NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่885 ความตื่นตระหนกบนเครื่องบิน

บทที่885 ความตื่นตระหนกบนเครื่องบิน

หลี่ฝางพูดอย่างประหลาดใจ:“มองไม่ออกเลยนะว่าคุณจะมีหลักการมาก”

“แน่นอน”ราฟาเอลยิ้ม“ผมไม่ใช่พวกขอทานที่หิวแล้วเลือกไม่ได้”

“เหอะเหอะ”หลี่ฝางหัวเราะ

ราฟาเอลจู่ๆพูด:“ใช่สิ boss คนแก่คนนั้นปัญหาหนักมาก”

หลี่ฝางพยักหน้า:“มองออกว่า ไม่มีลมหายใจ หัวใจไม่เต้น เลือดก็แทบจะจับตัวเป็นก้อน แต่จู่ๆเขาก็ยังมีชีวิตรอด ปาฏิหาริย์จริงๆเลย”

“ผมเพิ่งใช้กำลังภายในขุดลอกเลือดของเขาให้ไหล และยังทิ้งกำลังภายในไว้ให้เขาอีกด้วย แต่นี่มันแค่ชั่วคราว หลังจากกำลังภายในนั้นหมด ปัญหาของเขาก็จะยิ่งรุนแรงขึ้น”

หลี่ฝางมองราฟาเอลอย่างประหลาดใจ สมแล้วที่เป็นทหารผ่านศึกยอดฝีมือ เพิ่งฝ่าฟันกำลังภายในได้ก็ใช้งานได้อย่างคล่องแคล่วเช่นนี้แล้ว

“คุณมองปัญหาออกไหม?”หลี่ฝางถาม

ราฟาเอลส่ายหน้า:“มองไม่ออก ผมไม่ใช่หมอจริงๆสักหน่อย”

สีหน้าหลี่ฝางเคร่งขรึมหน่อยๆ จู่ๆก็พูดว่า:“จู่ๆในใจผมก็มีลางสังหรณ์ไม่ดี”

“ผมก็ด้วย”ราฟาเอลพยักหน้า

ทั้งสองคนมองหน้ากัน

จู่ๆระหว่างนั้น ในห้องโดยสารก็มีเสียงแจ้งเตือนดังขึ้น

“ผู้โดยสารทุกท่าน เครื่องบินลำนี้จะผ่านกระแสลมแรง จึงอาจทำให้เกิดการสั่นสะเทือนเล็กน้อย กรุณาคาดเข็มขัดนิรภัย……”

หลี่ฝางมองไปด้านนอก ข้างนอกมืดลงไปเยอะ ในห้องโดยสาร แอร์โฮสเตสสองสามคนกำลังช่วยผู้โดยสารคาดเข็มขัดนิรภัย เครื่องบินค่อยๆสั่นสะเทือนขึ้นมา ยังดีที่ไม่ได้สั่นหนักมากนัก ไม่ได้ทำให้คนรับไม่ได้

ไฟในห้องโดยสารก็ค่อยๆสลัวลง เหมือนว่าจะดับลงในอีกไม่กี่วินาที

จู่ๆระหว่างนั้น แสงไฟก็ดับลงทันที

ไฟฉุกเฉินสว่างขึ้นมาอย่างรวดเร็ว มีแค่ไม่กี่ส่วนที่มืดครึ้ม ทำให้คนรู้สึกไม่สบายอย่างหดหู่หน่อยๆ

ในตอนนี้เอง เสียงประกาศก็ดังขึ้นมาอีก

“ผู้โดยสารทุกท่านอย่าตื่นตระหนก เครื่องบินกำลังวิ่งผ่านชั้นเมฆ กรุณาอย่าเดินไปไหน นั่งอยู่กับที่ให้ดีค่ะ”

“แปลกจัง ทำไมรู้สึกว่าเสียงนั้นตื่นตระหนกหน่อยๆ?”หลี่ฝางพึมพำเสียงเบา

“มีบางอย่างผิดปกติ”ราฟาเอลก็พูดเสียงทุ้มเบา

“พวกเราไปดูเถอะ”หลี่ฝางขมวดคิ้ว พูดกับราฟาเอล

ราฟาเอลพยักหน้า ออกไปจากที่นั่งพร้อมกับหลี่ฝาง ถูกแอร์โฮสเตสด้านหน้าเห็นจึงรีบตักเตือนว่า:“กรุณาอย่า……”

เสียงของเธอถูกเสียงกรีดร้องที่มาจากห้องโดยสารทั่วไปตรงด้านหลังของเครื่องบินตัดบททันที หลี่ฝางกับราฟาเอลสบตากัน หันกลับไปพร้อมกัน แล้วเดินไปด้านหลัง

“เดี๋ยวก่อน ผู้โดยสารทั้งสองท่านคะ กรุณากลับไปที่นั่งค่ะ!”แอร์โฮสเตสคนนั้นรีบแกะเข็มขัดนิรภัยของตัวเองออก แล้วเดินไปทางสองคนนั้น

ตอนนี้เอง จู่ๆมือข้างหนึ่งก็ตบที่กระจกประตูบานเลื่อนที่กั้นห้องผู้โดยสารทั้งสองไว้ช่อง และเสียงที่ดังชัดทำเอาผู้โดยสารในห้องโดยสารชั้นหนึ่งตกใจกันอย่างมาก

ดีที่ประตูกระจกในนี้ไม่ได้นำเข้าแบบหนีภาษี จึงไม่ได้ถูกตบจนแตก

จากนั้นแป๊บเดียวมืออีกหลายมือ ก็ตบกระจกพร้อมกันอย่างบ้าคลั่ง จากนั้นใบหน้าที่ร้อนรนแต่ละคนก็แนบไปที่กระจก ตะโกนเสียงดัง

อย่างไรก็ตามประตูไม่สามารถเปิดออกได้จากตรงนั้น กลุ่มคนตบกระจกไปก็เปิดไม่ออก สีหน้ายิ่งวิตกกังวลมากขึ้น

ผู้โดยสารที่นี่แทบจะตกใจ นั่งตะลึงงันไม่มีใครกล้าเข้าใกล้สักคน

“เกิดอะไรขึ้น!”หลี่ฝางรีบเดินไปด้านหน้าถามด้วยเสียงดัง

“ช่วยด้วย มีซอมบี้!จะกินคน!”คนทางด้านนั้นตะโกนเสียงดังอย่างบ้าคลั่ง

“อะไรนะ?”หลี่ฝางตกใจ รีบเงยหน้าขึ้น เอาสายตามองไปที่ประตูบานนั้นที่อยู่ระหว่างชั้นธุรกิจและชั้นประหยัด ผ่านคนกลุ่มนี้ไป

จากนั้นเขาก็พบว่าประตูบานนั้นถูกทุบตีจนบิดเบี้ยวอย่างรุนแรง สีหน้าของคนที่ถูกล็อกไว้อยู่อีกฝั่งก็ดูบิดเบี้ยวไป มองไปจะทุบประตูเปิดออกให้ได้

ราฟาเอลเดินเข้ามาถาม:“boss ทำอย่างไรดี?”

หลี่ฝางเดินไปด้านหน้า พูดว่า:“เข้าไปดูหน่อย”

ตอนนี้ผู้โดยสารด้านหลังก็ตะโกนเสียงดัง:“หยุด!อย่าเข้าไป!ห้ามเปิดประตู!”

หลี่ฝางทำเหมือนไม่ได้ยิน เปิดประตูเดินเข้าไปอีกด้านทันที

เสียงดังพรวดพราด คนทางด้านนั้นเบียดมาตรงนี้อย่างบ้าระห่ำ กลับถูกหลี่ฝางกับราฟาเอลทั้งสองคนขวางไว้ ขยับไม่ได้เลย

จนกระทั่งหลี่ฝางกับราฟาเอลเดินเข้าไป คนกลุ่มนั้นก็ดีใจทันที แย่งกันเข้ามาที่ห้องผู้โดยสารชั้นหนึ่ง

“เปิดประตูทางนั้นด้วยเถอะ”หลี่ฝางชี้ไปฝั่งตรงข้าม

ราฟาเอลพยักหน้า ยื่นมือโบกไป แล้วแสงสีเงินก็ลอยออกไปจากมือเขา ตัดตัวล็อกประตูของประตูตรงข้ามบานนั้นออกอย่างแม่นยำ

ทันใดนั้น คนทางด้านนั้นก็เบียดเข้ามาอย่างพรวดพราด

ในระยะห่างที่ใกล้ หลี่ฝางมองเห็นอย่างชัดเจน มันคือสิ่งของที่เรียวยาวเหมือนกับโซ่ทอง แหลมตรงปลายสุดเป็นสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน แต่วัสดุน่าจะไม่ใช่โลหะ ไม่อย่างนั้นตอนที่ผ่านการตรวจเช็กคงไม่ผ่านไปง่ายๆแบบนี้

ทันใดนั้นด้านหลังก็มีเสียงดังขึ้นมา ทั้งสองหันหน้าไป ประตูที่เพิ่งถูกพวกเขาเปิดออกดันถูกกลุ่มคนที่เบียดเข้ามาล็อกไว้

“อยากตายเหรอ!”ราฟาเอลหรี่ตา จะพลิกตัวทำลายประตูนั่น ก็ถูกหลี่ฝางห้ามไว้

ทั้งสองคนได้สติคืนมา ก็เห็นคนของชั้นประหยัดวิ่งเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง บางคนถึงกับจะชนสองคนนี้ออก แค่กลายเป็นตัวเองที่ล้มลงพื้น ไม่พูดอะไรทั้งนั้น แม้แต่กลิ้งคลานก็ยังวิ่งไปที่ด้านหลังหลี่ฝาง แล้วก็เริ่มทุบประตูบานนั้นที่เพิ่งล็อกไปอย่างบ้าคลั่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท