NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 741 ของที่ลูกพี่หลินทิ้งไว้

บทที่ 741 ของที่ลูกพี่หลินทิ้งไว้

แต่ว่าหลี่ฝางก็ไม่มีหลักฐานอะไร……

ขโมยคนนี้ตอนนี้ตกใจจนความกล้าหายไปหมด จนกระทั่งอ้อนวอนขอความตาย ในตอนนี้ อยากให้เขาเอ่ยปาก เป็นเรื่องที่ไม่สามารถเป็นไปได้เลย

“คุณชายหลี่ วางใจเถอะ เรื่องนี้ พวกเราจะต้องตรวจสอบให้ชัดเจน และหาคำอธิบายกับคุณให้ได้” เพื่อนร่วมงานของหูเฟยพูดขึ้น

หลี่ฝางไม่ได้สนใจเขา และก้าวเดิน ไปยังด้านหน้าหลินชิงชิง ตบไปที่ไหล่ของหลินชิงชิง แล้วพูด: “เสียใจด้วยนะ……”

น้ำตาของหลินชิงชิงก็ไม่ได้หยุดลง เธอไม่ได้เหมือนลู่หลุ่ยที่ร้องไห้โฮกับหลี่ฝาง แต่เธอยังคงเอี้ยวไหล่ ใช้วิธีปฏิเสธอย่างมีชั้นเชิง ให้หลี่ฝางเอามือออกไป

ในตอนนี้ หลินชิงชิงไม่อยากได้รับจากปลอบใจที่สุด โดยเฉพาะจากหลี่ฝาง

ไม่ว่าลูกพี่หลินจะเลวขนาดไหน ก็ยังเป็นพ่อของหลินชิงชิง ให้กำเนิดเธอ เลี้ยงเธอมา เป็นพ่อที่เอ็นดูเธอมาทั้งชีวิต

บนโลกนี้ ใครเป็นคนที่สนิทกับหลินชิงชิงที่สุด นั่นต้องไม่ใช่หลี่ฝางแน่ แต่เป็นลูกพี่หลิน

ถึงแม้เมื่อก่อน หลินชิงชิงกับลูกพี่หลินจะอยู่คนละฝ่ายกันมาโดยตลอด แต่เลือดก็ย่อมข้นกว่าน้ำความสัมพันธ์พ่อลูก ไม่มีทางเปลี่ยนแปลง

หลินชิงชิงร้องไห้อยู่นานมาก ที่จริงมีคนจะเข้ามาห้าม แต่ก็ถูกหลี่ฝางขวางไว้……

จนเมื่อคนเบื้องบนมา หลินชิงชิงก็ถูกกันตัวออกไป คนคิ้วเข้าคนนึงมาถึงหน้าลูกพี่หลิน แล้วใช้มือแตะจมูกเขาดูลมหายใจของเขา สีหน้าของเขาก็โหดร้ายขึ้นมา: “เกิดอะไรขึ้น คนไปไหน? ฉันบอกให้นายดูแลเขาไว้ให้ดีไม่ใช่เหรอ? ตอนนี้นายเอาคนตายมาให้ฉัน นี่มันหมายความว่าอะไร?”

“นายรู้บ้างมั้ยว่าตัวเขา กุมหลักฐานเอาไว้ขนาดไหน?” คนคิ้วเข้มมองหน้าหูเฟย แล้วดุ

หูเฟยไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลย แค่ก้มหน้าก้มตาฟัง คนคิ้วหนาใช้นิ้วชี้ไปที่หัวของเขา แล้วต่อว่า

หลังจากด่าไปหลายนาที อารมณ์ของคนคิ้วหนาก็เย็นลง และจากไป

คนคิ้วหนามาเสียเที่ยว ส่วนหูเฟยก็งานเข้าเพราะเรื่องนี้

หลี่ฝางมองหูเฟย แล้วถาม: “ภรรยาของลูกพี่หลินล่ะ?”

“หล่อน? ถูกพาตัวไปแล้ว เพราะว่าหล่อนไม่ใช่คนในพื้นที่เรา ดังนั้น คนจากอีกฝั่ง ก็มาพาตัวหล่อนไปแล้ว”

หูเฟยพูดอย่างลำบากใจ: “ฉันคิดว่า อีกครู่เรื่องที่จะเจอหล่อน คงจะไม่ใช่เรื่องง่ายแล้ว”

“ลูกพี่หลินเกิดเรื่องแบบนี้ หล่อนจะต้องถูกจับตามองอย่างเข้มงวดขึ้นไปอีก คนปกติ ถึงแม้จะเป็นฉัน ก็คงจะเจอเธอไม่ได้”

หลี่ฝางถอนหายใจ และมองไปที่หลินชิงชิงที่อยู่ด้านข้าง แล้วพูด: “นายช่วยฉันคิดหาวิธี แล้วฉัน ก็จะคิดหาวิธีดู”

หูเฟยพยักหน้า ในตอนนั้น หลินชิงชิงก็เดินมายังด้านหน้าของหลี่ฝาง

“หลี่ฝาง ฉันอยากพูดกับนายหน่อย”

หลี่ฝางได้ยินประโยคนี้ของหลินชิงชิง ความรู้สึกเหมือนลอยขึ้นสวรรค์ทันที รู้สึกดีสุดๆ

หลี่ฝางคิดว่า ตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป หลินชิงชิงจะไม่ยอมคุยกับเขาแล้ว หลี่ฝางพยักหน้า และออกจากห้องไปกับหลินชิงชิง เมื่อมาถึงที่ปลอดโปร่งมากๆ

หลี่ฝางมอง หลินชิงชิงหยิบกระดาษออกมาหนึ่งแผ่น แล้วพูด: “นี่เป็นสิ่งที่ฉันล้วงออกมาจากแขนเสื้อออกพ่อ”

“เมื่อกี้ฉันอ่านแล้ว เป็นใบรายชื่อ ฉันเชื่อว่า น่าจะมีประโยชน์กับนาย” หลินชิงชิงยื่นกระดาษให้หลี่ฝาง แต่หลี่ฝางไม่ได้รับ: “พี่ชิงชิง เรียกฉันออกมา เพื่อจะบอกฉันเรื่องนี้เหรอ?”

อยู่ๆ หลี่ฝางก็เปลี่ยนเป็นหดหู่อีกครั้ง หลินชิงชิงพยักหน้า แล้วพูด: “ใช่ ที่จริงฉันคิดจะให้หูเฟย แต่ว่า คิดไปคิดมา ให้นายไว้ดีกว่า ส่วนนายจะให้ใครนั้น ก็ไม่เกี่ยวกับฉันแล้ว”

หลินชิงชิงพูดจบ ก็พูดเสริม: “หลังจากนี้รักษาตัวด้วยนะ”

“ประโยคที่ฉันไม่อยากได้ยินที่สุด ก็ได้ยินมันแล้ว” หลี่ฝางสูดหายใจเข้าลึก พลางมองหลินชิงชิง แล้วถาม: “เธอจะไปไหน?”

“ไกลสุดขอบฟ้า” หลินชิงชิงตอบหลี่ฝางอย่างกำกวม ไม่มีอะไรมากกว่าอยากให้หลังจากนี้หลี่ฝางไม่ต้องตามหาเธอ

หลี่ฝางก็เข้าใจความหมายของหลินชิงชิง จึงแค่พยักหน้า แล้วพูด: “ฉันหวังว่าในอนาคต เธอจะมีความสุขนะ”

หลินชิงชิงไม่ได้พูดอะไร แค่หันหลังหยิบกระเป๋าเดินทาง แล้วจากไป

เรียกรถแท็กซี่จากหน้าประตู หลี่ฝางมองรถแท็กซี่ค่อยๆ หายไปจากสายตาของตน เขายังคงไม่กะพริบตา

หลินชิงชิง จากไปแบบนี้น่ะเหรอ ในใจหลี่ฝาง เหมือนกับว่ามีบางอย่างขาดหาย

ในตอนนี้ จู่ๆ หลี่ฝางก็ไม่รู้ว่าควรทำยังไง เขานั่งลงก้นติดพื้น แล้วหัวเราะเหมือนคนโง่

ตนช่วยประชาชนไม่ให้ได้รับอันตราย แต่เหตุนี้ กลับทำให้สูญเสียผู้หญิงที่ตนรัก……

โหจื่อกับหูเฟย ก็เข้ามาหาหลี่ฝางพร้อมกัน ที่จริงหลี่ฝางอยากจะให้กระดาษแผ่นนั้นกับหูเฟย ถึงยังไงหูเฟยเมื่อกี้ก็ถูกคนคิ้วหนานั่นด่าจนเช็ดเม็ด……

หลี่ฝางรู้ว่า คนคิ้วหนาคนนั้นอยากได้ แต่ว่าความลับในมือของลูกพี่หลิน ส่วนกระดาษแผ่นนี้ น่าจะเป็นความลับของลูกพี่หลินสินะ?

ขอแค่เอากระดาษแผ่นนี้ให้หูเฟย ก็เท่ากับหูเฟยได้ผลงานใหญ่เลย แต่ขณะที่หลี่ฝางกำลังจะยื่นออกไป โหจื่อกลับยื่นบุหรี่มาให้หลี่ฝางมวนนึง แล้วพูด: “คุณชาย ดูดบุหรี่กัน”

หลี่ฝางมองไปที่อุ้งมือ กระดาษที่อยู่ในมือนั้น กลับไม่มีแล้ว

“พี่หูเขาไม่สูบบุหรี่ นายจะขอบุหรี่จากเขาทำไม” โหจื่อพูดขึ้น

หลี่ฝางรู้ กระดาษที่ลูกพี่หลินทิ้งไว้ ต้องโดนโหจื่อขโมยไปแล้วแน่ๆ หูเฟยทำหน้ากระอักกระอ่วน เขายิ้ม แล้วพูด: “คุณชายหลี่ ผมไม่สูบบุหรี่ เมื่อก่อนที่ตระกูลสวีของภรรยา เข้มงวดกับผมมาก”

หลี่ฝางพยักหน้า แล้วพูด: “งั้นพวกเราไปก่อนนะ มีเรื่องอะไร ก็โทรหาฉันแล้วกัน”

หลี่ฝางตามโหจื่อเข้ามาในรถ

หลี่ฝางมองโหจื่อ และถามอย่างเข้าประเด็น: “ทำไมต้องขโมยกระดาษในมือฉันไปด้วย?”

“ถ้าหากฉันไม่ขโมยมา นายคงจะให้มันกับหูเฟย ใช่มั้ย?” โหจื่อถาม

หลี่ฝางพยักหน้า แล้วพูด: “หรือว่าไม่ควรให้หูเฟยหรือไง?”

“ไม่ควร อย่างแรก หูเฟยคนนี้ ฉันไม่ได้เชื่อเขาอย่างสนิทใจ ลูกพี่หลินอันตรายมาก หลายคนต้องการชีวิตเขา เขากลับขังลูกพี่หลินไว้ในห้องขังที่มีสามคน แล้วก็ ลูกน้องของเขาก็ถูกคนแย่งปืนไป ทำให้ลูกพี่หลินถูกฆ่า ความผิดพลาดมากมายขนาดนี้มารวมกันอยู่นี่ แสดงเป็นพวกเราเห็นว่า หูเฟยนั่น ก็อยากให้ลูกพี่หลินตาย?”

โหจื่อพูด: “แล้วก็ ถึงแม้เรื่องนี้ฉันจะคิดมากไปเอง หูเฟยใสสะอาด แต่ว่า หลังจากหูเฟยได้กระดาษไป จะจัดการยังไง? เขาต้องส่งให้คนคิ้วหนาเมื่อกี้แน่ๆ คนคิ้วหนาเมื่อกี้ชื่ออะไร เป็นคนแบบไหน พวกเราไม่รู้อะไรเลย ดังนั้น กระดาษอยู่ในมือคนคิ้วหนา จะถูกจัดการยังไง พวกเราก็ไม่รู้”

“งั้นเอาแบบนี้ กระดาษใบนี้อยู่ในมือเรา พวกเราจัดการกันเองก็ได้” โหจื่อยิ้ม แล้วพูด: “กระดาษใบนี้ ก็ชื่อใบรายชื่อ คนในรายชื่อนี้ ทุกคน ก็ไม่ใช่คนที่ใสสะอาด”

หลี่ฝางพยักหน้า ไม่ได้พูดอะไร ในหัวของเขา ยังคงเห็นแต่เงาของหลินชิงชิง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท