NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่760 มู่เสี่ยวไป๋ก่อเรื่อง

บทที่760 มู่เสี่ยวไป๋ก่อเรื่อง

ไม่รู้มู่เสี่ยวไป๋ไปรวบรวมคนจำนวนหลายร้อยคนนี้มาจากไหน เดินเข้ามายังไนต์คลับของซินปา

ตอนนี้ในห้องโถงของไนต์คลับเต็มไปด้วยคนของมู่เสี่ยวไป๋

ตรงเคาน์เตอร์ต้อนรับเห็นคนมาเยอะมากก็ตกตะลึง

ห้องส่วนตัวที่ใหญ่ที่สุดนี้สามารถรองรับได้ไม่เกิน20-30คน นี่มากันเป็นร้อยแถมยังมาพร้อมกันอีก มาเที่ยวกันจริงๆเหรอเนี่ย?

สาวแผนกต้อนรับแม้เป็นคนในยุทธภพ แต่ก็เห็นอะไรมาเยอะจนชินแล้ว

ภาพแบบนี้แค่มองก็รู้แล้วว่ามาก่อเรื่อง

คนหลายร้อยคน แต่ละคนสักเต็มตัว สีหน้าดุร้าย……

รับมือยาก……

สาวแผนกต้อนรับรีบโทรหาซินปาทันที:“ท่านปา ด้านล่างมีคนมาเป็นร้อย คนที่นำทีมมาเหมือนจะเป็นคุณชายมู่”

สาวแผนกต้อนรับไม่เพียงรู้จักหน้าคร่าตาของมู่เสี่ยวไป๋ ยังรู้เรื่องของเจ้านายตนกับมู่เสี่ยวไป๋อีกด้วย

“อืม ฉันรู้แล้ว”

ซินปาพยักหน้าพลางพูด:“เดี๋ยวฉันลงไป”

วางสายเสร็จซินปาก็รีบไปข้างๆหลี่ฝางแล้วพูดขึ้น:“คุณชาย มู่เสี่ยวไป๋มาแล้ว”

“เขาเองเหรอ?”

หลี่ฝางยิ้มยก พลางยักคิ้ว:“ฉันคิดว่าจะเป็นมู่หรงฉางเฟิงหรือคนตระกูลตงฟางซะอีก”

“พวกเขามาทีเดียวเป็นร้อยคน ดักหน้าประตูไนต์คลับไว้หมดแล้ว คุณชายหลี่ เรียกคนมาดีไหม?”

ซินปาพูดอย่างกังวล

เพราะลูกน้องของซินปามีแค่10กว่าคน

ส่วนคนอื่นๆล้วนเป็นคนที่เข้ามาใหม่

ถ้าสู้กันหรือเกิดเรื่องอะไรขึ้น คนที่เข้ามาใหม่พวกนี้ไม่สู้สุดใจแน่นอน

หลี่ฝางส่ายหน้า:“ไม่ต้อง”

“แล้วถ้าสู้กันขึ้นมา?”ซินปาขมวดคิ้วท่าทางจริงจัง

หลี่ฝางพูด:“ยังจำได้ไหมว่าที่เหล่านี้พวกนายเอามาได้ยังไง?”

“คืนนั้น พื้นที่สีเทาของเมืองเอกกลายเป็นเมืองว่างเปล่า ดังนั้นพวกเราและท่านจวนจึงใช้โอกาสนี้เข้าไป ใช้เวลาแค่คืนเดียว แบ่งเมืองเอกออกเป็นส่วนเท่าๆกัน”

“ตอนนี้ถ้าฉันโทรให้คนของหวางเสี่ยวหยวนและเฉินฝูเซิงมา งั้นเขตอิทธิพลของเขาทั้งสองต้องว่างเปล่าไม่มีใครอยู่แน่นอน เมื่อถึงตอนนั้น……”

หลี่ฝางถอนหายใจแล้วพูด:“ถ้าเป็นเมื่อก่อน พวกเราคงไม่ต้องกลัวอะไร แต่วันนี้ท่านจวนคบค้าสมาคมกับทั้ง4ตระกูลใหญ่แล้ว เขาจับจ้องเขตอิทธิพลของพวกเราอยู่ ทันทีที่เรามีช่องว่างท่านจวนลงมือแน่นอน”

“งั้นพื้นที่สีเทาทั้งเมืองเอก จะกลายเป็นของท่านจวนเพียงผู้เดียว”

หลี่ฝางพูด:“เมื่อถึงตอนนั้น ไม่ว่าเราจะทำอะไรก็จะถูกผูกมัด”

“คุณชาย ผมเข้าใจแล้ว คุณหมายความว่านี่เป็นแผนล่อเสือออกจากถ้ำ?”ซินปาพยักหน้าพลางพูด

หลี่ฝางยิ้มออกมา ภายใต้รอยยิ้มมีความดูถูกอยู่:“นายลองคิดดู มู่เสี่ยวไป๋จะเอาคนมาจากไหนเป็นร้อยๆ?ข้างกายเขามีแค่ชางสู่ที่ใช้ประโยชน์ได้”

“ฉันได้ยินมาว่าจางกงหมิงหักหลังแล้ว ถ้าจางกงหมิงไม่อยู่ งั้นคนที่เหลืออยู่ของมู่เสี่ยวไป๋ อย่าว่าร้อยคนเลย คนที่ใช้ประโยชน์ได้30คนยังไม่ถึงด้วยซ้ำ”

ซินปาพูด:“ดังนั้นแม้ด้านล่างมีร้อยคน แต่ก็เป็นแค่พวกหัวมังกุท้ายมังกร”

ไม่นานนักหลี่ฝางก็นำซินปาและคนอื่นๆลงไปชั้นล่าง

ส่วนชั้นล่างในตอนนี้

มู่เสี่ยวไป๋เดินไปหาสาวแผนกต้อนรับ ตบโต๊ะและตะโกนอย่างกำแหง:“เร็วสิวะ จัดห้องส่วนตัวให้พวกเราห้องหนึ่ง”

“ห้องใหญ่ที่จุได้ร้อยกว่าคน”มู่เสี่ยวไป๋พูด

สาวแผนกต้อนรับหน้าเขียวปั้ด ไม่ใช่เธอไม่รู้ว่ามู่เสี่ยวไป๋กำลังแกล้งเธอ

อย่าว่าแต่ไนต์คลับที่นี่เลย ห้องส่วนตัวที่จุได้ร้อยกว่าคน ต่อให้หาทั้งเมืองเอกก็คงมีไม่กี่ที่ ?

หรือพูดได้ว่าไม่มีเลยสักที่

สาวแผนกต้อนรับส่ายหน้าด้วยความอึดอัด:“ขอโทษค่ะคุณชายมู่ ที่นี่ไม่มีห้องส่วนตัวที่ใหญ่ขนาดนั้น เอาเป็น……คุณลองไปดูไนต์คลับอื่นดีไหมคะ?”

สาวแผนกต้อนรับตอบอย่างระมัดระวังและยำเกรง

“ฉันมาแล้วนะเว้ย เธอจะให้ฉันออกไปงั้นเหรอ?”สีหน้ามู่เสี่ยวไป๋เคร่งขรึมลงทันที

“งั้นฉันจะเปิดให้คุณหลายห้อง?”สาวแผนกต้อนรับพูด

มู่เสี่ยวไป๋หัวเราะแล้วพูด:“เธอคิดว่าไงล่ะ?พวกเรามาเที่ยว แต่เธอกลับจัดให้เราไปห้องอื่น แยกกันสนุก?ฮ่าๆ พวกฉันมาร้องเพลงไม่ใช่มารักษาสุขภาพ”

“แต่ถ้ามาดูแลสุขภาพจัดให้คนละห้องก็ได้ แต่เรามากินเหล้า เธอดูให้เต็มตา ที่นี่ไม่ใช่ซาวหน้า มันเป็นไนต์คลับ เป็นที่มาร้องเพลง”

มู่เสี่ยวไป๋พูด:“ฉันถามเธอว่าจัดให้ฉันได้ไหม?”

“ขอโทษค่ะคุณชายมู่ ที่นี่ไม่มีห้องส่วนตัวที่ใหญ่ขนาดนั้น……”

สาวแผนกต้อนรับยังพูดไม่ทันจบ มู่เสี่ยวไป๋ก็ยิ้มออกมา:“ถ้าแม้แต่เรื่องแค่นี้ก็จัดการไม่ได้ ฉันว่านะไนต์คลับนี้ก็ไม่ต้องเปิดแล้ว”

“น้องสาว เห็นรึยัง?พวกด้านหลังฉันไม่ใช่คนดีอะไร พวกเขาอารมณ์ร้ายมากเลยนะ”

“เธอพูดแบบนี้พวกเขาจะไม่พอใจเอา”

“เธอรู้ไหมว่าถ้าพวกเขาไม่พอใจแล้วจะมีจุดจบยังไง?”มู่เสี่ยวไป๋ยิ้มอย่างเยือกเย็น จากนั้นขยิบตาให้ชางสู่

ชางสู่เข้าใจมู่เสี่ยวไป๋ทันที จึงตะโกนขึ้น:“สหาย พังไนต์คลับนี้ให้หมด”

“ไม่ว่าคนหรือของก็อย่าให้เหลือ”

ชางสู่พูดจบ คนเหล่านั้นก็เริ่มลงมือ

ชั้นนี้นอกจากแผนกต้อนรับแล้ว ส่วนที่เหลือเป็นเคาน์เตอร์เครื่องดื่ม

และของเหล่านี้เป็นหนึ่งในที่ที่แพงที่สุดไนต์คลับอย่างไม่ต้องสงสัย เคาน์เตอร์เครื่องดื่มนี้บวกกับคลังของชั้นล่าง มีเหล้าดีๆเก็บไว้อยู่ไม่น้อย

เสียงเพล้งพล้างดังอย่างต่อเนื่อง เมื่อหลี่ฝางลงมาก็ได้ยินอย่างชัดเจน

“เหมือนว่าทักษะการฟังของฉันจะดีกว่าเมื่อก่อนเยอะแล้ว”หลี่ฝางพูดอย่างประหลาดใจ

โหจื่อพูด:“ยินดีด้วยครับคุณชาย”

หลี่ฝางมองโหจื่อแล้วมองบนใส่เขา:“ฉันรู้ว่านายมีเรื่องปิดบังฉันอยู่ จัดการมู่เสี่ยวไป๋เสร็จฉันจะมาต่อกับนาย”

โหจื่อเบ้ปากไม่พูดอะไรอีก

หลี่ฝางและคนอื่นๆต่างรีบเดิน ตอนนี้ที่ชั้น1เละเทะไปหมด พนักงานของซินปาวิ่งออกมาเป็น10คน แต่ออกมาได้ไม่นานก็โดนลูกน้องของชางสู่จัดการลงไปกองกับพื้นจนหมด

และสาวแผนกต้อนรับก็โดนมู่เสี่ยวไป๋ตงลงไปกองกับพื้นเช่นกัน

“แม่งเอ้ย เสียเวลาฉันชะมัด”มู่เสี่ยวไป๋ด่าเสร็จก็ตะโกนดังไปทางด้านบนตึก:“หลี่ฝาง แกมันไอ้ขี้ขลาด ออกมาเดี๋ยวนี้”

“พังที่นี่ให้หมด”

มู่เสี่ยวไป๋ด่าหลี่ฝางและพูดกับลูกน้องของตน

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท