NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 833 การแข่งรถของส้าวส้วย

บทที่ 833 การแข่งรถของส้าวส้วย

“ตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไปคุณก็อยู่กับฉันแล้วกัน รอให้บาดแผลคุณหายดีก่อนแล้วฉันจะมอบหมายหน้าที่ให้คุณเอง”

หลี่ฝางตัดสินใจแล้วในเมื่อตอนนี้ยังคิดไม่ออกว่าจะทำยังไงดี ก็เอาตงฟางเย่นไว้ใกล้ตัวเองดีกว่า อย่างน้อยที่สุดเมื่ออยู่ข้างกายเขาผู้หญิงคนนี้คงไม่สามารถก่อเรื่องวุ่นวายอะไรขึ้นมาได้ หลังจากนั้นแล้วค่อยๆสั่งสอนเธอ คงจะต้องมีสักวิธีหนึ่งที่สามารถทำให้เธอเชื่อฟังแต่โดยดี

เมื่อกวาดสายตาไปยังพื้นห้อง ภายในห้องที่ใหญ่โตนี้ หลังจากผ่านการต่อสู้ที่นองเลือดมาแล้ว เหลือไว้เพียงซากศพของหกคนนั้น รวมทั้งซากปรักหักพังกระจัดกระจายไปหมด กลิ่นเหม็นแสบจมูกคละคลุ้งไปทั่วห้องจองพิเศษนั้น

หยิ่นเจิ้งแมงป่องพวกเขาสามคน ต่างก็แอบม้วนตัวอยู่ภายในมุมห้องหนึ่งไม่กล้าเข้ามาใกล้ ท่าทีของหลี่ฝางเมื่อกี้ทำให้พวกเขาตกใจขวัญกระเจิง แม้แต่ตอนนี้พวกเขาก็ยังรู้สึกเกรงกลัวอยู่ไม่น้อย

“ทำความสะอาดที่นี่ให้สะอาดเลย แต่เหลือตงฟางจัวนี้ไว้ ช่วยจัดการไอ้เบื๊อกที่เหลือทั้งหมดนี้ให้ฉันด้วย ยังมี…….”

หลี่ฝางเอ่ยปากสั่งการ แล้วมองไปยังศีรษะของฉินเสี่ยวหู่ที่ตกอยู่ตรงมุมห้อง ในใจอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา

ถึงแม้ว่าฉินเสี่ยวหู่เมื่อก่อนนั้น เป็นคนที่เห็นแก่ตัวคนหนึ่ง และเป็นพวกสารเลวไร้จิตสำนึกที่ดี แต่ว่าหลังจากที่เขาได้ติดตามตัวเองแล้ว ก็พูดได้ว่ามีความซื่อสัตย์จงรักภักดี อีกทั้งยังเสี่ยงชีวิตเพื่อแจ้งข่าวคราวให้กับเขาอีกด้วย

หลี่ฝางคาดเดาว่า ก็อาจจะเพราะว่าคราวที่แล้วฉินเสี่ยวหู่ได้ส่งข่าวให้กับหลี่ฝาง ทำให้มู่หรงฉางเฟิงรู้ฐานะที่แท้จริงของฉินเสี่ยวหู่ ทำให้ฉินเสี่ยวหู่ต้องตายอย่างอนาถในเงื้อมมือของมู่หรงฉางเฟิง

มองดูสีหน้าของฉินเสี่ยวหู่ ก่อนตายคงต้องเจอกับการถูกทรมานอย่างแสนสาหัส อีกทั้งไม่เพียงแค่เขาเท่านั้น ยังมีคนในครอบครัวของเขาอีก เกรงว่าก็……

ในใจของหลี่ฝางรู้สึกเศร้าหมอง ความรู้สึกดีใจที่เกิดจากพละกำลังที่แข็งแกร่งขึ้นของตัวเองเมื่อครู่นี้ก็ได้จางหายไปจนไม่เหลืออะไรเลย

เขาไม่สามารถทำให้คนตายฟื้นคืนชีพได้ ทำได้แต่เพียงสาบานในใจอย่างเงียบๆว่าจะช่วยล้างแค้นให้กับเขา มู่หรงฉางเฟิง ชื่อนี้จะถูกจารึกเข้าไปอยู่ในรายชื่อที่ต้องสังหารของหลี่ฝางแล้ว

สำหรับฉินเสี่ยวหู่นั้น หลี่ฝางก็ทำได้แค่จัดพิธีงานศพอย่างสมเกียรติให้กับเขา เพราะว่าความเสเพลในสมัยก่อน ทำให้เขาไม่มีแม้แต่ทายาทลูกหลานเหลือไว้เลย

หลังจากเก็บกวาดทำความสะอาดภายในห้องจองพิเศษนั้นแล้ว หลี่ฝางก็ได้พูดคุยเจรจากับแมงป่องพวกเขา ปรึกษาหารือเกี่ยวกับแผนการขั้นต่อไปเพื่อจะขยายกิจการในอำเภอหลิน จากนั้นก็เตรียมตัวที่จะออกจากอำเภอหลิน

หลังจากเหตุการณ์อันสยองขวัญคืนนั้นแล้ว หลี่ฝางเชื่อแน่ว่าในช่วงเวลาอันยาวนานต่อจากนี้ไป แมงป่องพวกเขาคงไม่กล้าที่จะคิดไม่ซื่อต่อหลี่ฝางแล้ว

หลี่ฝางจึงขับรถพาตงฟางเย่นกลับเมืองเอก และตรงไปยังสถานตากอากาศทันที

นึกไม่ถึงว่ากลับมาคราวนี้ ฉินวี่เฟยก็มาด้วย เมื่อเห็นหลี่ฝางพาหญิงสาววัยละอ่อนคนหนึ่งกลับมาด้วย ท่าทางของฉินวี่เฟยก็ตกใจมาก ดวงตาโศกเศร้าเล็กน้อย

เมื่อเห็นท่าทางของฉินวี่เฟยแล้ว หลี่ฝางก็รู้ว่าฉินวี่เฟยเข้าใจผิดแล้ว จึงรีบอธิบายให้ฉินวี่เฟยฟังว่า “นี่คือคนของตระกูลตงฟางที่คิดจะฆ่าฉัน แต่ถูกฉันจับกลับมาได้ กำลังจะปรึกษากับโหจื่อว่าจะจัดการอย่างไรกับเธอดี”

เมื่อฟังคำอธิบายของหลี่ฝางแล้ว ฉินวี่เฟยก็เปลี่ยนเป็นอารมณ์ดีขึ้นมาทันที ถึงแม้ในใจอาจยังไม่ค่อยเชื่อนัก แต่เธอก็เลือกที่จะยอมเชื่อคำพูดของหลี่ฝางว่าเป็นความจริง

หลังจากปลอบโยนฉินวี่เฟยแล้ว หลี่ฝางก็พาตงฟางเย่นไปหาโหจื่อจริงๆ ร่างกายของโหจื่อฟื้นฟูดีขึ้นอย่างรวดเร็ว ตอนนี้สามารถที่จะขยับเขยื้อนทำกิจกรรมเล็กน้อยได้แล้ว แน่นอนที่จะไปรบราฆ่าฟันกับใครก็คงยังเป็นไปไม่ได้

เมื่อเห็นหลี่ฝางเข็นรถเข็นที่ตงฟางเย่นนั่งอยู่ โหจื่อก็รู้สึกตกใจทันที

“ตงฟางเย่น? แกพาเธอมาได้ยังไงล่ะ?”

“เธอถูกฉันทำร้ายจนขาหัก แล้วตกลงกันไว้ว่าถ้าแพ้ให้ฉันก็ต้องมาอยู่กับฉัน ดังนั้นฉันก็พาเธอมาที่นี่แหละ” หลี่ฝางอดไม่ได้ที่จะพูดคุยโว จากนั้นก็เล่าเรื่องที่ผ่านมาให้โหจื่อฟัง

หลังจากโหจื่อฟังแล้วก็แลบลิ้นใส่ ยกนิ้วหัวแม่โป้งให้กับหลี่ฝาง พูดอย่างสะท้านใจว่า “แค่พริบตาเดียว แกก็สามารถเก่งกาจกว่าฉันแล้ว”

“แกสู้ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้เหรอ?”

“ไม่ใช่ ถ้าหากใช้ปืนละก็ เธอจะต้องตายแน่นอน แต่ถ้าใช้แขนขาเตะต่อย แฮๆ……..”โหจื่อหัวเราะอย่างเขินอายเล็กน้อย

หลี่ฝางพยักหน้า ทันใดนั้นก็นึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมา จึงถามตงฟางเย่นว่า “ถุงมือไหมฟ้าของคุณนั้นล่ะ ใส่แล้วสามารถจะจับลูกกระสุนได้ด้วยมือเปล่าเหรอ?”

เขาจำได้ว่าคราวที่แล้วตงฟางเย่นเคยเอาออกมาอวดเขา ถุงมือไหมฟ้านั้นแทบจะไม่มีช่องว่างอะไรเลย ต่อให้เป็นกระสุนปืน มันก็ยังสามารถลดพลังแรงลงไปครึ่งหนึ่งได้ ถ้าหากได้ใส่ขึ้นมาจริงๆแล้วสามารถจับกระสุนด้วยมือเปล่าละก็ งั้นมันคงวิเศษยอดเยี่ยมไปเลยเชียว!

เมื่อได้ยินหลี่ฝางพูดเพ้อฝันเช่นนี้ ในใจของตงฟางเย่นรู้สึกอึ้งจนพูดไม่ออก

“คุณคิดมากไปแล้ว ต่อให้ถุงมือไหมฟ้าสามารถลดความแรงของลูกกระสุนที่ยิงเข้ามาได้ พลังแรงที่เหลือมืออีกข้างก็จะรับไว้ไม่ไหว อีกทั้งต่อให้คุณไปจับ ความเร็วของกระสุนเร็วขนาดนั้น คุณสามารถจับได้เหรอ?”

พูดพลางตงฟางเย่นก็ทำตาค้อนใส่ เธอเคยได้ยินตงฟางซั่ว ก็คือปู่ของเธออาจจะเคยจับกระสุนปืนไว้ได้ หลี่ฝางเพิ่งจะฝึกกำลังภายในได้ไม่กี่วัน ก็คิดอยากจะตามให้ทันความเร็วของลูกกระสุนเลยเหรอ?

เมื่อได้ยินตงฟางเย่นพูดเช่นนั้น หลี่ฝางก็ยิ้มอย่างขวยเขิน ความคิดของตัวเองมันช่างใสซื่อเกินไปแล้ว

โหจื่อที่อยู่ด้านข้างกลับไม่พอใจ ตะโกนด่าว่า “แม้งดูถูกใครเหรอ เป็นแค่เชลยก็ต้องอยู่อย่างเชลยสิ เข้าใจป่าว? คุณชายหลี่ของพวกฉันมีพรสวรรค์สูงส่งที่สุดในใต้หล้านี้ ต่อให้มีสักวันหนึ่งสามารถที่จะจับลูกกระสุนปืนได้ก็ไม่เห็นแปลกอะไรเลย สำหรับแก ก่อนอื่นก็ควรจะไปฝึกซ้อมการเป็นสาวใช้ยังไงจึงจะเข้าเกณฑ์จะดีกว่านะ”

“ฉัน ฉันไม่ใช่สาวใช้นะ……” ตงฟางเย่นอ้าปากเถียงอย่างหมดเรี่ยวแรง แต่ว่าเสียงที่พูดออกมาแผ่วเบามาก ตอนนี้เขาตกอยู่ในเงื้อมมือของหลี่ฝางแล้ว ต่อให้หลี่ฝางจะให้เธอเป็นคนใช้จริงๆ ช่วยยกน้ำยกน้ำชากาแฟ ขอเพียงแต่ไม่ออกนอกลู่นอกทางเกินไป หรือว่าเธอยังจะใช้ความตายมาต่อต้านอีกเหรอ?

“ใช่แล้ว เซี่ยจือชิวคนนั้นแกยังจำได้หรือเปล่า?” หลังจากที่พูดคุยกันสักพักแล้ว โหจื่อก็ถามขึ้นมาอย่างกะทันหัน

“จำได้สิ เป็นยังไงเหรอ?” หลี่ฝางหยุดชะงักเล็กน้อย ไม่รู้ทำไมโหจื่อจึงพูดถึงคนนี้ขึ้นมากะทันหัน

เซี่ยจือชิวเคยแข่งรถกับส้าวส้วยแล้วแพ้ให้เขามาก่อน แต่ว่าแพ้อย่างชนิดที่ไม่ยอมแพ้ คิดมาตลอดว่าจะแข่งเอาคืนกับส้าวส้วยอีกครั้งหนึ่ง คราวที่แล้วเขาเคยมาหาหลี่ฝาง แล้วบอกว่าวันที่1เดือนหน้าเขาจะจัดการแข่งขันขึ้นที่ภูเขาหมาป่าและอยากจะแข่งกับส้าวส้วยอีกครั้งหนึ่ง อีกทั้งยังใช้ธุรกิจการค้าของบ้านตระกูลหลี่ข่มขู่หลี่ฝาง จะต้องให้ส้าวส้วยมาแข่งขันให้ได้

แต่ว่าตอนนี้ส้าวส้วยก็ได้จากไปแล้ว ส่วนหลี่ฝางตั้งแต่ต้นจนจบก็ยังไม่เคยพูดเรื่องแข่งขันกับส้าวส้วยเลย เพราะว่าส้าวส้วยจะไปช่วยเหลือพ่อเขาหลอซ่า สถานการณ์ทางนั้นวิกฤตมาก เขาไม่อยากให้ส้าวส้วยเสียสมาธิเพราะเรื่องแค่นี้

“สามวันหลังจากนี้ก็คือวันที่1เดือนหน้าแล้ว ตอนนี้ส้าวส้วยกลับไปแล้ว ก็มีแต่แกเท่านั้นที่จะต้องลงแข่งขันกับเซี่ยจือชิวคนนั้นแล้วล่ะ” โหจื่อพูดพลางหัวเราะ

หลี่ฝางตกใจเล็กน้อย พูดอย่างไม่เข้าใจว่า “ไอ้เวรไม่ใช่ล่ะมั้ง พวกเรายังต้องไปแข่งขันกับเซี่ยจือชิวไอ้ซื่อบื้อนั้นด้วยเหรอ?”

“เบื้องหลังครอบครัวไอ้หมอนั้นไม่ธรรมดาเลยนะ ถ้าหากไม่ตกลงกับเขาคงจะต้องมีปัญหายุ่งยากแน่ ตอนนี้พวกเราไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปเป็นศัตรูกับเขา เพียงแต่ต้องเสียเวลาทุ่มเทให้กับการแข่งรถนิดหน่อยเพื่อสยบเขาก็พอแล้ว”

ลุงเฉียนก็ยังไม่ฟื้นขึ้นมาเลย เรื่องภายในสถานตากอากาศจึงต้องตกอยู่ในการดูแลของหลี่ฝางเพียงคนเดียว จึงไม่สมควรที่จะไปสร้างปัญหาขัดแย้งที่ไร้สาระเพิ่มขึ้นมาใหม่ หลี่ฝางพยักหน้า เห็นด้วยกับความคิดของโหจื่อ

“แต่ว่า ถ้าฉันชนะไอ้ซื่อบื้อนั้นแล้วเขายังไม่ยอมเลิกราจะทำยังไงดีล่ะ?”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท