NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 838 ข่าวจากโซนปีศาจ

บทที่ 838 ข่าวจากโซนปีศาจ

“ไม่ได้มาเพราะเธอ หรือจะมาเพราะผมงั้นเหรอ?”เมื่อรู้สึกว่าอีกฝ่ายไม่มีเจตนาร้าย หลี่ฝางก็พูดอย่างผ่อนคลายลงหน่อย พูดล้อเล่นไป

คิดไม่ถึงว่าเมื่อเขาพูดประโยคนี้จบ ชายชุดสูทก็พยักหน้าอย่างจริงจัง

“มาเพราะผม?”หลี่ฝางชะงัก ไม่คิดว่าจะได้รับคำตอบแบบนี้

ไม่กี่นาทีต่อมา

“ใครก็ได้ ไปยกน้ำชามาให้สหายเหล่านี้หน่อย”

ในห้องโถง หลี่ฝางและชายชุดสูทนั่งบนโซฟา ส่วนชายชุดสูทอีก4คนก็ยืนอยู่ด้านหลังเขาอย่างเคารพ ไม่ขยับเขยื้อนแม้แต่น้อย

“ไม่ต้องลำบากหรอกครับ ที่มาครั้งนี้ผมมาเพราะอยากคุยธุระกับคุณหลี่”

ชายชุดสูทยิ้มพลางโบกมือไปมา แล้วพูดขึ้น:“ผมขอแนะนำตัวสักหน่อย ผมชื่อหลิวฮุย มาจากหน่วยงานลับหน่วยหนึ่ง”

หลี่ฝางยกคิ้ว ไม่ถามต่อว่าหน่วยงานลับอะไร ความลับประเภทไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่เช่นนี้ ต้องรักษาความลับไว้ให้ดี

“พวกคุณมาหาผมทำไม?”เขาถามอย่างตรงไปตรงมา

“โซนปีศาจ”

“โซนปีศาจ?”

หลี่ฝางเลิกคิ้ว ถามด้วยความสงสัย:

“ไม่คิดว่าพวกคุณจะสนใจเรื่องแบบนี้?”

หลิวฮุยหัวเราะร่า พูดขึ้น:

“คุณหลี่ เกรงว่าคุณคงไม่ค่อยรู้จักพวกเราเท่าไหร่ แทนที่จะพูดว่าพวกเราสนใจเรื่องแบบนี้ พูดว่างานของเรามีเพื่อจัดการปัญหาพวกนี้โดยเฉพาะจะดีกว่า”

“ดังนั้น คุณมาหาผมทำไม?”หลี่ฝางยิ่งไม่เข้าใจเข้าไปอีก เดิมทีเขาก็ค่อนข้างระแวดระวังหลิวฮุยอยู่แล้ว ตอนนี้ยิ่งไปพัวพันกับที่นั่นอีก ทำให้เขาตื่นตัวขึ้นมาทันที

“ผมอยากให้คุณไปที่นั่นหน่อย ”

หลิวฮุยสูดหายใจเข้าลึกๆ มองไปในตาหลี่ฝางด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความโกรธ

“หลอซ่าพ่อของคุณเจอสิ่งสำคัญที่นั่นเข้า ตอนนี้ที่นั่นเกิดเหตุร้ายที่ทุกคนคาดไม่ถึง และจากการคาดเดาของพวกเรา เกรงว่าต้องให้คุณไปเท่านั้น ที่นั่นถึงจะเกิดการเปลี่ยนแปลง”

“เกิดอะไรขึ้นที่นั่นกันแน่?”หลี่ฝางตกตะลึง พี่ชายของโก่เอ๋อที่ร่วมมือกับพ่อของหลี่ฝางมาตลอด เกรงว่าคงมีความสัมพันธ์โยงใยกับหลิวฮุยพวกเขาด้วยเช่นกัน ไม่งั้นจู่ๆหลิวฮุยจะมาหาตนทำไม หลี่ฝางพอจะคาดเดาได้บางส่วน

“พูดตามหลักในเมื่อคุณจะไป พวกเราก็มีสิทธิ์บอกให้คุณรู้เรื่องนี้ แต่ตามมาตรการรักษาความลับ ถ้าคุณได้ยินสิ่งที่ผมจะพูดต่อไปนี้ คุณจะปฏิเสธพวกเราไม่ได้อีก คุณแน่ใจนะว่าคุณยังอยากฟัง?”หลิวฮุยมองหลี่ฝางด้วยสีหน้าจริงจัง มอบโอกาสสุดท้ายให้เขา

หลี่ฝางลังเลครู่หนึ่ง สุดท้ายก็พยักหน้าอย่างหนักแน่น

เขารู้ว่ามันอันตรายมากๆ แต่พ่อแม่ของเขา แม่มด ส้าวส้วย และซือปาจี้ล้วนอยู่ที่นั่น เขาไม่อาจปฏิเสธเรื่องนี้ได้

“ดีมาก บางที่คุณอาจจะรู้แล้ว ว่าตั้งแต่เริ่มเดิมทีคนที่สำรวจโซนปีศาจคือพวกเรา เราแค่จ้างพ่อคุณมาช่วยก็เท่านั้น แต่หลังจากการปฏิบัติการในโซนปีศาจของพวกเราเริ่มพัฒนาขึ้น รูปแบบของพื้นที่ก็เปลี่ยนไปมาก

และเมื่อไม่นานมานี้มีภูเขาถล่มด้านใน หลังจากเกิดการโคลนถล่มก็พบซากปรักหักพังโบราณ อีกทั้งยังมีพื้นที่ว่างขนาดใหญ่ใต้ดิน จากข้อมูลของพวกเรา พบว่ามีการค้นพบเทวรูปขนาดใหญ่และประติมากรรมจำนวนมากในซากโบราณนั่น และมีวังใต้ดินขนาดใหญ่รางๆ

ตอนนี้พวกมีอำนาจต่างๆ ล้วนมุ่งความสนใจไปที่ซากโบราณนี่ โดยเฉพาะพวกตะวันตกจำนวนมาก ยืนยันแล้วว่านี่เป็นสัญญาณของสิ่งมหัศจรรย์ และสาบานว่าจะครอบครองสถานที่ปรักหักพังแห่งนี้”

สิ่งที่หลิวฮุยพูดราวกับเป็นอาหรับราตรีอย่างไรอย่างนั้น(เรื่องที่เป็นไปไม่ได้) หลี่ฝางได้ยินแล้วถึงกับตกตะลึง ไม่เข้าใจ

“แต่นี่มันเกี่ยวอะไรกับผม?พวกคุณจะสู้ก็สู้กันไปสิ ผมไปแล้วมีประโยชน์อะไร?”หลี่ฝางถามด้วยความงุนงง

“อย่าเพิ่งรีบร้อน คุณยังจำที่ผมบอกว่าที่นั่นเกิดเหตุร้ายขึ้นได้ไหม?ตั้งแต่ค้นพบสถานที่แห่งนั้น สนามแม่เหล็กแปลกๆก็ปรากฏขึ้น สิ่งอำนวยความสะดวกทุกอย่างจะใช้การไม่ได้ทันทีที่เข้าไปใกล้ และสิ่งมีชีวิตทุกสิ่งจะสลบทันทีหลังจากเข้าใกล้เช่นกัน และหลังจากซากโบราณนั่นอยู่ในเขตที่มั่นคง ไม่ว่าจะเป็นคนหรือเครื่องจักรก็จะกลับมาเป็นปกติ

เรายังไม่เข้าใจสาเหตุที่แท้จริงว่าเป็นเพราะอะไร แต่ที่รู้ก็คือคนเดียวที่เข้าไปในซากนั่นคือหลอซ่า พ่อของคุณ”

“เพราะพ่อผมเข้าไปได้ พวกคุณเลยคิดว่าผมก็เข้าไปได้งั้นเหรอ?”หลี่ฝางหมดคำจะพูด มีเหตุผลที่ลวกๆกว่านี้อีกไหม?

“ใช่ นี่เป็นเพียงเหตุผลเดียว”หลิวฮุยพูดพลางยิ้มเจื่อนๆ:“พูดตามตรงผมก็งงมากเหมือนกัน แต่คำสั่งจากเบื้องบนเป็นแบบนี้ พวกเราทำได้แค่ทำตาม คงไปถามหาเหตุผลจากคนเบื้องบนของตนไม่ได้หรอก?”

หลี่ฝางแสดงออกว่าเข้าใจ พูดอย่างลังเล:“พวกคุณอยากให้ผมไปตอนไหน?”

หลิวฮุยพูดยิ้มๆ:“คุณยอมให้ความร่วมมือกับพวกเรานี่ดีที่สุดแล้ว แต่ตอนนี้ยังไม่รีบ พวกเราต้องเตรียมงานล่วงหน้าก่อน เมื่อเตรียมการเสร็จแล้วจะติดต่อคุณมาอีกที”

หลี่ฝางพยักหน้า:“ยังไงผมก็ปฏิเสธพวกคุณไม่ได้อยู่ดี”

หลิวฮุยหัวเราะออกมา ยืนขึ้นพลางหยิบกระดาษแผ่นหนึ่งออกมาแล้ววางไว้บนโต๊ะ:“คุณหลี่ งั้นพวกเราขอตัวก่อน ถ้ามีปัญหาอะไรโทรมาถามผมได้ มีเรื่องอะไรที่จัดการไม่ได้ก็เรียกหาผมได้ ยังไงตอนนี้พวกร่วมมือกันแล้ว พวกเราต้องดูแลคุณเป็นพิเศษ แต่ว่าอย่าโทรบ่อยล่ะ ค่าโทรศัพท์มันแพงมาก”

หลิวฮุยพูดพลางขยิบตาอย่างซับซ้อน เหมือนกำลังบอกอะไรหลี่ฝาง

หลี่ฝางหยิบกระดาษแผ่นนั้นมาดู บนนามบัตรสีขาวใบนั้นเขียนไว้แค่เบอร์โทรศัพท์ หลี่ฝางพยักหน้า แล้วเก็บนามบัตรด้วยความจริงจัง

“จริงสิ พวกเราต้องพาคุณโก่เอ๋อกลับไปก่อน ออกมานานแบบนี้คนที่บ้านเธอเป็นห่วงมาก”

“ถ้าเธอยอมกลับไปกับพวกคุณหน่ะนะ”หลี่ฝางแสดงท่าทีว่าตนไม่มีความเห็น สถานะโก่เอ๋อนั้นไม่ธรรมดา ถ้าเกิดอะไรขึ้นขณะอยู่ที่หลี่ฝาง คนที่เดือดร้อนที่สุดก็คือหลี่ฝาง พูดตามตรงเขาอยากให้ปัญหานี่ไปตั้งนานแล้ว

“แน่นอน เรื่องนี้คุณหลี่ไม่ต้องเป็นห่วง”หลิวฮุยยิ้มอย่างมั่นใจ เดินขึ้นชั้นบนไปคุยกับโก่เอ๋อ

ไม่นานนักโก่เอ๋อก็เดินลงมาอย่างโมโห ตามหลังมาด้วยหลิวฮุยที่ยิ้มเจื่อนๆ

“หลี่ฝาง ฉันต้องกลับบ้านแล้ว”โก่เอ๋อพูดกับหลี่ฝางอย่างไม่เต็มใจมากๆ:“ห้องฉันคุณปล่อยไว้แบบนั้นแหละ ฉันยังกลับมาเที่ยวอีก”

เห็นได้ว่าแม้ไม่ค่อยยินยอมอย่างที่คิดไว้ แต่หลิวฮุยก็ไม่ได้ใช้อุบายอะไรมาบีบบังคับ หรือพูดว่าเขาไม่กล้าใช้ใช้อุบายบีบบังคับ

“ไม่ต้องห่วง ยินดีต้อนรับคุณกลับมาเสมอ”หลี่ฝางตั้งสติ พูดกับโก่เอ๋อด้วยรอยยิ้ม

“หลี่ฝาง ลาก่อน”

โก่เอ๋อกลับไปกับหลิวฮุยพวกเขา ส่วนไปที่ไหนนั้นหลี่ฝางไม่รู้

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท