NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 824 จู่โจมแบบเซอร์ไพรส์

บทที่ 824 จู่โจมแบบเซอร์ไพรส์

เมื่อหลี่ฝางรับสาย เสียงของฉินเสี่ยวหู่ก็ดังขึ้นจากทางปลายสายทั้งรีบทั้งเร็ว: “มู่หรงฉางเฟิงวางกับดักเพื่อฆ่าคุณ ระวังด้วย!”

พูดประโยคนี้จบ ฝั่งฉินเสี่ยวหู่ก็วางสายไปกะทันหัน

เรื่องทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเร็วเกินไป ดังนั้นหลี่ฝางจึงมึนงงเล็กน้อย

มู่หรงฉางเฟิงวางกับดัก? ฆ่าฉัน ฆ่ายังไง?

ในตอนนั้น เขาก็มีความรู้สึกปวดแปลบ

อาการปวดแปลบแบบนี้ไม่ใช่อาการเจ็บปวดตามร่างกาย แต่มันมาจากจิตวิญญาณของตน เป็นอาการที่เกิดขึ้นอย่างเฉียบพลันจากความรู้สึกวิกฤตมากระตุ้นจิตวิญญาณ จากนั้นเขาก็ค้นพบจริงๆ ว่าอันตรายมาจากไหน

วินาทีนั้น เขาก็ไม่ลังเลที่จะขยับตัว

ปัง!

เสียงจากปืนสไนเปอร์ดังขึ้น กระสุนปืนวิ่งเฉี่ยวมาจากด้านหน้าของเขาไป ยิงมาจากรถHummerที่อยู่ด้านหน้ารถLincoln

มือสไนเปอร์!

ถ้าหากเป็นมู่หรงฉางเฟิงล่ะก็ วิธีการก็เหี้ยมไปแล้ว ถึงกับหาได้แม้แต่มือสไนเปอร์!

วินาทีนั้นในใจของหลี่ฝางช็อกมากๆ แต่ในขณะเดียวกันความคิดอื่นก็แวบเข้ามาในหัวของเขา:นี่คือสัมผัสที่หกที่ชีซาพูดเหรอ? ความรู้สึกถึงอันตราย รู้ได้ถึงการกระทำของอีกฝ่าย ฉันก็มีสัมผัสที่หกแล้ว?

ตอนแรกที่สู้กับชีซา ถึงแม้เขาจะไม่รู้ว่าสัมผัสที่หกนั้นคืออะไร เป็นแค่มือใหม่คนนึงเท่านั้น แถมยังโดนชีซาหัวเราะเยาะเย้ยไปอีก บอกเขาว่าคนเก่งต้องพึ่งพาการต่อสู้มาอย่างโชกโชนถึงจะมีสัมผัสที่หกเกิดขึ้น

แต่หลี่ฝางเพิ่งจะฝึกการต่อสู้ได้กี่วัน? ทำไมเขาถึงได้มีสิ่งที่คนอื่นต้องฝึกฝนกันสิบกว่าปีหรือแม้กระทั่งหลายสิบปีถึงจะมีสัมผัสที่หกนี้ได้

แต่ว่าเมื่อกี้ตอนที่ปืนสไนเปอร์กระบอกนั้นเล็งมาที่เขา เขารู้สึกได้ถึงการมีอยู่ของสัมผัสที่หกจริงๆ

ไม่ใช่แค่รู้สึกถึงอันตราย แถมยังสามารถสังเกตได้ว่ากระสุนมาจากทิศทางไหน ระยะห่างว่าเขาอยู่ไกลแค่ไหน มันก็ปรากฏขึ้นในหัวของเขาเหมือนกับสัญชาตญาณ

“ปกป้องคุณชาย!”

ลูกน้องในรถค่อยๆ ลงจากรถทีละคนๆ แล้วป้องกันอยู่ด้านหน้ารถLincoln

“แย่แล้ว!”

หลี่ฝางแอบอุทานออกมา แล้วตะโกนบอกลูกน้องที่อยู่รอบข้าง: “รีบถอยไป!”

ในความสับสนของทุกคน จู่ๆ เขาก็กลับหลังใช้ร่างกดลู่หลุ่ยและเหมิงเหมิงไว้ใต้ร่างตน

บึ้ม——

ไม่นาน คนรอบด้านก็เข้าใจแล้วว่าทำไมหลี่ฝางถึงได้ตะโกนแบบนั้น เพราะว่ารถHummerคันหน้าสุดกับคันหลังสุดจู่ๆ ก็เกิดระเบิดขึ้น ทำเอารถHummerที่ปกป้องรถLincolnกระเด็นออก ลูกน้องที่อยู่ด้านข้างรถถูกแรงระเบิดอัดจนกระเด็น ไปโอดครวญบนพื้น

รถLincolnก็ไม่รอดเช่นกัน รถแทบจะพลิกคว่ำ กระจกหน้าต่างแตกลงกับพื้น

ยังมีคนฉลาดหลายคน ทันทีที่ได้ยินที่หลี่ฝางตะโกนบอกก็รีบหลบแล้ว จึงโชคดีที่หนีรอด

แต่ถึงอย่างนั้น พวกคนที่หลี่ฝางเรียกมาตอนนี้ก็เรียบร้อยไปหลายคนอยู่

“ลงจากรถ!”

หลังจากเสียงระเบิด หลี่ฝางก็ถีบประตูรถให้เปิดออก แล้วลากลู่หลุ่ยกับเหมิงเหมิงที่ยังตกใจอยู่ลงจากรถ

“เธอไม่เป็นไรใช่มั้ย?”

เขารีบกวาดมองลู่หลุ่ยรอบนึง กังวลว่าเธอจะถูกกระจกที่แตกเพราะแรงระเบิดบาดเอาหรือว่าได้รับบาดเจ็บอย่างอื่น

“ฉันไม่เป็นไร”

ลู่หลุ่ยตอบ พลางพิงหลังรถกับเหมิงเหมิง

หลี่ฝางไม่พูดอะไร เหลือบไปมองกระจกหลังที่อยู่ด้านหน้ารถ ก็พบว่ามีทหารรับจ้างหลายคนสวมโม่งหลายคนติดอาวุธครบมือพุ่งเข้ามา

บิ๊บบิ๊บ……

เสียงเล็กๆ ดังขึ้นในความโกลาหล

ใจของหลี่ฝางช็อกมา ลนลานรีบก้มลงไปดูที่ข้างใต้รถ ก็พบว่าข้างใต้รถLincolnถูกวางระเบิดไว้ลูกนึง ไฟสีแดงกำลังกะพริบอย่างรวดเร็ว

มู่หรงฉางเฟิงบ้าไปแล้วเหรอ?

หลี่ฝางคิดไม่ถึงว่ามู่หรงฉางเฟิงถึงกับงัดวิธีที่สุดโต่งแบบนี้ออกมาใช้แบบนี้ ทำซะโอเว่อร์ ใครก็อย่าคิดที่จะหนีรอด!

“คุ้มกันพวกเรา!”

หลี่ฝางตะโกนบอกลูกน้องที่อยู่รายล้อมเขา

ลูกน้องที่กำลังมึนๆ หลายคนได้ยินก็รีบชักปืนออกมาและเริ่มโจมตีศัตรูกลับ

ด้วยเสียงระเบิด หลี่ฝางก็ลากลู่หลุ่ยกับเหมิงเหมิงมาหลบอยู่ข้างใต้รถอีกคัน

“ศัตรูอยู่บนตึกสูงด้านหน้าเอนไปทางซ้าย ตรงนี้ควันไฟมากเกินไป พวกเราต้องวิ่งไปทางด้านขวาของถนน!”

หลี่ฝางตะโกนเสียงดัง และก็ไม่รอให้ลู่หลุ่ยกับเหมิงเหมิงตอบ เขาก็ลากลู่หลุ่ยกับเหมิงเหมิงวิ่งไปแล้ว

ไม่ไปตอนนี้ รอให้ควันรถด้านหน้าไม่เยอะแล้ว พวกเขาจะกลายเป็นเป้าของปืน

ทางหลวงที่นี่สองข้างทางมองเห็นได้กว้าง เหมาะแก่การให้มือสไนเปอร์มาลอบฆ่า หลี่ฝางไม่กล้าที่จะอยู่ต่อนานมากหนัก เพราะว่าจากเสียงปืนที่เขาได้ยินนั้นคู่ต่อสู้ไม่ได้มีมือสไนเปอร์แค่คนเดียว แต่มีสองคน

มือสไนเปอร์ทั้งสอง ซ้ายขวาข้างละคน อุบัติเหตุที่ทำให้รถติดด้านหน้า ตรงด้านหลังมีทหารรับจ้างตามมา

เป็นการลอบฆ่าที่สมบูรณ์แบบครั้งนึงเลย

แต่ว่าที่โชคดีก็คือ นอกจากที่เตรียมรถมาดีแล้ว จู่ๆ ด้านข้างถนนก็มีรถแท็กซี่โผล่มาหนึ่งคัน ก่อนหน้านี้ตอนที่หยุดรถก็พอดีที่เขาจอดลงมาดูสถานการณ์ อยากมาดูว่าตนจะมีโอกาสหาลูกค้าได้มั้ย จึงมีที่กำบังปรากฏขึ้นทางด้านมุมขวาของรถLincoln

สิ่งที่ทำให้มือสไนเปอร์ฝั่งขวาคิดไม่ถึงมากๆ ก็คือ รถHummerด้านหลังที่ถูกระเบิดมันกระเด็นมาพลิกคว่ำตรงมุมขวาพอดี จึงมีกลุ่มควันเพิ่มมากขึ้นทำให้มือสไนเปอร์กลายเป็นเหมือนคนตาบอด

ความคิดทุกแบบหลี่ฝางก็คิดขึ้นมาได้ย่างสมบูรณ์แบบในระยะชั่วครู่ เขาพบว่าตัวเองกลายเป็นคนใจเย็นมากๆ แม้ตกอยู่ในสถานการณ์คอขาดบาดตายก็ยังสบาย ถ้าหากเป็นหลี่ฝางเมื่อก่อนคงจะไม่มีความรู้สึกแบบนี้ เขารู้ว่ามันเป็นสิ่งที่สืบทอดมาทางสายเลือดจากพ่อของเขา ความรู้สึกแบบนี้ ทำให้คนติดใจเล็กน้อย

เพียงพริบตา เขาก็คุ้มกันลู่หลุ่ยกับเหมิงเหมิงมายังรถแท็กซี่ที่จอดอยู่ข้างทาง

คนขับรถแท็กซี่ตกใจช็อกตั้งแต่แรก หลังจากระเบิดเขาก็ทิ้งรถและหนีไปทันที

“พวกเธอรีบขึ้นไปบนรถ พยายามซุกตัวอยู่ใต้เบาะนั่ง อย่าให้หัวโผล่พ้นออกมา ด้านขวายังมีลูกน้องฉันอีกคน” หลี่ฝางพูดอย่างรีบร้อนและดันลู่หลุ่ยขึ้นรถไปก่อน

ขณะนั้น มือสไนเปอร์ที่อยู่ด้านหลังควัน ก็ไม่ได้สังเกตเห็นว่าหลี่ฝางได้พาลู่หลุ่ยกับเหมิงเหมิงไปส่งที่ด้านในรถแท็กซี่แล้ว

บรึ้น!

หลังจากที่เหมิงเหมิงขึ้นรถ หลี่ฝางก็เคลื่อนรถทันที เท้าเหยียบไปที่คันเร่งจนมิด และขับไปอีกทางนึง

“พวกเรายังมีคนอยู่ที่รถLincolnนะ”

ลู่หลุ่ยที่ได้สติ ก็พูดจากใต้ที่นั่ง

ปัง!

ที่ตอบลู่หลุ่ยก็คือกระสุนสองนัดจากสไนเปอร์ ซ้ายหนึ่งขวาหนึ่งยิงผ่านกระจกรถ ลงมาตรงที่นั่ง ทำเอาลู่หลุ่ยกับเหมิงเหมิงตกใจจนกรีดร้องติดๆ กัน

พวกเธอในตอนนี้ยังแทบจะเอาตัวไม่รอด ไม่มีทางที่จะไปช่วยพวกลูกน้องที่ยังดิ้นรนอยู่หน้ารถLincolnได้หรอก

หลี่ฝางพลางขับรถอย่างบ้าคลั่ง พลางโทรหาส้าวส้วย และรีบบอกถึงสถานการณ์ที่เขาเจออยู่ในตอนนี้อย่างรวดเร็ว

หลังจากที่หลี่ฝางพูดจบ อีกฝั่งเงียบอยู่สองวินาที ไม่นานเสียงของส้าวส้วยก็ดังขึ้น

“นายรีบไปทางโรงพยาบาลต่อไป ฉันจะให้คนไปรอรับที่นั่น!”

หลี่ฝางเหลือบไปมองกระจกหลัง ก็พบว่าด้านหลังไม่ไกลนักมีรถตู้สีดำกับรถสปอร์ตปรากฏขึ้นหลายคัน ไม่ต้องถึงสิบนาที พวกเขาก็สามารถไล่มารถแท็กซี่กระจอกคันนี้ได้แล้ว

“ศัตรูเตรียมตัวมาพร้อม วิ่งไปทางโรงพยาบาลจะไม่อันตรายกว่าเหรอ?” หลี่ฝางถามอย่างลนลานเล็กน้อย

“ที่โรงพยาบาลคนเยอะ พวกเขากลัวจะทำร้ายคนที่ไม่เกี่ยวข้อง จะลงมือคงไม่กล้าเกินไป แล้วก็ก่อนที่นายจะโทรศัพท์มาฉันได้ส่งคนกลุ่มนึงไปแล้ว ขอพวกนายแค่อยู่ยื้ออยู่ตรงนี้จนหน่วยสมทบไปถึง ก็ปลอดภัยแล้ว”

หลี่ฝางในตอนนี้นอกจากฟังคำของส้าวส้วยก็ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว นอกจากนี้ส้าวส้วยก็ยังไม่เคยทำให้เขาผิดหวัง ดังนั้นหลังจากที่เขาฟังส้าวส้วยพูดจบ ก็ขับรถมุ่งไปทางนั้นอย่างไม่ลังเล

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท