การโจมตีครั้งนี้ สำหรับกองทหารรับจ้างซีโส่ เป็นการโจมตีที่เกิดขึ้นกะทันหัน
หลายคนยังอยู่ในความฝัน ยังไม่ทันตื่น กูถูกหักคอ แล้วตายไป
บางคนตื่นแล้ว เพิ่งเตรียมจะยิง ก็ถูกเงาหนึ่งฆ่าอย่างรวดเร็วในเสี้ยววินาที ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตายยังไง
ท่ามกลางพวกเขา หัวหน้าของพวกเขาที่นี่ สัมผัสได้ลึกซึ้งที่สุด
สิ่งแรกที่เขาทำหลังจากรู้ว่ามีคนมาโจมตี ก็คือรายงานฐานประจำการที่สองซึ่งอยู่ห่างจากที่นี่สามกิโลเมตร
เพราะตอนที่เลือกใช้ที่นี่ปกป้องฐานประจำการที่สอง เขาก็ทำใจที่จะถูกโจมตีเอาไว้แล้ว
เพียงแต่เขากำลังจะส่งข้อความ ก็ถูกเงาดำที่ปรากฏตัวขึ้นมากะทันหันใช้มือฟาดมาที่หน้า ไม่ทันได้ทำอะไร ไม่เห็นด้วยซ้ำว่าอีกฝ่ายเป็นใคร
คนๆนี้ก็คือหลี่ฝาง เขาเดินไปมาในการต่อสู้ครั้งนี้ นอกจากฆ่าคู่ต่อสู้ที่ไหวตัวเร็วแล้ว เขาก็ฆ่าคนที่จะส่งข้อความ
ถึงแม้จะรู้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นที่นี่ ไม่มีทางปิดฐานประจำการที่สองได้แน่นอน เพราะเมื่อกี้ตอนที่เสียงปืนดังขึ้น ทางนั้นต้องระมัดระวังแล้วแน่นอน
แต่การหยุดคนพวกนี้รายงานรายละเอียดของสถานการณ์ ก็ยังสามารถทำให้ฐานประจำการที่สองเสียเวลาได้
ต้วนหงกวงเผชิญหน้ากับทหารรับจ้างคนหนึ่งที่ยากจะจัดการ
เจ้าหมอนี่แค่ดูก็รู้ว่าเคยผ่านการรบมาก่อน ความสามารถของเขาใกล้เคียงกับต้วนหงกวงทำให้พวกเขาต่อสู้กันอย่างยาวนาน พูดได้ว่ายากที่จะเอาชนะ
ตามการเดินของเวลา ภายในใจของต้วนหงกวงรู้สึกเป็นกังวลอย่างมาก ยิ่งอยู่ก็ยิ่งทำทุกอย่างโดยไม่ตระหนักอะไรทั้งนั้น พูดได้ว่าต้องการที่จะทำให้บาดเจ็บทั้งสองฝ่าย ทำทุกอย่างเพื่อล้มฝ่ายตรงข้าม
แต่ทว่าอีกฝ่ายกลับไม่กินไม้นี้ คอยยื้อเวลา รอทีมช่วยเหลือมา
ในเวลานี้เอง ต้วนหงกวงทำผิดท่วงท่า ทำให้ทหารรับจ้างได้โอกาส เอามีดฟันไปที่คอของต้วนหงกวง
ต้วนหงกวงมองดูมีดที่ใกล้เข้ามา รู้ว่าตนหลบไม่ทันแล้ว
ต้วนหงกวงที่คิดว่าชีวิตของตนอาจจะต้องจบลงที่นี่ ภายในใจเปี่ยมไปด้วยความไม่พอใจ
ทันใดนั้นเอง ไม่รู้ว่าหลี่ฝางโผล่มาอยู่ด้านหลังของทหารรับจ้างได้ยังไง ยื่นมือออกไปแล้วบิด ฆ่าทหารรับจ้างในเสี้ยววินาที ปล่อยมือ ร่างของทหารรับจ้างล้มลงบนพื้น
ต้วนหงกวงมองภาพตรงหน้าอย่างยากจะเชื่อ มองดูหลี่ฝางที่ไม่หยุดลงแม้แต่น้อย แผ่นหลังที่หมุนตัวหันหลัง ภายในใจรู้สึกดีใจที่ตนรอดพ้นจากความตาย
วินาทีต่อมา ต้วนหงกวงร้องตะโกน แล้วพุ่งตัวไปหาศัตรูอีกครั้ง
การต่อสู้จบลงอย่างรวดเร็ว สมาชิกในทีมใช้ความเร็วสูงสุดในการฆ่าศัตรู ทั้งยังเริ่มเตรียมอาวุธในตนเอง แล้วเดินทางไปโจมตีฐานประจำการที่สอง
จากนั้นตอนที่พวกเขาไปถึงฐานประจำการที่สอง หลี่ฝางกลับสั่งให้สมาชิกทุกคนหยุดลง
“ผิดปกติ!”
ในฐานประจำการที่สองนี้ หลี่ฝางสัมผัสได้ถึงลมปราณแข็งแกร่งที่ไม่ซ่อนเร้นแม้แต่น้อย เขารู้ดี ลมปราณนี้ต้องเป็นของปรมาจารย์กำลังภายในอย่างแน่นอน
หากเป็นแค่การต่อสู้ สำหรับทีมที่มีอาวุธพร้อมแบบนี้ การฆ่าศัตรูให้ตายไม่ใช่ปัญหา แต่อยากจะช่วยคน เป็นเรื่องที่ยากลำบากมาก
“หัวหน้า พวกเราใช้ระเบิดระเบิดทิ้งเลยดีไหมครับ ด้วยอาวุธที่เรายึดมา เพียงพอที่จะทำลายทุกคนที่อยู่ด้านในได้แล้ว!”
ต้วนหงกวงยิ้มแล้วคว้าระเบิดมือออกมา พูดด้วยความตื่นเต้น
หลี่ฝางได้ยินประโยคนี้แทบอยากจะตบต้วนหงกวงให้ตาย เขาอยากจะทำภารกิจให้สำเร็จ หรืออยากจะทำให้ภารกิจล้มเหลวกันแน่
มองฐานประจำการที่สองอยู่นานครู่หนึ่ง หลี่ฝางหันไปบอกกับทุกคน:“ภารกิจจบลงแค่นี้ พวกนายกลับไปเถอะ”
“หัวหน้า!” ทุกคนร้องเรียกขึ้นพร้อมกัน “ให้พวกผมลุยเถอะครับ!”
มองสายตาแน่วแน่ของสวีคาง หลี่ฝางส่ายหน้าแล้วพูด:“ฟังคำสั่งของฉัน กลับไป!”
ภายใต้แสงจันทร์ หลี่ฝางเดินเข้าไปในฐานประจำการที่สองตามลำพัง หลังจากเดินไปประมาณสิบเมตร กลับหันหน้ากลับมา มองทุกคน แล้วพูดขึ้น:“พวกนาย ผ่านเกณฑ์กันทั้งหมด!”
……
บนถนนที่เต็มไปด้วยก้อนหิน หลี่ฝางค่อยๆเดินเข้าไปใกล้ฐานประจำการที่สอง
เขาเดินช้ามาก คล้ายว่าไม่ได้รีบร้อนมาช่วยคน
รังสีที่อยู่รอบตัวของเขา เพิ่มขึ้นไม่หยุด คล้ายกับว่ากำลังส่งสัญญาณ ตอนที่อยู่ห่างจากฐานประจำการประมาณสามร้อยเมตร ในที่สุดที่ประจำการก็มีชายผิวขาวเดินออกมาหนึ่งคน
“สมแล้วที่เป็นลูกชายของคนๆนั้น นายเพิ่งฝึกฝนกำลังภายในได้ไม่นาน แต่กลับสามารถควบคุมกำลังภายในได้ถึงระดับนี้ เก่งจริงๆ”
เทิร์นเนอร์พูดชมอย่างไม่ซ่อนเร้น ความเป็นจริงตอนที่หลี่ฝางเดินเข้ามาใกล้ เขาก็สัมผัสถึงลมปราณที่เพิ่มมากขึ้น
“เทิร์นเนอร์?”
หลังจากเห็นคนที่อยู่ตรงหน้า หลี่ฝางเรียกชื่อของเขาออกมา:“ฉันเคยอ่านประวัติของนายมากแล้ว อายุเยอะขนาดนี้ พักผ่อนที่บ้านไม่ดีเหรอ ทำไมต้องรนหาที่ตายด้วย?”
ถ้าดูเพียงรูปลักษณ์ภายนอกของเทิร์นเนอร์ เขาเหมือนชายวัยกลางคนอายุราวสี่สิบกว่าปี แต่ความเป็นจริงเขามีอายุอย่างน้อยหนึ่งร้อยปีแล้ว
“หึๆ ไม่มีทายาท ถ้าฉันมีทายาทแบบนาย ตอนนี้ฉันคงพักผ่อนอยู่ที่บ้านแล้ว” เทิร์นเนอร์หัวเราะ
“นายคงไม่คิดว่าหลังจากที่นายตายแล้วอเมริกาจะยังปฏิบัติต่อตระกูลของนายอย่างดีหรอกใช่ไหม?”
หลี่ฝางรู้สึกตลกกับความใสซื่อของเทิร์นเนอร์
เทิร์นเนอร์ยิ้มอย่างไม่แคร์ แล้วพูด:“ประเทศของนายไม่ใช่ว่ามีคำพูดหนึ่งที่บอกเอาไว้ว่าทำให้ดีที่สุด อะไรจะเกิดก็ปล่อยให้ฟ้าลิขิตไม่ใช่เหรอ?”
“หึๆ” หลี่ฝางส่ายหน้า ไม่ได้พูดอะไร พลังของเขา มาถึงจุดสูงสุดแล้วเหมือนกัน
เทิร์นเนอร์จับจ้องไปที่หลี่ฝาง แล้วถามขึ้นกะทันหัน:“นายอยากตายมากขนาดนี้เชียวเหรอ?”