ตอนที่หลี่ฝางไปถึงอำเภอหลิน ฟ้ามือแล้ว
หลี่ฝางหยิบโทรศัพท์ออกมากดโทรหาหยิ่นเจิ้ง แต่ปลายสาย กลับปิดเครื่อง
“ทำไมถึงยังปิดเครื่องล่ะ?”
หลี่ฝางขมวดคิ้วเป็นปม ไม่เจอหยิ่นเจิ้ง ก็ยิ่งไม่มีเบาะแสอะไรทั้งนั้น
ครุ่นคิด หลี่ฝางจึงโทรไปหาหวางเหมียว ซึ่งก็คือหมอคนนั้น
หลี่ฝางตัดสินใจไปหาไอ้หน้าหนวด ดูว่าเขาอาการเป็นยังบ้าง
หลังจากติดต่อหวางเหมียวได้แล้ว ประจวบเหมาะไอ้หน้าหนวดก็พักที่โรงแรมนั้น หลี่ฝางรีบขับรถไปที่โรงพยาบาลทันที
ตอนที่เห็นไอ้หน้าหนวด หลี่ฝางน้ำตาไหลลงมาทันที
ไอ้หน้าหนวดถูกทำร้ายจนหมดสภาพ ขาของเขาข้างหนึ่ง เข้าเฝือก ถูกแขวนเอาไว้ ใบหน้าของเขา ยิ่งไม่เหลือเค้าความเป็นคน
ฟันทั้งแผง ถูกทุบตีจนหักเหลือเพียงไม่กี่ซี่เท่านั้น
ตอนที่หลี่ฝาง ไอ้หน้าหนวดฝืนยิ้ม อ้าปาก เผยให้เห็นฟันที่หลอ
“คุณชาย คุณชายมาได้ยังไงครับ?” ไอ้หน้าหนวดมองไปที่หลี่ฝาง ถามด้วยความประหลาดใจ
หลี่ฝางขมวดคิ้วเป็นปม:“ใครเป็นคนทำให้นายกลายเป็นสภาพแบบนี้? คนของแมงป่อง หรือว่า……”
หลังจากหลี่ฝางถามจบ รู้สึกว่าตนถามสิ่งที่ไร้ประโยชน์
“ช่างเถอะ” หลี่ฝางตัดสินใจไม่ถาม ตอนที่เจอแมงป่อง ค่อยถามเขา
ถึงอย่างไร บัญชีแค้นในครั้งนี้ คิดกับแมงป่อง ก็ถูกต้องแล้ว
“หยิ่นเจิ้งล่ะ? ฉันโทรไปหาเขา แต่โทรไม่ติด” หลี่ฝางขมวดคิ้วเป็นปมแล้วเอ่ยถาม
“ไม่ต้องพูดถึงแล้ว คนขวัญอ่อนอย่างหยิ่นเจิ้ง ตอนนี้คงกลัวจะตายแล้ว ข้างกายแมงป่อง มีคนกลุ่มใหญ่มากะทันหัน ทันทีที่คนพวกนี้มา สถานการณ์ก็เปลี่ยนไปทันที ตอนแรกแมงป่องถูกพวกเราทำร้ายจนเกือบจะยอมแพ้ แต่ว่า จู่ๆก็มีคนหลายคนโผล่มากะทันหัน คนพวกนี้ เหมือนว่าจะสูงศักดิ์กว่าแมงป่องไม่น้อย ตอนแรก พวกเราคิดว่าเป็นยอดฝีมือที่แมงป่องหามาจากสนามประลองใต้ดิน ดังนั้นจึงไม่ได้ใส่ใจ แต่สุดท้ายกลับเป็นฝ่ายเสียเปรียบ คนพวกนี้ เรียกได้ว่าน่ากลัวอย่างมาก คนของเรา ไม่ใช่ต่อสู้ของพวกเขา แม้จะสู้ไปพร้อมกัน ก็ไม่สามารถเอาชนะพวกเขาได้”
“หยิ่นเจิ้งจ่ายเงินมหาศาล ได้ตัวปรมาจารย์มาหลายคน ล้วนถูกพวกเขาทำร้ายจนพิการ ไม่ก็ตาย พวกเขาลงมือด้วยความเหี้ยมโหด แทบจะไม่มีคนรอดชีวิต ทำให้แม้ว่าหยิ่นเจิ้งจะจ่ายเงิน ก็ไม่มีใครกล้ามาช่วย”
ไอ้หน้าหนวดถอนหายใจ แล้วพูด
หลี่ฝางขมวดคิ้วเป็นปม:“บาดแผลบนตัวนาย ก็เป็นฝีมือของพวกเขา?”
สีหน้าของไอ้หน้าหนวดขาดสติเล็กน้อย เงียบไปครู่หนึ่ง เขาค่อยพูด:“พูดไปแล้วก็รู้สึกผิดเหมือนกัน ผมไม่มีสิทธิ์ที่จะสู้กับยอดฝีมือพวกนั้น ผมถูกคนอื่นทำร้าย”
“คุณชาย ทำไมคุณถึงมาคนเดียวครับ” ไอ้หน้าหนวดมองไปด้านหลังหลี่ฝาง เมื่อไม่เห็นเงาของใคร เขาจึงดูกระวนกระวายขึ้นมาทันที
“พวกโหจื่อไม่มาเหรอครับ? แต่ถึงพวกโหจื่อมาก็ไม่มีประโยชน์ ผมคิดว่าโหจื่อก็อาจจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขา” ไอ้หน้าหนวดพูด
“นายรู้ไหมว่าพวกเขาอยู่ไหน? หยิ่นเจิ้งด้วย ตอนนี้เขาหนีไปไหนแล้ว? หรือเป็นอะไรไป?” หลี่ฝางเอ่ยถาม
ดูท่า การมาของยอดฝีมือพวกนี้ ทำให้หยิ่นเจิ้งตกใจอย่างมาก ภรรยาของหยิ่นเจิ้งยังอยู่ในมือของตน
สิ่งสำคัญ ภรรยาของหยิ่นเจิ้ง ยังมีลูก
ลูกกับภรรยา ไม่สนใจแล้วเหรอ?
หยิ่นเจิ้งคนนี้น่าเวทนามากแค่ไหน……
“เมื่อกี้หยิ่นเจิ้งมาแล้วรอบหนึ่ง คาดว่าตอนนี้ กำลังเก็บข้าวของที่บ้าน เฮ้อ พวกเราพ่ายแพ้ให้กับอำเภอหลินแล้ว พวกพ้องของเรา ถูกทำร้ายจนแยกย้ายกระจายตัวกันไปหมด มีไม่กี่คนที่แมนหน่อย ก็ถูกคนของแมงป่อง ทำร้ายจนพิการไปหมดแล้ว”
“สภาพไม่ได้ดีไปกว่าผมเท่าไหร่เลย”
ไอ้หน้าหนวดพูดด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย:“ยอดฝีมือพวกนั้น เหมือนตัวช่วยเสริม”
“คุณชายครับ ผมว่าคุณชายรีบไปก่อนเถอะครับ ถ้าพวกมันเห็นคุณชาย คุณชายต้องแย่แน่ๆ” ไอ้หน้าหนวดมองหลี่ฝางด้วยความเป็นห่วง
“ตอนนี้ยังกลางวันแสกๆ โชคดีที่พวกมันยังจะเพลาๆลงหน่อย ถ้าถึงตอนกลางคน พวกมันยิ่งไม่มีอะไรให้กลัวแล้วครับ” ไอ้หน้าหนวดมองหลี่ฝางแล้วพูด
เพราะถึงอย่างไรตัวตนของหลี่ฝางนั้นพิเศษ ถ้าพวกแมงป่องรู้ว่าหลี่ฝางอยู่ที่นี่ พวกแมงป่องต้องลงมืออย่างไม่คิดชีวิตแน่นอน
หลี่ฝางมองไอ้หน้าหนวดแล้วเอ่ยถาม:“ยอดฝีมือพวกนั้น ไม่ใช่ชางสู่ ใช่ไหม?”
ตอนที่หลี่ฝางได้ยินว่าแมงป่องมียอดฝีมือมาช่วย คนแรกที่เขาคิดถึง ก็คือชางสู่
คืนวันนั้นเฉินฝูเซิง จับตัวชางสู่เอาไว้ไม่ได้ แต่ปล่อยให้ชางสู่หนีรอดไปได้ หลี่ฝางรู้ ระหว่างชางสู่และแมงป่อง มีความสัมพันธ์กัน ถึงแม้จะมีประโยชน์ร่วมกัน แต่ชางสู่ที่หมดทางจะไป มีความเป็นไปได้ที่จะไปพึ่งพิงแมงป่อง
เพราะถึงอย่างไรแมงป่องในตอนนี้ ก็ถือว่าต้องการกำลังคน
แต่ตอนนี้ดูท่าแล้ว ความเป็นไปได้ไม่มากเท่าไหร่
ไอ้หน้าหนวดส่ายหน้า แล้วพูด:“ผมเคยเห็นชางสู่มาก่อน แต่ชางสู่ออกไปอย่างรวดเร็ว”
“ยอดฝีมือพวกนี้ ดูเหมือนจะเก่งกว่าชางสู่เล็กน้อย”
ไอ้หน้าหนวดพูด สีหน้าของเขาเคร่งขรึมขึ้นมาทันที:“คุณชายครับ คุณลองเดาดูสิครับว่าผมเจอใคร”
“ถึงเวลานี้แล้ว นายยังจะมีอารมณ์มาเล่นลิ้นกับฉัน?” หลี่ฝางกรอกตามองไอ้หน้าหนวด
“หมาจื่อครับ” ไอ้หน้าหนวดพูด
“หมาจื่อ เป็นเขาไปได้ยังไง?”
หลี่ฝางขมวดคิ้วเล็กน้อย หลังจากลูกพี่หลินตาย หลี่ฝางถามไถ่ถึงสถานการณ์ของหมาจื่อ เพราะถึงอย่างไรเจ้านี่ ติดตามลูกพี่หลิน ทำเรื่องเลวร้ายเอาไว้ไม่น้อย
แต่หูเฟยบอกกับหลี่ฝาง หมาจื่อคนนี้ ถูกคนเอาตัวไปแล้ว และชะตากรรมที่รอหมาจื่ออยู่นั้น ก็คือถูกยิงตาย
แต่ตอนนี้ไอ้หน้าหนวดกลับบอกหลี่ฝางว่า เขาเจอหมาจื่อ
หรือว่า หมาจื่อถูกคนช่วยไปแล้ว?
ไอ้หน้าหนวดถอนหายใจ แล้วพูด:“ผมให้คนตามสืบแล้วครับ ได้ยินว่า แมงป่องครอบครองที่ดินผืนหนึ่ง อยู่ตรงหลังเขาไม่ไกลเท่าไหร่ ที่นั่น เขาสร้างสุสานเอาไว้ สุสานนี้ เขาไม่ให้คนนอกใช้ สุสานผืนนี้ มีหมาจื่อคอยรับผิดชอบ”
“เหมือนว่าเขากำลังทำธุรกิจของลูกพี่หลิน”
ไอ้หน้าหนวดพูด:“เพราะถึงอย่างไรที่อำเถอหลินนี้อยู่ห่างไกลความเจริญและข้อกฎหมาย ทั้งยังด้อยพัฒนาและยากไร้ ไม่มีใครมาสนใจ”
“ความหมายของนายคือ ฆ่าลูกพี่หลินทิ้งไปแล้วหนึ่งคน มีหมาจื่ออีกคนเพิ่มเข้ามา?”
หัวใจของหลี่ฝาง หล่นวูบกะทันหัน
เจ้านี่ ทำไมฆ่ายังไงก็ไม่ตาย
อีกทั้งหมาจื่อคนนี้ ทั้งๆที่ถูกจับตัวไปแล้ว ตอนนี้หนีออกมาได้ยังไง?
หลี่ฝางหยิบโทรศัพท์ออกมา โทรหาหูเฟย หลังจากหูเฟยรับสาย หลี่ฝางก็ถามออกไปตรงๆ ทันที:“ฉันอยากถามนายเรื่องหนึ่ง นายตอบฉันมาตามจริง”
“เรื่องของหมาจื่อเป็นมายังไงกันแน่?” หลี่ฝางขมวดคิ้วเป็นปม:“นายบอกกับฉัน เรื่องของหมาจื่อ ต้องถูกยิงทิ้ง แต่ว่า คนของฉันกลับบอกว่าเห็นเขาที่อำเภอหลิน”
“หลี่ฝาง เรื่องนี้ นายอย่ายุ่งเลย” หูเฟยขมวดคิ้วเป็นปม แล้วพูด:“อีกอย่าง ฉันเองก็ยุ่งเกี่ยวไม่ได้”
“นายบอกกับฉันก่อน มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ อีกเรื่องหนึ่ง นายเองก็มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยใช่ไหม?” หลี่ฝางด้วยความโมโห
“นายรู้จักฉันดี เรื่องที่ผิดกฎหมายแบบนี้ ฉันไม่มีวันทำ อีกอย่างฉันจะปกป้องหมาจื่อได้ยังไง? วันนั้น หมาจื่อถูกคนเอาตัวไป อีกทั้ง วันที่สอง หมาจื่อก็ได้กินลูกปืน ฉันถามไปแล้ว แต่ว่า ใครจะไปคิดหมาจื่อเพิ่งขับรถออกไปไม่ถึงหนึ่งร้อยเมตร จู่ๆก็มีคนกลุ่มหนึ่งพุ่งตัวออกมา แล้วพาตัวหมาจื่อไป”
“เพื่อนร่วมงานของฉัน ยังตายไปคนหนึ่ง เดิมที เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแบบนี้ เบื้องบนต้องโมโหอย่างมาก ตามปกติแล้ว มันต้องเป็นแบบนี้ นายว่าใช่ไหม? แต่ฉันกลับคิดไม่ถึง ไม่มีข่าวคราวอะไรเลย รวมถึงครอบครัวของเพื่อนร่วมงานฉันที่เสียไป ก็ไม่ออกมาพูด เพื่อนร่วมงานของฉันเสียชีวิตในหน้าที่ ได้รับเงินชดเชยก้อนหนึ่ง แต่ฉันคิดว่า ครอบครัวของเขา น่าจะรับเงินไปจำนวนไม่น้อย ไม่อย่างนั้น คงไม่ปิดปากเงียบแบบนี้”
หูเฟยพูด:“ตอนที่ฉันอยากสืบ กลับได้รับข้อความข่มขู่ ถ้าฉันอยากจะสืบจริงๆ ฉันจะไม่ได้เสียแค่งาน ภรรยาของฉัน น้องสาวของฉัน ก็จะตกอยู่ในอันตราย”
“เรื่องของหมาจื่อ นายอย่ายุ่งเลย” หูเฟยพูด:“เค้กก้อนนี้ใหญ่มาก ไม่มีใครยอมปล่อยมันหลุดมือ ขอแค่ไม่มีคนทำที่เมืองเอก แล้วจะเกี่ยวข้องอะไรกับพวกเรา? นายว่าใช่ไหม?”
หูเฟยพูดด้วยสีหน้าจนปัญญา:“เรื่องนี้ มีคนสมควรตายมากมาย พวกเราไม่สามารถไปยุ่งกับทุกคน”
“อีกทั้ง หมาจื่อไปจากเมืองเอกแล้ว ไม่ได้อยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของฉัน สิ่งที่ฉันพูดได้ ก็คือเกลี้ยกล่อมนายไม่ให้ยุ่งกับเรื่องนี้ เพราะเบื้องหลังของหมาจื่อ มีคนคอยคุ้มครอง”
หลี่ฝางฟังออกว่ามีเงื่อนงำบางอย่าง จึงบอกกับหูเฟยที่อยู่ปลายสาย:“นายบอกฉันมาตามตรง นายรู้ใช่ไหมว่าใครเป็นคนช่วยหมาจื่อ”
“เพิ่งได้ข่าวมา คือท่านจวน”