NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่842 จัดการDynasty

บทที่842 จัดการDynasty

“งั้นเพื่อนทั้ง3ของคุณ……”

“พวกเขาโดนจับไปแล้ว ผมก็เกือบโดนจับไปเหมือนกัน แต่โชคดีที่สุดท้ายปล่อยให้ผมหนีออกมา”

เห็นสีหน้าเซี่ยจือชิวเต็มไปด้วยความดีใจ หลี่ฝางก็ไม่พอใจ พูดด้วยความโมโหทันที:“งั้นคืนนี้ที่มาหาผมหมายความว่าไง ดึงผมเข้าไปเกี่ยวด้วย?คุณอยากให้ผมตายงั้นเหรอ?”

เซี่ยจือชิวหดคอ พลางหัวเราะออกมา:“คือ ฮ่าๆ ผมไม่มีทางอื่นแล้วถึงได้มาให้คุณช่วยไง แต่ถ้ามีทางอื่นเพียงเล็กน้อย ผมคงไม่มารบกวนคุณหรอก คุณว่าจริงไหม”

หลี่ฝางจะเชื่อคำโกหกของเขาได้ไง เขาไม่พูดเพียงแค่มองเขา ท่ามกลางบรรยากาศน่าอึดอัดนี้ ในที่สุดเซี่ยจือชิวก็ยอมรับ

เซี่ยจือชิวรู้ว่าตอนนี้ที่นี่หลี่ฝางมีอำนาจที่สุด พูดได้ว่าถ้าที่นี่เกิดเรื่องอะไรขึ้น มาหาหลี่ฝางยังมีประโยชน์กว่าไปหาคนตระกูลเขา

อีกทั้งตอนนี้เขาประสบหายนะครั้งใหญ่ และไม่อยากให้ที่บ้านรู้ ไม่งั้นเขาคงสร้างปัญหาใหญ่ให้ตระกูล อาจส่งผลกระทบอย่างมากกับการสืบทอดมรดกของเขา

แต่ยอมรับว่าเซี่ยจือชิวไม่สนิทกับหลี่ฝางเลย มาขอความช่วยเหลือหลี่ฝางโต้งๆ พอเผชิญกับDynastyเขาคิดว่าหลี่ฝางยิ่งเป็นไปได้สูงที่จะทอดทิ้งเขา แม้แต่ทรยศเขาก็อาจเป็นไปได้ทั้งนั้น

ดังนั้นเซี่ยจือชิวจึงเลือกที่จะเสี่ยง จงใจล่อลวงให้หลี่ฝางไปกับเขา แบบนี้หากศัตรูเลือกใช้เวลานี้มาหาเรื่องเขาจริงๆ หลี่ฝางก็ถูกลากมาเกี่ยวด้วย เมื่อถึงตอนนั้นเขาไม่ลงมือก็ไม่ได้

แม้ว่าทำแบบนี้อาจทำให้เขาตกอยู่ในอันตราย แต่นี่เป็นวิธีที่ดีที่สุดที่เซี่ยจือชิวพอจะคิดออกแล้ว

“ให้ตายเถอะไอ้เชี่ยเซี่ยจือชิว ฉันเห็นแกเป็นเพื่อน แต่แกทำร้ายฉันแบบนี้งั้นเหรอ?”ได้ยินเซี่ยจือชิวยอมรับอย่างไม่สะทกสะท้านแบบนี้ หลี่ฝางก็ด่ากราดออกมาอย่างอดไม่ได้ทันที

“เพื่อนหลี่ อย่าโกรธสิ ผมไม่มีทางอื่นแล้วถึงทำแบบนี้ ผมรับปาก ขอแค่คุณช่วยผมผ่านเรื่องยากลำบากนี้ไปได้ เราจะเป็นพี่น้องต่างพ่อต่างแม่กัน คุณมีเรื่องอะไรเรียกหาผมได้ทุกเมื่อ!”

“ไม่ดีกว่า ก่อเรื่องเองก็จัดเรเองเถอะ รอคุณรอดกลับมาได้แล้วค่อยเผากระดาษเหลืองเป็นพี่น้องกัน”หลี่ฝางปฏิเสธอย่างไม่ใยดี

“ไม่เอาสิ เพื่อนหลี่ พี่หลี่ คุณพี่หลี่ พี่ พี่ชาย คุณเป็นพี่แท้ๆของผม!”เซี่ยจือชิวร้อนรน ยิ่งเรียกยิ่งเพิ่มความสนิท เหลือแต่กอดขาหลี่ฝางร้องไห้แล้ว

เห็นเซี่ยจือชิวเป็นแบบนี้ หลี่ฝางก็พูดอย่างเอือมระอา:“เอาแบบนี้ ผมจะส่งคนให้ส่งคุณที่สนามบิน คุณกลับเมืองหลวงไปโอเคไหม?อิงจากศักยภาพของตระกูลคุณน่าจะปกป้องคุณได้ ”

“ใช่ ปกป้องได้ สามารถปกป้องชีวิตน้อยๆของผมได้ แต่ปกป้องตัวผมไม่ได้ไง ผมกลัวว่ากลับไปครั้งนี้คงกลับออกมาไม่ได้อีกแล้วครั้งหน้าเมื่อคุณเจอผม คงตอนที่ผมนั่งบนรถเข็นแล้ว”

“ผมว่าดีเลยทีเดียว”หลี่ฝางหน้าเรียบเฉยสุดๆ

“ไม่ ไม่เด็ดขาด ครั้งนี้คุณต้องช่วยผมนะ นอกจากคุณก็ไม่มีใครที่สามารถช่วยผมได้แล้ว คุณคงไม่มองผมไปตายโดยไม่ทำอะไรหรอกใช่ไหม?”เซี่ยจือชิวขอร้องอ้อนวอน

“เอางี้ๆ คุณบอกมาว่าคุณต้องการอะไร คุณบอกมาเลย ถ้าผมมีผมจะทำให้คุณพอใจ ขอเพียงครั้งนี้คุณช่วยผม”

“คุณพูดเองนะ”หลี่ฝางพูดพลางยิ้มร้ายๆ

เมื่อเห็นรอยยิ้มของหลี่ฝาง เซี่ยจือชิวก็รู้สึกไม่ดีโดยสัญชาตญาณทันที ลังเลในใจเล็กน้อย แต่พอนึกถึงสถานการณ์ของตัวเองในตอนนี้ ก็แทบจะไม่ลังเลอะไรอีก ดังนั้นจึงกัดฟันพูดไป:“ใช่!”

“ดี คุณจำคำพูดนี้เอาไว้ล่ะ คุณชายเซี่ยห้ามคืนคำเด็ดขาดนะ”หลี่ฝางยืนขึ้นด้วยรอยยิ้ม พลางจัดระเบียบเสื้อผ้า

“ว่ามาสิ คุณจะให้ผมช่วยคุณยังไง?”

“ผมอยากให้คุณช่วยผมจัดการDynasty!”

“หือ?”

“……ไล่ล่า……”เซี่ยจือชิวพูดอย่างแผ่วเบา

“ไม่ได้ ผมช่วยคุณได้แค่ชั่วคราว ช่วยคุณไม่ได้ตลอดชีวิต คุณคิดว่าDynastyไม่บรรลุเป้าหมายแล้วจะยอมปล่อยคุณงั้นเหรอ?นอกจากคุณจะจัดการความขัดแย้งกับDynasty หรือคุณถูกกำจัด การไล่ล่าจะดำเนินต่อไปแน่นอน”หลี่ฝางปฏิเสธทันควัน

เซี่ยจือชิวสีหน้าไม่สู้ดี เขารู้ว่าที่หลี่ฝางพูดเป็นเรื่องจริง เขาจึงพูดแบบไม่ได้สิ่งที่ดีที่สุดก็ให้ได้อะไรหน่อย “งั้นเอางี้ คุณช่วยเพื่อน3คนนั้นของผมออกมาได้ไหม แล้วส่งพวกเรากลับเมืองหลวง ส่วนเรื่องหลังจากนั้นผมจะคิดหาวิธีเอง”

หลี่ฝางเบ้ปาก แล้วพูด:“มันไม่ง่าย ที่เราต้องเผชิญเป็นถึงDynasty ชล่วยคุณเดิมก็ไม่ง่ายอยู่แล้ว นี่จะให้ช่วยคนที่อยู่ในน้ำมือพวกเขา”

“นั่นก็ไม่ได้ นี่ก็ไม่ได้ แล้วคุณว่าควรทำยังไงล่ะ?”เซี่ยจือชิวค่อนข้างโมโห“ผมกลับไปคนเดียวไม่ได้หรอกนะ แบบนั้นพวกเขาต้องตายแน่ๆ?คนที่บ้านพวกเขาต้องมาเอาเรื่องผมแน่ เมื่อถึงตอนนั้นผมผลักคุณออกไป คุณก็หนีไม่ได้แล้ว”

“คุณกำลังขู่ผมงั้นเหรอ?”หลี่ฝางจ้องตาเขม็ง รังสีอาฆาตถูกปล่อยออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ

เซี่ยจือชิวถึงกับตกใจ ความอารมณ์ร้อนเพราะหงุดหงิดเมื่อครู่สงบไปทันที แล้วพูดยิ้มๆ:“ผมล้อเล่น เราเป็นสหายที่ดีต่อกัน ผมจะลากคุณให้เอี่ยวไปด้วยได้ยังไง”

“ตอนนี้คุณลากผมให้เอี่ยวไปด้วยเรียบร้อยแล้ว”หลี่ฝางพูดเย้ยหยัน แต่ในใจกลับปวดหัวกับเรื่องของเซี่ยจือชิว

“เอางี้ คุณอยู่ที่นี่ไปก่อน พวกเรามาวางแผนกันว่าจะช่วยคนยังไง ผมว่าในช่วงวันสองวันนี้พวกเขาไม่ทำอะไรเพื่อนคุณหรอก”

“ที่นี่ปลอดภัยไหม?”เซี่ยจือชิวมองหลี่ฝางด้วยความสงสัย

“คุณไม่ต้องห่วง ขอแค่ไม่ได้ขับรถถังมา ก็อย่าหวังว่าจะเข้ามาในสถานตากอากาศของผมได้”หลี่ฝางพูดค้านอย่างปกติ

ที่จริงที่เขาพูดแบบนี้ออกจะเว่อร์ไปหน่อย ก่อนหน้านี้สถานตากอากาศถูกท่านจวนโจมตี พูดได้เลยว่าเสียหายหนักมาก โหจื่อกับหลิงหลงบาดเจ็บสาหัส ส่วนลุงเฉียนจนถึงตอนนี้แล้วก็ยังไม่ฟื้น ยอดฝีมือคนอื่นๆก็เสียหายไปไม่น้อย อีกทั้งพ่อแม่ของตน ส้าวส้วย แม่มด และคนอื่นๆล้วนไม่อยู่ สามารถพูดได้ว่าตอนนี้สถานตากอากาศเป็นช่วงที่อ่อนแอที่สุด

แต่หลี่ฝางไม่อาจแสดงถึงความอ่อนแอ แม้ตอนนี้มีแค่เขาคนเดียวที่สามารถต่อสู้ได้ หลี่ฝางก็ต้องยืนหยัดเอาไว้ ตอนนี้เต็มไปด้วยศัตรูหากหลี่ฝางแสดงความอ่อนแอออกมาแม้แต่น้อย งั้นศัตรูรอบด้านคงพุ่งเข้ามาขย้ำเขาเหมือนหมาป่าผู้หิวโหยเป็นแน่

จัดเตรียมที่พักให้เซี่ยจือชิวเสร็จ หลี่ฝางก็ส่งคนไปสืบข่าวเกี่ยวกับDynasty และเพื่อนๆของเซี่ยจือชิวแบบลับๆ แน่นอนว่าอิงจากอำนาจของเขาคงสืบข่าวอะไรไม่ได้มาก หลี่ฝางแค่ต้องการจับตาดูสิ่งผิดปกติทั้งหมดในเมืองนี้ ทันทีที่เกิดเรื่องอะไรขึ้นก็ให้มารายงานเขาทันที

เพียงเวลาแค่สั้นๆก็เรียกได้ว่ากลัวไปหมด ภายนอกเห็นว่าทั้งเมืองสงบไม่มีอะไร แต่ความเป็นจริงไม่รู้ว่ามีคนอยู่ไม่สุขมากแค่ไหน ไม่ว่ามีการเคลื่อนไหวอะไรเพียงเล็กน้อย ก็มีคนมารายงานหลี่ฝางทันที

ที่เผชิญอยู่เป็นถึงDynasty ที่เรียกได้ว่าเป็นผู้ยิ่งใหญ่เชี่ยวนะ อีกทั้งตนก็ไม่ค่อยรู้เกี่ยวกับอีกฝ่าย ระวังไว้มากๆหน่อยก็ไม่เกินไป

ยังไงต่อให้หลอซ่าพ่อของตนพาสหายไปกลุ่มใหญ่ ก็ไม่อาจทำให้Dynastyพอใจ

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท