NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่895 พ่อลูกรวมตัวกัน

บทที่895 พ่อลูกรวมตัวกัน

ไท่ซางบ่นไม่หยุด เดินไปพูดไปไม่หยุด ไม่รู้ว่าพูดนานแค่ไหนแล้ว

หลี่ฝางไม่สนใจฟังคำบ่นของไท่ซาง สนแต่เดินไปข้างหน้าเอง

ที่จริงในใจหลี่ฝางหมดหนทางมาก ไท่ซางผู้ชายคนนี้จุกจิกจู้จี้มากไปจริงๆ ช่างเหมือนกับแมลงวันตัวหนึ่งที่บินดังหึ่งๆอยู่ข้างๆตลอด อยากจะตบให้ตายก็ทำไม่ได้อีก

ด่าเขาไปสักหน่อยน่าจะมีผลแค่ชั่วคราว ผ่านไปไม่ถึงห้านาทีเขาก็เริ่มจู้จี้อีก

ถึงแม้ไม่อยากพาเขาไปมากนัก แต่ก็เอาเขาไปทิ้งไว้ที่เมืองเอกไม่ได้ ไม่อย่างนั้นหลี่ฝางกลับไปอาจจะเห็นเมืองเอกอีกอย่างหนึ่ง

ไท่ซางผู้ชายที่ประพฤติตัวออกนอกลู่นอกทางนี้ หลี่ฝางไม่วางใจจริงๆ ตัวเองได้แต่ทนรับความทรมานแบบนี้เงียบๆ

คิดแบบนี้ หลี่ฝางก็อดไม่ได้ที่จะแอบถอนหายใจข้างในใจ

ตอนนี้เอง ด้านหลังจู่ๆก็มีเสียงบีบแตรดัง

“เพื่อนสองคนนี้ จะติดรถไปไหม?”

รถยนต์คันหนึ่งจอดอยู่ข้างเขาสองคน ลดหน้าต่างรถลง ชายวัยกลางคนคนหนึ่งถามด้วยรอยยิ้มเต็มไปหน้า

ถึงแม้ผู้ชายคนนี้จะยิ้มอย่างแจ่มใส สายตาแวบแรกของไท่ซางก็ถูกดึงดูดไปที่ข้างคนขับ สาวสวยวัยรุ่นคนนั้นที่ดูอ่อนเยาว์และสวยงาม

“เอื้อก”สายตากวาดไปที่ตัวของสาวสวยไปมา ไท่ซางกลืนน้ำลายอย่างอดไม่ไหว

ตระหนักได้ถึงสายตาของไท่ซาง หญิงสาวก็จ้องไท่ซางอย่างรังเกียจ หันหน้าไปไม่มองเขา

“ขอบคุณครับพี่ชาย!”จากนั้นไท่ซางก็ไม่สนใจสายตาดูถูกของคนเลย?ยังไม่ทันรอหลี่ฝางพูด ไท่ซางเปิดประตูรถเข้าไปอย่างแทบจะรอไม่ไหว

หลี่ฝางอยากจะปฏิเสธ ก็เห็นไท่ซางขึ้นรถไปแล้วในตอนนี้ จนต้องเอาคำพูดของเขากลืนกลับไป ได้แต่จ้องไท่ซางอย่างทำอะไรไม่ได้ แล้วขอบคุณเสร็จก็ตามขึ้นรถไป

ชายวัยกลางคนขับรถกลับเป็นมิตรอย่างมาก ขึ้นรถมาไม่นานก็เริ่มคุยกับพวกหลี่ฝางสองคน

“ผมชื่อหยูฉาย นี่คือลูกสาวผมหยูหลิงฮุ่ย คุณสองคนชื่ออะไรครับ?”

“ผมชื่อกู่เทียน นี่คือเพื่อนผมไท่ซาง”หลี่ฝางยังใช้ชื่อเดิมเหมือนครั้งที่แล้ว

“ทั้งสองคนก็มาเข้าร่วมศึกชิงจ้าวยุทธภพตระกูลชิวด้วยเหรอ?”หยูฉายอดไม่ได้ที่จะถาม

“อือ!พี่ชายก็น่าจะเหมือนกันใช่ไหม?”หลี่ฝางตอบกลับ

เขารู้สึกได้ว่า ในคู่พ่อลูกนี้ ความแข็งแกร่งของหยูฉายผู้เป็นพ่อค่อนข้างแข็งแรง ส่วนหยูหลิงฮุ่ยลูกสาวอ่อนแอกว่าเล็กน้อย

“ใช่!”หยูฉายพูดด้วยรอยยิ้ม:“ศึกชิงจ้าวยุทธภพครั้งนี้ไม่ธรรมดาเลย ได้ยินว่ายังมีหุบเขาราชายาก็เข้าร่วมด้วย ถึงตอนนั้นถึงไม่ได้รับอะไร ซื้ออายุวัฒนะของหุบเขาราชายาสักหน่อยก็คุ้มแล้ว โอกาสก็หายากอยู่แล้ว จะพลาดไม่ได้”

“อ้อ?”หลี่ฝางตาเป็นประกาย

ที่จริงเขามาเข้าร่วมศึกชิงจ้าวยุทธภพครั้งนี้เพื่อเข้าใจจุดประสงค์ของตระกูลชิวให้ชัดเจน สามารถเข้าใจล่วงหน้าเล็กน้อย ก็เป็นการได้รับที่คาดไม่ถึง

“ผมจำได้ว่าครั้งนี้เหมือนต้องไปถึงพลังภายนอกขั้นปลายขึ้นไปถึงจะเข้าร่วมได้ ความแข็งแกร่งของลูกสาวคุณเหมือนจะไม่พอนะ?”หลี่ฝางพูดอย่างสงสัย

“ใครว่าความแข็งแกร่งฉันไม่พอ?หึ บอกพวกคุณให้นะ ฉันมีพลังภายนอกขั้นปลายแล้ว!อีกอย่างถึงความแข็งแกร่งฉันไม่พอ พ่อฉันก็พาฉันเข้าไปได้!”

หยูหลิงฮุ่ยทำเสียงเย็นชา พูดอย่างไม่พอใจ

หลี่ฝางก็รู้ทันที ไม่น่าล่ะหญิงสาวคนนี้ถึงได้นิสัยเสียขนาดนี้

ก่อนยี่สิบห้าก็ไปถึงความแข็งแกร่งของพลังภายนอกขั้นปลายแล้ว เรียกได้ว่าเป็นพรสวรรค์จริงๆ

แน่นอนว่า หลี่ฝางนั้นดีอยู่ในขั้นเหลือเชื่อแล้ว ทั้งสองคนไม่อาจเปรียบเทียบกันได้เลย

และอย่างตงฟางเย่นนั้น สามารถต่อสู้กับยอดฝีมือกำลังภายในพลังภายนอกขั้นสูงสุด เป็นพรสวรรค์ที่อยู่ในพรสวรรค์

“พวกคุณอย่าใส่ใจ ลูกสาวผมนี้นิสัยเสียตั้งแต่เด็กๆ เหอะเหอะ”ถึงหยูฉายจะพูดแบบนี้ แต่ปกปิดความภูมิใจที่ใบหน้าเขาไม่ได้

ถึงแม้ความแข็งแกร่งของเขาไม่เข้มแข็งพอ แต่ลูกสาวของเธอกลับยังสาวและมีความสามารถ ครั้งนี้จะต้องโดดเด่นที่สุดในงานแน่

“ใช่สิ พวกคุณสองคน พวกคุณสองคนไปถึงระดับไหนแล้ว?”จู่ๆหยูฉายก็ถาม

“อ้อ เราสองคนต่างเพิ่งเข้าร่วมศึกครั้งนี้ได้พอดี”หลี่ฝางพูดอย่างคลุมเครือ

“เหอะ ดูอายุพวกคุณสองคนแล้วยังเด็กอยู่ และมีความแข็งแกร่งแค่นี้ ทำไมยังมีหน้ามานี่อีก?”หยูฉายยังไม่พูด หยูหลิงฮุ่ยที่อยู่ข้างๆก็เสียดสีอย่างดูถูก

เดิมทีเธอไม่ได้รู้สึกดีต่อทั้งสองคนนี้ก็เพราะว่าไท่ซาง ท่าทีที่ปฏิบัติต่อสองคนนี้จึงแย่ หลี่ฝางเข้าใจดี

แต่ว่าเขาก็ไม่ได้สนใจจะพูดคุยต่อไป เอนนอนไปเบาะด้านหลัง หลับตาลงบำรุงสมองและพลัง

ตระกูลชิวหนึ่งในสามตระกูลใหญ่เป็นที่รู้จักในหนานเจียง มีประวัติศาสตร์ที่มากกว่าห้าร้อยปีก่อน ก็เคยเป็นที่เคารพนับถือ มีอำนาจยิ่งใหญ่

ตอนนั้นมีปรมาจารย์อาวุโสตระกูลชิวอยู่ อำนาจของตระกูลชิวเจริญรุ่งเรืองสุดๆ รุ่งโรจน์ไม่มีที่สิ้นสุด

เสียดายที่คนรุ่นหลังไร้ความสามารถ หลังจากปรมาจารย์อาวุโสตระกูลชิวตาย ตระกูลชิวก็เริ่มถดถอยลง กว่าหลายร้อยปีไม่ได้ปรากฏกำลังภายในคนที่สองอีก แม้กระทั่งความสามารถในด้านอื่นๆก็ไม่ได้โดดเด่นเป็นพิเศษอีก

ดังนั้นตระกูลชิวจึงค่อยๆถดถอยลง ตอนนี้สามารถรักษาชื่อสามตระกูลใหญ่ได้ก็ไม่ง่ายเลย ซึ่งในสายตาคนอื่น ก็แค่ตระกูลชนชั้นสองเท่านั้น

อย่างไรก็ตามตอนนี้ตระกูลชิวดันมาจัดศึกชิงจ้าวยุทธภพขนาดใหญ่ขนาดนี้ได้ และยังชวนคนจำนวนมากมาอีก ซึ่งทำให้คนยากที่จะเข้าใจได้จริงๆ

“พี่หยู คุณว่าศึกชิงจ้าวยุทธภพในวันนี้ทำไมถึงมาถึงมือตระกูลชิวจัดได้?ตอนนี้พวกเขาก็แค่ตระกูลชนชั้นสองเท่านั้น ตระกูลชนชั้นหนึ่งพวกนั้นทำไมถึงเห็นด้วยกับเรื่องนี้ได้ล่ะ?”

หลี่ฝางคิดไม่ออกจริงๆ ได้แต่เงียบไปสักพักแล้วจึงถามหยูฉาย

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท