NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่757 การเปลี่ยนแปลงของหลี่ฝาง

บทที่757 การเปลี่ยนแปลงของหลี่ฝาง

“สำนักหยิ่งซา?”

หลี่ฝางพูดทวนและนึกถึงความรุนแรงของเรื่อง

สำนักหยิ่งซาเป็นหนึ่งในองค์กรนักฆ่าชั้นนำของโลก มีทหารรับจ้างภายใต้บังคับบัญชาที่มีชื่อเสียงในโลก ทุกคนล้วนมีความสามารถที่ต่างกันไป

คนกลุ่มนี้ยากที่จะรับมือ……

ถ้าพวกเขามา ก็เท่ากับว่าเป็นโชคร้ายมากๆสำหรับพ่อของตนและส้าวส้วย

“นอกจากสำนักหยิ่งซาแล้วยังมีDynasty Dynastyปรารถนาพวกเราเป็นอย่างมาก โอกาสครั้งนี้เราจะพลาดไม่ได้”ลุงเฉียนขมวดคิ้วพูด

หลี่ฝางหายใจถี่เล็กน้อย:“ถ้าพวกเขาไปกันหมด โอกาสที่พ่อผมจะรอดมีมากแค่ไหน?”

ลุงเฉียนเงียบไปครู่หนึ่ง

หลี่ฝางพูด:“ลุงเฉียน ผมเตรียมใจไว้แล้ว ถ้าสำนักหยิ่งซาและDynastyไปกันหมด พ่อผมมีโอกาสที่จะรอดน้อยใช่หรือไม่?”

ลุงเฉียนส่ายหน้าพลางพูด:“ไม่น้อยมาก”

หลี่ฝางได้ยินเช่นนั้นก็โล่งอก

“แต่ไม่มีโอกาสรอดแม้แต่นิดเดียวเลยต่างหาก”ลุงเฉียนพูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

“เสี่ยวฝาง คุณไม่เคยไปต่างประเทศ ไม่รู้ถึงความน่ากลัวของสำนักหยิ่งซาและDynasty สององค์กรใหญ่นี้ล้วนเป็นที่รู้กันทั่วว่าเป็นพวกข่มเหงรังแกผู้อื่นอย่างไร้เหตุผล นอกจากพวกเราแล้วก็ไม่มีใครกล้าเป็นศัตรูกับพวกเขาเลย”

“ตอนที่พวกเรายังไม่ปรากฏตัว พวกเขาเป็นสององค์กรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเลยก็ว่าได้”

“ที่จริงคุณท่านหลี่เคยคิดไว้แล้ว ว่าหากวิจัยยาปรับปรุงสำเร็จก็จะจัดตั้งองค์กรเหมือนเรา แต่ซือปาจี้ที่เป็นตัวอย่างที่ดีก็ล้วนล้มเหลวทั้งหมด”

“ส่วนส้าวส้วยเป็นตัวอย่างที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด ยาปรับปรุงที่แม่มดและโหจื่อกินนั้นล้วนเป็นยาที่ไม่ได้เรื่อง”

ลุงเฉียนพูด:“แต่แม่มดและโหจื่อมีพื้นฐานที่ดีมาก ดังนั้นศักยภาพของพวกเขาจึงค้นพบในเวลาอันสั้น”

“ลุงเฉียน ผมก็อยากค้นพบเช่นกัน”หลี่ฝางพูดอย่างอ้อนวอน:“แม้ไม่อาจเป็นยอดฝีมือได้ แต่อย่างน้อยผมก็มีความสามารถในการป้องกันตัวเอง”

“ฮ่าๆเสี่ยวฝาง ไม่ต้องถึงคุณหรอก ตอนแม่คุณไปฉันก็เคยคิด แต่ในขณะเดียวกันก็กลัวว่าคุณจะรับความเจ็บปวดเช่นนั้นไม่ไหว”ลุงเฉียนพูดพลางหัวเราะ

“มันเป็นความเจ็บปวดแบบไหน?”หลี่ฝางถาม

ลุงเฉียนส่ายหน้า:“ฉันเคยลองแล้วแต่ผ่านไปไม่ได้”

หลี่ฝางมองลุงเฉียนด้วยความตกตะลึง พูดไม่ออก แต่ลุงเฉียนกลับพูดด้วยรอยยิ้มไม่สะทกสะท้าน:“แรกเริ่มเดิมทีฉันเป็นแค่นักธุรกิจ ไม่ใช่นักศิลปะการต่อสู้”

“จริงสิเสี่ยวฝาง คุณเคยได้ยินเรื่องการคลอดลูกไหม?”จู่ๆลุงเฉียนก็มองหลี่ฝางพลางถาม

หลี่ฝางพยักหน้า:“ได้ยินมาว่าการคลอดลูกเป็นเรื่องที่เจ็บปวดมาก”

“ใช่ แต่การค้นพบศักยภาพของคุณเจ็บปวดกว่าการคลอดลูกถึง3เท่า ผมพูดแบบนี้แล้วคุณยังอยากลองอยู่อีกไหม?”ลุงเฉียนมองหลี่ฝางเงียบๆ

หลี่ฝางตอบอืมด้วยสีหน้ามั่นใจมากๆ

ลุงเฉียนมองหลี่ฝาง หัวเราะออกมาพลางกวักมือ:“งั้นตามฉันมา”

โหจื่อที่นอนอยู่บนโซฟาสีหน้าเต็มไปด้วยความลำบากใจ

เขาอยากห้ามหลี่ฝางแต่ไม่รู้จะพูดยังไง บางทีในใจเขาอาจรู้ดีอยู่แล้วก็ได้ว่าแม้เขาจะพูดไปก็ไม่ได้ช่วยอะไร

หลี่ฝางตามลุงเฉียนไปจนมาถึงห้องสีดำห้องหนึ่ง

ในห้องนี้มีแค่เตียงหนึ่งหลัง

“นอนลงไปสิ”ลุงเฉียนชี้ไปที่เตียงหลังนั้นพลางพูดกับหลี่ฝางอย่างเรียบเฉย

หลี่ฝางเดินไป ตอนที่นอนลงไปนั้นเหมือนอยู่ในลานประหารอย่างไรอย่างนั้น

ลุงเฉียนยิ้มเยาะ:“ไม่ต้องประหม่าขนาดนั้น”

“ผมคลอดลูกครั้งแรก”รอยยิ้มของหลี่ฝางดูอึดอัดเล็กน้อย:“แถมยังคลอดทีเดียวเป็นแฝด3”

เห็นหลี่ฝางยังมีกะจิตกะใจพูดเล่น ลุงเฉียนก็ยิ้มออกมาอย่างเข้าใจ

จากนั้นลุงเฉียนก็เจาะเลือดหลี่ฝางออกมา400มิลลิลิตร

หลี่ฝางขมวดคิ้วเล็กน้อย:“ลุงเฉียน คุณจะทำอะไร?”

“ก็เห็นๆอยู่ว่าฉันกำลังเจาะเลือดคุณ”ลุงเฉียนพูด

หลี่ฝางขมวดคิ้ว:“ทำไมต้องเจาะเลือดผม?”

หลี่ฝางที่กำลังถูกเจาะเลือดทำให้ร่างกายก็อ่อนแอลงอย่างรวดเร็ว ส่วนลุงเฉียนกลับไม่ตอบคำถามของหลี่ฝาง เจาะเลือด400มิลลิลิตรต่อ

ไม่นานนักปากของหลี่ฝางซีดลงเล็กน้อย

สำหรับคนธรรมดาทั่วไปการเจาะเลือด800มิลลิลิตรค่อนข้างยาก

ไม่รู้ว่าหลี่ฝางต้องพักฟื้นนานแค่ไหนถึงจะหายดี

“ลุงเฉียน ผมเริ่มง่วง”หลี่ฝางพูดกับลุงเฉียนอย่างอ่อนล้า

ลุงเฉียนพยักหน้าเหมือนได้ยินสิ่งที่หลี่ฝางพูดแล้ว เขาพูดกับหลี่ฝาง:“ถ้ารู้สึกง่วงก็นอนเถอะ”

ทว่าตอนที่หลี่ฝางหลับตาลง เขาเห็นลุงเฉียนยังเจาะเลือดเขาอยู่

“ลุงเฉียน คุณ……”

“คุณจะฆ่าผมให้ตายงั้นเหรอ?”

ตอนนี้หลี่ฝางรู้สึกแปลกมาก

ร่างกายหลี่ฝางจากที่มีเลือดอยู่มาก ตอนนี้กลับโดนลุงเฉียนเจาะออกไปแทบจะหมดแล้ว

หลี่ฝางไม่เข้าใจ ลุงเฉียนจะทำอะไรกันแน่ เขากำลังทดลองถ่ายทอดพันธุกรรมให้ตน หรืออาศัยการทดลองนี้มาฆ่าตนกันแน่?

หลี่ฝางยังคิดไม่ตกก็รู้สึกมึนหัว เห็นได้ชัดว่าเขาเสียเลือดไปมากเกินไปแล้ว

ตอนที่หลี่ฝางเป็นลมไป เขาคว้ามือลุงเฉียนเอาไว้

เพียงแต่หลี่ฝางกลับไม่ได้ยินสิ่งที่ลุงเฉียนพูด

ลุงเฉียนหัวเราะออกมาแล้วพูด:“ฉันจะทำร้ายคุณได้ยังไงเสี่ยวฝาง”

ลุงเฉียนเอาเลือดที่เจาะออกมาของหลี่ฝางวางไว้ด้านข้าง จากนั้นเอาถุงเลือดออกมาพลางถอนหายใจ

“เห้อ หวังว่าวิธีนี้จะได้ผล”

ลุงเฉียนพูดคนเดียวพลางเอาเลือดในถุงเลือดนี้ใส่ให้หลี่ฝาง

เช้าวันต่อมา หลี่ฝางฟื้นขึ้น

“ลุงเฉียน?”หลี่ฝางมองลุงเฉียนที่เดินมาปลุกเขา:“ตกใจหมด ก่อนหลับไปผมคิดว่าคุณจะฆ่าผมซะแล้ว”

“ทำเอาผมฝันร้ายเลย”

หลี่ฝางคิดว่าตัวเองจะไม่ฟื้นแล้วจริงๆ

ลุงเฉียนหัวเราะ:“ตื่นมาก็ดีแล้วๆ”

หลี่ฝางขมวดคิ้วพลางพูด:“จริงสิ นี่มันสำเร็จหรือไม่สำเร็จล่ะ?”

หลี่ฝางสงสัยมาก ถ้าสำเร็จแล้วทำไมตนถึงไม่รู้สึกเจ็บปวดแม้แต่น้อย ยิ่งไปกว่านั้นยังรู้สึกสบายไปทั้งตัว

แต่ถ้าไม่สำเร็จทำไมตนถึงรู้สึกมีกำลังที่ใช้ไม่รู้หมดแบบนี้?

ลุงเฉียนยิ้มไม่พูดอะไร เพียงเดินไปเปิดประตูห้อง

ขณะที่เห็นดวงอาทิตย์ หลี่ฝางรู้สึกว่าแสงอาทิตย์นี้แสบตามา หลี่ฝางรีบถามขึ้นทันที:“ผมหลับไปนานแค่ไหน?”

ลุงเฉียนพูด:“หนึ่งวันกว่าๆ”

หลี่ฝางจับข้อมือลุงเฉียนไว้และรีบถามขึ้น:“แล้วมีข่าวมาจากทางด้านพ่อผมหรือเปล่า?”

ลุงเฉียนส่ายหน้าไปมา

หลี่ฝางชะงักไปทันที ถอยไปด้านหลังสองก้าว ลุงเฉียนพูดต่อ:“ดังนั้นพวกเราต้องทำแผนที่ชั่วร้ายที่สุดแล้วล่ะ ทางด้านคุณท่านหลี่มีคนมาแล้ว”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท