NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 869 หนึ่งต่อสาม

บทที่ 869 หนึ่งต่อสาม

ในฐานประจำการนี้ ไม่ได้มีแค่เทิร์นเนอร์เท่านั้นที่เป็นปรมาจารย์กำลังภายใน สิ่งที่หลี่ฝางจะทำในตอนนี้ ก็คือล่อปรมาจารย์กำลังภายในทุกคนออกมา แล้วจัดการพวกเขาให้หมดในครั้งเดียว

ไม่อย่างนั้น ขณะที่พวกเขากำลังต่อสู้กัน คนที่ซ่อนตัวอยู่จะได้รับผลประโยชน์ นี่ไม่ใช่สิ่งที่หลี่ฝางต้องการจะเห็น

เวลาไม่นาน ก็มีคนสองคนเดินออกมาจากทางทิศตะวันออกและทิศตะวันตก เพียงไม่นาน ทั้งสองยืนแยกกันอยู่สองข้างด้วยลมปราณที่ยิ่งใหญ่

คนด้านซ้าย เปลือยช่วงบน ชายผมสั้นที่แขนเต็มไปด้วยผ้า ตัวของเขาซูบผอม แต่เนื้อที่เผยออกมานั้น กลับเต็มไปด้วยพลังระเบิด ที่ทำให้คนไม่สามารถมองข้ามได้

หลี่ฝางรู้ว่าเขาเป็นใคร เป็นตัวแทนของสายเลือดมวยไทย ไท่ซาง

ตอนที่ส้าวสวยส่งอีเมลมาให้หลี่ฝาง เขาให้ประวัติของยอดฝีมือกำลังภายในที่อาจจะปรากฏจตัว หนึ่งในนั้นก็คือไท่ซาง เมื่อสี่สิบปีก่อนเขาต่อสู้กับโลกวงการมวยไทยจนไร้คู่ต่อสู้ เป็นแชมป์การแข่งขันศิลปะการต่อสู้ระดับโลก หลังจากนั้นเขาก็หายไป ตอนที่เขาปรากฏตัวอีกครั้ง เขาก็กลายเป็นปรมาจารย์กำลังภายในไปแล้ว

เจ้าหมอนี่ ไม่ว่าจะด้วยด้านการกระทำหรือประสบการณ์ รอบตัวของเขาเคล้าไปด้วยตำนาน

สำหรับคนทางด้านขวา เป็นใบหน้าที่ทำให้หลี่ฝางเห็นแล้วรู้สึกคุ้นหน้าคุ้นตา

“พวกเราเคยเจอกันมาก่อนรึเปล่า?” หลี่ฝางมองไปที่คนๆนั้นด้วยความสงสัย

“หึๆ คนที่นายเจอน่าจะเป็นน้องชายของฉัน แกรี่มั้ง?” เขาจับหน้าของตนเอง แล้วหัวเราะเยือกเย็น

หลี่ฝางเข้าใจทุกอย่างทันที แกรี่คือคนที่ทำให้เขากับราชสำนักเป็นศัตรูกัน เป็นนักแม่นปืนที่เก่งมากแต่สุดท้ายก็ถูกเขาฆ่าทิ้ง ที่แท้ก็เป็นน้องชายของคนๆนี้นี่เอง ไม่แปลกที่เขาจะรู้สึกคุ้นหน้าคุ้นตา

“นายมาแก้แค้นให้น้องชายเหรอ?”

“ฉันชื่อเคซี หวังว่านายจะจำฉันเอาไว้ แบบนี้ตอนที่นายลงไปในนรก เจอน้องชายของฉัน เขาจะได้รู้ว่าพี่ชายของเขาเป็นคนกำจัดนาย”

“เยี่ยม เยี่ยม เยี่ยม! ในเมื่อทุกคนต่างมีเหตุผลที่แน่วแน่ แบบนี้ตอนที่ฉันฆ่าพวกนาย จะได้ไม่ต้องออมมือแล้ว!”

น้ำเสียงของหลี่ฝางเยือกเย็น ปนไปด้วยจิตสังหาร ทำให้ไท่ซางที่เมื่อกี้ปรากฏตัวออกมาหรี่ตาลง แล้วหัวเราะเสียงดัง:“นายบ้าไปแล้วรึเปล่า หรือว่านายคิดจะสู้กับพวกฉันสามคนพร้อมกัน?”

“ต้องการแบบนั้นพอดี”

คำพูดเรียบเฉยของหลี่ฝาง สะท้อนไปทั่วลานกว้าง ทำให้คืนที่เงียบสงบเยือกเย็นมากกว่าเดิม

พลังของหลี่ฝาง จมดิ่งลงไปในความเยือกเย็นโดยไม่รู้ตัว ท่ามกลางความรู้สึกเผด็จการนั้น ทันใดนั้นเองคล้ายว่าเขากลายเป็นอีกคนหนึ่ง

หลอซ่า!

ความคิดของเทิร์นเนอร์ ตอนแรกยังคงคิด ควรจะโน้มน้าวยังไงให้เคซีและไท่ซางทั้งสองร่วมมือกันจัดการหลี่ฝาง

เพราะถึงอย่างไรพวกเขาสามคนไม่สนิทกัน และต่างก็มีผลประโยชน์เป็นของตนเอง

หลังจากคำพูดนี้ของหลี่ฝาง เขารู้ว่า วันนี้ถ้าไม่ใช่หลี่ฝางตาย ก็พวกเขาสามคนที่ต้องตาย

แต่พวกเขาสามคนร่วมมือกัน จะตายได้ยังไง

ดังนั้นวันนี้หลี่ฝางต้องตายอย่างแน่นอน!

“เด็กน้อยนายยังอายุไม่มาก แต่ปากเก่งไม่น้อย”

ไท่ซางหัวเราะเหี้ยมโหด เคล้าไปด้วยความเย้ยหยัน:“หนึ่งคนสู้กับปรมาจารย์กำลังภายในสามคน แม้แต่พ่อของนายหลอซ่าอยู่ ก็คงไม่กล้าพูดแบบนี้ นายเห็นว่าฉันและเทิร์นเนอร์เป็นขยะที่เพิ่งเข้ามาเป็นปรมาจารย์กำลังภายในเหมือนเคซีหรือไง?”

ท่ามกลางพวกเขาสามคน คนที่เพิ่งบรรลุกำลังภายในคือเคซี ความสามารถก็ต้องน้อยที่สุด เรื่องนี้ เคซีรู้ตัวดี

แต่เรื่องแบบนี้ถูกคนหยิบยกเอามาพูด ยิ่งไปกว่านั้นหลังจากโดนดูถูกว่าเป็น ‘ขยะ’ เคซีทนไม่ได้แล้ว

“ไท่ซาง พูดอะไรหัดใช้สมองหน่อย”

ไม่พอใจก็ส่วนไม่พอใจ เคซีไม่กล้ามีปัญหากับไท่ซาง

เขาเป็นคนที่อายุน้อยที่สุดท่ามกลางทั้งสามคน ระยะเวลาในการบรรลุกำลังภายในก็น้อยที่สุด อีกทั้งเขาก็ไม่เหมือนกันพวกไท่ซาง บรรลุกำลังภายในโดยผ่านการฝึกซ้อมมากมาย แต่เป็นเหมือนกับหลี่ฝาง บรรลุกำลังภายในด้วยความบังเอิญผ่านพลังด้านนอก

ดังนั้นความสามารถของเขา เมื่อเทียบกับไท่ซางและเทิร์นเนอร์แล้วน้อยกว่าจริงๆ! ถ้าหากไท่ซางคิดจะฆ่าเขา ต้องฆ่าได้แน่นอน!

อีกทั้งได้ยินว่าไท่ซางคนนี้ไม่ค่อยสมประกอบเท่าไหร่ ใครจะไปรู้ว่าเจ้าหมอนี่จะอาละวาดรึเปล่า กำจัดเขาออกไปก่อน เชื่อว่าผลลัพธ์แบบนี้ คือสิ่งที่หลี่ฝางยินดีจะดู

“หึๆ” ไท่ซางหัวเราะเย้ยหยัน มองไปทางเทิร์นเนอร์ พูด:“ผู้เฒ่า ฉันขอคนที่วิจัยยาเพิ่มพลัง ผู้เฒ่าส่งเธอมาให้ฉัน ฉันช่วยผู้เฒ่ากำจัดพวกมันสองคน เป็นไง?”

เทิร์นเนอร์คลายยิ้มบางๆ ส่ายหน้า

เรื่องนี้ เขาไม่มีวันตอบตกลงแน่นอน

“ไท่ซาง เรื่องนี้นายต้องถามฉันก่อนว่าฉันตกลงไหม”

ในเวลาเดียวกันที่หลี่ฝางพูดจบ ตัวของเขาก็หายไปกะทันหัน

วินาทีต่อมา เคซีกำลังหันหน้าไปมองไท่ซาง กลับสัมผัสได้ถึงพลังที่พลุ่งพล่านอยู่ตรงหน้า อดไม่ได้ที่จะด่าออกเสียง

“ทำไมต้องโจมตีฉันด้วย!”

ภายในใจของเคซีรู้สึกโมโหอย่างมาก ทั้งๆที่ไท่ซางกำลังหารือวิธีจัดการแก แล้วทำไมแกถึงโจมตีฉันเป็นคนแรก?

หลี่ฝางกลับไม่ตอบ หลังจากหมัดของตนถูกเคซีหยุดเอาไว้ เขาไม่หยุดเคลื่อนไหว ตามด้วยฟาดขา ไปที่เอวของเคซี

เคซีที่ไม่ทันได้ไหวตัว ทำได้เพียงฝืนใช้แขนป้องกันตัวเอาไว้ หนึ่งวินาทีต่อจากนั้น เห็นเงาของคนๆหนึ่งบินออกมา จากนั้น เคซีกระแทกลงบนพื้นพร้อมกับมีฝุ่นกระจายออกมา

พวกสวีคางที่ถอยห่างออกไปกว่าพันเมตร กำลังใช้แว่นส่องทางไกลดูการต่อสู้ที่ยากจะพบเจอ

ตอนที่พวกเขาเห็นเคซีถูกหลี่ฝางเตะจนถอยไปด้านหลัง ร้องตะโกนด้วยความยินดีทันที

“นี่คือพลังของปรมาจารย์กำลังภายในใช่ไหม? เตะออกไป แม้แต่ก้อนหินก็คงจะแหลกรึเปล่า?”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท