NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 820 ลู่หลุ่ยอยู่ในอันตราย

บทที่ 820 ลู่หลุ่ยอยู่ในอันตราย

ระหว่างทางจากอำเภอหลินไปเมืองเอก รถสปอร์ตก็ขับด้วยความเร็วสูง

เมื่อตัดสินใจไปเจอลู่หลุ่ย หลี่ฝางก็ไม่รอช้าสักนิด ขับรถสปอร์ตด้วยความเร็วสูงสุดมาถึงเมืองเอก ระหว่างทางไม่ได้หยุดเลย เหยียบคันเร่งจนมิดจนเกิดเสียงบรื้นของรถสปอร์ต ขับผ่านรถแต่ละคันไปเร็วราวกับสายฟ้า

เมื่อเขาเร่งรีบมาจนถึงเมืองเอก ฟ้าก็เพิ่งจะมืดสนิท ก่อนหน้านี้เหมิงเหมิงโทรหาเขาบอกว่าปาร์ตี้จัดขึ้นตอนกลางคืน ตอนนี้ดูเวลาคงใกล้จะเริ่มแล้ว หลี่ฝางก็ไม่มีเวลาขวางลู่หลุ่ยไว้แล้วค่อยๆ พูดกับเธอดีๆ ดังนั้นเขาจึงรีบขับรถไปตามที่อยู่ที่เหมิงเหมิงส่งมาให้

โลเคชั่นที่เหมิงเหมิงให้มาคือหาดทรายที่มีชื่อว่าหาดทรายบี้ไห่ ในเมืองเอกมีหาดทรายเพื่อความบันเทิงอยู่หลายแห่ง ในนั้น หาดทรายบี้ไห่เป็นสถานที่ที่หรูหราที่สุด

ที่นี่ เป็นหาดทรายของเอกชน ได้รับการพัฒนาอย่างสมบูรณ์แบบ กิจกรรมที่ควรมีก็มีทุกอย่าง ทุกวันมีกลุ่มคนจำนวนมากมาเที่ยวที่นี่

แม้แต่ตอนกลางคืน ที่นี่ก็ยังมีกลุ่มคนพลุกพล่านทั้งตั้งแคมป์ ย่างบาร์บีคิว ที่นี่จึงครึกครื้นมาก

แต่วันนี้ ทั้งหาดทรายบี้ไห่กลับไม่มีความครึกครื้นเหมือนที่ผ่านมา ทั้งหาดทราย ไม่เห็นแม้แต่เงาคนสักคน มีคนอยากเข้ามาเที่ยวเป็นระยะ ก็ถูกกลุ่มเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในเครื่องแบบขวางเอาไว้

เมื่อพวกเขาถามอย่างชัดเจนว่าทำไมถึงเข้าไปเล่นไม่ได้ ถึงได้รู้ว่าที่นี่ถูกลูกเศรษฐีคนนึงเหมาสถานที่ไว้ เพื่อจัดปาร์ตี้ ตลอดทั้งคืน ที่นี่ปล่อยให้เข้าได้แค่ผู้ถูกรับเชิญ

ถูกคนอยากรู้อยากเห็นเมื่อได้รู้ความจริง นอกจากส่ายหัวแล้วหันหลังกลับ ก็ไม่มีวิธีที่ดีกว่านี้แล้ว

ถึงยังไงที่นี่เป็นที่ของเอกชน ถูกคนเหมาสถานที่ไว้ก็ถือว่ามีเหตุผล

แต่นี้ยิ่งทำให้พวกเขายิ่งสะอื้น คร่ำครวญถึงความสุขที่คนรวยหาได้ที่คนจนนึกภาพไม่ออกจริงๆ คนอื่นมาเที่ยวที่นี่ล้วนต้องเที่ยวอย่างเบียดเสียดกับคนอื่นๆ คนรวยมาก็เหมาไปทั้งหาดเที่ยวอยู่คนเดียว สนุกน่าดูเลย

ตรงทางเข้าของหาดทรายทั้งหาด มีผู้หญิงสวมชุดหน้าร้อนดูสบายๆ ยืนอยู่ตรงที่ไม่เป็นจุดสังเกต มองไปตรงทางเข้าออกเป็นระยะๆ สีหน้าดูรีบร้อน ราวกับกำลังหาคนอยู่

ผู้หญิงคนนั้นก็คือเหมิงเหมิง ถึงแม้ตอนที่โทรหาหลี่ฝางหล่อนจะโมโหมากๆ จนแม้แต่โทรศัพท์ของหลี่ฝางหล่อนก็ไม่อยากจะรับ แต่เมื่อหลังจากได้ยินว่าหลี่ฝางจะรีบมา เธอก็ยังคงอยู่ตรงนี้รอหลี่ฝาง

ปาร์ตี้ได้เริ่มขึ้นแล้ว เหมิงเหมิงกลัวว่าหลี่ฝางไม่มีการ์ดเชิญ จะถูกรปภ.ขวางเอาไว้ จึงทำได้แค่รอเขาอยู่ตรงนี้ ส่วนลู่หลุ่ย เธอได้ฝากให้เพื่อนสาวอีกคนดูแลหล่อนแล้ว

ถึงแม้จะไม่ค่อยวางใจ แต่เธอก็คิดว่าแค่แป๊บเดียว คงไม่เกิดเรื่องอะไรหรอกมั้ง ขอแค่หลี่ฝางมาถึง ไม่แน่บางทีลู่หลุ่ยอาจจะเปลี่ยนใจก็ได้

“ทำไมยังไม่มาอีก ไอ้บ้านั่น นี่มันจะทุ่มนึงแล้วนะ”

เหมิงเหมิงลนลานอยู่ในมุมมืด จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงบรื้นของรถสปอร์ต เงยหน้าขึ้นมอง ห่างออกไปมีรถปอร์เช่918สีแดงราวกับเปลวไฟที่แผดเผาคันนึง ในชั่วพริบตาก็พุ่งเข้าไปที่หน้าประตู

หลี่ฝางเดินลงจากรถ ไม่สนใจว่าจอดรถไว้ตรงนี้จะมีปัญหาอะไรมั้ย แล้วเดินตรงไปทางเข้าออกที่มีอยู่ที่เดียว

“คุณผู้ชาย ขอโทษครับ ที่นี่โดนจองเหมาไว้แล้วครับ กรุณาแสดงบัตรเชิญเพื่อเข้าไปข้างในด้วยครับ”

เมื่อเดินไปได้ไม่กี่ก้าว รปภ.ที่จริงจังก็หยุดหลี่ฝางเอาไว้

“ต้องใช้บัตรเชิญ?”

หลี่ฝางขมวดคิ้ว ถ้าหากปกติก็ช่างเถอะ แต่ว่าตอนนี้อารมณ์ไม่ได้ พอได้ยินคำพูดของรปภ. ถึงจะรู้ว่าเป็นหน้าที่ของเขา แต่ยังอดไม่ได้ที่จะรู้สึกโกรธในใจ แทบจะทนไม่ไหวจะลงไม้ลงมือแล้ว

ในตอนนั้นเหมิงเหมิงก็เดินเข้ามาพอดี เห็นสีหน้าของหลี่ฝางไม่ปกติ จึงรีบพูดขึ้นเสียงดัง: “เขามากับฉัน แค่มาช้านิดหน่อยเท่านั้น ให้เขาเข้ามา”

ประโยคนี้ พูดกับรปภ.สองคนนั้น

รปภ.สองคนนั้นที่จริงก็เห็นหลี่ฝางขับรถสปอร์ตที่โดดเด่นแบบนั้นก็รู้แล้วว่าหลี่ฝางไม่ใช่คนธรรมดา เมื่อกี้ตอนที่ขวางไว้ก็รู้สึกกังวลเล็กน้อย ตอนนี้ได้ยินที่เหมิงเหมิงพูด ในใจก็รู้สึกโล่งขึ้นมา แล้วรีบหลีกทางให้

“โทษที มาสายแล้ว ระยะทางมันไกลนิดนึง ลู่หลุ่ยอยู่ไหน?”

เมื่อเข้าไป หลี่ฝางก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง ถามถึงสถานการณ์ของลู่หลุ่ยทันที

“อยู่ด้านใน ฉันไม่กล้าบอกนางเรื่องที่นายกลับมา กลัวนางจะสติแตก อารมณ์นางไม่ดีเอามากๆ ฉันกังวลว่านางจะเกิดเรื่อง จึงหาเพื่อนช่วยดูนางไว้อยู่ นายรีบไปดูเถอะ”

เหมิงเหมิงพูดอย่างรีบร้อน พลางยื่นมือลากหลี่ฝางเดินเข้าไปด้านใน

บนเรือสำราญที่มีความยาวกว่าสองร้อยเมตร มีดาดฟ้าใหญ่ที่สามารถจุคนได้หลายร้อย กลุ่มคนที่มาร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์ ส่วนใหญ่ขึ้นมารวมตัวกันอยู่บนดาดฟ้านี้

บนดาดฟ้าที่ครึกครื้น มีคนร้องเพลงเต้นรำ มีคนทานอาหารอย่าเอร็ดอร่อย มีเสียงหัวเราะร่าเริง ดูมีชีวิตชีวามาก

กลุ่มคนที่มุมนึง ชายกลุ่มนึงกำลังล้อมวงกัน ไม่รู้ว่าล้อมใครไว้ด้านใน มีเสียงหัวเราะดังขึ้นเป็นระยะๆ ปนกับเสียงร้องของผู้หญิง

เหมิงเหมิงพาหลี่ฝางเดินเข้าไปจากที่ไกลๆ เมื่อเห็นภาพตรงนี้ สีหน้าก็ถอดสีทันที แล้วพูดอย่างตกใจ: “เกิดอะไรขึ้น พวกเขากำลังทำอะไร?”

“ลู่หลุ่ยอยู่ด้านใน?” น้ำเสียงเย็นยะเยือกของหลี่ฝางดังขึ้น

“อืม ก่อนหน้านี้ฉันให้ลู่หลุ่ยอยู่ตรงนี้ ทำไม……” เหมิงเหมิงร้องขึ้นอย่างลนลาน ไม่ได้รู้สึกถึงความเย็นชาและความอาฆาตในน้ำเสียงของหลี่ฝางเลย

เมื่อเสียงหยุดลง ก็มีเงาแวบผ่านหน้าของเหมิงเหมิง ต่อมา ดวงตาของเหมิงเหมิงก็เบิกกว้าง

เพราะว่าเธอเห็นว่าวินาทีที่แล้วหลี่ฝางยังอยู่ข้างกายเธอตอนนี้ได้ปรากฏตัวอยู่ตรงมุมนั้นแล้ว สองมือคว้าแน่น ทีละคนละคน เหวี่ยงผู้ชายที่ล้อมวงตรงนั้นทิ้งออกไปอย่างไม่เกรงใจ

ท่าทางที่ดูสบายๆ ราวกับที่เขาโยนทิ้งไปไม่ใช่ชีวิตคนทั้งคน แต่เป็นถุงขยะแบบนี้

สิ่งนี้ทำให้เหมิงเหมิงประหลาดใจ ที่จำได้ในความคิดเธอหลี่ฝางไม่น่าจะมีแรงเยอะขนาดนี้

แต่เห็นได้ชัดว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลามาคิดถึงเรื่องนี้ ผู้ชายพวกนั้นถูกหลี่ฝางเหวี่ยงทิ้งออกไป ตอนนี้คนที่ถูกล้อมไว้ก็ปรากฏต่อหน้าเหมิงเหมิง

นั่นก็คือผู้หญิงหน้าตาดีคนนึง เสื้อผ้าดูไม่เป็นระเบียบ หล่อนถูกคนมอมเหล้าไปเยอะมากๆ ถึงขนาดเมาไม่ได้สติ บนตัวเป็นเพราะถูกรดด้วยเหล้ามากมายจึงถึงให้เนื้อตัวเปียกปอน

เหมิงเหมิงในตอนนั้นก็นึกขึ้นมาได้ ผู้หญิงคนนี้คือเพื่อนที่ก่อนหน้านี้เธอฝากให้ดูแลลู่หลุ่ย ตอนนี้เธอถูกผู้ชายกลุ่มนี้มอมเหล้าจนสภาพเป็นแบบนี้ ดูก็รู้ว่าจงใจ งั้นลู่หลุ่ยไปไหนแล้วล่ะ?

หลี่ฝางลากคอลูกเศรษฐีคนนึงขึ้นมาจากพื้น ใช้มือข้างเดียวบีบคอเขาขึ้นมา เพียงไม่กี่ก้าวก็เดินมาถึงขอบดาดฟ้าเรือ ทำให้ตัวเขาทั้งตัวหันไปทางนอกทะเล

“ลู่หลุ่ยไปไหนแล้ว?” น้ำเสียงของหลี่ฝางยิ่งร้ายกาจ และบ้าคลั่งขึ้นกว่าเก่า ตอนนี้สถานการณ์ชัดเจนมาก หลังจากเหมิงเหมิงปล่อยลู่หลุ่ยอยู่ตรงนี้ ลูกคนรวยที่เหมิงเหมิงเคยพูดถึงส่งคนมาขวางล้อมผู้หญิงคนที่ถูกมอมเหล้าคนนั้น จากนั้นก็พาลู่หลุ่ยไป

หลี่ฝางที่เป็นห่วงความปลอดภัยของลู่หลุ่ย ก็แทบจะบ้าคลั่ง แม้แต่ในเวลานี้ เขาก็ไม่สนใจแล้วว่าจะต้องใช้วิธีสุดโต่งบางอย่าง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน