NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 742 เลือกอย่างช่วยไม่ได้

บทที่ 742 เลือกอย่างช่วยไม่ได้

สถานีต่อไปของหลินชิงชิง หลี่ฝางรู้ดี นั่นก็คือที่ที่แม่หลินอยู่ เมืองหลง

แต่แค่ หลี่ฝางไม่มีความกล้าพอจะตามไป

หลินชิงชิงจากไปเด็ดเดี่ยวแบบนั้น ไม่ใช่เพื่ออยากหนีจากตนไม่ใช่เหรอ?

ถ้าหากตนตามไปถึงเมืองหลง นั่นจะทำให้หลินชิงชิงรู้สึกไม่มีความสุขไม่ใช่เหรอ?

หลี่ฝางมองโหจื่อ แล้วถามขึ้น: “แม่ของหลินชิงชิง จะมีจุดจบเหมือนลูกพี่หลินมั้ย?”

โหจื่อพยักหน้าอย่างไม่ปิดบัง แล้วพูด: “ใช่ ไม่ใช่แค่แม่หลินมีอันตราย แม้แต่หลินชิงชิง ก็ไม่ปลอดภัยเหมือนกัน”

“ทำไม? ตั้งแต่ต้นจนจบ หลินชิงชิงไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวเรื่องพวกเขาเลย คนกลุ่มนั้น ทำไมต้องลงมือกับหลินชิงชิง?”

หลี่ฝางขมวดคิ้ว นอกจากจะไม่เข้าใจ ยังโมโหอีกด้วย

“คนกลุ่มนั้น ที่จริงก็ไม่ใช่คนดี ยอมฆ่าคนผิดเป็นพันคน แต่ไม่ยอมปล่อยคนไปได้แม้แต่คนเดียว หลินชิงชิงเป็นลูกสาวของพวกเขา พวกมันคงปล่อยไปไม่ได้”

โหจื่อพูดจบ ก็หยุดอยู่ครู่ แล้วพูดขึ้นอีก: “แล้วก็ ถึงแม้หลินชิงชิงจะไม่ได้มีส่วนเกี่ยว แต่ก็ไม่ได้แสดงว่าเธอบริสุทธิ์ ถ้าหากเธอบริสุทธิ์จริงๆ งั้นรายชื่อที่อยู่ในมือพวกเรา มาจากไหนกัน?”

หลี่ฝางชะงักอยู่ครู่ และเปลี่ยนเป็นลนลานขึ้นมา: “งั้นทำยังไงดี แบบนี้ งั้นก็รีบส่งคนไปรักษาความปลอดภัยให้พี่ชิงชิงเร็ว”

โหจื่อพยักหน้า มองหลี่ฝางพลางยิ้มอ่อน แล้วพูด: “คุณชาย ข้างกายนายมีคนที่ดีให้เลือกอยู่ไม่ใช่เหรอ?”

“ใคร?” หลี่ฝางรีบถามขึ้น

“เสี่ยวโจวไง เขายังไม่ตายไม่ใช่เหรอ? ฝีมือและการไหวตัวของเขาก็ไม่ได้แย่ หน้าที่ปกป้องหลินชิงชิง มอบให้เสี่ยวโจวสิ ไม่มีใครเหมาะไปกว่าเขาแล้ว” โหจื่อพูด

หลี่ฝางเพิ่งนึกได้ แล้วรีบตบหัวพูดขึ้น: “ลนลานจนเบลอไปหมดแล้ว ลืมแม้แต่เสี่ยวโจวไปซะได้ ที่จริงอยากจะให้เสี่ยวโจวไปผ่าตัดศัลยกรรมก่อน ตอนนี้เห็นที เวลาจะไม่มีซะแล้ว”

พูดจบ หลี่ฝางก็ควักโทรศัพท์ออกมา โทรหาโจวปู้ถง หรือก็คือน้องชายของเสี่ยวโจวนั่นเอง ไม่นานก็มีคนรับสาย

“ฮัลโหล คุณคือ?” โจวปู้ถงลืมว่าหลี่ฝางเป็นใคร

หลี่ฝางเตือน และพูด: “ฉันคือเพื่อนของพี่ชายนาย พวกเราเคยเจอกันที่โรงพยาบาล จำได้หรือยัง?”

“ผู้มีพระคุณ จำได้แล้ว” โจวปู้ถงพยักหน้าและพูดขึ้นทันที

“ตอนนี้พี่ชายนายดีขึ้นหรือยัง? ขอฉันคุยกับเขาได้มั้ย” หลี่ฝางถาม

ไม่กี่วินาที ปลายสายก็มีเสียงที่คุ้นเคยของเสี่ยวโจวดังขึ้น: “ขอบคุณคุณชายหลี่ที่ยังจำได้ ผมไม่เป็นไรแล้ว เมื่อคืนผมยังออกไปวิ่งมาอยู่เลย”

หลี่ฝางพูดอืม เงียบไปหลายวินาที จึงพูดขึ้น: “พี่โจว ฉันอาจจะต้องรบกวนนายสักเรื่อง”

พูดขึ้นมา หลี่ฝางก็รู้สึกเกรงใจ ถึงยังไง เสี่ยวโจวก็เพิ่งออกมาจากห้องไอซียู ได้แค่ไม่กี่วัน คิดได้ว่าร่างกายอาจจะยังฟื้นตัวได้ไม่เต็มที่

แต่ว่าได้ยินว่าเสี่ยวโจวสามารถลงจากเตียงไปวิ่งได้ หลี่ฝางก็รู้สึกสบายใจขึ้นเล็กน้อย

นี่ก็หมายความว่า บาดแผลบนร่างกายเสี่ยวโจว ก็คงจะดีขึ้นมากแปดสิบเก้าสิบเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว

“คุณชายหลี่เชิญว่ามาเลย เป็นคุณที่ช่วยชีวิตผมไว้ อีกครึ่งชีวิตของผม ก็เป็นของคุณแล้ว คุณให้ผมทำอะไร ผมก็ทำตามนั้น” เสี่ยวโจวพูด

หลี่ฝางรีบพูดขึ้น: “อย่าพูดแบบนี้สิ ฉันช่วยนาย นั่นเพราะว่าพวกเราคือเพื่อนกัน ฉันไม่เคยคิดจะใช้ประโยชน์จากนาย หลังจากที่ช่วยนาย จะให้นายมาทำงานให้ นายอย่าเข้าใจผิดนะ ฉันกับมู่เจิ้งถัง ไม่ใช่คนประเภทเดียวกัน”

เสี่ยวโจวพยักหน้า: “ผมรู้ ว่าคุณเป็นคนดี คุณให้ผมทำอะไร ก็ต้องเป็นเรื่องที่ดีแน่ๆ”

“ดังนั้น ผมจึงยินดีทำตามที่คุณพูด”

ตอนนี้ หลี่ฝางก็ขี้เกียจจะพูดอะไรมากแล้ว จึงพูดออกไปตรงๆ : “ครั้งนี้ที่มาหาให้นายช่วย เหตุผลที่สำคัญก็คือไม่มีใครเหมาะไปกว่านายอีกแล้ว”

“ลูกพี่หลินตายแล้ว……” หลี่ฝางพูดขึ้น

เสี่ยวโจวขมวดคิ้ว: “ลูกพี่หลินตายแล้ว?”

เสี่ยวโจวไม่อยากจะเชื่อ เขาพูดอย่างตกใจเล็กน้อย: “ฐานะของลูกพี่หลิน ไม่ธรรมดา ใครเป็นคนฆ่าเขา?”

“ตอนนี้ยังไม่รู้” หลี่ฝางพูด: “แต่เป็นไปได้มากที่คนร้ายจะลงมือกับหลินชิงชิง เพราะงั้นฉันจึงอยากส่งนายไปคอยปกป้องหลินชิงชิง”

“พี่ชิงชิงอยู่ในอันตราย?” น้ำเสียงของเสี่ยวโจวร้อนรนขึ้นมา

ถึงยังไง เมื่อก่อนเสี่ยวโจวก็ปกป้องหลินชิงชิงมาสามปี ตนเอง ก็มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งแบบเพื่อนกับหลินชิงชิง

ดังนั้น เมื่อได้รู้ความจริง ถึงแม้หลี่ฝางไม่เอ่ยปาก เสี่ยวโจวก็จะออกตัวเองอยู่แล้ว

“ผมจะกลับไปเดี๋ยวนี้” เสี่ยวโจวรีบพูดขึ้น

หลี่ฝางพูด: “พี่ชิงชิงไม่ได้อยู่ที่เมืองเอกแล้ว เธอไปเมืองหลง หาแม่ของเธอแล้ว ตอนนี้นายออกไปเขาเมือง รอให้ฉันสืบหาได้ว่าพี่ชิงชิงอยู่ที่ไหน ฉันจะแจ้งนายทันที”

ก่อนเสี่ยวโจวจะรีบวางสาย ก็พูด: “ครับ ตอนนี้ผมจะไปที่เมืองหลง หากคุณสืบที่อยู่ของพี่ชิงชิงได้แล้ว รบกวนบอกผมทันที”

หลังจากที่ฝั่งของหลี่ฝางวางสายไป สีหน้าก็ยังคงย่ำแย่ โหจื่อเห็นสีหน้าหลี่ฝางดูผิดปกติ จึงถามขึ้น: “ทำไมเหรอ เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือไง?”

หลี่ฝางส่ายหน้า แล้วพูด: “ไม่มีปัญหาอะไร เสี่ยวโจวตอบรับอย่างเร็ว”

“งั้นทำไมนายยังทำหน้าบูดอีกล่ะ?” โหจื่อถามต่อ

หลี่ฝางขมวดคิ้ว แล้วพูด: “ประเด็นคือ เสี่ยวโจวตอบรับปากเร็วเกินไป ฟังเสียงของเสี่ยวโจวแล้ว เหมือนกับเขาจะเป็นห่วงพี่ชิงชิงมากกว่าฉันซะอีก พอได้ยินว่าพี่ชิงชิงเกิดเรื่อง เสี่ยวโจวไม่พูดอะไรมาก ก็วิ่งถ่อไปเมืองหลงแล้ว”

คนฉลาดอย่างโหจื่อ ก็หัวเราะเหอะๆ และเข้าใจความหมายของหลี่ฝางทันที: “นายคิดว่าเสี่ยวโจวชอบหลินชิงชิง? ดังนั้นจึงกังวลว่าจะเกิดอะไรขึ้นระหว่างพวกเขาสองคน ใช่มั้ย? คุณชาย?”

หลี่ฝางพยักหน้า แล้วพูด: “ใช่แล้ว”

“งั้นนายก็คิดมากไปแล้ว เสี่ยวโจวกับหลินชิงชิงตัวติดกันมาตลอดสามปี ถ้าพวกเขาจะมีความสัมพันธ์กุ๊กกิ๊กกันล่ะก็ นายคิดว่า จะมีนายเข้าไปได้เหรอ?”

“ถ้าหากจะมีอะไร มันก็คงมีไปนานแล้ว ไม่ต้องรอให้ถึงตอนนี้ ถึงแม้เสี่ยวโจวจะชอบหลินชิงชิง งั้นหลินชิงชิง ก็ไม่ได้ชอบเสี่ยวโจวหรอก เรื่องนี้ นายวางใจ”

หลี่ฝาก็คิดแบบนั้น หลินชิงชิงคงไม่เกิดความรู้สึกต่อเสี่ยวโจวหรอก ความมั่นใจนี้ หลี่ฝางยังคงมีอยู่ แต่หลี่ฝางก็กังวล แต่ก็ไม่รู้ว่ากังวลอะไร

จู่ๆ หลี่ฝางก็รู้สึกเสียใจ เสียดายที่ให้เสี่ยวโจวไปคุ้มครองหลินชิงชิงขึ้นมา

หลี่ฝางมองโหจื่อพลางพูด: “ช่างเถอะ เอาเรื่องตอนนี้ก่อน ที่สำคัญที่สุดคือความปลอดภัยของพี่ชิงชิง วันนี้ ไม่มีใครเหมาะไปกว่าเสี่ยวโจวแล้ว”

หลี่ฝางถอนหายใจ แล้วพูด: “วันนี้ใจของพี่ชิงชิง อคติต่อฉันมาก ไม่ว่าฉันจะส่งใครไปคุ้มครอง เธอก็คงไม่ยอม แล้วก็เธอเป็นคนรู้ตัวไวมาก ส่งคนไปคอยตามเธอก็ไม่ได้ แต่ว่าเสี่ยวโจวไม่เหมือนกัน เสี่ยวโจวเคยอยู่กับเธอ แล้วก็สนิทกันมากด้วย เชื่อว่าถึงแม้พี่ชิงชิงจะรู้ว่าฉันเป็นคนส่งเสี่ยวโจวไป พี่ชิงชิงก็จะไม่ไล่เขาไปหรอก”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท