครั้งแรกที่หาเงินได้มากมายขนาดนี้เลยนะเหนี่ย”