NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 868 พวกนาย ผ่านเกณฑ์กันทั้งหมด!

บทที่ 868 พวกนาย ผ่านเกณฑ์กันทั้งหมด!

การโจมตีครั้งนี้ สำหรับกองทหารรับจ้างซีโส่ เป็นการโจมตีที่เกิดขึ้นกะทันหัน

หลายคนยังอยู่ในความฝัน ยังไม่ทันตื่น กูถูกหักคอ แล้วตายไป

บางคนตื่นแล้ว เพิ่งเตรียมจะยิง ก็ถูกเงาหนึ่งฆ่าอย่างรวดเร็วในเสี้ยววินาที ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตายยังไง

ท่ามกลางพวกเขา หัวหน้าของพวกเขาที่นี่ สัมผัสได้ลึกซึ้งที่สุด

สิ่งแรกที่เขาทำหลังจากรู้ว่ามีคนมาโจมตี ก็คือรายงานฐานประจำการที่สองซึ่งอยู่ห่างจากที่นี่สามกิโลเมตร

เพราะตอนที่เลือกใช้ที่นี่ปกป้องฐานประจำการที่สอง เขาก็ทำใจที่จะถูกโจมตีเอาไว้แล้ว

เพียงแต่เขากำลังจะส่งข้อความ ก็ถูกเงาดำที่ปรากฏตัวขึ้นมากะทันหันใช้มือฟาดมาที่หน้า ไม่ทันได้ทำอะไร ไม่เห็นด้วยซ้ำว่าอีกฝ่ายเป็นใคร

คนๆนี้ก็คือหลี่ฝาง เขาเดินไปมาในการต่อสู้ครั้งนี้ นอกจากฆ่าคู่ต่อสู้ที่ไหวตัวเร็วแล้ว เขาก็ฆ่าคนที่จะส่งข้อความ

ถึงแม้จะรู้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นที่นี่ ไม่มีทางปิดฐานประจำการที่สองได้แน่นอน เพราะเมื่อกี้ตอนที่เสียงปืนดังขึ้น ทางนั้นต้องระมัดระวังแล้วแน่นอน

แต่การหยุดคนพวกนี้รายงานรายละเอียดของสถานการณ์ ก็ยังสามารถทำให้ฐานประจำการที่สองเสียเวลาได้

ต้วนหงกวงเผชิญหน้ากับทหารรับจ้างคนหนึ่งที่ยากจะจัดการ

เจ้าหมอนี่แค่ดูก็รู้ว่าเคยผ่านการรบมาก่อน ความสามารถของเขาใกล้เคียงกับต้วนหงกวงทำให้พวกเขาต่อสู้กันอย่างยาวนาน พูดได้ว่ายากที่จะเอาชนะ

ตามการเดินของเวลา ภายในใจของต้วนหงกวงรู้สึกเป็นกังวลอย่างมาก ยิ่งอยู่ก็ยิ่งทำทุกอย่างโดยไม่ตระหนักอะไรทั้งนั้น พูดได้ว่าต้องการที่จะทำให้บาดเจ็บทั้งสองฝ่าย ทำทุกอย่างเพื่อล้มฝ่ายตรงข้าม

แต่ทว่าอีกฝ่ายกลับไม่กินไม้นี้ คอยยื้อเวลา รอทีมช่วยเหลือมา

ในเวลานี้เอง ต้วนหงกวงทำผิดท่วงท่า ทำให้ทหารรับจ้างได้โอกาส เอามีดฟันไปที่คอของต้วนหงกวง

ต้วนหงกวงมองดูมีดที่ใกล้เข้ามา รู้ว่าตนหลบไม่ทันแล้ว

ต้วนหงกวงที่คิดว่าชีวิตของตนอาจจะต้องจบลงที่นี่ ภายในใจเปี่ยมไปด้วยความไม่พอใจ

ทันใดนั้นเอง ไม่รู้ว่าหลี่ฝางโผล่มาอยู่ด้านหลังของทหารรับจ้างได้ยังไง ยื่นมือออกไปแล้วบิด ฆ่าทหารรับจ้างในเสี้ยววินาที ปล่อยมือ ร่างของทหารรับจ้างล้มลงบนพื้น

ต้วนหงกวงมองภาพตรงหน้าอย่างยากจะเชื่อ มองดูหลี่ฝางที่ไม่หยุดลงแม้แต่น้อย แผ่นหลังที่หมุนตัวหันหลัง ภายในใจรู้สึกดีใจที่ตนรอดพ้นจากความตาย

วินาทีต่อมา ต้วนหงกวงร้องตะโกน แล้วพุ่งตัวไปหาศัตรูอีกครั้ง

การต่อสู้จบลงอย่างรวดเร็ว สมาชิกในทีมใช้ความเร็วสูงสุดในการฆ่าศัตรู ทั้งยังเริ่มเตรียมอาวุธในตนเอง แล้วเดินทางไปโจมตีฐานประจำการที่สอง

จากนั้นตอนที่พวกเขาไปถึงฐานประจำการที่สอง หลี่ฝางกลับสั่งให้สมาชิกทุกคนหยุดลง

“ผิดปกติ!”

ในฐานประจำการที่สองนี้ หลี่ฝางสัมผัสได้ถึงลมปราณแข็งแกร่งที่ไม่ซ่อนเร้นแม้แต่น้อย เขารู้ดี ลมปราณนี้ต้องเป็นของปรมาจารย์กำลังภายในอย่างแน่นอน

หากเป็นแค่การต่อสู้ สำหรับทีมที่มีอาวุธพร้อมแบบนี้ การฆ่าศัตรูให้ตายไม่ใช่ปัญหา แต่อยากจะช่วยคน เป็นเรื่องที่ยากลำบากมาก

“หัวหน้า พวกเราใช้ระเบิดระเบิดทิ้งเลยดีไหมครับ ด้วยอาวุธที่เรายึดมา เพียงพอที่จะทำลายทุกคนที่อยู่ด้านในได้แล้ว!”

ต้วนหงกวงยิ้มแล้วคว้าระเบิดมือออกมา พูดด้วยความตื่นเต้น

หลี่ฝางได้ยินประโยคนี้แทบอยากจะตบต้วนหงกวงให้ตาย เขาอยากจะทำภารกิจให้สำเร็จ หรืออยากจะทำให้ภารกิจล้มเหลวกันแน่

มองฐานประจำการที่สองอยู่นานครู่หนึ่ง หลี่ฝางหันไปบอกกับทุกคน:“ภารกิจจบลงแค่นี้ พวกนายกลับไปเถอะ”

“หัวหน้า!” ทุกคนร้องเรียกขึ้นพร้อมกัน “ให้พวกผมลุยเถอะครับ!”

มองสายตาแน่วแน่ของสวีคาง หลี่ฝางส่ายหน้าแล้วพูด:“ฟังคำสั่งของฉัน กลับไป!”

ภายใต้แสงจันทร์ หลี่ฝางเดินเข้าไปในฐานประจำการที่สองตามลำพัง หลังจากเดินไปประมาณสิบเมตร กลับหันหน้ากลับมา มองทุกคน แล้วพูดขึ้น:“พวกนาย ผ่านเกณฑ์กันทั้งหมด!”

……

บนถนนที่เต็มไปด้วยก้อนหิน หลี่ฝางค่อยๆเดินเข้าไปใกล้ฐานประจำการที่สอง

เขาเดินช้ามาก คล้ายว่าไม่ได้รีบร้อนมาช่วยคน

รังสีที่อยู่รอบตัวของเขา เพิ่มขึ้นไม่หยุด คล้ายกับว่ากำลังส่งสัญญาณ ตอนที่อยู่ห่างจากฐานประจำการประมาณสามร้อยเมตร ในที่สุดที่ประจำการก็มีชายผิวขาวเดินออกมาหนึ่งคน

“สมแล้วที่เป็นลูกชายของคนๆนั้น นายเพิ่งฝึกฝนกำลังภายในได้ไม่นาน แต่กลับสามารถควบคุมกำลังภายในได้ถึงระดับนี้ เก่งจริงๆ”

เทิร์นเนอร์พูดชมอย่างไม่ซ่อนเร้น ความเป็นจริงตอนที่หลี่ฝางเดินเข้ามาใกล้ เขาก็สัมผัสถึงลมปราณที่เพิ่มมากขึ้น

“เทิร์นเนอร์?”

หลังจากเห็นคนที่อยู่ตรงหน้า หลี่ฝางเรียกชื่อของเขาออกมา:“ฉันเคยอ่านประวัติของนายมากแล้ว อายุเยอะขนาดนี้ พักผ่อนที่บ้านไม่ดีเหรอ ทำไมต้องรนหาที่ตายด้วย?”

ถ้าดูเพียงรูปลักษณ์ภายนอกของเทิร์นเนอร์ เขาเหมือนชายวัยกลางคนอายุราวสี่สิบกว่าปี แต่ความเป็นจริงเขามีอายุอย่างน้อยหนึ่งร้อยปีแล้ว

“หึๆ ไม่มีทายาท ถ้าฉันมีทายาทแบบนาย ตอนนี้ฉันคงพักผ่อนอยู่ที่บ้านแล้ว” เทิร์นเนอร์หัวเราะ

“นายคงไม่คิดว่าหลังจากที่นายตายแล้วอเมริกาจะยังปฏิบัติต่อตระกูลของนายอย่างดีหรอกใช่ไหม?”

หลี่ฝางรู้สึกตลกกับความใสซื่อของเทิร์นเนอร์

เทิร์นเนอร์ยิ้มอย่างไม่แคร์ แล้วพูด:“ประเทศของนายไม่ใช่ว่ามีคำพูดหนึ่งที่บอกเอาไว้ว่าทำให้ดีที่สุด อะไรจะเกิดก็ปล่อยให้ฟ้าลิขิตไม่ใช่เหรอ?”

“หึๆ” หลี่ฝางส่ายหน้า ไม่ได้พูดอะไร พลังของเขา มาถึงจุดสูงสุดแล้วเหมือนกัน

เทิร์นเนอร์จับจ้องไปที่หลี่ฝาง แล้วถามขึ้นกะทันหัน:“นายอยากตายมากขนาดนี้เชียวเหรอ?”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท