NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 740 ลูกพี่หลินตายแล้ว

บทที่ 740 ลูกพี่หลินตายแล้ว

“ถ้าหากพี่ชิงชิงจะไปจริงๆ เธอก็รับช่วงต่อเถอะ” หลี่ฝางถอนหายใจ แล้วพูดอย่างหมดหนทาง

งานของพี่ชิงชิง มันยุ่งยากมากๆ นอกจากการช่วยดูแผนปฏิบัติการของบริษัท และการดูแลกิจการบริษัท ยังต้องคอยดูแลเรื่องอาหารการกินให้พวกสาวๆ เน็ตไอดอล

พวกเรื่องรายละเอียดหยิบย่อยพวกนั้น โจวหยางกับโจวเจ๋ที่เป็นผู้ชายสองคน ก็ไม่ค่อยเข้าใจนัก

หวางเหยาเป็นผู้หญิง และยังเป็นคนที่ไอดอลคนแรกที่เซ็นสัญญากับหลี่ฝาง ก็เลยได้รับหน้าที่นี้ไปตามธรรมชาติ

สักพักนึง หลี่ฝางก็ลงจากภูเขา หลินชิงชิงในตอนนั้น ก็นั่งอยู่บนรถแล้ว ส่วนโหจื่อก็ยืนอยู่ข้างรถ ด้วยสีหน้านิ่งๆ

“ทำใจให้เธอไปไม่ได้?” โหจื่อมองหลินชิงชิง แล้วถาม

หลี่ฝางพยักหน้า แล้วพูด: “ถ้าหากทำได้ จะจะยอมไม่ไปแตะลูกพี่หลิน”

“ฉันเสียใจ” หลี่ฝางพูดด้วยสีหน้าเศร้าหมอง: “ถึงแม้ฉันจะเตรียมรับมือกับสถานการณ์ที่แย่ที่สุดไว้แล้ว แต่อยู่ๆ เจอผลลัพธ์แบบนี้ ฉันถึงได้รู้ ว่าฉันรับมันไม่ไหว”

โหจื่อส่ายหน้า แล้วพูด: “บนโลกนี้ ไม่มียารักษาความเสียดายหรอกนะ แล้วก็ ลูกพี่หลินตะปูชิ้นนั้น พวกเราจำเป็นต้องถอนออก ถึงแม้นายจะไม่ลงมือ เมื่อลูกพี่ใหญ่กลับมา ก็ต้องจัดการอยู่ดี”

“แบบนี้ก็ดีกว่าฉันลงมือเองมากเลย เป็นแบบนั้นอย่างน้อย ความสัมพันธ์ของฉันกับพี่ชิงชิง บางทีอาจจะยังดีๆ กันอยู่ แต่ในวันนี้ดูท่า……เฮ้อ”

หลี่ฝางถอนหายใจ แล้วพูดอย่างช่วยไม่ได้: “ช่างเถอะ ขึ้นรถเถอะ เรื่องมันก็เกิดไปแล้ว พูดอะไรมากไป จะมีประโยชน์อะไร?”

หลังจากขึ้นรถ โหจื่อก็หันมา ขณะที่กำลังจะอธิบายให้หลินชิงชิงฟัง หลี่ฝางกับมองบนใส่โหจื่อ แล้วพูด: “ขับรถเถอะ ไม่ต้องพูดแล้ว”

โหจื่อมองหลี่ฝาง คำพูดที่อยากจะพูด ก็กลืนเข้าไปทันที

โหจื่อที่เงียบอยู่ ก็เคลื่อนรถออกไป

หลังจากนั้นสิบนาที โหจื่อก็หยุดรถ แล้วพูด: “ถึงแล้ว”

หลินชิงชิงเปิดประตูรถออกไปเอง และลงจากรถ ในตอนนั้น หลี่ฝางไม่ได้ตามไปด้วย ทำแค่เรียกหูเฟยออกมา ให้พาหลินชิงชิงเข้าไป

โหจื่อควักบุหรี่ขึ้นมาซองนึง แล้วยื่นให้หลี่ฝางหนึ่งมวน และถาม: “ทำไมนายไม่ให้ฉันพูด? ที่จริง นายอธิบายกับเธอดีๆ ก็ได้ บอกเธอ ว่าแท้จริงนายไม่ได้ต้องการจะทำร้ายลูกพี่หลินกับแม่ของเธอ ในแผนของนาย นายวางไว้ว่าจะไว้ชีวิตพวกเขาไป”

หลี่ฝางหัวเราะเหอะๆ แล้วพูดด้วยสีหน้าขมขื่น: “ช่างเถอะ อธิบายกับไม่อธิบาย ความจริงก็ไม่ได้มีอะไรต่างกันเท่าไหร่ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่เธอจะเชื่อหรือไม่เชื่อเรื่องที่นายพูดไปทั้งหมด……ที่ฉันเจ็บที่สุดในตอนนี้ก็คือ พี่ชิงชิงจะจากไปอย่างเด็ดขาดเพียงนี้”

“ดูเธอนิ่งมากๆ ราวกับว่า เธอทำใจไปจากฉันได้อย่างง่ายๆ”

หลี่ฝางขมวดคิ้วแล้วพูด นี่เป็นสิ่งที่หลี่ฝางเจ็บที่สุด

ส่วนโหจื่อกลับพูดว่า: “อายุของเธอมากกว่านาย วิธีจัดการกับปัญหา ต้องเป็นผู้ใหญ่มากกว่านาย บางที เด็กๆ เจอเรื่องอะไรก็จะ ดึงดราม่า ร้องไห้ฟูมฟาย โหวกเหวกโวยวาย แต่วิธีการจัดการปัญหาของผู้ใหญ่ ก็คือนิ่งๆ แบบนี้”

“นายควรจะอธิบายให้เธอฟังสักครั้ง” โหจื่อพูดแนะนำ

หลี่ฝางขมวดคิ้ว แล้วพูด: “แต่ยังไงฉันก็ทำร้ายลูกพี่หลินอยู่ดี”

“หลังจากนี้ไม่นานลูกพี่หลิน ก็คงจะถูกโทษยิงเป้าประหารใช่มั้ย?” หลี่ฝางถาม

โหจื่อพยักหน้า แล้วพูด: “โทษของเขาร้ายแรงมาก ไม่มีทางผ่อนผันได้เลย เกรงว่าจะถูกตัดสินโทษทันที”

เมื่อเสียงของโหจื่อหยุดลง จู่ๆ ด้านในก็มีเสียงปืนดังขึ้น โหจื่อที่ความรู้สึกไวก็ขมวดคิ้วทันที แล้วพูด: “เกิดเรื่องแล้ว ลงไปดูกัน”

หลี่ฝางพูดอืม รีบเปิดประตูรถ และวิ่งเข้าไป

หลังจากวิ่งพุ่งเข้ามา หลี่ฝางก็พูดคนหลายคนขวางไว้ หลังจากนั้นประมาณหนึ่งนาที หูเฟยก็เดินออกมา ด้วยสีหน้าลำบากใจ หลี่ฝางรีบถามขึ้น: “เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”

“ลูกพี่หลินตายแล้ว” หูเฟยขมวดคิ้ว และพูดด้วยสีหน้าเข้ม: “เมื่อกี้ตอนที่ฉันให้เพื่อนร่วมงานฉันนำตัวลูกพี่หลินออกมา มีไอ้บ้าคนนึงจู่ๆ ก็เข้ามาแย่งปืนเพื่อนฉันไป และลั่นไกปืน ใส่หัวลูกพี่หลิน”

“อะไรนะ?” สีหน้าของหลี่ฝาง ช็อกอยู่ครู่

“ลูกพี่หลินถูกฆ่าเหรอ?” หลี่ฝางพูดอย่างหอบๆ : “ยังไงกันเหนี่ย คนที่ฆ่าลูกพี่หลิน สรุปแล้วเป็นใคร?”

“เป็นขโมยคนนึง ปกติก็ไม่ใช่คนหัวรุนแรง ดูปกติทุกอย่าง ในห้องของลูกพี่หลิน มีอยู่สามคนในตอนนี้ ส่วนอีกคน ก็เป็นคนแก่คนนึง ฉันคิดไม่ถึงเลย ฉันระวังมากขนาดนี้แล้ว ยังถูกฉวยโอกาส นี่มันปัญหาใหญ่แล้ว ที่จริงแล้วฉันต้องส่งตัวลูกพี่หลินใหญ่เบื้องบน เบื้องบนกำลังนำรถมารับตัวไป สรุป ลูกพี่หลินตายแล้ว ฉันไม่รู้ว่าจะพูดกับเบื้องบนยังไงเลยเหนี่ย”

หูเฟยพูดด้วยสีหน้าลำบากใจ

หลี่ฝางรีบถาม: “แล้วพี่ชิงชิงล่ะ เธอเป็นยังไงบ้าง?”

หลี่ฝางมองไปที่กระเป๋าเดินทางของหลินชิงชิงตรงหน้าประตู และกวาดสายตารอบห้อง แต่ก็ไม่พบเงาของหลินชิงชิง ทันใดนั้นหลี่ฝางก็ร้อนรนทันที

หูเฟยชี้ไปที่ด้านใน แล้วพูด: “หล่อนร้องไห้อยู่ด้านใน ฉันกำลังพาเธอเข้าไป คิดไม่ถึงเลย ว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ เธอน่าสงสารจริงๆ แต่ว่า เรื่องนี้จะช้าจะเร็ว ลูกพี่หลินก็อยู่ได้อีกไม่นาน อย่างมากก็รอเวลาไต่สวนไม่กี่ครั้ง”

หลี่ฝางมองหูเฟย แล้วถามอย่างขอร้อง: “ฉันเข้าไปดูเธอได้มั้ย?”

หูเฟยพยักหน้า จากนั้นก็ปัดมือใส่คนข้างหลี่ฝาง หมายความว่าให้ปล่อยเข้ามา ต่อมา หลี่ฝางก็วิ่งเข้าไปด้านใน เมื่อหาหลินชิงชิงพบ หลี่ฝางก็เห็นหลินชิงชิงกำลังกอดศพของลูกพี่หลินอยู่ กอดไปร้องไห้ไป

ส่วนอีกฝั่ง ก็เห็นผู้ชายที่ดูอ่อนแอสุดๆ คนนึง คุกเข่าอยู่ตรงนั้น และก็กุมหัวอยู่

หลี่ฝางมองชายคนนั้น และเดินเข้าไป: “นายเหรอที่ฆ่าลูกพี่หลิน?”

“คุณชายหลี่ เป็นเขาที่แย่งปืนไป แล้วฆ่าลูกพี่หลิน” ไม่รอให้ขโมยคนนั้นตอบ ก็มีคนพูดขึ้น

หลี่ฝางมองคนๆ นั้นอย่างไม่สบอารมณ์ แล้วพูด: “แค่ปืนทำไมนายยังดูให้ดีไม่ได้”

“ผม……ผมไม่ทันระวัง ยิ่งคิดไม่ถึงว่าจู่ๆ เขาจะแย่งปืนผมไป” คนๆ นั้นขมวดคิ้ว สายตาปริบๆ ราวกับว่าร้อนใจ ต่อมาเขาก็ฟาด ขโมยคนนั้น

หลี่ฝางมองขโมยคนนั้น แล้วถาม: “ใครบงการนายมา?”

“ไม่ต้องถามฉัน ฉันจะไม่พูดอะไรทั้งนั้น นายฆ่าฉันเถอะ ฉันไม่อยากอยู่แล้ว” ขโมยคนนั้นนัยน์ตาเลิ่กลั่กพลางพูด

หลี่ฝางขมวดคิ้วแน่น ขโมยคนนี้ถึงกับอยากจะตาย แสดงว่าเขาจะต้องโดนข่มขู่อะไรมาแน่ และคนที่สามารถติดต่อเขาได้ ก็มีอยู่ไม่กี่คน

หลี่ฝางเงยหน้า มองเพื่อนร่วมงานของหูเฟย ด้วยสายตาดุร้ายสุดๆ

ในตอนนั้น หลี่ฝางสงสัยคนๆ นี้เล็กน้อย ว่าเขาที่จงใจไม่ระวัง ให้ขโมยคนนั้นขโมยปืนของเขา และยังข่มขู่ขโมยคนนั้นด้วย……

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท