NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 798 ออร่าของผู้ยิ่งใหญ่

บทที่ 798 ออร่าของผู้ยิ่งใหญ่

“หลี่ฝาง……หลี่ฝาง? แกคือคุณชายหลี่ของเมืองเอก?”

เหล่าจิ่งมองหลี่ฝาง แววตาเต็มไปด้วยความตกใจ

ในฐานะคนที่อยู่ข้างกายแมงป่อง เขาจะไม่รู้จักหลี่ฝางได้ยังไง?

คนที่อยู่เบื้องหลังให้ราคาหนึ่งร้อยล้านหยวน เพื่อเอาชีวิตของแมงป่อง คือหลี่ฝางไม่ใช่เหรอ?

แต่ว่า ข่าวลือของหลี่ฝาง เป็นแค่ลูกคนรวยที่รู้จักแต่เที่ยวดื่มเท่านั้น

เขาต่อสู้เป็นได้ยังไง?

หลี่ฝางส่ายหน้า แล้วพูด:“ฉันไม่ใช่คุณชายหลี่ของเมืองเอก แต่เป็นที่ตงไห่ บ้านเกิดของฉันคือตงไห่ ฉันแค่มาเรียนมหาวิทยาลัยที่เมืองเอกชั่วคราวเท่านั้น”

“อย่าเข้าใจผิด” หลี่ฝางตบหน้าเหล่าจิ่ง แทบจะไม่ใช้แรงแต่อย่างใด

หยิ่นเหล่ยและหยิ่นเจิ้งเองก็ตกใจกับภาพตรงหน้ามาก

สองพ่อลูกนี้ถึงขั้นสงสัย ตนเองเพ้อฝันไปรึเปล่า…..

ไม่เจอกันแค่ไม่กี่วัน ทำไมหลี่ฝางถึงเก่งแบบนี้ได้?

ซุปเปอร์ฮีโร่มาสิงร่างแล้ว

การกระทำของหลี่ฝางเมื่อครู่ เคลื่อนไหวราวกับสายน้ำ อันธพาลพวกนี้ที่อยู่ในมือของหลี่ฝาง ไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่น้อย

เหมือนกับถ่ายละครอย่างไรอย่างนั้น

หยิ่นเจิ้งมองหลี่ฝางด้วยใบหน้าคาดหวัง อยากจะเป็นคนที่เก่งเหมือนหลี่ฝาง

“ฉันถามแก แมงป่องอยู่ที่ไหน?”

ในมือของหลี่ฝางถือปืนเอาไว้ เล็งไปที่สมองของเหล่าจิ่ง เอ่ยถามหนึ่งประโยค:“พาฉันไปหามันได้ไหม?”

“ถ้าได้ พาฉันไปตอนนี้ ถ้าไม่ได้ ฉันจะลั่นไก สมองแกไหลแน่” หลี่ฝางพูดอย่างตรงไปตรงมา

เหล่าจิ่งไม่แม้แต่จะพิจารณา รีบพยักหน้าด้วยความกระวนกระวาย:“ฉันพาไป ฉันพาไป”

หลี่ฝางพอใจกับคำตอบของเหล่าจิ่งอย่างมาก เก็บปืน แล้วให้เหล่าจิ่งขับรถ

มองดูหยิ่นเจิ้งและหยิ่นเหล่ย หลี่ฝางหัวเราะในลำคอ:“นี่คือเตรียมจะหนี แล้วถูกจับ?”

หยิ่นเหล่ยก้มหน้าลง ไม่ได้พูดอะไร แต่หยิ่นเจิ้งพูดด้วยความตรงไปตรงมามากว่า:“คุณชายหลี่ เรื่องนี้โทษพวกผมไม่ได้ ความพยายามที่ควรทำ ผมทำไปแล้ว พูดไปแล้ว ผมไม่ได้แพ้ เพียงแต่ เกิดการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยก็เท่านั้น”

“สังคมนี้ มีอำนาจบางอย่าง ที่นักธุรกิจอย่างพวกเราไม่สามารถเอาชนะได้ ซึ่งก็คือพลังบริสุทธิ์”

หยิ่นเจิ่้งพูด:“เผชิญหน้ากับยอดฝีมือพวกนี้ ผมทำอะไรไม่ได้เลย คิดว่าก่อนที่คุณจะมาหาพวกเรา คุณน่าจะไปโรงพยาบาลแล้ว พวกพ้องของคุณ นอนอยู่ในโรงพยาบาล ไม่มีพวกเขา ผมจะสู้กับแมงป่องได้ยังไง?”

“เมื่อหลายวันก่อน ผมบีบแมงป่องจนมุม บีบให้เขาเกือบออกไปจากอำเภอหลิน……แต่ใครจะไปรู้ ระหว่างทางมีเฉิงเหยาจินปรากฏตัวออกมา ยอดฝีมือมากมาย มาที่อำเภอหลิน อีกทั้งยังยืนอยู่ที่ฝ่ายอำเภอหลิน ยอดฝีมือที่ผมซื้อตัวมาจากนักมวยใต้ดิน สำหรับพวกเขา เป็นอะไรที่เปราะบางอย่างมาก คนพวกนี้ เห็นได้ชัดว่าผมไม่สามารถรับมือได้ ดังนั้น สิ่งที่อยู่ตรงหน้าผม มีแค่ทางเดียว ซึ่งก็คือหนี”

“ถึงแม้อำเภอหลินจะเป็นบ้านเกิดของผม ผมเองก็ไม่อยากจะไป แต่ก็ดีกว่าตายไม่ใช่เหรอครับ? ผมรู้จักกับแมงป่องมานานหลายปี เขาเป็นคนแบบไหน ผมรู้ดี เขาเหี้ยมโหดกว่าผม เขาชนะ เป็นไปไม่ได้ที่ผมจะมีชีวิต

หยิ่นเจิ้งมองหลี่ฝาง พูดด้วยความรู้สึกผิด:“ขอโทษด้วยนะครับ คุณชายหลี่ ที่ทำให้คุณผิดหวัง”

หลี่ฝางส่ายหน้า แล้วพูด:“ฉันไม่ได้ผิดหวัง อีกอย่าง คนอย่างนายก็ไม่คู่ควรให้ฉันผิดหวัง”

หลี่ฝางพูดจบ ไม่ได้สนใจสองพ่อลูกต่อ ขับรถออกไปทันที

“พวกนายไม่ต้องหนี”

ตอนที่หลี่ฝางสตาร์ทรถ บอกกับหยิ่นเจิ้ง:“ถ้าพวกนายเชื่อฉัน”

หลังจากหลี่ฝางไป หยิ่นเจิ้งและหยิ่นเหล่ยทั้งสองคน ยืนอยู่ตรงนั้น

หยิ่นเหล่ยมองหยิ่นเจิ้ง เอ่ยถาม:“พ่อครับ สรุปแล้วเราจะหนีหรือไม่หนี ตั๋วเครื่องบินจองเอาไว้หมดแล้ว หรือว่า เราจะออกไปซ่อนตัวก่อน”

“ถึงแม้คุณชายหลี่จะมา แต่ใครเป็นคนแพ้ชนะกันแน่ ยังไม่แน่นอน ถ้าคุณชายหลี่แพ้ให้กับพวกแมงป่อง ชีวิตของพวกเราสองคนพ่อลูก ก็คงรักษาเอาไว้ไม่ได้”

“ตอนนี้พวกเราควรจะออกไปซ่อนตัว รอให้เรื่องเงียบลง ค่อยกลับมา แน่นอน ต้องอยู่ภายใต้สถานการณ์ที่คุณชายหลี่เป็นฝ่ายชนะ”

หยิ่นเหล่ยพูด

หยิ่นเจิ้งขมวดคิ้วเป็นปม แล้วพูด:“แกคิดว่า พวกเราไปแล้ว ยังจะกลับมาได้อีกเหรอ?”

“ไม่ว่าใครจะชนะ พวกเราก็กลับมาไม่ได้แล้ว”

“คำพูดของคุณชายหลี่เมื่อกี้ เห็นได้ชัดว่ากำลังเตือนฉัน ถ้าฉันไม่ไป เกิดเขาชนะ เช่นนั้น อำเภอหลินแห่งนี้ ยังคงเป็นถิ่นของฉันหยิ่นเจิ้ง แต่ถ้าฉันไป ตอนกลับมา ถึงแม้คุณชายหลี่จะไม่ได้ฆ่าฉันเหมืองแมงป่อง แต่ธุรกิจในอำเภอหลิน ฉันเองก็ไม่มีสิทธิ์แล้ว”

หยิ่นเจิ้งพูดด้วยสีหน้าซับซ้อน:“เป็นการเลือกที่ยากจริงๆ”

“ธุรกิจอำเภอหลิน ทิ้งก็ทิ้งไปเลย ถึงยังไงในบัตรของพ่อ ก็มีเงิน ต่อให้พวกเราใช้เงินทั้งชีวิต ก็ไม่มีวันใช้หมดรึเปล่า?”

หยิ่นเหล่ยพูด:“ทำไมเราต้องอยู่ที่นี่ เพื่อเสี่ยงชีวิตด้วย?”

“พ่อครับ เหล่าจิ่งก็พูดแล้ว แมงป่องขุดหลุมเอาไว้ให้พวกเรา จะฝังพวกเราพ่อลูก เหล่าจิ่งไม่ได้พูดเล่น หรือว่าพ่ออยากจะถูกฝังทั้งเป็น?”

มองดูพ่อของตนเอง หยิ่นเหล่ยพูดด้วยความกลัว:“พ่อครับ เราไปกันเถอะ”

“จะไปแกก็ไปเอง บริษัทของฉันอยู่ที่อำเภอหลิน เพื่อนของฉัน เส้นสายของฉัน อยู่ที่อำเภอหลินทั้งหมด ถ้าฉันไป ของพวกนี้ ฉันก็ไม่เหลืออะไรแล้ว สิ่งสำคัญที่สุด แม่ของแก เธอ ท้องลูกของฉันเอาไว้ ถ้ายังมีความหวังแม้แต่น้อย ฉันก็จะอยู่ที่นี่”

หยิ่นเจิ้งพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

หยิ่นเหล่ยอยากไป แม้จะไม่ต้องตัดขาดความสัมพันธ์ทุกอย่างในอำเภอหลิน รวมถึงแม่ของตน เขาก็อยากจะไปจากที่นี่ ไม่อยากแบกรับอันตรายนี้

แต่ว่า หยิ่นเหล่ยเป็นลูกคนรวยที่กินและเที่ยวเป็นเท่านั้น นอกจากประจบแล้ว เขาทำอะไรไม่เป็นอีกเลย

เขาไม่มีเงินติดตัว ทันทีที่ไปจากหยิ่นเจิ้ง แค่มีชีวิตก็เป็นเรื่องยากแล้ว

หยิ่นเจิ้งไม่ไป เขาจะไปได้ยังไง

เขาไปที่ที่ไม่เคยไปตามลำพัง ต้องหิวตายแน่นอน

เขามองดูพ่อของตน เต็มไปด้วยความโมโห แต่กลับไม่สามารถระบายออกมาได้

“ถ้าอย่างนั้นเราก็ฝากความหวังเอาไว้ที่คุณชายหลี่?” หยิ่นเหล่ยทำหน้าเคร่งขรึม พูดด้วยน้ำเสียงโอดครวญเล็กน้อย

ถึงแม้การกระทำของหลี่ฝางเมื่อครู่ เหนือความคาดหมายของหยิ่นเหล่ย

แต่หลี่ฝางมาคนเดียว อาศัยหลี่ฝางคนเดียว ไปจัดการแมงป่องที่มีคนมากมาย นี่มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้

“ถ้าคุณชายหลี่พาคนมามากมาย ผมก็ไม่อยากไป แต่ว่า พ่อ พ่อเองก็เห็นแล้ว คุณชายหลี่มาคนเดียว ทั้งยังจะไปคิดบัญชีกับแมงป่องคนเดียว นี่ไม่ใช่รนหาที่ตายเหรอ?” หยิ่นเหล่ยใกล้จะหมดคำพูดแล้ว

เขารู้สึกว่าหลี่ฝางโง่

พ่อของตน ก็โง่

หยิ่นเจิ้งพยักหน้า แล้วพูด:“ฉันเชื่อมั่นในตัวคุณชายหลี่”

“เชื่อมั่นในตัวเขา? ถึงแม้การกระทำของเขาเมื่อกี้ จะน่าตกตะลึง แต่ก็แค่รับมือกับอันธพาไม่กี่กัน ยอดฝีมือตัวจริงอยู่ด้านหน้านู้น ไม่เพียงพอที่จะดู ครั้งนี้มีคนมาช่วยแมงป่อง ล้วนเป็นยอดฝีมือกันหมด ถึงแม้คุณชายหลี่จะเก่ง เขาก็เป็นแค่เด็กคนหนึ่ง อายุยังน้อยกว่าผมอีก แล้วจะเก่งแค่ไหนกัน?”

หยิ่นเหล่ยไม่เชื่อมั่นในตัวหลี่ฝาง เอาแต่พูดนินทา

“พ่อครับ พ่อคงไม่ได้คาดหวังว่าคุณชายหลี่เพียงคนเดียว สามารถเอาชนะ ยอดฝีมือพวกนั้นทั้งหมดหรอกใช่ไหม?”

หยิ่นเหล่ยสงสัยในตัวพ่อของตนเอง สมองขึ้นสนิมหรืออย่างไร

หยิ่นเจิ้งเงียบอยู่นาน พูดตามความจริง เขาเองก็ไม่เชื่อว่าหลี่ฝางจะเอาชนะยอดฝีมือที่อยู่กับแมงป่องได้

แต่ว่า หยิ่นเจิงเห็นความมั่นใจยิ่งใหญ่และความไม่หวาดกลัวในตัวหลี่ฝาง

ดังนั้น หยิ่นเจิ้งรู้สึกว่า หลี่ฝางน่าจะเอาชนะได้

หยิ่นเจิ้งพูด:“คุณชายหลี่ไม่ได้โง่ขนาดนั้น ถ้าไม่มีความมั่นใจ เขาไม่มีทางไปหาแมงป่องคนเดียวแน่นอน”

หยิ่นเจิ้งรู้สึกว่า หลี่ฝางเป็นคนฉลาด คนฉลาด ไม่มีวันโง่ถึงขั้นเอาแกะเข้าปากเสือ

หลายปีที่ผ่านมานี้ หยิ่นเจิ้งอ่านคนมามากมาย ฝึกฝนจนกลายเป็นคนที่สายตาเฉียบแหลม เขาเชื่อว่าตนมองคนไม่ผิด

“พวกเราเจอคุณชายหลี่ครั้งนี้ กับคุณชายหลี่ครั้งที่แล้ว คือคนละคน คนชายหลี่คนก่อนหน้านี้ เจ้าเล่ห์ แต่คุณชายหลี่ในวันนี้ รอบตัวของเขากลับมีออร่าของผู้ยิ่งใหญ่”

หยิ่นเจิ้งพูดเสียงเบา:“เมื่อกี้เขาบอกว่า”

“ฉันในตอนนี้ ไม่คู่ควรที่จะทำให้เขาผิดหวัง”

ถึงแม้คำพูดนี้ หลี่ฝางกำลังดูถูกหยิ่นเจิ้ง แต่หยิ่นเจิ้งกลับไม่โมโห หลี่ฝางในตอนนี้ ยิ่งแข็งแกร่งมากเท่าไหร่ หยิ่นเจิ้งก็ยิ่งดีใจ

และเพราะคำพูดนี้ หยิ่นเจิ้งสัมผัสได้ถึงออร่าของผู้ยิ่งใหญ่ในตัวหลี่ฝาง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท