NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 863 สอนพวกเขา

บทที่ 863 สอนพวกเขา

หลี่ฝางดีใจขึ้นมาทันที รีบพาตัวจี้หมิงมาแปล ไม่ง่ายเลยกว่าจะเข้าใจสิ่งที่เจ้าโรงแรมพูด หาที่พักแล้วเข้าพัก

ถึงแม้โรงแรมที่นี่จะแย่หน่อย แต่โชคดีที่พวกเขาล้วนเป็นคนที่ไม่ค่อยได้เปิดหูเปิดตามาก่อน ด้วยเหตุนี้สำหรับพวกเขา ความเป็นจริงสิ่งแวดล้อมแบบนี้ก็ดีมากแล้ว

ถึงแม้หลี่ฝางจะไม่เหมือนคนอื่นๆที่เคยผ่านที่ต่างๆมามากมาย แต่อดทนเล็กน้อย ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร

หลังจากพวกเขาตรวจดูอย่างละเอียดแล้วว่าในห้องไม่มีปัญหาอะไร ทุกคนก็นั่งลง รอฟังคำสั่งของหลี่ฝาง

พวกเขารู้แค่เป้าหมายของภารกิจในครั้งนี้เท่านั้น แต่รายละเอียดการปฏิบัติภารกิจต้องให้หลี่ฝางมาจัดการ

หลี่ฝางพูด:“ตอนนี้คนตระกูลเกายังไม่ถูกเคลื่อนย้าย ดังนั้นสิ่งสำคัญที่สุดคือเราต้องหาพวกเขาให้เจอ แล้วเข้าช่วยเหลือ”

เขาครุ่นคิด อยากจะให้คนอื่นๆพักก่อน ส่วนตนก็พาจี้หมิงที่เป็นคนเดียวที่พูดภาษาท้องถิ่นได้ออกไปเดินเล่นกับเขา

อย่างรวดเร็ว หลังจากทั้งสองปลอมตัวเสร็จแล้วก็เดินออกมาจากโรงแรม พร้อมทั้งยืมรถเช่าหนึ่งคัน

“หัวหน้า ปฏิบัติภารกิจยังไงครับ”

จี้หมิงจับพวงมาลัยรถยนต์แล้วถามหลี่ฝางด้วยความดีใจ

เขาคิดไม่ถึงว่าหลี่ฝางจะเรียกเขามาคนเดียวแบบนี้ ถ้าสามารถสืบข้อมูลที่มีประโยชน์ เขาก็ได้คุณงามความดีแล้ว

“นายเรียกฉันว่าพี่หลี่เถอะ อยู่ที่นี่ต้องระวังและซ่อนตัวให้ดี”

หลี่ฝางพูดอย่างไม่รีบร้อน

จี้หมิงไหวตัวทันทันที พยักหน้าแล้วพูด:“เข้าใจแล้วครับ พี่หลี่”

หลี่ฝางพยักหน้า สั่งให้จี้หมิงขับรถ ไปตามทางที่เขาบอก

เมืองนี้เต็มไปด้วยชาวต่างชาติมากมาย คุณแทบจะสามารถเจอทุกชื่อของแต่ละเชื้อชาติที่คุณสามารถเรียกชื่อได้

ทางด้านหลี่ฝางที่นั่งอยู่บนรถ เขากำลังสังเกตบริเวณโดยรอบ เพียงแต่เขาดูเหมือนนักท่องเที่ยวธรรมดาคนหนึ่ง ไม่ได้มีอะไรผิดแปลกไป

นอกจากนี้บนตัวของเขายังแผ่รังสีที่คล้ายจะมีอันตรายและไม่มีอันตราย แต่ทำให้จี้หมิงที่นั่งอยู่ข้างๆขนลุกชัน ตัวเย็นยะเยือก

ขณะที่หลี่ฝางนั่งอยู่บนรถแล้วแกล้งทำเป็นนอนหลับพักผ่อน หางตาของเขาเห็นคนที่คุ้นเคยภายในห้องๆหนึ่งที่อยู่ข้างถนนเดินผ่านไป

หลี่ฝางชะงักเล็กน้อย จากนั้นก็วางใจลง

“เรียบร้อย ตอนนี้น่าจะมั่นคงแล้ว”

ภายในใจของหลี่ฝางคลายยิ้มบางๆ ครั้งนี้เขาผ่อนคลายอย่างมาก ไม่ได้ระมัดระวังด้วยความตึงเครียดเหมือนเมื่อกี้ รังสีอันตรายอ่อนๆที่อยู่รอบตัวของเขาค่อยๆหายไป

จี้หมิงที่อยู่ข้างๆก็โล่งอก ถึงแม้เขาจะไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น แต่สัญชาตญาณของเขารู้สึกว่าการมาในครั้งนี้ต้องทำเรื่องใหญ่แน่นอน

อย่างรวดเร็ว ทั้งสองขับรถออกจากเขตเมือง ขับไปอีกประมาณสิบนาที หยุดลงตรงหน้าบ้านหลังเก่าทรุดโทรม

“ไป เข้าไปกับฉัน” หลี่ฝางผายมือพูด

“ผมก็เข้าไปด้วยเหรอครับ?” จี้หมิงแปลกใจเล็กน้อย เขาคิดว่าหลี่ฝางมาที่นี่เพื่อติดต่อกับใครบางคนเสียอีก

“นายไม่เข้าไปแล้วฉันจะพูดคุยกับคนอื่นยังไง?” หลี่ฝางย้อนถาม ถลึงตามองจี้หมิง

จี้หมิงรีบลงจากรถแล้วเดินตามหลังหลี่ฝาง ภายในใจเต็มไปด้วยความสงสัย

หัวหน้ามาทำอะไรที่นี่?

“เบ็ค ครั้งนี้เป็นเพราะนาย พวกเราเสียหายอย่างหนัก นายกล้าให้ข่าวปลอมกับพวกเรา เชื่อไหมว่าพวกเราสามารถตัดคอนายให้ตายได้?”

หลี่ฝางและจี้หมิงเพิ่งเดินเข้าไป เห็นชายฉกรรจ์ตัวใหญ่กลุ่มหนึ่งกำลังยืนล้อมชายตัวเล็กและซูบผอม ตะคอกด้วยความเหี้ยมโหด

“ตัดคอฉัน? หึๆ อย่าล้อกันเล่นเลย พวกนายไม่ไปสืบกันหน่อยละ ฉันอยู่ที่นี่มากี่ปีแล้ว ถ้าฉันขายข่าวปลอม ฉันคงถูกคนฟันคอตายนานแล้ว มีหรือที่จะถึงคราวของพวกนาย?”

ชายตัวเล็กร่างผอมแม้จะอยู่ตรงกลางและถูกล้อมเอาไว้ แต่เขากลับไม่หวาดกลัวแม้แต่น้อย มองทุกคนด้วยสีหน้าเย้ยหยัน

“นายหมายความว่าอะไร คิดจะเบี้ยวเหรอ ทำเป็นไม่รับรู้ใช่ไหม?”

“ฉันบอกไปแล้ว นี่เป็นเรื่องของพวกนาย อย่ามาหาเรื่องฉัน……”

หลี่ฝางยืนอยู่ตรงหน้าประตู จี้หมิงที่อยู่ข้างๆแปลบทสนทนาของพวกเขาให้หลี่ฝางฟัง ให้หลี่ฝางเข้าใจความขัดแย้งระหว่างคนพวกนั้น

หลี่ฝางพยักหน้า รู้ว่าตนมาถูกที่แล้ว

ที่นี่หลิวฮุยเป็นคนบอกเขา มีคนๆหนึ่งชื่อเบ็ค รู้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะข้อมูลอะไร ไปถามเขาได้หมด ถ้าเขาไม่รู้ คงจะไม่สามารถสืบเรื่องอะไรได้แล้ว

แน่นอน ก่อนอื่นต้องนำเงินมามากพอ เพราะถึงอย่างไรหลิวฮุยก็บอกเอาไว้แล้ว ผู้ชายคนนี้โลภมาก

หลี่ฝางกำลังจะเดินไป แต่กลับถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ที่มาหาเรื่องขวางเอาไว้ พูดกับหลี่ฝางด้วยสีหน้าไม่เป็นมิตร:“พวกแกมาทำอะไร ไสหัวออกไป ที่นี่ไม่ต้อนรับพวกเขา!”

น่าเสียดายที่หลี่ฝางไม่รู้ว่าพวกเขากำลังพูดอะไร หลังจากเงียบแล้วฟังจี้หมิงแปล หลี่ฝางหรี่ตาลง

“ดูท่าคนที่นี่คงไม่มีมารยาท” หลี่ฝางหัวเราะ ขยับมือขยับเท้า จับจ้องไปที่กลุ่มคนพวกนั้นด้วยแววตาไม่เป็นมิตร

“ถ้าอย่างนั้นฉันคงต้องใช้วิธีของใช้ในการสอนพวกแกพูด ว่าควรจะให้ความเคารพคนอื่นยังไง!”

จี้หมิงที่อยู่ด้านข้างเห็นภาพนี้ก็ตื่นเต้น ถึงแม้สำหรับเขาคนกลุ่มนี้จะเป็นแค่อันธพาล เขาจะจัดการทั้งหมดก็ไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้ แต่เห็นหลี่ฝางลงมือ เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นเต้น

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท