NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 737 รวยแล้ว

บทที่ 737 รวยแล้ว

“ฉันก็ไม่รู้ว่าควรจะแสดงความรู้สึกในตอนนี้ออกมายังไง พ่อของฉันถูกจับ ความรู้สึกฉันดาวน์มาก ฉันรู้ว่าข้อหาของเขาไม่ใช่เบาๆ ครั้งนี้เขาถูกตำรวจจับไป เป็นไปได้มากว่าจะถูกยิงเป้า……”

หลินชิงชิงมองหลี่ฝาง พูดพลางส่ายหน้า: “ถึงแม้เขาทำผิดก็ควรจะถูกลงโทษ แต่ว่า กลับเป็นนายที่แจ้งจับเขา”

หน้าของหลี่ฝางนิ่ง: “พูดมาตั้งนาน เธอยังไม่ได้ตอบคำถามฉันตรงๆ เลย”

“ตอนนี้ความรู้สึกฉันซับซ้อนมาก……ฉันไม่อยากให้พ่อฉันตาย เสี่ยวฝาง” หลินชิงชิงเดินขึ้นหน้าไป คว้าแขนหลี่ฝางแล้วพูด: “นายช่วยเขาได้มั้ย?”

“ไม่ได้”

หลี่ฝางส่ายหน้า สูดหายใจเข้าลึกแล้วพูด: “ถึงฉันจะมีความสามารถมากแค่ไหน ฉันก็ไม่สามารถช่วยเขาออกมาได้”

“เธอก็เห็นแล้ว หมู่บ้านนี้ทั้งหมู่บ้าน เป็นของเขาหมด เขาทำความผิดร้ายแรงมาก ถ้าว่าตามกฎหมาย เกรงว่าต้องยิงเป้าเขาเป็นร้อยครั้ง นักโทษที่ทำความผิดร้ายแรงแบบนี้ ฉันจะช่วยออกมาได้ยังไง?”

หลี่ฝางพูดอย่างเอือมๆ

ในหัวหลินชิงชิงนึกภาพพ่อของตนถูกยิงเป้า ทันใดนั้นแรงทั่วร่างของเธอก็ถูกดูดออกไปหมด

หลินชิงชิงนั่งลงบนเตียง นิ่งไปครึ่งวัน

หลี่ฝางมองหลินชิงชิง แล้วพูด: “ฉันรู้ว่าเธอเสียใจมาก แต่……”

“ตอนนี้ฉันไม่อยากพูดอะไร เสี่ยวฝาง นายออกไปก่อน ได้มั้ย?” หลินชิงชิงก้มหน้าพูด

หลี่ฝางพูดแล้วก็หยุดไป หลังจากมองหลินชิงชิงไม่กี่วินาที ก็หันหลังเดินออกจากห้องไป

ตอนที่เดินออกมา โหจื่อก็ยืนรออยู่ด้านนอก

“คุยกันเป็นยังไงบ้าง?” โหจื่อถามหลี่ฝาง

หลี่ฝางส่ายหน้า แล้วพูด: “ก็ไม่ไง พี่ชิงชิงตอนนี้ไม่อยากคุยกับฉัน”

“ทำไมต้องหดหู่ขนาดนั้นด้วย ผลลัพธ์นี้ นายไม่ใช่ว่าเดาได้อยู่แล้วเหรอ? อย่างน้อย หล่อนก็ไม่ได้ตะโกนด่านาย หรือว่าให้นายตายไปพร้อมกับเธอ แบบนี้แสดงว่านายยังมีโอกาส” โหจื่อพูด

หลี่ฝางมองบนใส่โหจื่อ แล้วพูด: “พี่ชิงชิงไม่ใช่คนไม่ฟังเหตุผล”

“เหอะๆ ฟังเหตุผลแล้วยังไง ลูกพี่หลินเป็นพ่อของหล่อน แล้วก็ แม่ของหล่อนก็ถูกตำรวจรวบตัวไปเหมือนกัน ที่จริงหล่อนมีโอกาสที่จะหนี ฉันก็บอกหูเฟยเอาไว้แล้ว แต่หล่อนไม่อยากหนีเอาชีวิตรอดไปคนเดียว อยากจะอยู่เป็นเพื่อนลูกพี่หลินจนคราวสุดท้าย” โหจื่อพูด

หลี่ฝางขมวดคิ้วแล้วพูด: “แบบนี้ก็หมดกัน ช่วยไว้ไม่ได้สักคน ฉันคิดว่า อย่างน้อยถ้าฉันให้แม่หลินหนีออกไปได้ พี่ชิงชิงอาจจะเกลียดฉัน น้อยลงสักนิดนึง”

“นายให้โอกาสพวกเขาแล้ว”

โหจื่อตบไหล่หลี่ฝาง แล้วพูดปลอบ

“ความจริง ฉันไม่ได้ให้โอกาสเขาเลย นายควรจะรู้ดี ว่าลูกพี่หลินไม่มีทางรอด ใช่มั้ย?” หลี่ฝางถามโหจื่อ

ประโยคสุดท้ายของลูกพี่หลิน ถึงแม้หลี่ฝางไม่เข้าใจ แต่โหจื่อต้องเข้าแน่ๆ

โหจื่อพยักหน้า แล้วพูด: “ถูกแล้ว เขามีชีวิตอยู่ เมืองเอก รวมถึงอำเภอหลิน ตงไห่ ลูกพี่ใหญ่ของหลากหลายที่ ก็คงจะกลัว ไม่ว่าเขาจะหนีไปที่ไหน ก็จะตามไปฆ่าเขาอยู่ดี”

“ถ้าหากไร่นาพวกนี้ยังอยู่ ลูกพี่หลินก็คือต้นเงินต้นทองของพวกนั้น แต่ถ้าไร่นาพังหมด งั้นลูกพี่หลินไม่ใช่แค่ไม่ช่วยพวกนั้นหาเงิน แถมยังเป็นไปได้มากว่าจะทำร้ายพวกเขา”

โหจื่อพูด: “มู่เสี่ยวไป๋ แมงป่อง ท่านจวนคนพวกนั้น ที่เห็นดี ก็คือไร่นาและโรงงานที่อยู่เบื้องหลังลูกพี่หลิน”

“เป็นฉันที่ทำร้ายลูกพี่หลินจนตาย”

หลี่ฝางพูดอย่างโทษตัวเอง

“แต่นายช่วยคนไว้ได้มากกว่า คุณชาย ต้องคิดถึงส่วนรวม เข้าใจมั้ย? นายช่วยตำรวจจับลูกพี่หลิน ที่ถือได้ว่าเป็นคนที่ทำร้ายผู้คน คราวนี้ หูเฟยคงจะได้เลื่อนยศ เมืองเอกนี้ อำเภอหลิน ตงไห่ แม้กระทั่งอีกหลายจังหวัด ก็จะมีคนที่รอดพ้นจากการกดขี่ข่มเหงโดยลูกพี่หลิน และฮีโรที่มีส่วนช่วยประเทศนี้ นั่นก็คือนาย”

โหจื่อปลอบหลี่ฝาง แต่หลี่ฝางกลับแค่หัวเราะเหอะๆ แล้วพูด: “ฮีโร่นั่นคือพวกนาย ไม่ใช่ฉัน”

“ไม่ต้องเยินยอฉันไปสูงส่ง เป็นพวกนายที่เผาไร่นาของลูกพี่หลิน ไม่เกี่ยวอะไรกับฉันเลย ฉันเกือบ แม้กระทั่งเพราะความรู้สึกส่วนตัวของตน ทำลายแผนการของลุงเฉียน”

หลี่ฝางพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา: “แผนการในครั้งนี้ ฉันเป็นตัวถ่วงโดยสิ้นเชิง”

“คุณชาย อย่ามองในแง่ร้ายนักสิ นายเอาแต่พูดแบบนี้ ฉันจะปลอบนายยังไงล่ะ พวกเราออกไปดื่มกันหน่อยเป็นไง? ในอยู่ดังของลูกพี่หลิน ฉันเจอเหล้าดีๆ ไม่น้อยเลย” โหจื่อตาเป็นประกายอยู่ครู่

“เหล้ากี่ขวดทำนายตื่นเต้นได้ขนาดนี้?” หลี่ฝางมองบนใส่โหจื่อ: “อย่างกับคนไม่มีอนาคตเลย”

“โกดังของลูกพี่หลิน จะมีเหล้าแค่ไม่กี่ขวดได้ยังไง?”

โหจื่อพูด พลางลากแขนของหลี่ฝาง ไปที่ห้องของลูกพี่หลิน

เปิดประตูบานเล็กออก หลี่ฝางก็เข้าไปในห้องใต้ดิน แต่เมื่อเข้ามายังห้องใต้ดิน หลี่ฝางกลับถูกทองคำด้านในทำให้ตื่นตาตื่นใจ

ทองคำพวกนี้กองรวมกัน เทียบกับที่Recalling the pastแล้วเยอะกว่ามาก ไม่รู้ว่าเยอะกว่ากี่เท่า

หลี่ฝางมองทองคำพวกนี้ ก็อดกลืนน้ำลายไม่ได้ แล้วพูด: “พวกนี้ ต้องให้หูเฟย หรือว่าให้พวกเรา?”

“พูดเป็นเล่น แน่นอนว่าต้องเก็บไว้ให้พวกเราสิ หรือว่าพวกเราต้องช่วยเขาฟรีๆ กัน แล้วก็ ถึงแม้จะให้หูเฟย แล้วมีประโยชน์อะไร เขาก็เอาไปไม่ได้ ดังนั้น เมื่อกี้ฉันโทรหาเขาแล้ว เขาบอกว่า เขาขอแค่พาคนไปก็พอ ส่วนพบเจอของมีค่าอะไร ให้พวกเราจัดการกันเอง”

โหจื่อพูดพลางยิ้มเหอะๆ : “หูเฟยคนนี้อยู่เป็นเหมือนกันนี่ รอพวกเรากลับไปแล้ว จะต้องเลี้ยงเหล้าเขาหน่อย”

“เขามอบของขวัญชิ้นใหญ่ขนาดนี้ให้เรา แค่เลี้ยงเหล้าเขาเหนี่ยนะ?” หลี่ฝางมองโหจื่อ แล้วเอือมเล็กน้อย: “นายนี่ขูดเลือดขูดเนื้อไปมั้ย?”

“นายจะไปเข้าใจอะไร พวกเราให้เงินเขาได้เหรอ? ให้เงินเขา ก็เท่ากับทำร้ายเขาไม่ใช่เหรอ? ดังนั้น ความรู้สึกทั้งหมดถึงตอนนั้นก็อยู่ในเหล้าแล้ว” โหจื่อยักคิ้ว แล้วพูด: “ตอนนี้ฉันจะโทรหาคนของเรา ให้พวกเขามาลากไป”

“ยิ่งผ่านไปนานเรื่องยิ่งเยอะ”

โหจื่อพูด: “คราวนี้พวกเรา ถือได้ว่ารวยเละแล้ว”

“ลูกพี่หลินคนนี้ ไปเอาทองคำมากมายขนาดนี้มาจากไหน?” หลี่ฝางสูดหายใจเข้าลึก และพูดอย่างสงสัยเล็กน้อย

“พูดอย่างซีเรียส ทองคำพวกนี้ คงไม่ใช่ของลูกพี่หลินทั้งหมด มีบางส่วน เป็นป๋ายหม่าที่ทิ้งไว้ บวกกับของลูกพี่หลินเอง มารวมกัน ก็กลายเป็นภูเขาเล็กๆ แบบนี้ นายคิดดูนะ พวกเขาทำธุรกิจอะไร นั่นเป็นธุรกิจที่ไม่สามารถเจอแสงได้ ดังนั้นเงินของพวกเขา ไม่สามารถใส่ไว้ในธนาคารได้ ถ้าไม่ใช่เงินสด ก็ต้องเป็นทองคำ”

โหจื่อพูดอย่างตื่นเต้น: “แต่ไม่ว่าจะเป็นอะไร ทั้งหมดนี้ก็เป็นรางวัลของเราในคืนนี้ ฮี่ฮี่ หลังจากกลับประเทศ ทั้งวันเอาแต่ยุ่งๆ นี่เป็นครั้งแรกที่หาเงินได้มากมายขนาดนี้เลยนะเหนี่ย”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท