NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่888 ในที่สุดก็กลับมาแล้ว

บทที่888 ในที่สุดก็กลับมาแล้ว

เวลานี้ หลี่ฝางเปิดห้องโดยสาร ก็มองเห็นด้านหน้าล้อมรอบด้วยรถต่างๆเต็มไปหมด แสงไฟต่างสาดส่องไปที่ร่างเขา คนด้านล่างแต่ละคนเหมือนกับเป็นศัตรูที่แข็งแกร่ง มองหลี่ฝางอย่างประหม่า

หลี่ฝางตะลึง แล้วหันไปมองผู้โดยสารที่อ้วกอย่างวุ่นวายในห้องโดยสาร จึงเบะปาก แล้วเดินไปที่ห้องนักบิน

“ราฟาเอล คุณเป็นไงบ้าง?”

พอเปิดประตูห้องนักบินออก ก็มีกลิ่นเหม็นออกมาทันที

“boss ผมแย่มาก เจ้าเด็กนี่กลัวจนฉี่ราด”ราฟาเอลพุ่งออกมาจากห้องนักบินอย่างรวดเร็ว อุดจมูกไว้อย่างรังเกียจ

“ไม่ตายก็พอแล้ว”หลี่ฝางหัวเราะหึหึออกมา……

……

พูดตรงๆแล้ว หลี่ฝางไม่ได้มีความรู้สึกดีต่อพม่าหรือประเทศสองสามประเทศทางนี้นัก ไม่อยากเสียเวลาที่นี่ หลี่ฝางจึงให้ราฟาเอลออกหน้า ยืมอุปกรณ์สื่อสารติดต่อในประเทศ ดูว่าหลิวฮุยช่วยเขากลับไปได้หรือไม่

ถึงแม้เรื่องเมื่อก่อนจะรู้สึกผิดต่อหลิวฮุยมาก แต่พอคิดเพื่อชีวิตของเกาเมิ่งฉีแล้ว หลี่ฝางก็ยังจะทำแบบนี้อีกครั้ง หวังว่าหลิวฮุยจะไม่โกรธเพราะสิ่งนี้ หวังว่านะ……

“คุณยังจะกล้าโทรหาผมอีก?ดร.เกาถูกคุณทำจนไปอยู่ไหนแล้ว?คุณมันระยำ!เดี๋ยวก่อนนะ คุณอยู่ที่พม่า?”

หลังจากโทรติด หลี่ฝางแสดงตัวตนของตัวเองไป ทางนั้นก็ตะโกนออกมาอย่างรุนแรง และใช้เวลาในการพูดไปไม่กี่คำ หลิวฮุยก็ได้ตำแหน่งของหลี่ฝางแล้ว

“เอ่อ……คุณฟังผมอธิบายนะ……”หลี่ฝางหัวเราะเสียงแห้ง คิดว่าครั้งนี้ตัวเองทำไม่ได้มาตรฐานเท่าไหร่จริงๆ ได้แต่หัวเราะเหอะเหอะพูดสถานการณ์ของตัวเองกับหลิวฮุยไปรอบหนึ่ง

พอหลี่ฝางเอาทุกอย่างพูดไปหมด น้ำเสียงของหลิวฮุยจึงดีขึ้นมาหน่อย พูดว่า:“ดร.เกาเป็นอย่างไรบ้าง?เอาเธอกลับมาได้เมื่อไหร่?”

“อันนี้ผมก็ไม่รู้ น่าจะต้องอีกสักพักหนึ่ง คุณเอาผมกลับไปก่อนโอเคไหม?”หลี่ฝางพูดในใจว่าผู้ชายคนนี้มีแต่เกาเมิ่งฉี ไม่สนความเป็นความตายของตัวเองเลยสักนิด

“……”ทางนั้นเงียบไปเล็กน้อย แล้วก็มีเสียงของหลิวฮุยเข้ามา:“โอเค คุณกลับมาก่อน ส่วนเรื่องอื่นกลับมาก่อนค่อยว่ากัน”

ถึงหลิวฮุยจัดการ ระยะเวลาเดินทางอย่างน้อยก็ต้องหกชั่วโมง เวลานี้หลี่ฝางก็ไม่อยากหนีไปไหนมาไหนแล้ว ได้แต่รออยู่ที่พม่าหกชั่วโมง

“ลูกพี่ เรื่องครั้งนี้ไม่ธรรมดาเลย”ราฟาเอลเดินเข้ามาพูด

“ไร้สาระ ตัวเองก็รู้อยู่แล้วว่าไม่ธรรมดาแน่”ไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่น แค่พูดเรื่องที่ไวรัสทำคนกลายเป็น“ซอมบี้”นี้ องค์กรน่ากลัวที่เล็กๆแบบนี้สามารถศึกษาออกมาได้เหรอ?

“ผู้โดยสารบนเครื่องบินเป็นอย่างไรบ้าง?”

“ทั้งหมดถูกกักตัวแล้ว ตอนนี้อยู่ภายใต้การตรวจสอบแยกกักตัวเดี่ยว แล้วยังจะจับพวกเราไว้อีก แต่ถูกผมขวางไว้แล้ว”ราฟาเอลชี้ไปไม่ไกล มีคนหลายคนเดินไปเดินมา มองมาทางนี้อย่างคลุมเครือ

“ช่างเถอะ พวกเราก็ไปดูกันเถอะ ถึงแม้ตัวเองจะรู้ว่าไม่เป็นไร ยังไงก็ให้คนวางใจหน่อย”หลี่ฝางเดินไปทางคนพวกนั้นก่อน

คนพวกนั้นเหมือนรู้มาจากปากผู้โดยสารคนอื่นๆบนเครื่องบินแล้วว่าหลี่ฝางสองคนนี้ไม่ใช่คนทั่วไป จึงไม่กล้าทำอะไรที่มากเกินไปต่อหลี่ฝาง แล้วรีบช่วยเขาตรวจสอบ หลังจากแน่ใจว่าไม่ได้รับการแพร่เชื้อ จึงจัดห้องรับรองพิเศษให้เขา

ถึงบอกว่าเป็นห้องรับรอง แต่หลี่ฝางรู้สึกเหมือนพวกเขาสองคนถูกกักขังแล้ว แต่ว่าเทียบกับผู้โดยสารคนอื่นๆแล้วถือว่าปฏิบัติดีกว่าหน่อย หลี่ฝางกับราฟาเอลรออยู่หกชั่วโมงเต็ม ในที่สุดก็มีคนพาพวกเขาสองคนออกมา

“พวกคุณไปได้แล้ว”คนนั้นที่นำพวกเขาออกมาหน้าตาแย่เหมือนกับกินมูลสัตว์

“ตอนนี้ด้านในเป็นอย่างไรบ้าง ไวรัสควบคุมได้ไหม?”หลี่ฝางถาม

“บอกอะไรไม่ได้เลย”คนๆนั้นชักสีหน้า ทำท่าทางไสหัวออกไปทันที

หลี่ฝางสบตากับราฟาเอล เดินออกไปอย่างทำอะไรไม่ได้ ทั้งสองเดินไปได้ไกลหน่อย หลี่ฝางจึงพูดว่า:“ดูเหมือนเรื่องนี้จะไม่ได้แก้ไขง่ายๆ”

“boss นี่ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับพวกเรา จะต้องมีคนออกนอกหน้าแน่”

“คุณพูดถูก เรื่องเกิดขึ้นแล้วยังไงเราก็ต้องทำให้ถึงที่สุด ไป กลับไปกับผมก่อน”หลี่ฝางยิ้ม เอาเรื่องนี้เก็บไว้ก่อนชั่วคราว แล้วไปซื้อตั๋วบินจากพม่าไปจีน

หลังจากประสบกับความล่าช้าของเรื่องนี้ หลี่ฝางทั้งสองคนนี้ก็สายกว่าที่คาดการณ์ไว้สิบกว่าชั่วโมง จนไปถึงเย็นอีกวัน ในที่สุดก็บินกลับประเทศจีน

เพิ่งลงจอด หลี่ฝางยังไม่ทันโล่งอก ก็ถูกหลิวฮุยที่รออยู่นานที่ด้านนอกสนามบินขวางไว้

“ขึ้นรถเถอะ”เห็นหลี่ฝาง หลิวฮุยก็กลอกตาใส่ พูดด้วยเสียงเย็นชา

“ไปไหนเหรอ?”ในใจหลี่ฝางรู้สึกไม่ดีเท่าไหร่ แต่ใบหน้ากลับถามด้วยรอยยิ้มร่า

“ไปเจอผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่งกับผมก่อน จากนั้นพวกเรามาคิดเรื่องที่ต้องชดเชยกัน”

“ชดเชย?ชดเชยอะไร?”หลี่ฝางตะลึง

“เหลวไหล คุณคิดว่าเอาคุณกลับมาจากพม่าง่ายมากเหรอ?คิดก่อนว่าคุณมีเงินเท่าไหร่!”หลิวฮุยเปิดประตูรถ ส่งสัญญาณให้ หลี่ฝางเข้าไปนั่ง

“ไอ้ห่า หลิวฮุยคุณมันขี้งกไปแล้ว!”หลี่ฝางกระโดดเตะอย่างทนไม่ไหว แต่หลิวฮุยเข้าไปในรถแล้ว หลี่ฝางก็ทำอะไรไม่ได้ ยังไงคนอ่อนแอก็สู้คนแข็งแกร่งไม่ได้ ได้แต่พาราฟาเอลเข้าไปนั่งด้านหลัง

“ครั้งนี้ผู้ยิ่งใหญ่คนไหนจะเจอผมเหรอ หาผมมีอะไร บอกให้ผมรู้ก่อนได้ไหม?”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท