NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่782 นี่คือพลังของกำลังภายใน

บทที่782 นี่คือพลังของกำลังภายใน

บทที่782 นี่คือพลังของกำลังภายใน
ท่านจวนมองคนวัยกลางคนนี้ ที่หน้าก็ปรากฏความนับถือเล็กน้อย ท่านจวนพูดกับคนวัยกลางคนนี้ ด้วยใบหน้าที่เคารพว่า:“ชีซาเพื่อนรัก รบกวนคุณจริงๆเลย ต้องให้คุณต้องมาหาถึงที่”

“ผมสมควรมาอยู่แล้ว”

ชายวัยกลางคนที่ถูกเรียกว่าชีซา สองมือยกขึ้นมาไว้ด้วยกัน แล้วพูดกับท่านจวน:“ท่านจวนเคยช่วยเรื่องทุนต่อเซราฟิมของพวกเราตั้งเยอะ เริ่มช่วยระดมทุนตั้งแต่พวกเราพี่น้องก่อตั้งขึ้น จนกระทั่งตอนนี้ บุญคุณที่ท่านมีต่อพวกเรา พวกเราสามคนพี่น้อง ไม่ลืมง่ายๆ”

ใบหน้าท่านจวนเต็มไปด้วยความประทับใจ ชีซาจำบุญคุณของเขาในตอนนั้นได้ เป็นเรื่องที่ยากมาก

องค์กรเซราฟิมนี้ มีผู้นำทั้งหมดหลักๆ พวกเขานั้นแบ่งเป็นชีซา โพ่จุน และก็หมาป่าละโมบ

สามคนนี้ ชื่อที่แท้จริงนั้น ไม่มีใครรู้ พวกเขาล้วนแล้วแต่ใช้ชื่อเล่นมาที่ยุทธภพ

พวกเขาสามคน ถึงแม้จะไม่เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง แต่อย่างน้อยคนที่รู้จักพวกเขา ต่างก็กลัวการมีอยู่ของพวกเขาทั้งนั้น

เพราะว่าสามคนนี้ เป็นองค์กรนักฆ่าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ

ไม่มีใครไม่กลัวพวกเขา

แต่ว่าองค์กรนักฆ่าเซราฟิมนี้ น้อยมากที่จะร่วมความขัดแย้งบนยุทธภพนี้ พวกเขาก็แค่รับจ้างฆ่าคน

คิดไม่ถึงว่า ท่านจวนจะแอบเลี้ยงพวกเขามาตลอด ……

ในความเป็นจริงแล้ว ก่อนที่พวกเขาสามคนนี้จะเข้ามาในวงการ ได้เสริมกำลังท่านจวน ท่านจวนก็เคยรับปรมาจารย์สามคนนี้ มาไว้ภายใต้บังคับบัญชาของตัวเอง

ก็แค่ สามคนนี้ มีความมักใหญ่ใฝ่สูงมากไป และก็ไม่ยอมถวายชีวิตให้ใคร

ท่านจวนรู้ว่าปรมาจารย์แบบนี้ ถึงแม้จะเอามาเป็นลูกน้องไม่ได้ ก็เป็นศัตรูด้วยไม่ได้ จึงให้เงินพวกเขา ให้พวกเขาก่อตั้งองค์กรนักฆ่า เซราฟิม

หลายปีมานี้ เซราฟิมก็ยิ่งใหญ่โตมากขึ้น รวบรวมปรมาจารย์พื้นบ้านได้จำนวนมาก

หลายปีมานี้ ท่านจวนก็ไม่เคยละทิ้งการช่วยเงินสนับสนุนต่อเซราฟิม

อย่างที่พูดกันว่าเตรียมความพร้อมในยามปกติมาอย่างยาวนานก็เพื่อเอาไว้ใช้ในยามเร่งด่วน ตอนนี้ ก็ถึงเวลาที่จะใช้พวกเขาแล้ว

“ชีซา?”

ตอนที่ได้ยินชื่อนี้ ตัวของลุงเฉียน ก็สั่นเล็กน้อย

ถ้าเมื่อกี๊สีหน้าของลุงเฉียนนั้นหนักอึ้ง งั้นตอนนี้ ก็หวาดกลัว

ชีซามาแล้ว ที่ใบหน้าของลุงเฉียน ก็หมดหวังหน่อยๆ

หรือว่า วันนี้ตัวเองจะตายที่นี่?

โหจื่อค่อยๆยืนขึ้นมา ในมือถือกระบี่อ่อนไว้ เดินเข้ามาทีละก้าว

ร่างของโหจื่อ ทำให้คนชื่นชม

เขาฆ่าคนมาเยอะ สู้มาหลายครั้ง เขาที่เดิมทีหมดเรี่ยวหมดแรงแล้ว กลับต้องยืนขึ้นมาสู้อีกครั้ง

ก็แค่ โหจื่อในตอนนี้ ไม่สามารถสู้ได้

ชีซามองโหจื่อ เดาอะไรออก

“เลือดที่ตัวคุณ ที่เปื้อนนั้น เป็นพี่น้องท้องเดียวกันกับผม?”ชีซาถามไป แล้วก็แสดงอาการเย็นชาอย่างมาก

โหจื่อพยักหน้า พูดว่า:“เลือดของคนอ่อนแอไร้ค่า”

“ไม่มีใคร ที่จะดูหมิ่นเซราฟิมได้ตามอำเภอใจ ไม่อย่างนั้น ก็ตายซะ”

สายตาชีซาคมกริบ มองโหจื่อ:“เหมือนว่าคุณจะสู้ไม่ได้อีกแล้ว ผมในฐานะหนึ่งในผู้ก่อตั้งของเซราฟิม ไม่มีทางเอาเปรียบผู้อื่น ผมจะให้เวลาคุณพักฟื้น รอคุณพักฟื้นดีแล้ว ค่อยมาฆ่าคุณ”

“เหอะเหอะ”โหจื่อหัวเราะอย่างดูถูก มาตรงหน้าของหลี่ฝางกับลุงเฉียน

ท่านจวนไม่ชอบความหยิ่งในศักดิ์ศรีของชีซามาก แต่เขาก็ไม่กล้ามีอิทธิพลต่อความคิดของชีซา

ชีซาในตอนนี้ ท่านจวนไม่อาจออกคำสั่งได้เลย

“ชีซาเพื่อนรัก เด็กคนนี้ฝึกกำลังภายในได้ อย่าปล่อยเขาไปง่ายๆเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นก็จะเป็นเลี้ยงลูกเสือลูกจระเข้”ท่านจวนชี้ไปที่หลี่ฝางแล้วพูด

ที่จริง ท่านจวนอยากไว้ชีวิตของหลี่ฝาง เพื่อเอาไว้ศึกษาดีๆ

แต่เมื่อกี๊ ตอนที่หลี่ฝางเกือบจะฆ่าเขา ท่านจวนก็เปลี่ยนความคิดทันที

กำลังภายใน?

รูม่านตาของชีซาขยายกว้างทันที หลายปีมานี้ พวกเขาสามคนพี่น้อง ครุ่นคิดถึงกำลังภายในที่อยู่ในตำนานมาลอด แต่ว่า สัมผัสมานานแล้ว ก็ยังไม่ได้อะไรจากกำลังภายใน

กระทั่งว่า พวกเขาสามคนพี่น้องคิดเหมือนกันว่า กำลังภายในเป็นการมีอยู่ของสิ่งเพ้อฝัน เป็นอย่างหนึ่งที่ไม่มีอยู่

แต่ตอนนี้ท่านจวนกลับพูด เด็กตรงหน้าคนนี้ ดันฝึกกำลังภายใน?

ใบหน้าของชีซา ไม่ใช่แค่ไม่กลัวสักนิด แต่ยังดีใจหน่อยๆ

ใบหน้าของเหยโก่วกับหมาป่าขาว ก็ปรากฏความตะลึงพร้อมกัน

“ท่านจวน คุณล้อเล่นอะไรกัน เด็กคนนี้อายุแค่เท่าไหร่ ฝึกกำลังภายในได้แล้ว?”ในตาของเหยโก่ว นี่คือเรื่องที่เป็นไปไม่ได้

ถึงแม้กำลังภายในไม่ใช่ความลับอะไร สำหรับนักศิลปะป้องกันตัว แต่ว่า ถ้าบอกว่าหลี่ฝางเด็กคนนี้ฝึกกำลังภายในได้ พวกเขาไม่เชื่อ

ท่านจวนพูดด้วยใบหน้าซับซ้อน:“บอดี้การ์ดสี่คนของผม มีอยู่สองคนที่ตายในมือของเด็กคนนี้”

“คุณหมายถึงพวกหม่าเฟิง?”ชีซาขมวดคิ้ว ตอนนั้นที่เขารู้จักท่านจวน เคยเห็นพวกหม่าเฟิงแล้ว

สำหรับพวกหม่าเฟิงแล้ว ชีซาเข้าใจอยู่

ท่านจวนพยักหน้า

ชีซาหัวเราะเหอะเหอะ:“ถึงแม้ฟังดูแล้วไร้สาระสุดๆ แต่ผมเชื่อว่าท่านจวนไม่ใช่คนที่ชอบล้อเล่น”

“คุณฝึกกำลังภายใน ทั้งที่อายุน้อยๆแบบนี้ได้ไง?”ชีซามองหลี่ฝาง แล้วถามเบาๆ

“พระเจ้าให้มา”หลี่ฝางพูดไปสั้นๆ

ชีซาได้ยินก็ขมวดคิ้ว ใครจะไปรู้ว่า คำพูดลวกๆแบบนี้ จะไม่อยากฟังอย่างเห็นได้ชัด

เหยโก่วขมวดคิ้ว พูดว่า:“ผมไม่เชื่อว่าเด็กคนนี้จะฝึกกำลังภายใน”

ตอนที่เหยโก่วจะลงมือ หมาป่าขาวยื่นมือออกไปพูดว่า:“เมื่อกี๊พวกเราพูดแล้ว เด็กคนนี้ เป็นเหยื่อของพวกเราเอง”

เหยโก่วไม่พอใจหน่อยๆ แต่ก็ได้แต่ยอม เขาโบกมือ พูดว่า:“โอเค คุณจะจัดการก็จัดการ”

ชีซาเตือนหมาป่าขาวไปว่า:“ระวังหน่อย”

หมาป่าขาวพยักหน้า แล้วมาที่หลี่ฝาง

แล้วลุงเฉียนก็เข้าใจ หลี่ฝางเพิ่งได้รับมรดกทางสายเลือดของหลอซ่าสำแดงพลังออกมาได้ไม่มากนัก

เผชิญหน้ากับศัตรูที่รับมือยากอย่างหมาป่าขาว ลุงเฉียนคิดว่า หลี่ฝางสู้แล้วจะต้องใช้แรงหน่อย

แต่ตอนที่ลุงเฉียนจะช่วย เหยโก่วก็ยิ้มยิงฟัน หัวเราะหึหึให้ลุงเฉียน:“ชายชรา คนที่คุณต้องรับมือด้วยคือผม”

พูดไป เหยโก่วก็กระโดด พุ่งเข้ามาที่ลุงเฉียน

ตาชีซาจ้องไปที่หลี่ฝาง เหมือนกับมองเห็นของล้ำค่าอะไรอย่างนั้น

ความเร็วของหมาป่าขาวนั้นเร็วมาก แต่หลี่ฝางกลับมองออกอย่างชัดเจนว่า หมาป่าขาววาบตัวเข้ามา หลี่ฝางหลบกลับได้อย่างคล่องแคล่ว

สีหน้าหมาป่าขาวเปลี่ยนไป:“คุณ……ไม่ธรรมดาจริงๆด้วย”

ในมือหมาป่าขาวหยิบลูกดอกมาสองสามอัน คว้าไว้ในมือ เตรียมจะเขวี้ยงออกไปอยู่ตลอดเวลา

และฉวยโอกาสจากช่องว่างนี้ ท่านจวนจึงคว้าแขนของนักฆ่า พูดไปว่า:“ไปฆ่าเขา”

คนนั้นที่ท่านจวนพูดถึง ก็คือโหจื่อ

โหจื่อในตอนนี้ พิการไปแล้ว ตอนนี้ฆ่าเขา ก็ถือเป็นโอกาสที่ดีที่สุด

แต่ว่า ชีซาเพิ่งพูดไปว่า เขาจะรอให้โหจื่อฟื้นตัวได้ก่อน แล้วค่อยฆ่าเขากับมือ

ตอนนี้ ท่านจวนกลับต้องการให้นักฆ่าคนนี้ไปฆ่าโหจื่อ แล้วนักฆ่าจะกล้าได้ไง?

นักฆ่าคนนี้มองชีซา แต่ความสนใจของชีซา ต่างไปอยู่ที่หลี่ฝาง ท่านจวนมองนักฆ่าคนนี้ แล้วพูดต่อ:“สิบล้าน ถ้าทางด้านชีซาตำหนิขึ้นมา ผมจะช่วยขออภัยให้คุณเอง”

หลังจากมีคำรับประกันนี้แล้ว นักฆ่าคนนี้ก็กลายเป็นร้อนรนขึ้นมาทันที

พวกเขาก็ทำเพื่อเงิน มาเข้าร่วมกับเซราฟิม ตอนนี้ ท่านจวนให้เขาสิบล้านในครั้งเดียว สำหรับนักฆ่าที่เป็นลูกน้องตัวเล็กๆแบบนี้ สิบล้าน ทั้งชีวิตของพวกเขานั้นก็แทบกระอักเลือดที่จะหามาได้

นักฆ่าคนนี้ไม่คิดอะไร ก็เคลื่อนไหวทันที

กริชในมือ ก็เข้ามาแทงทางโหจื่อโดยตรง โหจื่อยกกระบี่อ่อนขึ้นมา หลบการโจมตีนี้

จากนั้น ในมือของโหจื่อ ก็ปรากฏยาสีเหลืองขวดหนึ่ง ความจริงนี้เป็นของหลี่ฝาง โหจื่อถือโอกาสที่ไม่สนใจ ขโมยมา

โหจื่อเอายาสีเหลืองกรอกใส่ในปากของตัวเอง จากนั้น ร่างกายของเขา ก็มีเสียงแตกดังออกมา

แป๊บเดียว พลังที่ตัวของโหจื่อพุ่งสูงขึ้น ชีซาเห็นการเปลี่ยนแปลงนี้ แต่นักฆ่าคนนั้นไม่เห็น เขายังคงคิดว่าตอนนี้โหจื่อเหมือนคนพิการ แค่ขยับตัวก็ฆ่าทิ้งได้

แต่โหจื่อขยับตัว ก็ปรากฏอยู่ด้านหลังของนักฆ่าคนนี้ กระบี่อ่อน โอบไปที่คอของนักฆ่าคนนี้

มีเสียงแทง แล้วมุมปากของโหจื่อ ปรากฏรอยยิ้มที่น่ากลัว

เลือดสด ก็กระจายสีแดงไปที่กระบี่อ่อนในมือของโหจื่อ

ชีซามองโหจื่อ ขมวดคิ้วแล้วถาม:“ที่คุณดื่มเมื่อกี๊ คืออะไร?”

ถึงแม้ชีซาไม่เข้าใจว่ายาสีเหลืองนั่นคืออะไร แต่ความสามารถในการต่อสู้ฟื้นฟูขึ้นมาได้ทันที ทำให้ชีซาหลงใหลอย่างมาก

โหจื่อหัวเราะหึหึ:“นี่คือเหล้าพิษที่พระเจ้าคุณศึกษาออกมา ทำไม คุณก็จะดื่มเหรอ?”

“คุกเข่าลงเรียกผมว่าพระเจ้าสิ บางทีผมอาจจะให้รางวัลคุณสักหยด”โหจื่อพูด

ชีซาได้ยินก็ขมวดคิ้ว ประโยคของโหจื่อ ทำชีซาหงุดหงิดสุดๆ ชีซาพูดอย่างเย็นชา:“อยากตายสินะ!”

จากนั้น ชีซาก็ลงมือ

โหจื่ออยากจะยั่วยุชีซา ให้ลงมือที่เขาสุดๆ

ก็แค่โหจื่อนั้นรู้ดี ในเมื่อชีซาเล็งไปที่หลี่ฝางแล้ว ก็ไม่มีทางยอมวางมือแน่

ถึงแม้หลี่ฝางเอาชนะหมาป่าขาวได้ ชีซาก็จะลงมือจัดการหลี่ฝาง

ดังนั้น ชีซาไม่ใช่แค่ผู้ชม คนๆนี้ ไม่ช้าก็เร็วก็จะลงมือ

ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นโหจื่อก็นิ่งดูดายไม่ได้แล้ว เขาจะจัดการภัยแฝงนี้ทิ้ง แทนหลี่ฝางเอง

ชีซาลงมือ ไม่ว่าจะเป็นความเร็ว หรือว่าพลัง ก็สุดยอดเยอะกว่าหมาป่าขาวกับเหยโก่วมากเลย

หลี่ฝางเห็นการลงมือของชีซา ก็ถอนหายใจ ส่วนหมาป่าขาวในตอนนี้ก็พูดเสียงดูถูก:“นี่น่ะเหรอปรมาจารย์กำลังภายในที่ในตำนานน่ะ?ดูเหมือนจะไม่เท่าไหร่นะ”

ในตำนานกล่าวว่า ปรมาจารย์กำลังภายในนั้นทรงพลังจนน่าหวาดกลัว

คนฝึกศิลปะการต่อสู้อย่างหมาป่าขาวนี้ อยู่ในมือของปรมาจารย์กำลังภายใน ก็มีชีวิตอยู่ไม่เกินหนึ่งนาที

ตอนนี้ หมาป่าขาวสงสัยหน่อยๆว่า ท่านจวนกำลังโกหก หลี่ฝางไม่ใช่ปรมาจารย์กำลังภายในอะไร

หมาป่าขาวส่ายหน้า เหมือนจะผิดหวังหน่อยๆ ลูกดอกในมือเขา ลอยออกไปพร้อมกัน เตรียมจะทำร้ายหลี่ฝางอย่างหนักไม่ก็ฆ่าตาย

และตาของหลี่ฝางในตอนนี้ก็เปลี่ยนอย่างรวดเร็ว

ตาของหลี่ฝาง แค่มองก็มองทิศทางวิ่งมาของลูกดอกออก เขาก้มเอว เคลื่อนไหวตัว การเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว หลบลูกดอกพวกนี้พอดี

ฉากนี้ ทำเอาหมาป่าขาวตกใจ

หมาป่าขาวมั่นใจกับลูกดอกของตัวเองเป็นพิเศษ นอกจากเจ้าสำนักทั้งสามแล้ว ก็มีไม่กี่คน ที่สามารถหลบลูกดอกของเขาได้ โดยไม่ได้รับบาดเจ็บ

แต่หลี่ฝางกลับทำได้

หลังจากหลี่ฝางหลบไป ใบหน้าก็ปรากฏเหงื่อออกมา เหมือนว่า วินาทีที่ลูกดอกพวกนี้ผ่านผิวของตัวเองไป หลี่ฝางก็รู้สึกตื่นตระหนก

“ความเร็วของเขา นั้นไวกว่าผมอีก”

หมาป่าขาวพูดเสียงหม่น:“แต่ว่า คุณขาดการต่อสู้ที่แท้จริง”

จากความเร็วของหลี่ฝาง เขาสามารถเอาชนะหมาป่าขาวได้อย่างง่ายดาย จุดนี้ หมาป่าขาวรู้เป็นอย่างดี

แต่ว่าหาทางออกมาไม่ได้สักพักแล้ว หลี่ฝางก็ยังไม่ได้โจมตีตัวเอง ทำให้หมาป่าขาวคิดว่า เด็กตรงหน้าคนนี้ก็แค่นักฝึกศิลปะการต่อสู้ที่ไม่เอาไหน

หมาป่าขาวหัวเราะอย่างเย็นชา พุ่งเข้ามา มีดในมือยกขึ้นแล้วเอาลง ปาดไปที่ข้างกายของหลี่ฝางโดยตรง

วินาทีที่หลี่ฝางหลบ หมาป่าขาวหมุนตัว ขาข้างนั้นเตะเข้ามา หลี่ฝางเอามือไปบัง แต่ก็ยังถูกเตะออกไปหลายเมตร

“คิดไม่ถึงว่า ปรมาจารย์กำลังภายในที่เคยเจอเพียงคนเดียวในชีวิต วันนี้จะมาตายในเงื้อมมือของผมได้”

หมาป่าขาวส่ายหน้าหัวเราะอย่างดูถูก ขยับตัวขึ้นไป ส่วนหลี่ฝางกลับกระโดดขึ้นจากพื้น กระโดดขึ้นมา ใช้กำลังทั้งตัว ปล่อยหมัดต่อยไปที่หมาป่าขาว

หมาป่าขาวหลบได้ แต่โดยสัญชาตญาณแล้วไม่ได้หลบ เขาจะต่อต้านการโจมตีนี้ ทันใดนั้น ก็เอามีดในมือ เสียบเข้าไปในร่างกายของหลี่ฝาง

แต่ว่า หมาป่าขาวคิดไม่ถึงเลยว่า หมัดของหลี่ฝางนี้ จะเหมือนกับแรงกดดันและการโจมตีขนาดใหญ่

หมัดนี้ต่อยมา ทั้งตัวหมาป่าขาวก็คุกเข่าไปที่พื้น อวัยวะภายในเหมือนจะแตกเป็นเสี่ยงๆ เลือดนั้น ก็พุ่งออกมาทันที

“หมาป่าขาว!”

เหยโก่วมองเห็นฉากนี้ ก็ตะโกนอย่างร้อนรน

ชีซาตั้งใจรับมือกับโหจื่อ ไม่กล้าฟุ้งซ่าน

หลี่ฝางมองหมาป่าขาวด้วยสีหน้าราบเรียบ:“ไม่ใช่ว่าคุณไม่เชื่อมาตลอดเหรอว่าผมฝึกกำลังภายใน?นี่ก็คือพลังของกำลังภายใน”

ลมหายใจหนึ่ง แทรกเข้าไปในร่างกายของหมาป่าขาว ทำให้หมาป่าขาวเจ็บปวดอย่างมาก

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท